บทที่ 76 - ตอนนี้ฉันก็ด้วย (2) [อ่านฟรีวันที่ 16/11/61]
บทที่ 76 - ตอนนี้ฉันก็ด้วย (2)
เมื่อยูอิลฮานได้กลับมาถึงเกาหลีเขาก็ได้นั่งแท๊กซี่กลับไปโซลและเข้าไปในบ้านทันที
"ฉันจะไปอาบน้ำนอนแล้ว"
[ฉันก็อยากจะนอนเหมือนกัน แต่ว่าฉันคิดว่าสเปียร่าจะเรียกหาฉันตลอดเวลาแน่] (ลิต้า)
[พักด้วยกันเถอะ แต่ว่าในร่างจิ๋วนะ] (เอิลต้า)
'การต่อสู้หลายๆวันโดยไม่พัก' มันฟังดูเท่ แต่ว่าจริงๆแล้วมันสกปรกและเน่าอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยูอิลฮานที่ได้ไปจัดการดันเจี้ยนเป็นเวลาถึงสามสัปดาห์ก่อนหน้านั้นอีกด้วย
เขาได้ถอด ' เกราะ' ที่ไม่ต่างจากเศษผ้าออกมาและโยนชุดที่อยู่ภายในออกก่อนที่จะไปอาบน้ำ
มันคงจะเป็นเรื่องโกหกแน่หากจะบอกว่าเขาไม่อยากจะดูของที่ได้จากสงครามนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งของจากโอโรจิ แต่ว่าไม่ว่ายังไงก็ตามต่อให้เขาได้รับการเพิ่มพลังขึ้นมาจากการเลเวลเพิ่มขึ้นและการฟื้นฟูเหนือมนุษย์ แต่ว่าสภาพจิตใจของเขามันก็ล้าถึงขีดสุดไปแล้ว เขาได้แต่กระโดดลงไปบนเตียงโดยไม่มีแรงทำอะไรแล้ว
"เช้าแล้วปลุกฉันด้วย"
[แม้ว่าตอนนี้มันจะเช้าแล้วอะนะ...?] (เอิลต้า)
"ราตรีสวัสดิ์...."
ยูอิลฮานได้ดึงพลังของสกิลพักผ่อนออกมมาใช้อย่างเต็มพลังด้วยการหลับลงไปในเวลา 1.5 วินาทีหลังจากที่ล้มตัวลงบนเตียง เขาได้หลับลึกลงไปถึงขนาดที่ต่อให้มีเสียงคำรามของโอโรจิก็ไม่สามารถจะทำให้เขาตื่นได้
[ถึงขนาดที่เขายังไม่ได้ให้รางวัลของเควสที่เหลือกับเขาเลย] (เอิลต้า)
[ฉันก็จะนอนกับอิลฮานที่นี่ในขณะที่เธอไปเอารางวัล โอ้จริงด้วยถ้าเป็นไปได้ก็เอาสกิลสักอย่างให้เขา มันเป็นสิ่งที่จะช่วยเขาได้] (ลิต้า)
[ฉันจะปล่อยเธอไว้กับเขาคนเดียวที่นี่ได้จริงๆใช่ไหม?] (เอิลต้า)
เอิลต้าได้มองไปที่ลิต้าอย่างไม่ไว้ใจ แต่ว่าลิต้าก็ไม่ได้พูดอะไรแต่กลับโบกมือของเธอแทน ในท้ายที่สุดเอิลต้าก็ไม่มีทางเลือกออกได้แต่แยกไปโดยที่เชื่อในมโนธรรมของลิต้า
แน่นอนว่ามโนธรรมมันไม่มีอยู่ในลิต้าแม้แต่นิดเดียว เธอได้กลับไปอยู่ในขนาดมนุษย์ในทันทีที่เอิลต้าได้จากไป แต่ว่าเธอดูจะไม่มีแรงจูงใจอื่นๆนอกไปจากการเฝ้ามองใบหน้าเขาจากด้านข้าง
[ใบหน้าตอนเขาหลับมันก็ดูน่ารักเหมือนกันนะ] (ลิต้า)
เมื่อมองย้อนกลับไปมันดูเหมือนว่าใบหน้าของเขาจะเกลี้ยงเกลามากขึ้นในขณะที่เขาเลเวลเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เธอรู้สึกท้อแท้เล็กน้อยเนื่องจากว่าใบหน้าที่เธอได้เห็นมาเป็นเวลาพันปีกำลังหายไปอย่างช้าๆ แต่ว่าสิ่งสำคัญสำหรับเธอมันไม่ใช่ใบหน้าแต่ว่าเป็นตัวตนของเขา ดังนั้นเธอจึงสลัดความรู้สึกท้อแท้ออกไปได้ในไม่นาน
[มันคงจะดีนะถ้าเราได้ใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดไป เนอะ...?]
ลิต้าได้พึมพัมเบาๆและดึงแขนยูอิลฮานเข้ามากอดเอาไว้ ถ้าหากว่ายูอิลฮานได้ยินเขาก็คงจะตะโกนออกมาว่า 'ไม่มีทาง นั่นมันเป็นการปักธงให้ถึงฉากที่ต้องแยกกันแน่นอน!' แต่ว่าในเมื่อเขาหลับอยู่จึงไม่มีเสียงอะไรแบบนี้ตอบกลับมา
เธอได้ปิดตาลงหลับอย่างช้าๆและก็หลับลึกลงไปเหมือนอย่างที่ยูอิลฮานทำ
ในขณะเดียวกันเอิลต้าก็ได้ถูกทูตสวรรค์คนอื่นๆเข้ามาหาในทันทีที่เธอมาถึง
[ลิต้าไปไหนล่ะ? ทำไมเธอถึงไม่อยู่กับเธอล่ะ?]
[บอกฉันเกี่ยวกับมนุษย์คนนั้นหน่อยสิ คนที่ฆ่ามอนสเตอร์คลาส 4 เป็นคู่หูของเธอใช่ไหมล่ะ?]
[แนะนำเขากับฉันด้วยสิ!]
[ไม่ใช่ว่าเขาควรล่อให้เขามาเป็นทูตสวรรค์หรอกหรอ!? อีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแน่นอน พวกเราจำเป็นต้องวางเหยื่อล่อเขาในตอนนี้!]
การที่มีทูตสวรรค์เข้ามาจุกจิกกับเธอทำให้หัวของเอิลต้าหมุนทันที เหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ
มอนสเตอร์คลาส 4 จะปรากฏตัวมาเพียงแค่ในโลกที่ประสบกับหายนะครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 เป็นอย่างน้อยเท่านั้น และสำหรับมนุษย์ที่ป้องกันสิ่งมีชีวิตแบบนี้ได้อย่างราบรื่นก็จำเป็นจะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ถึงหายนะครั้งใหญ่ครั้งที่สาม
ยังไงก็ตามในโลกนี้เพิ่งจะเจอกับหายนะครั้งใหญ่ครั้งที่หนึ่งเท่านั้นเอง แต่ว่ากลับมีคนที่ป้องกันมอนสเตอร์คลาส 4 ได้ด้วยการบาดเจ็บล้มตายแค่เล็กน้อยและมันยังเป็นแบบกลายพันธ์อีกด้วยซ้ำไป
[มันมีสิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น มีใครรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำให้เกิดการล้นของพลังขึ้นนะ?] (เอิลต้า)
เมื่อเอิลต้าได้ถามออกไปแบบนี้ ทูตสวรรค์คนอื่นๆก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างยอมแพ้
[มีทูตสวรรค์หลายคนอยู่ที่นั่น แต่ว่าไม่มีใครหาร่องรอยเจอเลย]
[จากการที่ใช้กับดักแห่งการทำร้ายมันเป็นที่ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่คนทรยศเป็นคนทำ ฉันได้เช็คและก็ไม่มีใครที่รู้เลยในตอนที่กับดักหายไป พวกหน้าโง่!]
โอ้พระเจ้า มันได้กลับมาในจุดๆนี้อีกแล้ว? ถึงแม้ว่าจำนวนของทูตสวรรค์จะเพิ่มขึ้นมาเพื่อที่จะป้องกันสถานการณ์แบบนี้อะนะ?
