ตอนที่ 144 เฟิงหยางมาถึงแล้ว
หลิงฮันสามารถเป็นหนึ่งในไพ่ตายขององค์ชายสามได้ แต่ทำไมเขาถึงเปิดเผยมันออกมาเร็วแบบนี้?
นั่นเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงสำคัญที่สุดของการแข่งขันแย่งชิงบัลลังก์ เหล่าแขกที่เขาเชิญมาในคืนนี้ล้วนแต่เป็นรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นจากหลากหลายตระกูลชั้นกลางของเมืองจักรพรรดิ ถ้าพวกเขาประกาศตนว่าจะจงรักภักดีต่อเขา นั่นก็หมายถึงตระกูลเบื้องหลังของพวกเขาก็ต้องจงรักภักดีต่อเขาเช่นกัน
อย่าดูถูกตระกูลเหล่านี้เชียว หากตระกูลชั้นกลางหลายร้อยตระกูลร่วมมือกัน อำนาจของพวกเขาก็พอจะน่ากลัวอยู่บ้าง ที่สำคัญกว่าคือ แปดตระกูลใหญ่นั้นโดดเด่นเกินไป และไม่ว่าพวกเขาจะร่วมมือกับองค์ชายคนใด สถานะแปดตระกูลใหญ่ของพวกเขาก็ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
เพราะงั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำคนจากแปดตระกูลใหญ่มาเป็นพวก ดังนั้นองค์ชายสามจึงมีเป้าหมายอยู่ที่เหล่าตระกูลชั้นกลาง แต่ทำไมถึงมีคนจากตระกูลชั้นกลางมาร่วมงานเลี้ยงแค่สามสิบกว่าคนน่ะรึ? นั่นเพราะหลายร้อยตระกูลชั้นกลางได้ถูกแบ่งไปเข้าร่วมกับองค์ชายหนึ่ง และองค์ชายเจ็ดแล้ว แต่ก็ยังมีบางตระกูลที่ยังไม่ได้ตัดสินใจและรอคอยข้อเสนอต่างๆอยู่
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าองค์ชายคนใดจะได้ครองบัลลังก์ ตระกูลเลือกฝ่ายผิดก็จะต้องถูกกดดัน หากพวกเขาจะถูกขับไล่ออกจากเมืองจักรพรรดิอย่างลับๆก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลิงฮันมีนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงถึงสองคนอยู่เบื้องหลัง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
นั่นมันสุดยอดเกินไปแล้วไม่ใช่รึไง?
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะอันยิ่งใหญ่ของนักปรุงยา พวกเขามักจะไม่เข้ามาแทรกแซงการต่อสู้แย่งชิงอำนาจใดๆ แต่ดูตอนนี้สิ องค์ชายสามดูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮันอย่างมาก นั่นหมายความว่าองค์ชายสามได้รับการสนับสนุนจากสองนักปรุงยาผู้ยิ่งใหญ่แล้วไม่ใช่รึไง?
พระเจ้า... ด้วยการสนับสนุนจากสองตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น ต่อให้จักรพรรดิพิรุณคนปัจจุบันตัดสินใจแล้วว่าจะให้ใครเป็นผู้สืบทอด เขาก็ต้องกลับมาคิดตัดสินใจใหม่อีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นักปรุงยาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองสร้างปัญหาให้กับเมืองจักรพรรดิหลังจากที่จักรพรรดิองค์ใหม่ถูกแต่งตั้ง
ในการต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ องค์ชายสามมีโอกาสที่จะชนะสูงกว่าองค์ชายคนอื่นเล็กน้อย และตอนนี้จู่ๆก็มีสองตัวตนผู้ยิ่งใหญ่มาสนับสนุนเขา... เรียกได้ว่าชัยชนะของเขานั้นถูกรับประกันเอาไว้แล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้ เหล่ารุ่นเยาว์ได้ทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนในทันที
ในตอนแรก เป็นเพราะพวกเขาเป็นฝ่ายถูกเชิญมา พวกเขาจึงมีความทะนงตนอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไป พวกเขารู้แล้วว่าไพ่ลับขององค์ชายสามคืออะไร ดังนั้นรุ่นเยาว์เหล่านี้จึงเริ่มคิดที่จะตีสนิทกับเขา
ตัวตนที่ยิ่งใหญ่สองคนนั้นคือนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงเชียวนะ แค่ทั้งสองคนนั้นโยนเม็ดยาใดๆทิ้งลงมาก็เพียงพอแล้วที่พวกเขาจะต่อสู้แย่งกันอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อองค์ชายสามเห็นภาพที่เกิดขึ้น มุมปากของมันได้โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม นี่คือสิ่งที่เขาหวังเอาไว้ว่าอยากจะเห็น เขาไม่สามารถรอที่จะเก็บไพ่ลับใบนี้เอาไว้ได้ เพราะจักรพรรดิพิรุณคนปัจจุบันกำลังคิดที่จะสละบัลลังก์และมุ่งเน้นไปที่การศึกษาวรยุทธ อย่างมากสุดก็ภายในห้าปี จักรพรรดิจะต้องเลือกคนขึ้นมาครองบัลลังก์ ดังนั้นองค์สามจึงต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด
“ฮ่าๆๆ มาดื่มกันเถอะ!” องค์ชายสามยกแก้วไวน์ขึ้นมา ในขณะที่คนอื่นๆก็ยกขึ้นตามในทันที เมื่อองค์ชายสามดื่มไวน์หมดแก้ว พวกเขาทุกคนก็ไม่กล้าที่จะเหลือไวน์เอาไว้และดื่มหมดแก้วเช่นกัน หลังจากองค์ชายสามนั่งลง พวกเขาก็กลับไปนั่งที่นั่งของตนเอง
องค์ชายสามตอนนี้เต็มไปด้วยความสำเร็จ ตอนนี้ยังแค่ในศาลาบุปผางาม แต่ในอนาคต ตัวตนระดับสูงกว่านี้จะต้องเข้าพบเขาและอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา
สาวใช้เติมไวน์ใส่แก้วของทุกคน ทำไมศาลาบุปผางามถึงมีค่าใช้จ่ายที่แพงน่ะรึ? นั่นเพราะสาวใช้เหล่านี้ไม่ใช่แค่งดงาม แต่พวกนางยังมีกิริยาท่าทางที่สง่าอีกด้วย พวกนางบางคนมีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ระดับรวมธาตุด้วยซ้ำ สำหรับผู้ชายแล้ว การมีสาวใช้แบบนี้มาคอยช่วยเหลือในการกินดื่ม ทำให้พวกมันรู้สึกราวกับเป็นผู้ชนะ
ค่ำคืนนี้หลิงฮันคือดาวดวงเด่น เขามีสาวงามคอยรับใช้อยู่ทั้งด้านซ้ายขวา และพวกนางล้วนแต่เป็นจอมยุทธระดับรวมธาตุ ต้องรู้ก่อนว่าสาวใช้สองคนนี้มีอายุอยู่ในช่วงยี่สิบปี แต่พวกนางกลับสามารถก้าวมายังระดับรวมธาตุได้แล้ว นั่นหมายความว่าพวกนางมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นอยู่ตั้งแต่แรก
หญิงสาวทั้งสองล้วนแต่ผ่านการฝึกอบรมที่เข้มงวดมาแล้ว พวกนางทั้งพูดจาอ่อนหวานและขยับเคลื่อนไหวได้อย่างสง่างาม และสิ่งที่โดดเด่นมากกว่านั้นก็คือพวกนางสามารถสังเกตสีหน้าของผู้อื่นได้ดีเยี่ยม เพียงแค่การจ้องมองหลิงฮัน พวกนางก็รู้แล้วว่าหลิงฮันอยากทานอาหารจานไหน พวกนางจะป้อนอาหารจานนั้นใส่ปากให้หลิงฮันด้วยขนาดพอดีคำ
สิ่งเหล่านี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้เหล่าชายหนุ่มสูญเสียความเยือกเย็นไป อย่างไรก็ตาม จิตใจของหลิงฮันแข็งแกร่งขนาดไหน? เขาสามารถเดินผ่านสวนบุปผาโดยที่ไม่มีใบไม้ติดตัวเขามาแม้แต่ใบเดียว ไม่ว่าหญิงสาวคนนั้นจะงดงามแค่ไหน จิตใจของหลิงฮันก็ไม่หวั่นไหวเด็ดขาด
เขาไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านใดๆและยอมปล่อยตัวไปกับการบริการของหญิงสาวทั้งสอง ถึงอย่างนั้นแววตาของเขาก็ยังกระจ่างใสและไม่มีท่าทางเร่าร้อนใดๆบนใบหน้าของเขา ซึ่งทำให้องค์ชายสามที่เฝ้ามองเขาอยู่ยกระดับตัวเขาขึ้นไปอีกขั้น องค์ชายสามถึงขนาดคิดไปเองว่าคนที่เขากำลังมองอยู่ไม่ใช่เด็กหนุ่มรุ่นเยาว์ แต่เป็นจอมยุทธที่ผ่านความยากลำบากและเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มานับไม่ถ้วน
หลิงฮันมีปรมาจารย์นักปรุงยาอยู่เบื้องหลังถึงสองคน จึงไม่แปลกที่เขาจะกลายเป็นบุคคลที่ทุกคนต้องการสร้างความพึงพอใจให้ อย่างไรก็ตาม หลิงฮันดูเหมือนจะไม่ใส่ใจคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาทำมีเพียงคุยเรื่อยเปื่อยกับองค์ชายสาม หลี่เฮ่า และจูเสวี่ยอี้ ส่วนเวลาที่เหลือเขาจะใช้มันไปกับการก้มหน้าก้มตากินอาหารของเขา
นี่ถือเป็นเรื่องปกติ ในชีวิตที่แล้วเขาเป็นถึงจักรพรรดิปรุงยาเพียงหนึ่งเดียว เขาจะลดตัวลงมาคุยกับเด็กน้อยที่คิดว่าตัวเองดีเลิศที่สุดในโลกทำไม?
ไม่มีใครคิดว่าการกระทำที่ยิ่งยโสของหลิงฮันนั้นแปลกอะไร เพราะนักปรุงยาทุกคนล้วนแต่มีความภาคภูมิใจเป็นของตนเองอยู่แล้ว ถ้าหลิงฮันไม่แสดงท่าทางทะนงตนใดๆออกมาเลย นั่นสิถึงจะแปลก
เมื่อพวกมันเห็นว่าหลิงฮันไม่ใช่คนที่จะเข้าถึงได้ง่ายๆ พวกมันจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นหลี่เฮ่ากับจูเสวี่ยอี้แทน ทำให้ความรู้สึกในอกของทั้งสองคนแทบจะเอ่อล้นออกมา
เมื่อสักครู่ นายน้อยจากตระกูลเล็กๆกล้ามาดูถูกและฉีกหน้าพวกเขา แต่ตอนนี้รุ่นเยาว์จากตระกูลชั้นกลางมากมายกำลังแย่งกันเพื่อเป็นสหายกับพวกเขา! ทั้งสองคนอดที่จะมองไปยังหลิงฮันด้วยความรู้สึกขอบคุณไม่ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะหลิงฮัน
องค์ชายสามเห็นว่าหลิงฮันเอาแต่กินกับดื่ม และไม่ฉวยโอกาสลูบคลำสาวใช้เหมือนกับรุ่นเยาว์คนอื่น เขาจึงได้ถามขึ้นมา “น้องชายหลิง เจ้าไม่พึงพอใจหญิงสาวสองคนนั้นรึ?”
เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนั้น พวกนางได้แสดงท่าทีไม่พอใจออกมาทันที ถึงแม้เหล่าลูกค้าจะรู้ว่าพวกนางทำไปเพราะเป็นหน้าที่ แต่ลูกค้าเหล่านั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงพอใจ
“ฮ่าๆ ถ้าน้องชายหลิงยังไม่พอใจ งั้นทำไมไม่ให้จื่อเหยียนเป็นคนคอยรับใช้น้องชายหลิงล่ะ?” องค์ชายสามพูดขึ้นมาทันที
ใบหน้าของจื่อเหยียนเปลี่ยนไปในทันที เรือนร่างของนางสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ นางไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่นางรู้สึกราวกับว่ากำลังอกหัก นางคิดว่านางอยู่ในตำแหน่งที่สูงในใจขององค์ชายสาม แต่ไม่เคยคิดเลยว่านางจะเป็นเพียงไพ่ใบหนึ่งของเขา
หัวใจของหลี่เฮ่าและจูเสวี่ยอี้เต้นแรง ก่อนหน้านี้จื่อเหยียนได้แสดงอำนาจจนฝังลึกเข้าไปในใจของทั้งสอง แต่ตอนนี้นางกลับจะต้องคอยรับใช้หลิงฮัน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ใหญ่เกินกว่าทั้งสองจะรับได้จริงๆ
หลิงฮันยิ้มและถาม “เจ้าจะยอมรึคุณหนูจื่อเหยียน?”
เรือนร่างของจื่อเหยียนสั่นไหวอีกครั้ง แต่นางก็ตอบกลับไป “จื่อเหยียนยินดี”
แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันได้ส่ายหัวและพูด “สุภาพบุรุษจะไม่แย่งผู้หญิงของคนอื่น คุณหนูจื่อเหยียนเป็นขององค์ชายสาม ดังนั้นอยู่ข้างกายองค์ชายสามนั่นล่ะดีแล้ว!”
จื่อเหยียนรู้สึกขอบคุณในทันที เป็นธรรมดาที่นางจะไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งขององค์ชายสาม แต่เมื่อเรื่องเมื่อครู่ได้ผ่านพ้นไป ความประทับใจของนางที่มีต่อหลิงฮันได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นางก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับองค์ชายสามเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เพื่อที่จะครองบัลลังก์ ทุกคนล้วนแต่เป็นหมากสำหรับเขา และถ้านางยังคงตาบอดติดตามเขาต่อไป มันจะมีจุดจบแบบใดที่กำลังรอคอยนางอยู่?
นางจะต้องเป็นฝ่ายสูญเสียแน่นอน
“ฮ่าๆๆๆ องค์ชายสาม ข้ามาสายจนได้ ข้าเข้าไปได้หรือไม่?” ในตอนนั้นเองเสียงที่ชัดเจนก็ได้ดังขึ้นมาจากด้านนอก เสียงที่ดังขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลัง
สีหน้าขององค์ชายสามเปลี่ยนไปเล็กน้อยและอุทานขึ้นมา “เฟิงหยาง!”
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*