ตอนที่แล้วThe Dark King – Chapter 56 ไวรัส [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThe Dark King – Chapter 58 นักล่าที่ได้รับบาดเจ็บ [อ่านฟรี]

The Dark King – Chapter 57 หลอมละลาย [อ่านฟรี]


The Dark King – Chapter 57 หลอมละลาย

 

[ผู้เขียนถึงผู้อ่าน] เนื้อเรื่องหลักข้ามไปที่ ****** ได้เลยนะครับ

คุณรู้มั้ยว่าจูเลียสซีซาร์ได้รับความเดือดร้อนจากโรคลมบ้าหมูอยู่หลายครั้งหลายครา และประสบกับมันอยู่ตลอดช่วงชีวิต แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้รู้มั้ยทำไม? เพราะในช่วงเวลานั้น ผู้คนที่เป็นโรคลมบ้าหมูมักจะถูกตราหน้าว่าถูกผีเข้าสิง

 

แล้วรู้มั้ยว่ามีนักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดและมีความรู้ ถูกเผาทั้งเป็น ถูกนำไปตรึงไว้บนไม้กางเขนเพราะโบสถ์กล่าวว่าพวกเขามีความผิดเนื่องจากพวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อในศาสนา

 

ถ้าเป็นร้อยกว่าปีก่อนคุณจะถูกชี้ให้เห็นสีดำเป็นสีขาว และสีขาวเป็นสีดำ ซึ่งคุณก็จะเชื่อคำเหล่านั้น คุณจะไม่รับฟังผู้คนที่มีความติดต่างออกไป สังคมที่ฟู่เทียนอาศัยอยู่ก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาถูกปกครองโดยลัทธิและศาสนา แม้แต่เหล่าขุนนางที่มีข้อมูลความรู้มากมายอยู่ในมือก็ยังถูกควบคุมด้วยศาสนาเหล่านี้

 

คุณรู้มั้ยว่าทำไมพวกนักเล่นแร่แปรธาตุจึงถูกปฏิเสธและถูกไล่ล่า?

 

ยังไงก็เถอะ ผมไม่อยากทำลายความรู้สึกของพวกคุณโดยการพูดมากจนเกินไป ถ้าหากคุณต้องการสนุกสนานไปกับนิยายเรื่องนี้ดังนั้นโปรดลืมทุกอย่างทิ้งไปให้หมด ถ้าหากคุณกำลังอ่านบทของเมสันอยู่ให้จินตนการว่าตัวเองเป็นเมสันและมองไปยังปากและดวงตาของเขา และทำเช่นนี้กับทุกๆตัวละคร  และนี่คงเป็นวิธีอ่านที่น่าพึงพอใจ! และไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ขอให้สนุก!

 

**********

“สิ่งๆนี้มีความสามารถในการ ‘ดูซึมความร้อน’ มันช่วยพิสูจน์ว่าความคิดในก่อนหน้าของฉันนั้นถูกต้อง ซากศพถูกขับเคลื่อนโดยสิ่งๆนี้ พวกมันถูกชักจูงเข้ามาโดยความร้อนจากร่างกายของพวกเรา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันขึงค่อยๆมารวมตัวกันที่นี่ พวกมันไม่ได้ตามเหยื่อจากกลิ่นและเลือดแต่เป็นความร้อนต่างหาก!” ฟู่เทียนค่อยๆอธิบายข้อมูลที่เขารวบรวมมาได้ “สก็อตและคนอื่นๆน่าจะดึงดูดพวกซอมบี้ไปมากกว่าเพราะกลุ่มของพวกเขาน่าจะผลิตความร้อนออกมามากกว่าเมื่อเทียบกับพวกเรา” ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีพวกซอมบี้จำนวนมากและนั่นก็ไม่ถูกละสายตาจากพวกนักล่า ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาจากภูมิภาคอื่นๆ

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฟู่เทียนขมวดคิ้ว เขาหลับตาลงเพื่อนึกถึงแผนที่ที่สก็อตมีอยู่ มีพื้นที่สีเทาใกล้ๆพื้นที่หมายเลข8 ซึ่งยังไม่ถูกจัดการเรียบร้อย และยังมีพื่นที่สีอื่นๆซึ่งเป็นพื้นที่ล่าสำหรับกลุ่มอื่นๆ

 

เมื่อฟู่เทียนสรุปความคิดทั้งหมดได้ เขากล่าวต่อเมสันและแซค “มันช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายของเราลดลง อีกไม่นานนักพวกเราจะสามารถจัดการกับพวกซอมบี้เหล่านี้ได้ เนื่องจากพวกมันจะติดตามเรามาไม่ได้อีกต่อไป เหตุเพราะพวกเรามีเพียงสามชิ้น แชมจะยังไม่ได้มันไปในตอนนี้ เราจะล่ามันอีกตัวและเอาลูกบอลสีน้ำเงินเข้มออกมาจากหัวของมัน ด้วยวิธีนี้เราจะมีลูกบอลสีน้ำเงินเข้มเพียงพอสำหรับทุกคน”

 

เมสันตระหนก “พวกเราจะหลบหนีการติดตามได้ด้วยวิธีนี้?”

 

“แล้วจะล่าพวกมันยังไง? พวกมันแข็งแร็งเกินไป พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย” แซคถาม

 

ฟู่เทียนยิ้มและกล่าวออกมา “มนุษย์คือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเรามีความสามารถในการต่ออสู้ก็เพราะภูมิปัญญาที่เรามี พวกเราสู้แบบซึ่งๆหน้ากับซอมบี้ไม่ได้อยู่แล้วแต่สามารถใช้สติปัญญาในการฆ่าพวกมันอย่างง่ายดาย”

 

“ง่าย?” แซคและเมสันกล่าวด้วยความงุนงง

 

ในสามปีของการฝึกฝนอย่างหนัก พวกเขาถูกสอนให้ค้นหาเหยื่อในที่ทุรกันดารรวมถึงสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย และนั่นล้วนเป็นวิธีในการค้นหาอาหาร แต่พวกเขาไม่ได้ถูกสอนให้ทำการล่า เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของพวกนักล่าเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าจะได้รับการฝึกฝนแต่เมื่อต้องเผชิญกับซอมบี้ก็ทำให้พวกเขาไปไม่เป็นได้เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆแล้ว  การรับมือกับความตื่นตระหนกได้เป็นอย่างดีของพวกเขานับได้ว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากจริงๆ

 

“วิธีที่ง่ายที่สุดคงเป็นการใช้ไฟเผา” ฟู่เทียนยิ้มและกล่าว “ขั้นแรกเลยพวกนายต้องหาเศษผ้ามาซะก่อน ต้องเป็นผ้าที่ติดไฟได้ง่ายจะยิ่งดี ฉันจะไปเปลี่ยนที่กับแชมซะหน่อย ให้เวลาสิบนาทีเพื่อตามหาเศษผ้าในชั้นล่างของตึกนี้”

 

ดวงตาของเมสันและแซคสว่างไสวเมื่อกำลังเดาว่าฟู่เทียนต้องการทำอะไร พวกเขารีบแยกย้ายกันออกจากห้องไปเพื่อไปตามหาวัสดุที่ติดไฟได้

 

ฟู่เทียนขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อพบกับแชมที่กำลังปาก้อนหินอยู่ “นายควรพักซักหน่อย ฉันจะเป็นคนจัดการต่อเอง”

 

แชมกล่าวตอบ “ไม่ล่ะ งานพวกนี้ที่ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ ให้เป็นหน้าที่ของพวกเรา นายเป็นเพียงคนเดียวที่พวกเราจะพึ่งพาให้นำเราออกไปจากที่นี่ได้”

 

ฟู่เทียนหัวเราะ “เมสันและแซคกำลังดำเนินการอยู่ หลังจากทุกๆอย่างเรียบร้อยพวกเราจะออกจากที่นี่ พวกเรากำลังรอลมตะวันออกอยู่เท่านั้น”

 

“หมายความว่ายังไง?” แชมสงสัย

 

ฟู่เทียนส่ายศีรษะและกล่าว “ไม่มีอะไรหรอก ฉันกำลังว่างอยู่จนกว่าพวกนั้นจะหาของที่ฉันต้องการได้ทั้งหมด นายควรจะไปชั้นบนและเอาหินมาเพิ่มซะหน่อย อย่าให้ชั้นๆนี้ว่างเปล่าจนเกินไป” เขาหยิบหินขึ้นมาจากพื้นและมองไปยังพวกซอมบี้ก็พบว่าจำนวนซอมบี้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีซอมบี้หนึ่งตัวที่กำลังเดินโซเซไปมา

 

ฟู่เทียนขว้างก้อนหินไปอีกที่ๆหนึ่ง ซอมบี้ถูกนำให้เดินไปยังอีกฟากของตึกเพราะเสียงที่ตกกระทบ

 

สิบนาทีต่อมา เมสันและแซคก็รวบรวมวัสดุที่ติดไฟได้วางไว้เป็นวงกลมข้างนอกตึก ฟู่เทียนเริ่มขว้างก้อนหินและแก้วใกล้ๆกับวงกลมนั่นที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเสื้อผ้าและเศษไม้ เสียงสะท้อนทำให้พวกซอมบี้เดินโซเซตามเข้าไปในวงกลมนั่น

 

ด้วยการแนะนำของฟู่เทียนเมสันเริ่มดำเนินการทันทีเมื่อเห็นซอมบี้กำลังใกล้เข้ามา เขายืนอยู่ที่ชั้นสองของอาคาร และเริ่มจุดคบไฟพร้อมขว้างไปยังวงกลมนั่น เขาจุดคบไฟขึ้นมาห้าอัน สี่ในห้าอันถูกขว้างไปถึงวงกลมนั่นด้วยระยะที่ไกล ไฟค่อยๆกระจายเผาไหม้ไปทั่ววงกลมที่ถูกวางไว้ เสื้อผ้าและเศษไม้ค่อยๆถูกเผาไหม้และในไม่นานก็กลายเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่

 

พวกซอมบี้ที่เข้าใกล้กองไฟต่างเดินหนีตามสัญชาตญาณ อย่างไรก็ตามพวกมันเริ่มที่จะเดินไปรอบๆวงกลมไฟ

 

ฟู่เทียนผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขาขว้างหินออกไปอีกจำนวนหนึ่งเพื่อดึงดูดให้พวกซอมบี้เดินเข้าไปหากองไฟ อย่างไรก็ตามเสียงไม่สามารถดึงดูดความสนใจมันได้ในตอนนี้

 

ฟู่เทียนรีบวิ่งลงไปข้างล่างและตะโกนออกมา “เผาพวกมัน!”

 

เมสัน แซค และแชม รีบทำตามแผนสำรองในทันที มันเป็นเรื่องธรรมดาๆไม่ซับซ้อน เผาพวกซอมบี้ไปตรงๆ! แผนการนี้ถูกสร้างขึ้นเผื่อเหตุการณ์ที่พวกซอมบี้ไม่เดินเข้าไปยังวงกลมไฟ และในตอนนี้มีแต่แผนนี้เท่านั้นที่จะได้ผล

 

ทั้งสามคนรีบหยิบผ้า ผ้าห่ม ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า พวกเขาขว้างมันใส่พวกซอมบี้ตรงๆ แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกระดาษ ผ้า หรือผ้าห่มเหล่านี้ แต่นั่นก้ทำให้พวกมันเดินไปยังรอบๆกองไฟ ด้วยเหตุนี้เศษผ้าพวกนั้นก็ถูกไฟเผาทำให้ร่างกายของพวกมันเริ่มถูกเผาไหม้

 

ฟู่เทียนรู้สึกโล่งใจและมองดูอย่างเงียบๆ หลังจากเวลาผ่านไปสักพักเปลวไฟก็ดับมอดลง มีจำนวนซอมบี้ใกล้เคียงหนึ่งโหลนอนตายอยู่รอบๆกองไฟ มีเพียงไม่กี่ตัวที่เดินหลีกหนีเปลวไฟและเดินต่อไปได้

 

ฟู่เทียนโยนก้อนหินไปอีกครั้ง นำทางให้พวกมันเดินไกลออกไปอีก หลังจากนั้นสับเปลี่ยนหน้าที่ให้แชมมาขว้างหินต่อในทันที เมสัน แซค และฟู่เทียนเดินลงมายังชั้นล่าง พวกเขาเดินเข้าใกล้พวกซอมบี้ก็พบว่ามีหนึ่งในนั้นยกมือขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขาตกตะลึง ไม่ใช่ว่าเปลวไฟเผาพวกมันไปหมดแล้วงั้นหรือ?

 

“ร่างกายถูกเผาไหม้เกรียมไปแล้ว แต่ลูกบอลสีน้ำเงินเข้มยังควบคุมร่างพวกมันได้อยู่...” สีหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนไป เขารีบบอกให้เมสันและแซคขว้างเสื้อผ้าและเศษไม้เข้าไปเพื่อเผาพวกมันอีกครั้ง

 

7 ถึง 8 นาทีต่อมา หลังจากสังเกตุพวกซอมบี้อีกครั้งแล้ว ฟู่เทียนลองโยนก้อนหินลงไปบนร่างกายของพวกมัน เขาเรียกเมสันและแซคให้เดิมตามมุ่งลงไปข้างล่างบริเวณที่มีซากศพซอมบี้วางอยู่

 

แชมทำหน้าที่ล่อพวกซอมบี้ให้เดินห่างไกลออกไปด้วยการโยนก้อนหินดังนั้นพวกเขาจึงเดินกันได้สะดวก พวกเขาสวมถุงมือเอาไว้เพื่อป้องกันผิวของซอมบี้ที่ไหม้เกรียม จากนั้นจึงลงมือตัดหัวซอมบี้พวกนั้น

 

มีหัวซอมบี้ทั้งหมดแปดหัวที่ถูกพวกเขานำเข้ามาในตึก ฟู่เทียนเจาะหัวพวกมันและสังเกตุเห็นว่าเนื้อเยื่อในกระโหลกศีรษะมีความเบาบางคล้ายอยู่ในสถานะของเหลว ลูกบอลสีน้ำเงินในกระโหลกศีรษะกำลังละลาย จากขนาดเท่านิ้วโป้งลดลงไปเหลือขนาดเท่าเม็ดถั่ว จากนั้นก็เปลี่ยนสถานะเป็นน้ำใสๆ

“หรือมันจะไม่สามารถอยู่ในที่ๆมีอุณหภูมิสูงได้?” ฟู่เทียนขมวดคิ้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด