ตอนที่แล้วChapter 16: หมาป่าน้ำแข็ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 18: ก้าวแรก

Chapter 17: วิธีฝึกของเส้นทางกำเนิด


เควสย่อยอันต่อมาในเควสหลักนั้นทำให้ เยล สลดยิ่งกว่าอันแรก

“ไปให้ถึง 1 ดาวในเส้นทางกำเนิด  รางวัล : สกิลต่อสู้และสกิลเวทย์”

เยล คิดไว้แล้วว่าต้องมีเควสแบบนี้ ในเงื่อนไขปกติในการขึ้นไปถึง 10 หน่วยในแต่ละสเตตัสได้ก่อนอายุ 10 ปีนั้นก็ถือว่าดีอย่างมากแล้ว ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นธรรมดาที่เควสย่อยอันต่อไปจะไปถึงระดับ 1 ดาว

เยล ปิดเควสลงไปและโฟกัสไปกับวิธีฝึกของเส้นทางกำเนิดที่เขาได้รับมาเป็นรางวัลจากเควสย่อยก่อนหน้านี้

วิธีฝึกในเส้นทางกำเนิดนั้นยากยิ่งกว่าการฝึกของเส้นทางเมกัสรึนักรบ

เยล ได้รับวิธการฝึกเพื่อที่จะได้เป็นเมกัสรึนักรบมาจากพี่สาว พวกมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกของสำนักนิคาไซและเพราะ เยล นั้นได้ช่วยชีวิต แอง เอาไว้  สำนักก็อนุญาตให้เขาคัดลอกวิธีฝึกนี้ไปได้

แน่นอน เยล ไม่ต้องการมันเพราะเขาได้เลือกฝึกเส้นทางกำเนิด ดังนั้นแล้ววิธีที่เขาจะใช้ก็มีเพียงวิธีของเส้นทางกำเนิดเท่านั้น

แต่วิธีระดับสูงนี้ถือว่าเป็นการปกปิดที่ดีสำหรับเส้นทางกำเนิด  โดยทางการแล้ว เยล น่ะฝึกทั้งสองวิธี  ยังไงก็ตามอะไรที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางกำเนิดก็ไม่ควรที่จะถูกเปิดเผยออกมา

การฝึกสำหรับเส้นทางนักรบนั้นโฟกัสไปที่ร่ายกายเพื่อสร้างพลังคีและใช้มันยกระดับร่างกายและยังใช้สกิลต่อสู้

ในอีกด้านในการฝึกในเส้นทางเมกัสนั้นโฟกัสไปที่การดูดซับพลังงานของโลก ปรับมันและใช้มันเป็นสกิลเวทย์ออกมา รึให้พูดที่คนชอบพูดกันก็คือคาถา

แต่เส้นทางกำเนิดนั้นทำงานในอีกแบบ

เมื่อเขาจำวิธีฝึกได้ขึ้นใจและอายุได้ 10 ขวบ จากนั้นร่างกายเขาจะสร้างเส้นสายของพลังแก่นคี  เส้นสายนั้นควรที่จะโคจรไปทั่วร่างกายเพื่อยกระดับและในเวลาเดียวกันเส้นสายนั้นก็จะผนวกเข้ากับพลังของโลกและค่อยๆเปลี่ยนมันให้เป็นเส้นสายพลังแก่นคีอีกอัน

เส้นทางกำเนิดนั้นมีองค์ประกอบของสองเส้นทางแต่ความยากนั้นสูงกว่ามาก  การเปลี่ยนพลังงานโลกให้มาเป็นพลังแก่นคี  นั้นยากยิ่งกว่าการเปลี่ยนมันมาเป็นพลังเวทย์  และการยกระดับร่างกายนั้นไม่ได้ใช้พลังแก่นคีเหมือนกับพลังคีภายใน

แต่ถึงอย่างไรคุณภาพของแก่นพลังคีนั้นก็สูงกว่ามาก แม้ว่า เยล จะมีแก่นพลังคีน้อยกว่าพลังคีภายในรึพลังเวทย์ของคู่ต่อสู้แต่มันก็ไม่สำคัญ

อีกอย่างแล้วแก่นพลังคีนั้นสามารถใช้ได้ออกมาทั้งสกิลเวทยฺและสกิลต่อสู้ ทำให้มันง่ายกว่าเดิมที่จะใช้ทักสองทักษะนี้รวมกัน

คนที่ฝึกทั้งสองทางนั้นจะรวมสกิลต่อสู้กับคาถาเพื่อเพิ่มพลังในการต่อสู้ของตนแต่การรวมพลังที่แตกต่างทั้งสองให้ได้นั้นเป็นเรื่องยาก  ในอีกด้านแล้วแก่นพลังคีนั้นง่ายที่จะรวมพวกมัน

เยล เลื่อนการศึกษาวิธีฝึกของเส้นทางกำเนิดไปก่อน  สิ่งแรกที่เขาต้องการทำตอนนี้คือหาที่ฝังศพให้กับหมาป่าน้ำแข็ง เขาต้องการไม่ให้สัตว์อื่นเข้าโจมตีและเข้ามากินศพของมัน

