ตอนที่ 498 กำลังมองหาผู้คุ้มกันงั้นหรอ
หลิน ซินยังคงนอนหลับดีตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
เธอมักนอนก่อน5ทุ่มและตื่นก่อน6โมงครึ่งเพราะหลิน ฮวงจะเตรียมอาหารเช้าให้ตอนประมาณ7โมง
เธอยังคงฝึกนิสัยที่ดีนี้ไว้หลังเข้าสู่สถาบันนักล่ายุทธ์ ตามปกติ เธอยังคงตื่นตอน6โมงครึ่งและไปหอสมุดหลังกินอาหารเช้า เธออ่านหนังสือจนกระทั่ง8โมงครึ่งและเข้าชั้นเรียน หากเธอไม่มีชั้นเรียนในตอนเช้า เธอจะอยู่ในหอสมุดจนกระทั่งตอนเที่ยง หลังมื้อเที่ยง เธอจะงีบหลับสักหน่อยและเข้าเรียน เธอจะทำการบ้านเสร็จตอนกลางคืน หากเธอว่าง เธอก็จะไปฝึกต่อสู้กับเพื่อนร่วมห้องเธอหรือเล่นเกมส์จ้าวแห่งปืน
ในความเป็นจริง นอกจากหลิน ซิน นักเรียนส่วนใหญ่จากสถาบันนักล่ายุทธ์ล้วนมีสุขภาพที่ดีและบริหารเวลาของพวกเขาได้ดีเช่นกัน
เนื่องจากหมอกในป่าจะก่อตัวขึ้นตอนกลางคืน ส่วนใหญ่จึงหลับตอนประมาณ3ทุ่ม
ทั้ง5มองดูเวลาตลอดคืน เนื่องจากหลิน ซินและอี้ หลี่เป็นผู้หญิง ทั้งคู่จึงได้รับมอบหมายให้เฝ้าเวรยามกะแรกและรอบสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการตื่นตอนกลางดึก หลิน ซินจะเฝ้ายามตอน3ทุ่มถึง5ทุ่ม ขณะที่อี้ หลี่จะดูตั้งแต่ตี5ถึง7โมงเช้า
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการล่า พวกเธอจึงตัดสินใจออกเดินทางตอน7โมงครึ่ง เหตุผลมาจากการที่หมอกในป่าจะหายไปตอนประมาณ7โมงเช้า
หลิน ซินตื่นขึ้นก่อน6โมงครึ่ง แม้จะคอยเฝ้าเวรยามจนถึง5ทุ่ม เธอก็ยังคงมีเวลานอนหลับถึง7ชั่วโมงและนั่นก็พอสำหรับเธอแล้ว
เธอมองดูเวลา มันเป็นตอน6โมง8นาที หลิน ซินอยากหลับต่อ แต่เธอพบว่าเธอไม่อาจหลับได้อีก
เมื่อนอนอยู่ในถุงนอน เธอก็เปิดเครือข่ายหัวใจ จากนั้นก็ตระหนักว่าเธอไม่อาจเชื่อมต่อได้ เธอรู้สึกว่ามันแปลก“ไม่ใช่ว่าเครือข่ายนั้นจะปกติดีในป่า?เมื่อวานมันยังคงใช้ได้ดีอยู่เลย”
เธอพยายามเข้าเว็บไซต์หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว หลิน ซินไม่คิดอะไรให้มากและปิดหน้าเพจไป เธอลุกขึ้น ถูหน้าเธอและจู่ๆก็นึกถึงสิ่งที่หลิน ฮวงบอกเธอก่อนหน้าได้
“ในฐานะนักล่า น้องต้องใส่ใจทุกรายละเอียด หากน้องละเลย มันอาจนำไปสู่ผลร้ายแรงได้ ความล้มเหลวของเครือข่ายแทบจะไม่เกิดขึ้นกับแหวนหัวใจจักรพรรดิ แต่มันก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเครือข่ายและการสื่อสารล้มเหลวพร้อมกัน น้องต้องพิจารณาว่าเรื่องราวคงไม่ชอบมาพากลแล้ว...”
หลิน ซินรีบตรวจสอบการสื่อสารทันที เธอพยายามโทรหาหลิน ฮวงและในไม่ช้า เธอก็ได้ยิน“ขออภัยคะ คุณอยู่นอกเขตพื้นที่ให้บริการ”เนื่องจากการพยายามครั้งแรกล้มเหลว เธอจึงลองโทรหาอี้ หลี่และได้รับการแจ้งเตือนเดียวกัน
“เครือข่ายและการสื่อสารถูกปิดกั้น”หลิน ซินถอนหายใจ เธอรีบเปิดเต็นท์และวิ่งออกไปในชุดนอนสีชมพูของเธอ
อี้ หลี่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ จ้องมองภาพฉายจากแหวนหัวใจจักรพรรดิ
“อี้ หลี่ เธอสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ไหม?”หลิน ซินถามอย่างอยากรู้
“ฉันไม่อาจเชื่อมต่อมันได้เลยตั้งแต่ตื่น”อี้ หลี่ส่ายหัว
“เธอกำลังดูอะไรอยู่นะ.
อี้ หลี่เปิดหน้าเพจให้หลิน ซินดูอย่างช่วยไม่ได้
“สารานุกรมมอนสเตอร์-เมล็ดกาฝาก”หลิน ซินอ่านเสียงดังและปิดปากเธอขณะหัวเราะ“เธอไม่ลืมที่จะศึกษาแม้แต่ในระหว่างการทดสอบ สมกับเป็นอี้ หลี่จริงๆ!”
“ฉันไม่ได้อยากทำนักหรอก แต่เครือข่ายใช้ไม่ได้ที่นี่ และฉันก็ไม่มีอะไรให้ทำ ฉันดาวน์โหลดมันไว้ก่อนหน้า...มันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะนั่งเฉยๆ”อี้ หลี่ไม่พอใจ
“อี้ หลี่ ลองดูแหวนหัวใจจักรพรรดิเธอสิ ตรวจสอบดูหน่อยว่าเธอมีสัญญาณสื่อสารไหม!”หลิน ซินคิดและถามอี้ หลี่
อี้ หลี่รู้สึกว่าคำขอของหลิน ซินดูแปลก แต่เธอก็ยังคงเปิดหน้าติดต่อบนแหวนหัวใจจักรพรรดิ“ไม่มีสัญญาณ!”
“ลองโทรหาอาจารย์หรือเพื่อนเราดู” หลิน ซินร้องบอก
อี้ หลี่พยักหน้าและลองโทรหาหลิน ซินคนแรก จากนั้นเธอก็ได้รับการแจ้งเตือนเหมือนกับหลิน ซิน“ขออภัยคะ คุณอยู่นอกเขตพื้นที่ให้บริการ”จากนั้นเธอก็พยายามโทรหาอาจารย์ฉิน เทียนซิ่งแต่ก็ไม่อาจติดต่อได้
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมสัญญาณสื่อสารจึงถูกแทรกแซงเช่นกัน?”อี้ หลี่ขมวดคิ้ว
“ฉันคิดว่าคงเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วละ”หลิน ซินกล่าวเสียงต่ำ“สัญญาณเครือข่ายและสื่อสารถูกปิดกั้น มันดูเหมือนว่าจะมีคนจงใจทำเช่นนั้น”
“มันเป็นไปได้ยังไง?ใครกันที่กล้ารุกรานสถาบันนักล่ายุทธ์?”อี้ หลี่พบว่ามันน่าเหลือเชื่อ
“เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว พวกนอกรีตได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่เมื่อพวกเขาโจมตีการประเมินของสมาคมนักล่า เธอเคยได้ยินไหม?พวกเขากล้าลอบโจมตีสมาคมนักล่า แล้วทำไมถึงจะไม่กล้ากับสถาบันนักล่ายุทธ์?”หลิน ซินมองอี้ หลี่ด้วยสีหน้าจริงจัง
อี้ หลี่พยายามเถียง แต่ในที่สุด เธอก็พยักหน้า”เรายังไม่อาจยืนยันได้ ไปปลุกคนอื่นและหารือกันเถอะ
ไม่นานหลังจากนั้น พวกเธอก็ปลุกสามหนุ่มขึ้น และหลิน ซินก็ไปเปลี่ยนชุดเธอในเต็นท์
ทั้ง5นั่งรวมกันและหลิน ซินก็บอกเหล่าเด็กหนุ่มถึงสิ่งที่เธอเพิ่งบอกกับอี้ หลี่
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วขณะที่พากันตรวจสอบเครือข่ายพวกเขา
“ฉันตระหนักว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายหลุดตอนประมาณตี4 ฉันคิดว่ามันอาจต้องใช้เวลาสักระยะ”มันคือเวรยามของฉู่ เพิงที่เฝ้าเต็นท์ตอนตี3ถึงตี5“มันผ่านมาสองชั่วโมงแล้ว ดูเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ”
“พี่ชายบอกฉันเหมือนกับที่หลิง เสวี่ยบอก หากสัญญาณเครือข่ายและสื่อสารถูกปิดกั้นในเขตป่า เราต้องระวังตัวไว้ หากเราโชคดี บางทีสัญญาณอาจเพียงหยุดทำงานชั่วคราว หากเราโชคไม่ดี มันอาจเป็นไปได้ว่าโลกมือกำลังโจมตีเรา ฉันคิดว่าเราต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์อันเลวร้ายไว้”หนานกง ฉิงกล่าวอย่างถี่ถ้วนขณะที่จ้องมองสมาชิกคนอื่น
เมื่อได้ยินสิ่งที่หนานกง ฉิงกล่าว ใบหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไป
“เราต้องเก็บของเราและออกจากสถานที่นี้ให้เร็วที่สุด ตามที่ฉู่ เพิงบอก สัญญาณได้ถูกปิดกั้นมาสองชั่วโมงแล้ว หากโลกมืดกำลังโจมตีเรา มันหมายความว่าการโจมตีต้องเกิดขึ้นแล้วสองชั่วโมง พวกเขาจะต้องหาตัวเราพบได้ทุกเมื่อ”เหยา ห่าวแนะนำทันที
“แต่เราไม่รู้ว่ามีพวกมันมากแค่ไหนและอยู่ไหน เราควรไปทางไหน?”อี้ หลี่ถาม
“ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้น ลองมองหาผู้คุ้มกันก่อน หากผู้คุ้มกันรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจะคิดหาทางช่วยเราออกจากที่นี่”นักเรียนทุกคนรู้เรื่องตัวตนของผู้คุ้มกัน ตราบเท่าที่พวกเขาขอความช่วยเหลือจากผู้คุ้มกัน คะแนนก็จะถูกหักจากกลุ่ม ดังนั้น หากมีใครคนหนึ่งพบอันตราย คะแนนจะถูกหัก100คะแนน หากทั้ง5พบอันตราย คะแนนจะถูกหัก500คะแนน ตามความจริงนั้น นักเรียนทุกคนจึงไม่สนใจตัวตนของผู้คุ้มกัน แต่ด้วยคำเตือนของเหยา ห่าว หลิน ซินและคนอื่นจึงคิดขอความช่วยเหลือจากผู้คุ้มกัน
“ฉันได้ยินว่าพวกเธอกำลังมองหาผู้คุ้มกันงั้นหรอ”จู่ๆเสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้น และเรือนร่างงามได้รูปก็ค่อยๆเดินออกจากหลังต้นไม้....