ตอนที่แล้วตอนที่ 332 ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมาก็ตาม (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 334 ผิดแผน (FREE)

ตอนที่ 333 ข้าไม่ถนัดยิงธนู! (FREE)


"เป็นยังไงบ้าง? มีคำไหนผิดไหม? ท่านไม่สามารถตัดนิ้วของข้าได้แล้วละสิ" ฟาง เจิ้งจือ กล่าวอย่างพอใจ

"หึ!" นางส่งเสียงออกทางจมูก" แล้วตามด้วย ... ?"่

"เราสามารถมองเห็นความสูงของภูเขาได้ เราสามารถคาดเดาความลึกของมหาสมุทรได้ ถ้าเข้าใจทุกสิ่งรอบๆตัว เจ้าก็จะเข้าใจโลกนี้และเข้าใจความต้องการของสวรรค์ ... " ฟาง เจิ้งจือ ตอบโดยไม่ลังเล

"ข้าไมเชื่อเรื่องนี้  วันนี้ข้าจะตัดนิ้วเจ้าให้ได้! นางโกรธมาก ก่อนจะปัดหนังสือเล่มนี้ไปข้างๆและหยิบอีกเล่มหนึ่งขึ้นมา

"ท่านไม่สามารถ ท่านไม่สามารถทำได้! ริมฝีปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุก นางสามารถทดสอบเขาได้หลายอย่าง  แต่นางกลับเลือกกฎแห่งเต๋าที่เป็นจุดแข็งของเขามากที่สุด

ฉากที่เกิดขึ้นต่อไปทำให้แม่ทัพที่อยู่ในกระโจมล้วนกังวล

หญิงสาวยังคงพลิกหนังสือไปเรื่อยๆ นางอ่านผ่านๆ ก่อนจะโยนแต่ละเล่มทิ้งอย่างไม่ใยดี

ฟาง เจิ้งจือ ยังคงท่องกฎแห่งเต๋าจากความทรงจำเขาพูดไม่ผิดแม้แต่คำเดียว ราวกับเขากำลังอ่านหนังสืออยู่

"เขาทำแบบนี้ได้ยังไง?"่

"หรือแม้แต่กองกำลังเล็กๆของอาณาจักรเซี่ยก็ทำเช่นนี้?"่

"ไม่มีทาง"่

แม่ทัพทุกคนมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกับความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนเด็กขี้ขลาดกลับทำได้เกินกว่าที่เขาคาดไว้

อย่างน้อยที่สุด ...

เขาราวกับพระเจ้าเมื่อพูดถึงเรื่องกฎแห่งเต๋า

"น่าโมโห! พวกเจ้าทั้งหมด... ช่วยข้าคิดเร็วๆ! หาคำถามมาถามเขาต่อ! ข้าต้องการตัดนิ้วเขาทั้ง 10 นิ้ว!" นางแทบจะถึงขีดสุดของตัวเองแล้ว

ไม่ว่านางจะเลือกบทความในมา ฟาง เจิ้งจือ ก็สามารถตอบได้หมด นอกจากนี้ความเร็วของเขายิ่งกว่าที่นางอ่านเสียอีก

นางจะไม่โมโหได้ยังไง!?

"องค์หญิง ... "

แม่ทัพมองกันด้วยความขนขื่น มันเป็นงานที่หนักเกินไป พวกเขาไม่เคยอ่านกฎแห่งเต๋าจนหมด

พวกเขาจะถามคำถามได้ยังไง?

ที่สำคัญกว่าคือองค์หญิงเป็นคนหนึ่งที่มีหนังสือ ถ้านางไม่สามารถหาข้อบกพร่องของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ พวกเขาจะหาเจอได้ยังไง?

เหลือเพียงความเงียบ

ทุกคนไม่มีใครพูดอะไรออกมา

"ฝ่าบาท ทำไมไม่ดวลกับเขาละ? แม่ทัพคนหนึ่งตาสว่างขึ้นทันที  ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นคนขี้ขลาดและไร้ยางอาย

คนแบบนี้จะมีพลังอะไร?

แม่ทัพรู้ว่าคนแบบนี้อาจจะมีความสามารถด้านวิชาการ  แต่ความสามารถด้านการต่อสู้ของเขาคงไม่มีอะไรต้องกลัว

องค์หญิงดวงตาเป็นประกายทันทีเมื่อได้ยิน ความโกรธของนางลดลงชั่วคราว

" ภูเขาทางใต้นั้นต่างจากอาณาจักรเซี่ย เจ้าให้ความสำคัญของสติปัญญามากกว่าการต่อสู้ แน่นอนเจ้าจึงถนัดด้านนั้น อย่างไรก็ตามพวกเราอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ด้วยเลือดและเนื้อ การต่อสู้นั้นเป็นจุดแข็งของพวกเรา  เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับนักรบของพวกเราไหม?" องค์หญิงมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความหยิงผยอง

" ข้าไม่เก่งด้านขี่ม้าหรือยิงธนู ด้านดาบข้าก็ไม่ค่อยเก่ง นี่...เป็นเรื่องยากมากทีเดียว!" ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังองค์หญิงด้วยความเจ็บปวด

"ฮ่าฮ่าฮ่า...งั้นพวกเรามาแข่งยิงธนู!" นางหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ

"มันเป็นจุดอ่อนของข้านะ!" ฟาง เจิ้งจือ อ้อนวอน

"ข้าต้องการแข่งยิงธนู เจ้ามีปัญหางั้นรึ?" องค์หญิงพูด

"เป็นการกลั่นแกล้งกันชัดๆ! ไม่มีทาง!" ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวอย่างรุนแรง

"งั้น ให้คนลากเขาออกไปและตัดหัวทันที!" องค์หญิงโบกมือไล่

ทหารจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาในกระโจมและลดหอกลง  พวกเขาเตรียมจะลาก ฟาง เจิ้งจือ ออกไป

"รอก่อน!" ฟาง เจิ้งจือ ตะโกน

"ทำไม?  เจ้าอยากจะแข่งขึ้นมาแล้วหรอ?" องค์หญิงยิ้มอย่างแจ่มใส  ช่างอ่อนแอเหลือเกิน เขากลัวแล้วเลือกที่จะยอมแพ้แล้ว?

"เอ่อ ... "

"ทหาร!"่

"เอาล่ะ ข้าจะแข่งแล้ว ข้าจะแข่งแล้ว!"่

"ฮ่าฮ่า ... " นางหัวเราะเบาๆด้วยความดูถูก ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงว่านางไม่มีอะไรจะทำ...

ไม่งั้นคนขี้ขลาดแบบนี้คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงอึดใจ!

"แต่ ข้าไม่มีม้า?  ข้าจะแข่งได้ยังไง?" ฟาง เจิ้งจือ พึมพัมไม่ว่าพวกนี้จะป่าเถื่อนแค่ไหน แต่เขาก็ไม่น่าจะไม่มีเหตุผล!

"สบายใจได้ ข้ามีม้า!" องค์หญิงพูดด้วยความใจกว้าง

"ข้าแข่งกับใครบ้าง? ข้าไม่แข่งกับท่านได้ไหม? องค์หญิงเก่งมากเกินไป ข้าสงสัยว่าท่านต้องขี่ม้าหรือยิงธนู?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่องค์หญิง

"ข้าไม่ต้องขี่ม้าหรือยิงธนู!"องค์หญิงพูดขึ้นมา " ข้าไม่ใช่องค์หญิงของอาณาจักรเซี่ย  มีใครที่นี่กล้าอ้างตัวว่าเก่งกว่าข้าหรือไม่? ใคร?"่

"ไม่มี ฝ่าบาท!" แม่ทัพทั้งหมดตอบขึ้นมาพร้อมกัน

"เจ้าได้ยินไหม?องค์หญิงมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความหยิ่งผยอง

"ก็แค่คำพูด ท่านต้องพิสูจน์สิ!" ฟาง เจิ้งจือ เหลือบมองด้วยความดูถูก

"ไร้ยางอาย! เจ้ากล้าสงสัยในความสามารถของข้างั้นหรือ?  ข้าจะแข่งกับเจ้าเอง!" องค์หญิงโกรธมาก

แต่เมื่อแม่ทัพได้ยินเช่นนี้ ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีพวกเขารู้ว่า องค์หญิงมีฝีมือมากกว่า ฟาง เจิ้งจือ

นางเก่งที่สุดในหมู่ผู้เยาว์

แต่นั่นก็แค่ผู้เยาว์!

ที่สำคัญการแข่งขันนั้นจัดในป่า  ความอันตรายนั้นมากกว่า

"องค์หญิง ได้โปรดอย่า!"่

"ฝ่าบาท เขาเป็นสายของอาณาจักรเซี่ย เขารู้อยู่แล้วว่าค่ายของเราอยู่ที่ไหน เขาควรจะถูกฆ่า!"่

"ใช่ ฝ่าบาท!อย่าแข่งกับเขา!"่

แม่ทัพทุกคนต่างโน้มน้าว

ตั้งแต่ที่ ฟาง เจิ้งจือ เหยียบเท้าเข้ามา ก็เหมือนเขาได้ตายไปแล้ว เขาเป็นเพียงของเล่นขององค์หญิงเท่านั้น

พวกเขาไม่มีทางให้องค์หญิงเสี่ยงเด็ดขาด

ท่าทีขององค์หญิงเปลี่ยนไป

"จะดีกว่าถ้าท่านไม่แข่ง ปล่อยข้าได้แล้ว ท่านแพ้แล้ว  ท่านไม่สามารถฆ่าข้าไม่ได้!" ฟาง เจิ้งจือ กล่าวด้วยความตื่นเต้น

"เรียกหน่วยหมาป่าเขาเงินมา ข้าต้องการให้พวกเขาล้อมรอบพื้นที่บริเวณนี้ไว้ทั้งหมด 2 กิโลเมตรและส่งทหารจำนวน 20,000 คนเพื่อสนับสนุนพวกเขา ท่านลุงไถ่ ท่านลุงมู่ ตามชายคนนี้ไป ถ้าเขาพยายามเล่นตุกติกอะไร ฆ่าเขาทิ้งได้เลย!  ข้าจะแข่งกับเขา!"่

"รับทราบ ฝ่าบาท!"่

ชายวัยกลางคนทั้ง 2 ก้าวไปข้างหน้า

1 ในพวกเขาคือชายมีเคราสวมชุดเกราะ เขาถือขวานสีดำอยู่ในมือ ส่วนอีกคนเป็นชายหัวล้านผิวคล้ำเข้ม  เขามีเขี้ยวมาป่าที่เหมือนอาวุธอยู่ด้านหลังเขาสองอัน

พวกเขาต่างมองหน้ากันไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีเมื่อได้ยินคำสั่งขององค์หญิง

ฝูงหมาป่าเขาเงินและทหารกว่า 20,000 นายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ เขาแทบจะไม่มีโอกาสหนีรอดไปได้แม้เขาจะมีปีกก็ตามนอกจากนี้ยังมี 2 แม่ทัพที่คอยจับตาดูเขาอยู่

เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ

แม้ทุกคนจะรู้สึกว่าแผนนี้ยังมีความเสี่ยง แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจนางได้

ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือเพิ่มความปลอดภัยแต่แค่ "แมวตัวน้อย" จะมีพลังได้มากแค่ไหน?

ฟาง เจิ้งจือ อยากจะบินออกไป เขาตอยากจะลากองค์หญิงบินออกไปกับเขาด้วย เขาต้องการจะออกจากที่แห่งนี้

"แล้ว ... ข้าขอถามอะไรอีกได้หรือไม่?" ฟาง เจิ้งจือ พูดอย่างไร้เดียงสา

"พูด" นางโกรธอย่างเห็นได้ชัด

"ถ้าหาก ...ถ้าข้าชนะ จะเกิดอะไรขึ้น?" ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่องค์หญิง

เหล่าแม่ทัพทั้งหมดต่างตะลึงกับเรื่องนี้ จากนั้นทุกคนก็หัวเราะออกมา

"ชายคนนี้ต้องการชัยชนะ? ฮ่าฮ่า ...เขาไม่รู้หรือว่า 'หุบเขาพิรุณ' เป็นองค์หญิงนักรบที่เยี่ยมยุทธ์ที่สุดในดินแดน"่

"เขาต้องฝันอยู่แน่ๆ"

"เขาไม่รู้หรือว่าตัวเองมีสถานะเป็นยังไง ช่างหน้าด้านยิ่งนัก "

เหล่าแม่ทัพพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เพียงหัวเราะกับความหน้าด้านของ ฟาง เจิ้งจือ

องค์หญิงฉาน ยู่ เองก็เริ่มหัวเราะออกมา จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเช่นนี้มาก่อน

"เอาล่ะถ้าเจ้าชนะล่ะก็ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!"องค์หญิงฉาน ยู่ ไม่สามารถอยู่เฉยได้ นางหัวเราะพร้อมอธิบาย

"จะปล่อยข้ารึ?" ฟาง เจิ้งจือ ถาม

"ปล่อยเจ้า? ฮ่าฮ่า... เจ้าคิดได้ยังไงละ?"องค์หญิงเหลือบมอง

"ข้าเดาว่าคงไม่" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าเบา ๆ

"ตั้งแต่เจ้าได้เข้ามาที่ค่าย เจ้าก็ออกไปไม่ได้แล้วเจ้าเข้าใจหรือไม่? อย่าได้ฝันหวานอะไรเช่นนั้น  "องค์หญิงฉาน ยู่ ปลอบโยน

"วางใจข้าได้ ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุข " ฟาง เจิ้งจือ มั่นใจ

"ฮ่าฮ่า ... ดีดีมาก! เพราะเจ้าพูดแบบนั้น ถึงเจ้าจะแพ้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า! ข้าแค่จะตัดนิ้วมือนิ้วเท้าของเจ้า และเจ้าจะต้องเล่าเรื่องตลกให้ข้ารู้สึกชอบมันให้ได้ " องค์หญิงฉาน ยู่ หัวเราะ

"ขอบคุณฝ่าบาท"ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความซาบซึ้ง

"อืม เป็นเด็กดีจริงๆ!"องค์หญิงฉาน ยู่ หัวเราะ

บรรดาแม่ทัพมอง ฟาง เจิ้งจือ อย่างเยือกเย็น พวกเขาพร้อมจะแทง ฟาง เจิ้งจือ ทุกเมื่อถ้าเขาพยายามจะตุกติก

ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนไหว

เขาเอามือไคว้หลังและเดินออกจากระโจมไปพร้อมกับที่ฮัมเพลงไปด้วย

เขาหยุดชั่วครู่เมื่อมาถึงทางเข้ากระโจม เขาหันหันไปมอง 2 แม่ทัพด้านหลัง

พวกเขาผงะไปทันที พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมคนที่กำลังจะตายถึงผ่อนคลายมาก

"เปิดกระโจม?  พวกเจ้าตาบอดหรือ?" ฟาง เจิ้งจือ ดูถูกแม่ทัพทั้ง 2 คน

"เจ้าคงเหนื่อยกับการมีชีวิตแล้วสินะ!ข้าเป็นแม่ทัพ! ทำไมต้องมาเปิดกระโจมให้เจ้าด้วย" แม่ทัพไถ่โกรธทันทีเมื่อได้ยิน  จิตสังหารถูกปล่อยออกมาข่มขู่ทันที

"แค่เปิดมันออก!  เลิกบ่นสักที ไม่เห็นองค์หญิงรออยู่ข้างนอกงั้นหรือ?  เจ้าจะรับผิดชอบได้ไหมถ้าการแข่งขันล่าช้า?" ฟาง เจิ้งจือ พูดต่อ

"ข้าจะฆ่าเจ้า!"่

"พี่ไถ่เขาเพียงแค่ยั่วโมโหเท่านั้น คนของอาณาจักรเซี่ยช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ เราต้องใจเย็นและรักษาความปลอดภัยขององค์หญิงเอาไว้ " แม่ทัพอีกคนกล่าวคำแนะนำ

"แล้วเจ้าจะให้ข้าไปเปิดกระโจมงั้นรึ?" แม่ทัพไถ่ไม่พอใจ

"เปิดกระโจม!" แม่ทัพมู่ เหลือบมองรองแม่ทัพคนหนึ่ง

"รับทราบ!" เขาไม่ต้องการทำเช่นนี้ แต่มันเป็นคำสั่ง

เขาไม่มีทางเลือก

"ทำไมถึงใช้เวลาขนาดนี้ แค่เปิดประตูกระโจมเองนะ? เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว " ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่แม่ทัพทั้งสองด้วยความดูถูก  จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างมั่นใจ

แม่ทัพทั้งสองจับอาวุธแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะเขากำลังต้องแข่งกับองค์หญิงละก็...

เขาต้องตัวขาดครึ่งไปแล้ว

...

ดวงอาทิตย์ส่องสว่าง

ดอกไม้ในหุบเขาต่างเบ่งบาน มีกองทัพขนาดใหญ่ล้อมรอบอยู่  มีกระโจมอันงดงามอยู่ตรงกลาง

กระถางดอกไม้อันงดงามวางเรียงอยู่ด้านใน

องค์รัชทายาทกำลังเอนพิงตัวอยู่บนเก้าอี้ ขณะที่กลินหอมของดอกไม้อบอวลอยู่รอบๆ

"ฝ่าบาท" ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ในชุดสีดำก็เดินเข้ามา  เขามองไปยังองค์รัชทายาทด้วยความเคารพ

"อืม มีอะไรเจ้าหน้าที่ซู? บอกข้าทีว่าการทดสอบเป็นยังไง้าง" องค์รัชทายาทเปิดตาขึ้นมาช้าๆ

"ฝ่าบาทตอนนี้ วู่ เฟิง กำลังนำอยู่เขาได้เข้าควบคุม 20 ถิ่นฐาน โดยตั้งฐานอยู่ที่ เหยียน เยว่ เขามีกำลังคนดว่า 10,000 คนที่อยู่ใต้การควบคุมของเขา" เจ้าหน้าที่ซู รายงาน

"เกือบ 10,000 คน? เขากำจัดไปแล้ว 4 คนงั้นหรือ?"องค์รัชทายาทผงะไป

"ถูกต้อง" ซู ฉิง พยักหน้า

"แล้ว หนานกง เฮา ละ?"่

"เขาไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก เขายังมีคนเท่าเดิม 2,000 คนและเขากำลังทำข้อตกลงกับถิ่นวานรน้ำแข็งเพื่อขอใช้เป็นฐาน "

"อืม บริเวณนั้นใกล้กับเมืองภูเขาเซียน  เป็นเรื่องดีที่ หนานกง เฮา เลือกที่นั่นโอ้ใช่ ... แล้ว เหยียน ซิว ละ?"่

"เหยียน ซิว ไม่พยายามเข้าควบคุมถินฐานใดๆ เขาเคลื่อนที่ผ่านแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตามเขาได้กำจัดคู่แข่งไปคนหนึ่ง ตอนนี้มีทหารอยู่ใต้เขา 4,000 นาย "

"ข้าเข้าใจแล้ว มีตกรอบไปแล้วกี่คน?" องค์รัชทายาทพยักหน้า

"ประมาณ 20 คน"

"อืม ฟาง เจิ้งจือ ปรากฏตัวหรือไม่?"่

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด