ตอนที่ 530 ความจริงอันบัดซบ
หลังเสร็จสิ้นการสกัดทักษะ หลิน ฮวงไม่ได้อยู่ในโลกของไคลี่อีก เขาเรียกเธอกลับหลังเธอส่งเขากลับมาหอสมุด จากนั้นก็เดินออกจากห้องอ่านหนังวือราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หง ซวงไม่ได้ปรากฏตัวตลอดวัน หลังมื้อเย็น หลิน ฮวงตรงไปสนามฝึก101ตามลำพังเหมือนปกติเพื่อฝึกกับไป่
แหวนหัวใจจักรพรรดิเขาสั่นเมื่อมันเป็นตอน5ทุ่ม มันคือการแจ้งเตือนจากรัฐบาลกลาง
“องค์กรกลางนำโดยรัฐบาลกลางเขต7ได้ฆ่าสมาชิกนักบุญทั้งหมดในเขต7ตอน4ทุ่ม58ของคืนนี้ ปฏิบัติการใช้เวลาทั้งสิ้น49วัน องค์กรกลางได้ทำลายสำนักงานใหญ่นักบุญและสาขาทั้ง67แห่งในเขต7จนสิ้น สมาชิกนักบุญกว่า1แสน3หมื่นคนได้ถูกฆ่า รวมถึงผู้อาวุโสลำดับหนึ่งและสองในเขต7และระดับหลุดพ้นกว่า300คน...”
“พวกเขาแม้กระทั่งฆ่าผู้อาวุโสลำดับหนึ่งและสอง!”
ปฏิบัติการขององค์กรกลางสร้างความประหลาดใจให้หลิน ฮวงเพราะเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะฆ่าเหล่าผู้อาวุโส เหล่าคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งบนหรือแม้กระทั่งสมาชิกอาวุโสจะรู้ความลับของสำนักงานใหญ่และโดยปกติจะหนีไปเมื่อเกิดวิกฤติ อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าหลิน ฮวงก็สังเกตเห็นบางอย่างเบื้องหลัง
รัฐบาลกลางเพียงกล่าวถึงผู้อาวุโสลำดับหนึ่งและสองที่ถูกฆ่าแต่ไม่มีผู้อาวุโสใดอื่น นั่นอาจหมายความว่าไม่มีผู้อาวุโสคนอื่นที่ถูกจับตัวได้ หากนั่นเป็นจริง มันก็คงมีกลิ่น หากผู้อาวุโสคนอื่นสามารถหลบหนีไปได้ ในทางทฤษฏี ผู้อาวุโสลำดับหนึ่งและสองก็ควรจะหลบหนีไปได้เช่นกัน
หลิน ฮวงคาดว่าผู้อาวุโสลำดับหนึ่งและสองคนถูกส่งออกมาเป็นแพะ เหล่านักบุญรู้ดีว่ารัฐบาลเขต7จะไม่ยอมง่ายๆหากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้น หากเรื่องไปถึงรัฐบาลกลางในเขตหลัก การกวาดล้างจะไม่เพียงเกี่ยวกับแค่ในเขต7 สิ่งที่พวกนักบุญทำคือการลบล้างบันทึกพวกมันกับรัฐบาลกลาง
“เป็นแผนที่หน้าด้านมาก!ผู้ส่งสารของนักบุญต้องเป็นคนที่ทรงพลัง!”หลิน ฮวงอุทาน
เขารู้ว่าองค์กรทำงานยังไงและเห็นได้ชัดว่าสมาชิกสูงสุดไม่ใช่ผู้อาวุโสลำดับหนึ่งแต่เป็นผู้ส่งสาร อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ไม่รู้เกี่ยวกับองค์กรมืด พวกเขาจะคิดว่าผู้อาวุโสลำดับหนึ่งคือผู้นำขององค์กรในเขต7 การฆ่าผู้อาวุโสลำดับหนึ่งจึงเป็นตัวจบทุกอย่าง รัฐบาลกลางไม่คิดอธิบายอะไรเพิ่มเนื่องจากพวกเขาหวังให้ประชาชนจะคิดเข้าใจผิดเช่นนั้น
“ฉันจำได้ว่าวู่ ฟางกล่าวว่าคนที่ถูกเผาในป่าหมอกคือหลานชายของผู้อาวุโสลำดับสอง ตอนนี้ผู้อาวุโสลำดับสองตายแล้ว ดูเหมือนว่าฉันไม่ต้องกังวลใครอีกจากพวกนักบุญ”หลิน ฮวงนึกได้ว่าวู่ ฟางเคยกล่าวถึงผู้อาวุโสลำดับสองต่อเขา ตอนนี้ผู้อาวุโสลำดับสองตายแล้ว ทุกอย่างก็จบลง
“ดูที่การแจ้งเตือน นักบุญอาวุโสและสมาชิกหลักต้องออกไปจากเขต7ตั้งแต่ต้นแล้ว ปฏิบัติการของรัฐบาลกลางควรจะกำจัดฐานของพวกนักบุญในเขต7จนหมดและไม่มีทางสำหรับพวกนักบุญที่จะผงาดขึ้นในเร็วๆนี้ ไม่ว่าพวกมันจะผงาดขึ้นอีกครั้งในอนาคตหรือไม่...องค์กรมืดอื่นก็ต้องชิงโอกาสในการยึดอาณาเขตของพวกนักบุญจนหมด เมื่ออาณาเขตถูกกวาดไปรวมถึงทรัพยากร ธุรกิจต่างๆก็จะถูกแทนที่ มันจะยากสำหรับพวกมันที่จะกลับมาอีกครั้ง”
ยิ่งหลิน ฮวงวิเคราะห์สถานการณ์ เขาก็ยิ่งรู้สึกโล่งใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกนักบุญได้ทำไว้ เขานึกถึงการเผชิญหน้าครั้งแรกกับสมาชิกนักบุญเมื่อปีก่อนกับกลุ่มซึ่งดู่ เฟิงเป็นผู้นำและสาวน้อยที่ชื่อเหลียง เฉียน
“เหลียง เฉียนคงมีความสุขที่ได้ยินเรื่องนี้...”
เมื่อเขาคิดถึงเหลียง เฉียน หลิน ฮวงก็ก้มมองแขนซ้ายเขา เขาเขย่าแขนซ้ายเบาๆ และกล่องโลหะสีดำขนาดเท่าครึ่งฝ่ามือก็ไหลออกจากแขนเสื้อ มีบางอย่างวางอยู่ในนั้น มันก็คือกุญแจบรรพกาลที่เขาได้จากพวกนักบุญเมื่อปีก่อน
“เนื่องจากพวกนักบุญได้ออกจากเขต7ไปแล้ว ฉันก็ควรหาเวลาไปยังมิตินี้ดู”เขาค่อยๆปิดฝากล่องหลังมองดูกุญแจสักพัก จากนั้นก็อัญเชิญไคลี่และให้เธอนำกล่องไปในโลกเธอ เนื่องจากกล่องไม่อาจเก็บไว้ในช่องเก็บของ เขาจึงได้นำกล่องนี้ติดตัวไปด้วยตลอด
มันเกือบ5ทุ่มครึ่ง จากนั้นเขาก็เรียกไคลี่และไป่กลับเนื่องจากไม่มีอารมณ์ฝึกอีกต่อไป เขาออกจากสนามฝึกเพื่อไปหอพักเขาและขึ้นเตียงหลังอาบน้ำ เขากลิ้งไปมาบนเตียงและไม่อาจข่มตาหลับได้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มอ่านข่าวบนเครือข่ายหัวใจ
เว็บไซต์ทั้งหมดกำลังพูดถึงการกวาดล้างของรัฐบาลกลางบนเครือข่ายหัวใจ ส่วนใหญ่จะชมเชยรัฐบาลกลางและองค์กรกลาง ผู้คนพากันถกเถียงและส่งต่อข่าวไปบนโซเชี่ยล หลิน ฮวงคิดว่าพวกเขาคือคนจำนวนมากในโลกนี้ที่ไม่ได้นอนตามเวลาปกติ มันเที่ยงคืนแล้ว แต่เครือข่ายหัวใจกลับยังโกลาหล
มันพิสูจน์ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้เกี่ยวกับกรอบขององค์กรนักบุญและคิดว่าผู้อาวุโสลำดับหนึ่งคือผู้นำ ไม่มีใครเห็นกลิ่นคาวเบื้องหลังเรื่องนี้ บางคนสามารถเห็นความจริงได้แต่ก็เลือกไม่พูดอะไร รัฐบาลกลางใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกคะแนนจากประชาชน สำหรับหลิน ฮวง สิ่งที่รัฐบาลกลางทำเป็นที่เข้าใจได้เพราะพวกเขาได้พยายามฆ่าสมาชิกนักบุญจริงๆ หากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้น พวกนักบุญคงจะกระทำอย่างหน้าด้านต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเห็นได้ชัดว่าพวกนักบุญออกไปจากเขต7แล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งใจออกไปหรือไม่ก็ตาม ความจริงที่ว่าไม่มีพวกนักบุญในเขต7อีกก็คือเรื่องจริง ไม่สำคัญว่าจะเป็นองค์กรกลางหรือประชาชน มันคือชัยชนะครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิน ฮวงเลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ เขากลับเห็นโพสต์ของคนๆหนึ่งที่กำลังเผยความจริง มันกล่าวว่าผู้นำของพวกนักบุญไม่ใช่ผู้อาวุโสลำดับหนึ่งแต่เป็นผู้ส่งสาร มันแม้กระทั่งเขียนเกี่ยวกับสองผู้อาวุโสว่าเป็นเพียงแพะ มีผู้ใช้เพียงสองรายที่แชร์โพสต์ แต่มีผู้ใช้ที่แสดงความคิดเห็นเชิงลบเป็นจำนวนมาก
“ไม่แน่ใจว่าไอหมอนี่กำลังพยายามบอกความจริงหรือเขามาจากองค์กรมืดอื่นที่หวังคิดสร้างภาพ”แม้สิ่งที่ผู้ใช้เขียนจะเป็นความจริง หลิน ฮวงก็ยังไม่อาจบอกเจตนาแท้จริงเบื้องหลังได้
“ความจริงอันบัดซบ....ชื่อผู้ใช้นี้....”หลิน ฮวงหัวเราะและส่ายหัวเมื่อเห็นIDผู้ใช้ เพียงเมื่อเขากำลังจะปิดหน้าเพจ ‘ความจริงอันบัดซบ’ก็เผยแพร่อีกโพสต์ หลิน ฮวงจ้องมองมันและไม่อาจละสายตาออกจากมันได้
“ในอีกสามวัน องค์กรมืดสองแห่งจะเปิดศึกกับรัฐบาลกลาง พิกัด : เมืองหลวงขาวขจี!!”