เยล เริ่มขุดหลุมและเมื่อขุดไปได้สักหน่อย ลูกของมันก็ได้มาช่วยเขาขุดด้วย  พวกเขาต้องการที่จะขุดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งคงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะทำแบบนั้นเสร็จ

สัตว์อสูรบางตัวพยายามที่จะเข้าโจมตีพวกเขาในตอนนั้นแต่ทุกตัวก็จบด้วยการเป็นอาหารให้กับ เยล และลูกหมาป่า  ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าโจมตีนั้นเป็นเพียงมอนเตอร์ 1 ดาว และพวกมันไม่ทีทางหลบธนูของ เยล ได้

หลังจากฝังศพหมาป่าน้ำแข็งแล้ว เยล ก็ได้โค้งให้กับหลุมศพนั้นอีกครั้ง

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มศึกษาวิธีฝึกของเส้นทางกำเนิดอยู่ข้างๆหลุมศพพร้อมกับลูกหมาป่า  การจดจำวิธีฝึกนั้นยากแม้แต่หนอนหนังสืออย่าง เยล ก็ตาม แต่มันไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้โดยเฉพาะด้วยเวลาที่เขามีก่อนที่จะถึงวันเกิด

การใช้ชีวิตง่ายๆไม่จำเป็นต้องออกไปล่า  สัตว์อสูรที่พยายามมเข้าโจมตีเขาก็เพียงพอที่จะกินได้แล้วและ เยล ไม่รู้สึกว่าจะต้องออกไปล่าเพื่อเควสไดนามิค เขาได้ทุ่มสมาธิที่มีในการจดจำวิธีฝึกเส้นทางกำเนิด

เยล ต้องการเวลาประมาณ 2 อาทิตย์กว่าจะจำมันได้ทั้งหมดและหลังจากนั้นเขาก็ไม่ต้องทำอะไรอีกจนกว่าจะถึงวันเกิดเขา

จากนั้น เยล ได้ตัดสินใจที่จะออกไปล่าเพื่อให้ได้รางวัลสำหรับเควสไดนามิคที่ดีกว่าเดิม ยังไงซะเขาก็ไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้วจนกว่าจะถึงวันเกิดของเขา

ในตอนที่ เยล ออกล่า ลูกหมาป่าก็ได้ตามมาด้วยและ เยล ก็ไม่ได้ห้ามมัน  ลูกหมาป่าคงไม่รอดถ้าไม่มี เยล  การพามันไปด้วยนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ตั้งแต่ที่เขาได้รับการสืบทอดของหมาป่ามา เยล พยายามที่จะสื่อสารกับลูกหมาป่า เพราะเพิ่งได้รับสายเลือดมาเขาควรที่จะทำได้แต่ลูกหมาป่านั้นยังคงเด็กเกินไป

เยล หวังว่าจะสื่อสารกับมันได้ก่อนที่จะออกจากการทดสอบนี้แต่เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการสื่อสารกับสัตว์ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ลูกหมาป่านี้จะสื่อสารได้

เยล และลูกหมาป่านั้นใช้เวลาด้วยกันอีกหลายเดือน พวกเขาได้ล่ามอนเตอร์ 1 ดาวไปมากมายและคอยหลบเลี่ยงพวกที่แข็งแกร่ง

เยล รู้สึกมั่นใจในการฆ่ามอนเตอร์ 2 ดาวโดยใช้เรงของสายเลือด แต่เขาไม่มั่นใจที่จะจัดการมอนเตอร์ได้โดยที่ไม่มีแผลและยังไม่มั่นใจว่าจะปกป้องลูกหมาป่าเอาไว้ได้

เยล คงยกโทษให้ตัวเองไม่ได้ถ้าลูกหมาป่านั้นตายในตอนที่ต่อสู้รึมีมอนเตอร์ตัวอื่นเข้าโจมตีในตอนที่ เยล สู้อยู่

หมาป่าตัวน้อยนี้เริ่มแข็งแกร่งขึ้นมาเรื่อยๆแต่มันก็ยังไม่อยู่ในระดับ 1 ดาว ในตอนที่มันขึ้นมาอยู่ในระดับ 1 ดาวนั้น หมาป่าตัวน้อยจึงจะใช้พลังของสายเลือดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมาจนมันสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยตัวเองได้

วันหนึ่ง เยล เห็นหมาป่าดำ 2 ดาว ตัวเดียวกันกับที่หนีเสือไม้ไฟไป  เยล ไม่ได้เห็นมันได้ชัดเจนแต่สายเลือดที่เขาได้รับมาจากการสืบทอดนั้นร้อนขึ้นมาด้วยความโกรธในตอนที่เขามองไปที่มัน

นอกจากปกป้องลูกหมาป่าแล้ว นี่คือสิ่งสุดท้ายที่หมาป่าน้ำแข็งหวังเอาไว้ ฆ่าหมาป่าดำที่หนีไปในตอนที่วิกฤต

ถ้าหมาป่ายังอยู่เพื่อสู้ต่อ หมาป่าน้ำแข็งน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ถ้าหมาป่าดำนั้นเป็นหมาป่าไฟที่มีความต้านทานต่อธาตุไฟแล้วมันจะมีประโยชน์กว่าการที่ให้ เยล มาต่อสู้ด้วยมาก

หมาป่าไฟนั้นเป็นพ่อของหมาป่าตัวน้อยที่ซึ่งไม่ดูพึ่งพาไม่ได้ยิ่งกว่าพ่อของ เยล อีก

เยล มักจะหลบเลี่ยงมอนเตอร์ 2 ดาวแต่ครั้งนี้เขาต้องจัดการมันเพราะมันคือความหวังสุดท้ายของหมาป่าน้ำแข็งและ เยล เองก็ผิดหวังกับการกระทำของมันด้วย

เยล มองไปที่หมาป่าตัวน้อยและพบถึงอาการโกรธในตาของมัน  สายเลือดมันบอกว่ามันคงไม่อาจยกโทษให้พ่อของมันได้

เยล บอกให้ลูกหมาป่าอยู่ด้านหลังพร้อมกับยิงธนูเข้าใส่หมาป่าไฟและรีบเหวี่ยงดาบเข้าโจมตี

เยล ยังได้ใช้แรงของสายเลือดและได้วิ่งเข้าไปฟันหมาป่าไฟ

หมาป่าไฟได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยพร้อมกับถอยแล้วมองอย่างโกรธๆกลับไปที่ เยล

“เจ้ามนุษย์บัดซบ !”

เยล แปลกใจเล็กน้อยเพราะเขาเข้าใจที่มันพูดแต่เขาก็ทำการโจมตีต่อ

“เจ้าโจมตีข้าทำไม ข้าไม่เคยทำอะไรให้เจ้าโกรธเลย”

หมาป่าไฟรู้สึกได้ว่า เยล นั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าตัวเองและด้วยความขี้ขลาดที่มันมีทำให้มันอยากหลีกเลี่ยงการต่อสู้ อันที่จริงแล้วหมาป่านั้นไม่ได้พูด ความฉลาดมันไม่ได้สูงแต่ เยล เข้าใจได้ว่าความคิดของมันเหมือนกับที่มันพูด

“เจ้าทิ้งลูกสาวและเมียแล้ววิ่งหนีทั้งๆที่เจ้าสู้เพื่อช่วยพวกเขาได้”

เยล พูดอย่างเย็นชา หลังจากที่อยู่กับลูกหมาป่ามานาน เขาจึงรู้ว่ามันเป็นตัวเมีย

“แน่นอน ว่าข้าทำมันหลายครั้งแต่ข้าน่ะมีลูกอยู่มากมายและมีเมียมากมายด้วย ข้าจำพวกมันได้ไม่หมดหรอก ข้าจะจำได้ยังไงว่าเจ้าพูดถึงตัวไหนกัน ?”

เยล โกรธยิ่งกว่าเดิมแต่ก็ยังตอบกลับ

“ข้าพูดถึงหมาป่าน้ำแข็ง 3 ดาวและลูกสาว”

“โอ้ ตัวนั้นเอง มันน่าเสียใจ ด้วยพลังนั้นแล้วข้าจะได้ประโยชน์มากมายแต่มันกลับโชคร้ายและเจ้าควรดีใจที่มันตาย ข้าเห็นว่าเจ้าน่ะมีสายเลือดของมันอยู่ในตัว พลังสายเลือดที่แข็งแกร่งนั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้า ทำไมเจ้าต้องมาแก้แค้นให้มันอีก ? เจ้าควรที่จะขอบคุณข้าด้วยซ้ำ”

หมาป่าไฟพยายามกล่อม เยล เพื่อให้หยุดต่อสู้  คำพูดของมันอาจกล่อมคนอื่นได้แต่ไม่ใช่สำหรับ เยล

เยล ยิ้มออกมาและตอบกลับ

“ถ้าเจ้าคิดแบบนั้นคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก”

หมาป่าไฟถอนหายใจออกมา มันพยายามที่จะหลบเลี่ยงการต่อสู้และในเสี้ยววินาทีหัวมันก็โดนสับ มันได้โดน เยล ฆ่า

“พ่ออย่างเจ้าไม่สมควรมีตัวตน ไม่มีเหตุผลจะคุยอีกต่อไป ถ้าไม่มีเจ้าโลกนี้คงเป็นที่ที่ดีขึ้น”

มอนเตอร์ 2 ดาวได้ตายเพราะความขี้ขลาดของมัน ด้วยฝีมือนักฆ่าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด

เยล นั้นไม่ได้ดีใจกับการฆ่ามอนเตอร์ที่แข็งแกร่งได้ง่ายดายแบบบนี้ การฆ่ามันไม่ได้ทำให้มีเกียรติแต่สำหรับ เยล แล้วการฆ่ามันเป็นบางสิ่งที่เขาต้องการทำ  เยล ไม่ได้สนเรื่องความหมายอื่นๆ เขาแค่ต้องการทำมันให้เร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกหมาป่านั้นตกอยู่ในอันตราย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด