ตอนที่แล้วบุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 84 แก่นอสูรกิเลนดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 86 เขตอสูรลุกเป็นไฟ

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 85 มังกรทอง


ตอนที่ 85

มังกรทอง

 

กึก...ไป๋จูเหวินหยิบหินวิญญาณออกมาจากแหวนมิติก่อนจะกองมันเอาไว้ตรงหน้าตนเอง ทั้งหินวิญญาณและแก่นอสูรต่างถูกนำย้ายมาอยู่ในมิติของไป๋จูเหวินจนหมดสิ้นเหลือเอาไว้แต่แหวนเปล่าๆเท่านั้น

“หงเยว่ อันนี้ของเจ้า”ไป๋จูเหวินว่าพลางนำแก่นอสูรระดับสูงถุงหนึ่งไปให้หงเยว่

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”หงเยว่ยิ้มหวานพลางรับแก่นอสูรไปอย่างว่าง่าย นางนำแก่นอสูรออกมาเม็ดหนึ่งก่อนจะเอาเข้าปากและกลืนลงไปอย่างช้าๆ เพียงแต่นางกลืนลงไปเม็ดเดียวเท่านั้นไม่ได้กินเยอะอย่างที่หลินหลินทำ

“แค่นั้นพอแล้วเหรอ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองหลินหลินที่กำลังเคี้ยวแก่นอสูรตุ้ยๆ นี่ความจุกระเพาะของนางมีเท่าไหร่กัน?

“ข้าไม่เหมือนน้องหลินหลินหรอกเจ้าค่ะ เผ่าของข้าแต่เดิมก็มีพลังแค่เพียงอสูรระดับสูงเท่านั้น ตัวข้าในตอนนี้ก็แข็งแกร่งกว่าแมงมุมแม่ม่ายดำตนอื่นๆแล้ว ข้าเลยกลืนแก่นอสูรเพื่อเพิ่มพลังได้ไม่มากเจ้าค่ะ”หงเยว่ตอบพลางยิ้มบางๆ

“แบบนี้นี่เอง”ไป๋จูเหวินพยักหน้าพลางมองไปทางหลินหลิน ยิ่งนางกินแก่นอสูรเท่าไหร่พลังของนางก็ยิ่งเพิ่ม ตอนนี้ก็ใกล้จะข้ามเข้าสู่ระดับหยกเต็มที แต่นั่นก็ยังเป็นพลังแรกเริ่มที่หลินหลินมีตั้งแต่เกิด บางทีเป่าเดิมของหลินหลินอาจจะเป็นเผ่าที่มีพลังระดับหยกขาวหรือมากกว่านั้นก็ได้

“ต่อไปเจ้าก็ต้องบำเพ็ญเพียรสินะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางหยิบหินวิญญาณออกมาก้อนหนึ่ง

“เจ้าค่ะ”หงเยว่ตอบด้วยท่าทีนอบน้อม อสูรแม้จะแข็งแกร่งกว่าระดับดั้งเดิมของเผ่าพันธุ์แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีวันแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้ เพียงแต่ระดับจะเพิ่มช้ามากๆ จำเป็นต้องผ่านทั้งวันและเวลาถึงจะเพิ่มระดับขึ้นไปได้ แน่นอนว่าสามาระใช้แก่นอสุรเพิ่มพลังได้เช่นกันแต่ก็มีอัตราการดูดซับน้อยมาก บางทีหงเยว่อาจจะกินแก่นอสูรได้วันละ 3 – 5 เม็ดเท่านั้นไม่เหมือนกับหลินหลินที่กินเข้าไปจะ 40 เม็ดแล้ว

“เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก เวลาของอสูรมีมากมาย สักวันเจ้าอาจจะแข็งแกร่งเหมือนพวกท่านน้าของข้าก็ได้”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางเริ่มดูดซับพลังวิญญาณจากหินวิญญาณที่ตนถืออยู่ หากอสูรสามารถดูดซับพลังอสูรจากแก่นอสูรได้ มนุษย์เองก็สามารถดูดซับพลังวิญญาณจากหินวิญญาณเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้เช่นกัน ยิ่งตอนนี้พลังวิญญาณของไป๋จูเหวินพึ่งอยู่ระดับหลอมรวมนภาเท่านั้น หินวิญญาณก้อนหนึ่งมันสามารถดูดซับได้หลายวันเลยทีเดียว แต่หากเพิ่มระดับไปสูงกว่านี้หินนับร้อยก้อนก็อาจจะไม่เพิ่มอะไรแล้วก็เป็นได้

“ท่านน้าของคุณชาย”หงเยว่ถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนใจ นางไม่เคยทราบเรื่องส่วนตัวของไป๋จูเหวินเลย อาจจะเพราะเวลาที่ได้พบกันยังไม่มากกระมัง

“เอาไว้เจ้าได้พบก็คงจะเข้าใจ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา มันต้องกลับไปยังเขตอสูรในสักวันอยู่แล้ว เมื่อวันนั้นมาถึงหงเยว่ที่เป็นอสูรเลี้ยงของมันก็ย่อมติดตามไปอยู่แล้ว

.

.

.

“เฮ้อ ว่างจังเลยนะ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางเอนหลังพิงต้นไม้ในป่าวัฒนะอย่างสบายอกสบายใจ

“เจ้าก็ไปดูแลเขตของเจ้าสิ”มังกรธรณีว่าพลางเอาตำราในมือปาใส่พุงอ้วนๆของไก่ฟ้าหงอนทอง เมื่อก่อนพวกมันรังเกียจร่างมนุษย์ไม่น้อยเพราะเหมือนลดตัวลงไปสวมใส่เสื้อผ้าของพวกชั้นต่ำ แต่พอเลี้ยงไป๋จูเหวินมานานพวกมันก็เริ่มรู้สึกร่างมนุษย์สดวกสบายดีไม่น้อย โดยเฉพาะมังกรธรณีที่ขนาดตัวแต่เดิมใหญ่โตราวภูเขาพอมาอยู่ในร่างมนุษย์ก็ขยับตัวง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องห่วงว่าเวลาก้าวเดินจะเหยียบอะไรพังไปบ้างอีกต่อไป

“เขตของข้ามันสงบสุขจะตาย ไปก็ได้แต่บินดูเท่านั้นล่ะ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางหาวออกมา

“เข้าเนี่ยนะ ถ้าไม่ดูแลเขตตัวเองดีๆระวังจะถูกยึดอำนาจหรอก”ราชสีห์เพลิงว่าพลางนำเนื้อที่มันพึ่งย่างเข้าปาก

“ไม่อยากได้ยินจากปากไอ้ตัวที่ทิ้งเขตตัวเองมาย่างเนื้ออสูรในเขตคนอื่นหรอก”ไก่ฟ้าว่าพลางมองเหล่าราชาที่ทำตัวสบายๆจนเกินไป

“งั้นเจ้าจะไม่กินหรือไง”ราชสีห์เพลิงว่าพลางฉีกเนื้อของหมูป่าเขี้ยวแดงจากเขคของมันออกมาขาหนึ่ง

“กินสิวะ”ไก่ฟ้าว่าพลางกระโดดลงมาจากต้นไม้

“พวกเจ้านี่นะ อยู่กับเงียบๆไม่เป็นหรือไง”จิ้งจอกเหมันต์หรี่ตามองไก่ฟ้าหงอนทองกับราชสีห์เพลิงกำลังนั่งกินเนื้อกันอย่างสบายใจ

“เจ้าเองก็ทำตัวสบายเกินไปเหมือนกันนั่นล่ะ”มังกรธรณีว่าพลางมองจิ้งจอกเหมันต์ที่นอนแช่อยู่ในบ่อชีพจรวารีอย่างสบายใจ

“ช่วยไม่ได้นี่นา ก็มันไม่มีอะไรทำนี่”จิ้งจอกเหมันต์พูดด้วยท่าทีผ่อนคลาย น้ำในบ่อชีพจรวารีช่วยรักษาอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี แถมดีต่อผิวอีกต่างหาก ทำให้ผิวของนางและจูเอ๋อนุ่มลื่นอย่างที่เห็นไงล่ะ

“ว่าแต่เจ้าพยัคฆ์มันไปไหนล่ะ ไม่เห็นเลย”มังกรธรณีถามพลางมองไปรอบๆ หลายเดือนมานี้พวกมันรวมตัวกันอยู่แทบทุกที่ แต่วันนี้ยังไม่เห็นพยัคฆ์อัสนีโผล่มาเลย

“เห็นบอกมีผู้บุกรุกนะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางกระพริบตาถี่ๆ

“อีกแล้วเหรอ พักนี้มีผู้บุกรุกเยอะจริงๆ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางยักไหล่ เขตของพยัคฆ์อัสนีอยู่ติดกับผาไร้ก้นที่สุด หากมีผู้บุกรุกมาจากทางนั้นก็จะเข้าป่าของพยัคฆ์อัสนีเป็นที่แรก เรื่องนี้ทำเอาพยัคฆ์อัสนีบ่นอยู่บ่อยๆ แต่เพราะพวกมันต่างมีพลังแข็งแกร่งกันเกินไป เลยไม่รู้สึกถึงความกดดันเลยแม้แต่น้อย

คลืนนน.....เปรี้ยง!! ยังไม่ทันไรความสงบที่มีมาจนถึงเมื่อครู่ก็มลายหายไปในทันทีเมื่อปรากฏสายฟ้าสายหนึ่งพุ่งลงมายังบ่อชีพจรวารีอย่างรุนแรงจนน้ำในบ่อระเหยออกเพราะสายฟ้า

“อะไรกัน จะมาก็มาดีๆไม่ได้หรือไง”ไก่ฟ้าหงอนทองโวยพลางมองเนื้อของมันที่โดนน้ำกระเด็นใส่

“แย่แล้ว”พยัคฆ์อัสนีที่ยืนอยู่บนฟืนน้ำพูดพลางหอบหายใจหนักๆเพราะมันเร่งใช้ท่าร่างสายฟ้ามาจนถึงป่าวัฒนะในไม่กี่วินาที

“เจ้านั่นมันทำได้แล้ว”พยัคฆ์อัสนีพูดพลางกระโดดไปที่ๆมังกรธรณียืนอยู่

“เจ้านั่น?”มังกรธรณีขมวดคิ้วพลางมองร่างของพยัคฆ์อัสนี ยามนี้บนร่างของมันมีแต่ฝุ่นทรายราวกับไปคลุกดินที่ไหนมา แถมยังมีรอยเลือดอีกต่างหาก

“ตาของเจ้า”มังกรธรณีเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าด้านหนึ่งของพยัคฆ์อัสนีปรากฏเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก แถมยังเห็นได้ชัดว่าที่ดวงตาขว้างซ้ายของมันโดนบางอย่างบาดจนเป็นแผลลึก

“หวงหลงมันมาแล้ว”ชื่อที่พูดออกมาทำเอาหัวใจของราชาอีก 4 ตนสั่นสะท้าน หวงหลง คือชื่อของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร เพียงแต่หวงหลงที่พยัคฆ์อัสนีพูดถึงไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มนักล่าอสุรแต่อย่างไร เพียงแต่มันคือชื่อของมังกรตนหนึ่งที่พวกมันรู้จักและเคยต่อสู้ด้วยเมื่อนานมาแล้ว

“หวงหลง..เจ้ามังกรทองนั่นนะเหรอ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางกลายร่างกลับเป็นไก่ฟ้าอย่างรวดเร็ว มันกระพือปีกเพื่อมองดูว่าเกิดอะไรขึ้นในเขตอสูรของพวกมันกันแน่

“......”ไก่ฟ้าหงอนทองมองสภาพป่าเมฆาอัสนีด้วยสีหน้าปั้นยาก ยามนี้ป่าเมฆาอัสนีพลังทลายไปกว่า 1 ใน 4 เรียกได้ว่าเสียหายรุนแรงอย่างมาก แถมอาการบาดเจ็บของพยัคฆ์อัสนียังไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หากเป็นหวงหลงที่มันรู้จักจริง มันก็คืออสูรระดับเดียวกับพวกมัน ผู้ครอบครองเชตอสูรที่มีชื่อว่าหุบเขามังกร ราชาแห่งเหล่ามังกรทั้งปวง

“ไก่ฟ้า ระวัง”มังกรธรณีตะโกนบอกไก่ฟ้าหงอนทองที่บินอยู่บนท้องฟ้า พริบตานั้นแสงสีทองก็ลอดลงมาจากชั้นเมฆราวกับแสงของสวรรค์ ดวงตาสีทองสว่างไสวพร้อมเกร็ดทองคำทั้งร่างก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเหล่าราชาทั้ง 5 ในทันที เพียงแต่ไก่ฟ้าหงอนอทองที่บินอยู่นั้นอยู่ใกล้มังกรทองจนเกินไป

วูม!! เกราะวายุของไกฟ้าหงอนทองคลุมร่างของมันเอาไว้ก่อนที่กรงเล็บของมังกรทองจะโดนร่างของมัน

ผั๊ว! อยู่ๆมังกรทองก็สะบัดหางใส่เกราะวายุของไก่ฟ้าหงอนทองจนทั้งไก่ฟ้าทั้งเกราะวายุลอยออกไปห่างจากตัวมังกรทอง

“ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ไม่นึกเลยว่าพวกเจ้าจะอยู่ด้วยกันแบบนี้”หวงหลงหัวเราะในลำคอพลางมองเหล่าราชาทั้ง 5 อย่างดูถูก แต่เดิมมันและเหล่าผู้ครองเขตอสูรต่างเป็นอสูรระดับมายา โดยความแข็งแกร่งของพวกมันต่างวัดกันตามระดับขั้นที่แบ่งย่อยในรับมายาอีกที แต่เดิมพวกมันทั้ง 6 ตนต่างอยู่ระดับสุดท้ายของระดับมายามาเนิ่นนานจนจำไม่ได้เสียแล้วว่าค้างอยู่แบบนี้มานานเท่าใด

“มัน....”มังกรธรณีมองร่างของหวงหลงตาค้าง ร่างราวกับรูปปั้นมังกรที่ทำมาจากทองล้วนๆสร้างความสวยงามให้มันเป็นอย่างมาก เพียงแต่สิ่งที่ทำให้มังกรธรณีตกใจคือระดับพลังของหวงหลง

“ระดับบรรพกาล”จิ้งจอกเหมันต์กัดฟันแน่นพลางมองหวงหลงด้วยท่าทีหวาดระแวง แม้จะยังไม่เท่าอสูรแมงมุมนายหญิงของพวกมัน แต่หวงหลงก็ข้ามระดับมายาที่พวกมันอยู่ไปแล้ว

“พวกเจ้าอยู่ด้วยกันก็ดี ข้าจะได้ฆ่าพวกเจ้าทีเดียว”หวงหลงว่าพลางอ้าปากออก วินาทีนั้นแสงสีทองก็สาดเข้าใส่ร่างของเหล่าราชาที่อยู่ด้านล่าง

บึมมม เสียงระเบิดดังออกมาจากเขตป่าวัฒนะอย่างรุนแรง เพียงแต่เหล่าราชาทั้งหลายต่างมีความเร็วกันพอตัว พวกมันต่างไม่โดนลำแสงเลยยกเว้นแต่

“มังกรธรณี”จิ้งจอกเหมันต์ตะโกนพลางมองควันที่เกิดจากการระเบิด มังกรธรณีไม่ได้มีความเร็วเหมือนพวกมันเลยโดนแสงสีทองนั่นเข้าไปเต็มๆ เพียงแต่พอเห็นเงาร่างมหึมาของมังกรธรณีเริ่มขยับ จิ้งจอกเหมันต์ก็ถอนหายใจออกมา

“อย่าคิดว่าเจ้าเพิ่มระดับแล้วพวกเราจะสู้ไม่ได้”มังกรธรณีกระทืบเท้าจนพื้นสั่นสะเทือน ร่างของมันแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่โดยทำลายด้วยลำแสงทองของหวงหลงอย่างแน่นอน

“ใช่ ถึงเจ้าจะบรรลุระดับบรรพกาลไปแล้ว แต่พวกเราก็มีกัน 5 ตน”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางสร้างสายลมรอบๆตัวมันอย่างรวดเร็ว

เปรี้ยง! ไม่ต้องพูดให้มากความ สายฟ้าสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่หวงหลงอย่างรวดเร็ว พร้อมปรากฏร่างของพยัคฆ์อัสนีที่ขี่อยู่บนหัวของหวงหลง

“ตายซะ”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางเรียกสายฟ้าจากบนชั้นเมฆผ่าใส่ตรงหัวของหวงหลงไป 3 สายสร้างเสียงกระหึ่มไปทั่วเขตอสูร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด