ตอนที่ 522 การเปลี่ยนแปลง
เส้นแสงสีดำตกจากฟากฟ้าราวกับดาวหาง โดยปราศจากการเตือนของเสี่ยว เฮย หลิน ฮวงควเหี่ยงดาบเขาใส่มันตั้งแต่ต้น ภายในไม่กี่วินาที ลำแสงสีดำก็พุ่งผ่านหลายร้อยกิโลเมตร มุ่งตรงไปหาไคลี่ ก่อนหลิน ฮวงจะมองทันแสง มันก็พุ่งทะลุเข้าไปในรังไหมสีทองของไคลี่
ผิวรังไหมสั่นเล็กน้อยขณะที่แสงสีทองมันยิ่งส่องสว่าง อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ลำแสงสีดำพุ่งไปในรังไหม มันก็จางลง สีทองเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทในเสี้ยววินาที บนผิวสีดำมีเกลียวสายฟ้าเข้าปกคลุมรังไหม ประกายไฟฟ้าสีดำแลบออกมา และรังไหมก็ขยายใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า
หลิน ฮวงมองการเปลี่ยนแปลงของรังไหมโดยไม่กระพริบตา หลังยืนยันว่ารังไหมเริ่มไม่เปลี่ยนแปลง เขาก็พูดกับเสี่ยว เฮยอีกครั้ง“นี่เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีต่อไคลี่?”
“มันเป็นเรื่องดี ตอนนี้มันมั่นคงแล้ว เธอได้กลายพันธ์สองครั้งจากหินตั้งแต่ต้น เนื่องจากสภาพของการ์ด หินดำจึงรวมเข้ากับเธอโดยสมบูรณ์”
หลิน ฮวงรู้สึกโล่งใจหลังได้รับคำยืนยันว่าไคลี่นั้นไม่เป็นไร เขาตื่นเต้นที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเหล่ามอนสเตอณ์ขณะที่มองรังไหมหลากสี และมองการ์ดอื่นที่เขามี
“แลนเซล็อตและสายฟ้าคือการ์ดระดับสุดยอดเพียงสองใบ ฉันต้องเติมเต็มเงื่อนไขลับของแลนเซล็อตและพัฒนามันเป็นระดับตำนานให้ได้ มันจะดีหากมันสามารถยกระดับสายเลือดได้ทันทีเพื่อที่ฉันจะได้นำการ์ดเกิดใหม่ไปใช้กับวิญญาณกระดูกแทน สำหรับสายฟ้า...มันจะต้องรอจนกว่าฉันจะได้รับการ์ดเลื่อนขั้นอีกครั้ง”
สายฟ้ามีปริมาณเลือดฟีนิกส์ในร่างมันตั้งแต่ที่ถูกปลดผนึก แม้มันจะไม่ใช่ฟีนิกส์เลือดบริสุทธิ์ มันก็ยังคงทรงพลัง น่าเสียดาย ด้วยความที่หลิน ฮวงปฏับัติต่อมันเป็นสัตว์ขี่ เขาจึงเมินเฉยความสามารถต่อสู้มันไป หลิน ฮวงอาจจะชื่นชมมันมากขึ้นหากมันพัฒนาเป็นเลือดฟีนิกส์เต็มตัวหรือมอนสเตอร์โบราณที่ทรงพลังอื่นในอนาคต
หลังมองไป่ ชาโคลและจอมสังหารดาบราชันย์ที่กึ่งปลดผนึก หลิน ฮวงก็หลุดจากห้วงผวัง เขาได้อัญเชิญมอนสเตอร์มาจนถึงขีดจำกัดแล้ว สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้คือรอให้การเปลี่ยนแปลงของพวกมันทั้ง9ตัวเสร็จ เพื่อฆ่าเวลา หลิน ฮวงจึงนอนบนพื้นสนาม เหม่อมองท้องฟ้าและลูบตัวเจ้าแดง
มันเป็ฯเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้ผ่อนคลายเช่นนี้หลังมาถึงโลกใบนี้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกตลอดปี ยิ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีเวลาให้หลิน ซินน้อยขึ้น นับประสาอะไรกับการผ่อนคลายตัวเอง เขาฝันว่าเขากำลังบินไปทุกที่ขณะที่เหม่อมองเมฆปุกปุย
“หากฉันไม่มีนิ้วทองคำและกงล้อชีวิตที่สมบูรณ์แบบเมื่อมาถึงที่นี่ ฉันมั่นใจว่าฉันต้องเป็นแค่คนธรรมดา ใช้ชีวิตแบบปกติภายใต้การปกป้องของคนอื่น บางทีสถานที่ไกลสุดที่ฉันเคยไปคงเป็นเมืองเกรดBอย่างเมืองไม้ไผ่และเมืองเซี่ยกง....เมื่อคิดเกี่ยวกับมันในตอนนี้ การใช้ชีวิตโดยไม่รู้อะไรก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย....”
“น่าเสียดาย โชคชะตาฉันดูเหมือนจะถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ที่ฉันมายังที่นี่ นิ้วทองคำ...กงล้อชีวิตแตกหัก....มันรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังควบคุมทุกอย่างเอาไว้ หยาง หลิง เซี่ย ห่าว ฉี หมิงเซี่ยง พวกเขาล้วนเป็นนักเดินทางเหมือนฉัน มันต้องมีนักเดินทางอีกมากในโลกนี้ แต่อะไรคือวัตถุประสงค์ละ?”
เพียงเมื่อหลิน ฮวงกำลังคิดถึงวัตถุประสงค์การดำรงอยู่เขา ส่วนความทรงจำของฉี หมิงเซี่ยงก็ปลดผนึกและคลายออกมา เขาถูกดึงดูดโดยเนื้อหาและมองมันทันที หลายชั่วโมงผ่านไป เมื่อแสงจากฟ้าจางหาย รังไหมก็เริ่มแตก เผยให้เห็นเหล่ามอนสเตอร์ข้างใน ด้วยความที่หลิน ฮวงกำลังหลับลึก พวกมันจะไม่ได้รบกวนเขาและยืนอารักขาอยู่ข้างกาย สามชั่วโมงผ่านไป นอกจากไคลี่ มอนสเตอร์ทั้ง8ก็ได้ยืนข้างเขา บางตัวกำลังจ้องมองรังไหมของไคลี่
หลิน ฮวงไม่รู้ว่าความคิดเขาได้สะท้อนกับฉี หมิงเซี่ยงซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคลายตัวของความทรงจำส่วนนี้ เนื้อหาเกือบทั้งหมดที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิล้วนเปิดให้เขา เขาหลงไปกับความทรงจำ และตกใจเมื่อตระหนักว่าเวลาผ่านไป6ชั่วโมงแล้วและเหล่ามอนสเตอร์ก็รีบกรูกันมาล้อมเขาเมื่อเขาตื่น
ด้วยความที่รังไหมของไคลี่ยังไม่มีทีท่าว่าจะแตก หลิน ฮวงจึงกวาดตามองเหล่ามอนสเตอร์เขา ไทแรนด์ดูเหมือนมนุษย์ยิ่งกว่าเดิม เกราะที่ปกคลุมทั่วร่างมันตอนนี้ได้หายไปแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยเกราะสีทอง ผมมันตอนนี้เป็นสีแดงเพลิง และดวงตามันก็เป็นสีน้ำตาลเข้ม สิ่งเดียวที่ยังเหมือนเดิมคือหนวดเครารุงรัง เมื่อเทียบกับก่อนหน้า มันดูเหมือนมนุษย์มากขึ้น แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ที่สูงกว่า2.5เมตร
“นี่มันสายเลือดอะไรกัน?”หลิน ฮวงถามอย่างคาดหวัง
“สายเลือดยักษ์สวรรค์จากโบราณกาล”ไทแรนด์ตอบกลับอย่างมั่นใจ ดูภาคภูมิใจกับสายเลือดมัน แม้หลิน ฮวงจะไม่รู้ว่าสายเลือดยักษ์สวรรค์นั้นทรงพลังแค่ไหน เขาก็ยังพยักหน้าให้และมองตัวอื่น ตัวตลกไม่ได้เปลี่ยนไปมาก มันอยู่ในชุดสีทองหรูหรูหราพร้อมกับมงกุฏบนหัว มันมีผมยาวถึงเอวและยิ้มร้ายให้หลิน ฮวง ความแตกต่างคือหน้ากากสีทองที่ปิดครึ่งใบหน้ามันได้หายไปแล้ว
“ตัวตลก แล้วแกละ?”
“นายท่าน โปรดตั้งชื่อใหม่ให้ข้าได้หรือไม่?ข้าไม่ชอบถูกเรียกว่าตัวตลก...”ตัวตลกไม่เต็มใจยอมรับชื่อมัน แต่ทว่า เนื่องจากหลิน ฮวงไม่ได้พูดอะไรขณะที่จ้องมองมัน มันจึงตอบไปว่า“ข้าได้ปลุกสมญานาม(เปลี่ยนจากฉายา)’ผู้หลอกลวง’ขึ้น แต่ข้าไม่ได้ปลุกสายเลือด”
“ปลุกสมญานาม?”หลิน ฮวงงงงวย แต่เนื่องจากเขาเคยเรียนรู้เกี่ยวกับมันจากเสี่ยว เฮยมาก่อน เขาจึงไม่ได้ถามเพิ่ม
หลิน ฮวงมองดูแม่มดมาร เขาทั้งสองบนหัวมันหายไปแล้ว ผิวของมันดูสดใสกว่าก่อนหน้า ด้วยผมยาวสีดำ มันดูเหมือนมนุษย์หญิงในชุดดำ
“ข้าได้ปลุกสายเลือดแม่มดโบราณขึ้น...”แม่มดมารกล่าวเสียงเบา ดูเหมือนไม่อยากสบตากับเขา หลิน ฮวงพยักหน้าให้มันและมองอิมพ์ มันมีปีกค้างคาวคู่บนหลังและหางสีดำ
“ข้าได้เลื่อนเป็นอิมพ์ชั้นสูง”มันกล่าวโดยไม่แสดงสีหน้า
จากนั้นหลิน ฮวงก็มองสองอสรพิษยักษ์และลิง พวกมันในตอนนี้ดูเล็กกว่าเดิม สองอสรพิษยังคงมีสีดำ พวกมันตอนนี้ยาวน้อยกว่าสามเมตรและดูเหมือนกัน ดวงตาสีเลือดทั้ง4ของพวกมันลดเหลือสอง และลูกตาพวกมันตอนนี้ก็เป็นสีเขียวมรกตคล้ายอัญมณีล้ำค่าสีเขียวติดอยู่บนหัวพวกมัน หน้าท้องพวกมันมีสีขาวซึ่งแตกต่างจากเดิม
“เราได้ปลุกสายเลือดอสรพิษจันทร์ทมิฬขึ้น”สองอสรพิษตอบพร้อมกัน
หลิน ฮวงพยักหน้าและมองลิงสองตัวสุดท้าย เกล็ดพวกมันในตอนนี้กลายเป็นขน หนึ่งมีเกราะสีทองสวมทับขนสีทองมัน ขณะที่อีกตัวมีสีขาวล้วนขณะที่ส่วนร่างกายมันดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยเพลิงขาว เห็นได้ชัดว่าพวกมันสืบสายเลือดที่แตกต่างกัน
“ข้าได้ปลุกสายเลือดลิงจอมพลังโบราณขึ้น”ลิงขนทองกล่าว
“ข้าได้ปลุกสายเลือดลิงเพลิงเหมันต์โบราณขึ้น”ลิงขาวกล่าว
นอกจากไคลี่และเจ้าแดง ทั้ง8ล้วนเปลี่ยนแปลง และส่วนใหญ่ต่างก็ปลุกสายเลือดที่ทรงพลังขึ้น หลังเรียกพวกมันกลับเป็นการ์ดรวมถึงเจ้าแดง หลิน ฮวงก็มองไคลี่ที่ยังคงอยู่ในรังไหม
“เสี่ยว เฮย อีกนานไหม?”
“เมื่อดูจากความคืบหน้า เธอจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามวัน”
“สามวัน?!แต่ฉันต้องสอนวันศุกร์...”หลิน ฮวงคิดว่าเขาคงมีเวลามากพอ แต่เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับไคลี่
“ช่างมันเถอะ ฉันควรจะรอจนถึงบ่ายวันศุกร์ หากเธอยังอยู่ในรังไหม งั้นฉันก็จะให้ไป่และตัวอื่นจับตาดูที่นี่ และจะกลับมาหลังเลิกสอน”