นี้มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ยูอิลฮานบอกว่าพวกเขา 'ไร้ประโยชน์' นั่นเอง เมื่อเอิลต้าได้คิดมาถึงจุดนี้เธอได้ถอนหายใจออกมา
[เอิลต้า]
เพียงแค่เอิลต้าได้ก้าวเท้าไปในเมืองสวรรค์กับทูตสวรรค์คนอื่นๆก็ได้มีคนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเธอ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเธอก็ยืนยันได้ถึงทูตสวรรค์ที่กล้าหาญได้ด้วยหอกสีขาวบริสุทธ์บนหลังของเธอิ สเปียร่า
[ท่านสเปียร่า ลิต้าในตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ เธอจะกลับมาหาท่านด้วยตัวเองทีหลัง] (เอิลต้า)
[บอกกำลังมันจะไม่มีการฝึกพิเศษแล้ว] (สเปียร่า)
[การพัฒนาขึ้นของเธอถูกยกเลิกแล้วหรอ?] (เอิลต้า)
[ไม่ มันได้รับอนุมัติแล้ว] (สเปียร่า)
สเปียร่าได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มขมเมื่อเห็นเอิลต้าเบิกต้างกว้าง
[กำแพงแห่งความโกลาหลกำลังถูกเปิด มันดูราวกับว่ามันจะต้องรอสักพักเพื่อให้กำลังจากสวรรค์เน้นไปที่โลก มันไม่มีเวลาที่จะมาฝึกพิเศษอีกแล้ว] (สเปียร่า)
กำแห่งแห่งความโกลาแห่งคือแนวหน้าของสนามรบระหว่างของทูตสวรรค์กับปีศาจสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่พยายามจะกลืนกินบันทึกของโลกทั้งหมดซึ่งต่างไปจากทูตสวรรค์ที่พยายามจะคุ้มกันและจัดการดูแลโลกนับไม่ถ้วน
โดยปกติแล้วพวกมันจะไม่สามารถจะผ่านกำแพงที่สร้างขึ้นมาจากพลังของสวรรค์ได้ แต่ว่าในบางครั้งมันจะมีช่วงเวลาที่กำแพงจะอ่อนพลังลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทูตสวรรค์ไม่ต้องการมาถึงเลย เมื่อมันมาถึงทูตสวรรค์จะต้องไปที่สนามรบด้วยการเอาชีวิตไปเสี่ยงในฐานะกองทัพของสวรรค์ที่แท้จริง
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ทูตสวรรค์ทิ้งความรับผิดชอบที่โลกเช่นกัน
[ลิต้าจำเป็นต้องไปสู้ด้วยไหม?] (เอิลต้า)
[เธอมีศักยภาพ ถ้าหากว่าไม่ได้มีคำขอที่ตั้งมั่นของตัวเธอ เราจะไม่ส่งเธอไปที่โลกแน่] (สเปียร่า)
เมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนที่ลิต้าได้ทำคอมโบกับคนทรยศกว่า 3000 ครั้ง เอิลต้าก็ได้หยักหน้ารับรัวๆ ในตอนนี้สเปียร่าก็ยังคงพูดต่อไป
[ฉันได้ยินถึงสิ่งที่เกิดบนโลกแล้ว แต่ว่ายังไงมันก็น่าเสียดายที่กองทัพสวรรค์ไม่ได้มีเวลาใสติดถึงโลกเพียงโลกเดียวไปสักพักหนึ่ง เราจะต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของมนุษย์เอง] (สเปียร่า)
ความคิดของเอิลต้าได้อ่อนล้าทันที ไม่สนใจเลยหรอ? ถึงแม้ว่าโลกจะยุ่งเหยิงก็ตามทีน่ะนะ? เธอได้รีบตอบกลับทันที
[มันไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจในสถานการณ์นะคะ แต่ว่าสถานกาณณ์ของโลกตอนนี้ก็ร้ายแรงมากๆ ถ้าหากว่ายูอิลฮานไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นโลกก็คงถึงวาระไปแล้ว พวกเราได้ก่ออาชญกรรมต่อโลกไปแล้วอย่างมาก!] (เอิลต้า)
[ยังไงก็ตามยังไงก็ยังมีมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่อว่ายูอิลฮานอยู่ โลกจะปลอดภัยไม่ใช่หรอ?] (สเปียร่า)
เอิลต้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สเปียร่าพูดออกมาเลย
เธอกำลังจะผลักดันภาระหน้าที่ทั้งหมดในโลกที่กองทัพสวรรค์รับผิดชอบไปในมนุษย์เพียงคนเดียวเนี้ยนะ!? ด้วยเหตุผลที่ว่า 'มีศักยภาพ' ?
ระดับของสเปียร่ากับเอิลต้ามันต่างกันกว้างมากๆ แต่ถึงแบบนั้นเอิลต้าก็เกิดขึ้นมา สเปียร่าได้มองมาที่เธอและหัวเราะขึ้น
[นั่นมันอะไรนะเอิลต้า? เธอก็ยังชอบคนๆนั้นด้วยงั้นหรอ? นี่มันน่าขำจริงๆเลย] (สเปียร่า)
[ฉันก็แค่เป็นห่วงคนในผู้ทำสัญญาของฉัน!] (เอิลต้า)
[ฉันก็ไม่ได้สนหรอกนะว่าเธอจะเรียกอารมณ์นั่นยังไง แต่ว่าสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือความรู้สึกที่เธอมีต่อสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่เธอมีเธอได้เจอกันแค่ 3 เดือนเองนะ] (สเปียร่า)
[คุณเป็นคนที่เลือกปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำงั้นหรอ?] (เอิลต้า)
[ฉันก็แค่ต่างจากพวกนั้น] (สเปียร่า)
เอิลต้าได้เงียบลงไป ภายในตัวเธอเธออยากจะเอาหอกมาแทงเธอคนนี้จริงๆเลย แต่ว่าหากเธอทำมันก็ชัดเจนว่าเธอคงถูกอัดแทนแน่นอน
[หน้าที่ของเราก็คือการจัดการและปกป้องโลกทั้งหมดอย่างยุติธรรม ยังไงก็ตามการสังหารนักล่าจากกำแพงแห่งความโกลาหลก็ยังเป็นอีกหนึ่งในหน้าที่ของเรา และหากว่าเราถูกผลักดันออกมาจากแนวหน้างั้นจำนวนโลกที่จะหายไปมันจะยิ่งกว่านี้ เว้นเสียแต่ว่าจู่ๆเราจะแย่งเป็นสองร่างเท่านั้นเราถึงจะจำเป็นต้องเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องมากขึ้น] (สเปียร่า)
[ฉะ... ฉันรู้] (เอิลต้า)
[ฟู่] (สเปียร่า)
ท่าทางของเอิลต้าได้แสดงออกมาว่าเธอไม่ได้เข้าใจเรื่องทั้งหมดเลย สเปียร่าก็เลยตัดสินใจที่จะอธิบายให้มันง่ายยิ่งขึ้น มันยังมีเวลาอีกมาเนื่องจากว่ากำแพงแห่งความโกลาหลยังไม่ได้เปิดขึ้นอย่างสมบูรณ์และโลกก็ยังมีผู้ทำสัญญาที่สำคัญที่สุดในโลกอยู่
สเปียร่าได้ส่งสายตาไล่ทูตสวรรค์คนอื่นๆออกไปและพาเอิลต้าไปในที่พักแห่งหนึ่งของสวรรค์
[ฉันก็ตกใจมากเนื่องจจากมีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่เป็นคนทรยศอยู่ด้วย แต่ว่าพวกนั้นก็ยังไม่สามารถจะทำอะไรตรงๆได้ พวกนั้นทั้งหมดทำได้แต่เชื่อมต่อประตูกับโลกอื่น และทำให้โลกนั้นเป็นเป้าหมายในการพิชิตหรือไม่ก็ทำให้เกิดการล้นของมนุษย์... ในท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอยู่เลยไม่ใช่หรอ?] (สเปียร่า)
[แน่นอนว่าพวกนั้นทำแบบนั้น แต่ว่านี่มันเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในระดับที่สูงกว่าเลเวลของโลกในปัจจุบัน] (เอิลต้า)
[ยังไงก็ตามเนื่องจากมันเป็นเรื่องระหว่างสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำเราก็ไปแทรกแซงตรงๆไม่ได้นี่ ที่เราทำได้ก็คือแค่ป้องกันมัน แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันถูกต้องแล้วหรอ?] (สเปียร่า)
แม้แต่เอิลต้าก็ไม่ได้เป็นอิสระจากความรับผิดชอบแบบนี้ เธอเป็นผู้ทำสัญญากับยูอิลฮานแต่ว่าเธอก็ยังคงเป็นทูตสวรรค์เช่นกัน
[แม้แต่ทูตสวรรค์ระดับสูงก็ยังตอบสนองต่อสิ่งนี้ไม่ถูกต้องเลย ทั้งหมดนี่มันก็ชัดแล้วเพราะถูกสวรรค์ทั้งหมดที่ไปประจำการที่โลกต่างก็ไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรอ? ไม่สิ นี่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยเว้นเสียแต่ว่าศัตรูของเราจะวิเคราะห์เราอย่างละเอียดแล้ว เราต้องหาคนทรยศให้มากพอและคำนวนถึงอนาคต]
[งั้นนี่เป็นเหตุผลที่คุณบอกให้เราควรจะถอยออกมางั้นหรอ? คุณคิดว่ามันจะจบลงเมื่อพวกเราเสียสละโลกไปงั้นหรอ?] (เอิลต้า)
[สิ่งที่แน่นอนคือพวกเราจะได้แต่เดินอยู่บนฝ่ามือของพวกมันหากว่าเราไม่ระมัดระวังกับการส่งทูตสวรรค์ไปมากขึ้น] (สเปียร่า)
'พวกเขา' เนื่องจากว่าสวรรค์มีศัตรูอยู่จำนวนมากจึงไม่สามารถจะหาในผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ได้เลย มันอาจจะเป็นกองทำปีศาจแห่งการทำลายที่กำลังขบฟันกันอยู่อีกฝากของกำแพงแห่งความโกลาหลหรือกองทัพแห่งแสงจรัสที่มีปีกสีขี้เถ้าก็ได้
[นั่นคึอเหตุผลที่เราจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น มันไม่เพียงแค่จะปกป้องโลกแต่เพื่อที่จะป้องกันโลกทั้งหมด] (สเปียร่า)
[ด้วยการโยนทุกๆอย่างไว้กับคนบนโลกนั้นน่ะนะ] (เอิลต้า)
เอิลต้าได้ตอบกลับไป แต่ว่าสเปียร่าก็ได้หยักหน้าอย่างไม่คาดคิด
[สิ่งมีชีวิตชั้นสูงควรทำในสิ่งที่ทำได้ด้วยพลังของตัวเองและสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำก็ควรจำสิ่งที่อยู่ในศักยภาพของตน อย่างน้อยที่สุดนี่ก็เป็นสิ่งที่รับดับสูงคิดว่ามันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพกว่า ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นวิธีลดความเสียหายลงด้วย] (สเปียร่า)
[ดังนั้น?] (เอิลต้า)
[พวกเราก็เลยทีแผนที่จะให้การสนับสนุนและรางวัลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยขอบเขตที่กองทัพสวรรค์ของเราทำได้เพื่อที่จะให้คนๆนั้นสามารถเดินทางไปปกป้องโลก] (สเปียร่า)
เมื่อพูดถึงจุดนี้ สเปียร่าได้ดึงเอิลต้าเข้าไปหาเธอ
[พวกเราจะเปิดคลังสมบัติสวรรค์ มันจะต้องมีสิ่งที่เหมาะสมกับเขา] (สเปียร่า)
[ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ยอมรับในการตัดสินใจของคุณกับเบื้องบน แต่ว่าฉันก็ยินดีที่จะรับสิ่งที่ฉันทำได้] (เอิลต้า)
[ทำไมเธอถึงขอบคุณฉันล่ะ? มันไม่ใช่ของสำหรับเธอแต่ว่าเป็นสำหรับคนที่มีชื่อว่ายูอิลฮาน] (สเปียร่า)
เอิลต้าได้หมดคำพูดไปแล้ว สเปียร่าก็ยังหัวเราะออกมา จากนั้นคิ้วของเธอก็อ่อนลงเล็กน้อย เธอได้บอกเอิลต้าราวกับจะให้คำแนะนำ
[ระวังเรื่องอารมณ์ของเธอไว้ด้วย พวกนักล่าและทูตตกสวรรค์เกิดขึ้นเพราะแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความรัก มันอันตรายมาก มันเป็นสิ่งที่จู่ๆก็แข็แกร่งและทรงเสน่ห์] (สเปียร่า)
[...ฉันจะจำเอาไว้] (เอิลต้า)
เอิลต้าได้พูดขึ้นเบาๆ จากนั้นเธอก็ตามหลังสเปียร่าไปโดยไม่ลังเลอีกต่อไป
เมื่อยูอิลฮานได้ตืนขึ้นมาดวงอาทิตย์ก็ชิดขอบฟ้าแล้ว เขาได้ตรวจสอบว่าเขาได้นอนมาเกือบ 24 ชั่วโมงหรือป่าว แต่ว่าเขาก็หลับไปแค่ห้าชั่วโมงเท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนมาเกือบเดือน แต่ว่าสภาพจิตใจที่ล้าก็ได้หายเป็นปกติแล้ว
"นี่มันทำให้ฉันจะบ้าตาย ตอนนี้ถึงฉันอยากจะนอนก็ไม่หลับแล้ว"
[นี่มันเป็นเพราะว่าคุณมีการฟื้นฟูที่ทรงพลัง มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอกน่า] (ลิต้า)
ลิต้าก็ยังนอนอยู่ในขณะที่กอดแขนของยูอิลฮานได้ตอบด้วยรอยยิ้ม ในที่สุดแล้วยูอิลฮานก็รู้ตัวว่าลิต้าตัวติดอยู่กับเขาและประหลาดใจ แต่ว่าด้วยเหตุผลที่ว่า 'เขาไม่ควรแสดงการระทึกอะไรกับพี่สาวคนโต' เขาจึงสะบัดเธอออกราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ไปกินข้าวเถอะฉันหิวแล้ว"
[คุณก็ทำสิ่งอื่นได้อีกด้วยนะ] (ลิต้า)
มันคงจะเป็นเรื่องดีหากเธอจู่โจมเขาโดยไม่พูดอะไร หากลิต้ามีความกล้าแบบนี้ยูอิลฮานคงไม่มีทางจะปกป้องความบริสุทธินับพันปีไว้ได้อีกต่อไป
ยังไงก็ตามลิต้าได้ถอนหายใจในขณะลุกขึ้นมา เอิลต้าได้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศทันทีทำให้ลิต้าหดตัวกลับไปในรูปลักษณ์เดิมทันที แต่ว่าเอิลต้าได้เรียกเธออย่างช่วยอะไรไม่ได้
[ลิต้า] (เอิลต้า)
[ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ!] (ลิต้า)
[เธอมีเรื่องต้องทำ] (เอิลต้า)
[หืม?] (ลิต้า)
ในขณะที่ยูอิลฮานกำลังงงอยู่ เอิลต้าก็ประกาศออกมา
[กำแพงแห่งความโกลาหลกำลังเปิดขึ้น เธอได้ถูกเรียกตัวให้ไปเข้าร่วมการต่อสู้ในตอนนี้ ยินดีด้วยเธอจะเลื่อนขั้นขึ้นได้โดยไม่ต้องทดสอบแล้ว ฉันคิดว่าเธอจะได้รับชื่อใหม่ด้วย]
[แล้วเธอล่ะ?] (ลิต้า)
[ฉันจำเป็นต้องปกป้องทางฝั่งยูอิลฮาน] (เอิลต้า)
ดวงตาของเอิลต้าได้เปล่งแสงที่น่ากลัวออกมา เอิลต้าก็ยังเสียวสันหลังเมื่อเห็นแบบนี้ซึ่งมันคือจิตสังหาร
[มะ มันเป็นการตัดสินจากเบื้องบน ฉันก็ต่อต้านมันแล้ว] (เอิลต้า)
[ฉันรู้ ฉันก็เลยจะไปฆ่าพวกนั้นไง] (ลิต้า)
[ใจเย็นก่อน มันจะไม่จบแค่เรื่องตลกแล้วนะ] (เอิลต้า)
ยูอิลฮานยังไม่รู้ในสถานการณ์ที่ชัดเจนนัก แต่ว่าเขาก็เข้าใจแล้วว่าลิต้าจะต้องจากไปอีกครั้ง เอาเถอะ ในตอนนี้ยูอิลฮานก็ใช้มานาได้แล้ว เขาไม่ควรที่จะจำเป็นต้องอยู่กับทูตสรรค์ถึงสองตรแล้ว แต่ว่า.... เขาได้ยิ้มขมออกมา
"ฉันจะไม่ได้เจอเธออีกนานไหม?"
[ไม่ การต่อสู้นี้ ฉันจะจบมันให้เร็วที่สุดแล้วจะกลับมา] (ลิต้า)
ลิต้าได้ลบจิตสังหารออกไปทันทีก่อนที่จะกอดอยู่บนหัวอยู่อิลฮานและประกาศออกมาอย่างมุ่งมัน ยูอิลฮานก็ยังลูบหัวเธอเบาๆ
"ใช่ ