GE58 กระดูกขาวดุจขุนเขา ลืมเลือนชื่อแซ่ [ฟรี]
แม้ปีศาจกระดูกขาวมีพลังในขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด แต่แรงกดดันที่มันแผ่ออกมากลับลึกล้ำยิ่งกว่านั้น ทั้งแรงกดดันที่มันแผ่ออกมายังทำให้หมอกควันรอบข้างกว่าพันจ้างไม่ขยับเคลื่อนไหว
ยิ่งเพ่งมองปีศาจกระดูกขาวหนิงฝานยิ่งตกตะลึง เพราะจิตสังหารระดับจักรพรรดิสวรรค์ของเขาไม่สามารถข่มมันได้
‘ขอบเขตไร้แบ่งแยก’!
ในหัวของหนิงฝานปรากฏประโยคนี้ ที่นี่เป็นส่วนที่ 2 ของป่า แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับภูติผีในขอบเขตไร้แบ่งแยก!
แต่แม้แรงกดดันที่มันแผ่ออกมาจะเป็นแรงกดดันในขอบเขตไร้แบ่งแยก แต่ปราณภายในร่างของมันยังไม่ถึงระดับนั้น มันอยู่เพียงขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด ดินแดนแห่งนี้ถูกแบ่งจำกัดไว้ด้วยข่ายอาคม ทำให้ภูติผีที่มีระดับสูงกว่าไม่สามารถข้ามผ่านมายังเขตที่ต่ำชั้นกว่า บางที ปีศาจกระดูกขาวตัวนี้อาจเป็นภูติผีในขอบเขตไร้แบ่งแยก ที่มีวิชาลับผนึกพลังของตน เพื่อก้าวล่วงลงมาในเขตแดนที่ต่ำชั้นกว่า
เมื่อขบคิดได้ดังนั้น แววตาที่ตกตะลึงของหนิงฝานค่อยๆคืนสู่ความสงบ แม้เขาจะกังวลแต่ไม่หวาดกลัวอีกต่อไป
ตราบใดที่ร่างหลักของมันไม่มา หนิงฝานย่อมสังหารมันได้
แววตาที่กังวลของหนิงฝานแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่มุ่งมั่นในพริบตา ปีศาจกระดูกขาวที่เห็นจึงเพิ่มความระวัง
“แรกพบเด็กนี่กลัวข้าเพราะรู้ว่าข้าอยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยก... แต่ไม่นานมันกลับไม่หวาดกลัว เพราะรู้ว่าข้าไม่ใช่ร่างจริง แม้ระดับพลังของมันไม่สูงแต่สายตาช่างเฉียบคม... ข้าจะดูแคลนมันไม่ได้”
ปีศาจกระดูกขาวตระหนักว่าหนิงฝานเบื้องหน้าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง มันจึงตัดสินใจจะใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดจู่โจม
“เต๋าแห่งกระดูกขาว ‘กระดูกเริงระบำ’!”
“กระบี่เพลิงผันแปร!”
หนิงฝานนำชุ่ยหลิงและเยว่หลิงกลับเข้าไปในแหวนกระถางขัดเกลา มือข้างหนึ่งประครองสัตว์อเวจีที่หมดสติ ส่วนมืออีกข้างฟาดฟันกระบี่แยกสวรรค์เข้าปะทะกับปีศาจกระดูกขาว... กระบี่ไม่สามารถตัดผ่านกระดูกของมันได้ แรงสะท้อนจากการจู่โจมที่รุนแรง จึงทำให้มือของหนิงฝานด้านชา
ในพริบตานั้น ปีศาจกระดูกขาวกระทืบพื้น พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หอกกระดูกนับพันพุ่งทะลุพื้นดินขึ้นมา เปลี่ยนให้พื้นที่กว่า 100 จ้างโดยรอบกลายเป็นป่ากระดูกที่สูงเสียดฟ้า
กระดูกแต่ละท่อนที่แทงขึ้นมาจากพื้นดิน สามารถทำลายชุดเกราะระดับแรกขั้นกลางได้ง่าย แต่หนิงฝานได้ใช้ทักษะอำพรางของตนหลบหลีกและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทำให้กระดูกที่พุ่งทะลวงพื้นดินขึ้นมาอย่างเนื่อง และเสียดแทงอย่างไร้จุดหมาย
หนิงฝานหลบหลีกการจู่โจมได้ทั้งหมด แต่เหล่าภูติผีในขอบเขตประสานวิญญาณที่หวาดกลัวจนตัวสั่น ถูกหอกกระดูกเหล่านั้นทะลวงร่างสังหาร
“สมบัติอำพราง.. ขี้ขลาด! อ่อนแอ! โฮก!!”
ปีศาจกระดูกขาวคำราม แววตาจ้องมองเย้ยหยัน เสียงคำรามทำให้อากาศสั่นเป็นคลื่น ทำให้ร่างกายของหนิงฝานมึนชา
อีกฝ่ายคือปีศาจกระดูกขาว แม้พลังของมันจะจำกัดไว้ที่ขอบเขตประสานวิญญาณ แต่วิชาที่มันใช้เหนือล้ำกว่าหลายขุม เพราะผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณขั้นสุดท้ายไม่มีวิชาที่ทรงพลังเช่นนี้
เมื่อปีศาจกระดูกขาวรู้ว่าหนิงฝานไร้ซึ่งวิชาที่ทรงพลัง จิตใจที่กังวลก็ผ่อนคลาย และเริ่มกระหน่ำฝ่ามือไปทั่วทิศ
“ส่งสัตว์อเวจีนั่นมา แล้วจักรพรรดิเช่นข้าจะปล่อยเจ้าไป!”
ปีศาจกระดูกยิ้ม มันเย่อหยิ่งจองหองไร้ที่เปรียบ แต่ถึงอย่างนั้น ตัวมันก็มีสิทธิ์ให้ทำ เพราะในป่าภูติพรายแห่งนี้ มันคือภูติผีที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีผู้ใดต่อกรมันได้
เดิมทีหนิงฝานไม่ต้องการยั่วยุภูติผีระดับปีศาจกระดูกขาว หากไม่เพราะมันทำร้ายชุ่ยหลิง เขาคงยอมปล่อยสัตว์อเวจีเพื่อเลี่ยงปัญหา
เดิมทีหนิงฝานไม่ได้สนใจชุ่ยหลิงมากนัก แต่หากไม่ได้นางถ่วงเวลาปีศาจกระดูกขาวไว้จนนางบาดเจ็บ คนที่บาดเจ็บอาจกลายเป็นหนิงฝานแทน
แววตาของหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เขานำฝักกระบี่ที่เก็บกักปราณกระบี่ที่ 2 ของตู่กูออกมา
ปราณกระบี่นี้ต้องบรรลุสัมผัสเทพในขอบเขตแก่นทองคำจึงจะใช้ได้ ดังนั้นยามนี้ การที่หนิงฝานจะควบคุมมันจึงไม่ใช้เรื่องยาก
หนิงฝานจะชักนำปราณกระบี่ออกมา เพื่อจู่โจมทำลายร่างที่แข็งแกร่งของมัน... ปีศาจกระดูกขาวตนนี้คือภูติผี ร่างของภูติผีก่อกำเนิดมาจากจิตวิญญาณ แต่ด้วยที่มันฝึกฝนวิชากระดูกขาว จึงเพาะสร้างร่างกระดูกขึ้นมาคุ้มกันจิตวิญญาณไว้
หากตัดผ่านกระดูกของมันได้ กระบี่แยกสวรรค์สามารถเผาทำลายจิตวิญญาณจนหมดสิ้น!
หนิงฝานกำฝักประบี่ไว้แน่น โคจรปราณภายในร่างเพื่อชักนำปราณกระบี่
ปราณกระบี่แรกของตู่กูคือ ‘กระบี่เพลิงผันแปร’ เป็นการแปรเปลี่ยนปราณเพลิงให้กลายเป็นปราณกระบี่
ปราณกระบี่ที่สองของตู่กู ‘กระบี่เที่ยงแท้’ มีขั้นตอนการฝึกอยู่ 3 ขั้น... ขั้นแรกคือการเปลี่ยนปราณกระบี่ให้กลายเป็นกระบี่จริงที่แข็งราวกับโลหะ ขั้นที่สองคือล่าสังหารเพื่อเก็บกักจิตสังหารที่รุนแรง และขั้นที่ 3 ต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อทำความคุ้นเคยกับมัน
หัวใจของหนิงฝานแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า จิตสังหารของหนิงฝานเข้มข้นรุนแรง แม้จะยังขาดการฝึกฝนอันหนักหน่วง แต่การใช้ปราณกระบี่ครั้งแรกนี้ ก็มากพอให้ทำลายการป้องกันของปีศาจกระดูกขาวในขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด
แต่ในขณะที่หนิงฝานกำลังจะลงกระบี่ ปีศาจกระดูกขาวพลันดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
“กระบี่ลับแห่งบรรพบุรุษกระบี่! เจ้าเป็นคนของบรรพบุรุษกระบี่!”
ในยามที่ยังมีชีวิต ปีศาจกระดูกขาวเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ครั้งหนึ่ง ปราณกระบี่แก่นทองคำของผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนด้อย ได้สร้างความทรงจำที่น่าหวาดกลัวให้กับมัน
ความทรงจำนั้นอยู่ในยุคโบราณ สตรีนางหนึ่งใช้กระบี่สังหารเทพไปมากมายนับไม่ถ้วน...
เมื่อเวลาล่วงเลย... ความหวาดกลัวกลายเป็นความเกลียดชัง... การที่ผู้เยาว์เบื้องหน้าของมันใช้กระบี่ลับนั่นได้ แสดงว่ามันเป็นลูกหลานของสตรีนางนั้น เหตุผลที่มันตาย เหตุผลที่มันต้องมาอยู่ในดินแดนเก้าหยิน เหตุผลที่มันกลายเป็นภูติผี ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะนาง!
“ข้าจะฆ่าลูกหลานของมัน ฆ่า ฆ่า ฆ่า!!”
ดวงตาปีศาจกระดูกขาวเปล่งแสงสีแดงฉานสาดปกคลุมรอบทิศ จิตสังหารเพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
หนิงฝานไม่อาจมองเห็นสิ่งรอบข้าง มือข้างซ้ายต้องโอบประครองสัตว์อสูรน้อย มือขวากำกระบี่แยกสวรรค์ ดวงตาปิดแน่น ซึมซับปราณกระบี่ที่ 2 ของตู่กู
ผู้ที่เป็นบรรพบุรุษกระบี่ หนิงฝานไม่รู้ว่าเป็นสาวน้อยตู่กู
หนิงฝานที่จมไปกับปราณกระบี่ เขาเห็นตนเองยืนอยู่เบื้องหน้าทะเลโลหิต เห็นปีศาจกระดูกขาว เห็นสตรีผู้หนึ่งที่ใบหน้าไม่ชัดเจน นางกระชับกระบี่ในมือแน่น ทวยเทพรอบกายถูกนางสังหารสิ้น
ภาพเบื้องหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเคล็ดความ ปรากฏขึ้นในใจของหนิงฝาน
ปีศาจกระดูกขาวรูปร่างสูงใหญ่ราวกับรุนเขา ไม่ทราบชื่อแซ่ บนร่างปรากฏร่องรอยสีแดง รอยสีแดงเกิดจากสตรีนางหนึ่ง ฟาดฟันกระบี่ ทำให้ปีศาจกระดูกขาวสลายกลายเป็นฝุ่นผง
หนิงฝานลืมตา! สองเท้าเหยียบย่างรุ้งหิมะตรงเข้าหาปีศาจกระดูก
“กระบี่ที่ 2... ‘กระดูกขาวดุจขุนเขา’!”
ปีศาจกระดูกขาวสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงจากกระบี่ ความหวาดกลัวเข้าปกคลุมจิตใจ จนลืมเลือนเป้าหมายทั้งหมด
ปีศาจกระดูกขาวโคจรปราณไปที่ปลายนิ้ว แล้วแทงเข้าใส่หนิงฝานอย่างไม่ลังเล
เพียงนิ้วเดียวสามารถปลิดชีพผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นแรก...แต่เหตุใดหนิงฝานต้องกลัว!
กระบี่แยกสวรรค์พุ่งทะลวง จิตสังหารที่รุนแรงของหนิงฝาน แปรเปลี่ยนกระบี่ให้กลายเป็นลำแสงสีแดงโลหิต ทะลวงใส่ปลายนิ้วของปีศาจกระดูกขาว!
*เปรี้ยง* พลังที่รุนแรงแทรกผ่านกระบี่แยกสวรรค์เข้าสู่หน้าอกของหนิงฝาน ทำลายซี่โครงไปหลายซี่จนกระอักโลหิตอย่างรุนแรง หนิงฝานฝืนกลืนโลหิตแล้วแทงกระบี่แยกสวรรค์เข้าปลายนิ้วของมันจนมิด
เมื่อเห็นคราบโลหิตที่ปลายนิ้วตน ปีศาจกระดูกขาวคิดว่าทุกสิ่งเป็นไปตามที่หวัง แต่ในระหว่างนั้นเอง มันกลับรู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นเทราดศีรษะ ทำให้มันกระจ่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ร่างกายที่แข็งแกร่งพอจะต้านการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำถูกทะลวง! หนิงฝานที่ไม่หวาดกลัวความตาย แทงกระบี่ทะลุนิ้วของมันราวกับหมาบ้าขบกัด
และในยามนั้นเอง สิ่งที่ทำให้มันคาดไม่ถึงได้เกิดขึ้น บริเวณที่มันถูกกระบี่แทง รู้สึกราวกับมีมดขบกัด พร้อมกับเพลิงที่มองไม่เห็นเริ่มแผดเผาจิตวิญญาณของมัน!
ปีศาจกระดูกขาวเผยสีหน้าหวาดกลัว มันแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและสิ้นหวัง ก้องไปทั่วทั้งส่วนที่ 2 ของป่า
ภายในส่วนที่เจ็ดของป่า ปีศาจกระดูกขาวที่สูงกว่าพันจ้าง แผดเสียงคำรามด้วยโทสะ เมื่อสัมผัสได้ว่าร่างที่มันสร้างขึ้นถูกทำลาย
“อีกร่างของข้าถูกสังหาร! ภูตผีตัวใดกันถึงได้กล้าสังหารอีกร่างของข้า! ไปจับมันมาแล้วฉีกมันเป็นชิ้นๆ... อย่าให้องค์หญิงเหม่ยหนีไปได้เด็ดขาด สั่งการภูติผีตั้งแต่ส่วนที่ 1 ถึง 7 ของป่าให้ล้อมป่าไว้ หากพบผู้ที่ไม่ใช่ภูติ สังหารอย่าให้เหลือ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ปกครองส่วนที่ 7 ของป่าอย่างจักรพรรดิไป๋กู่สูญความสงบ!...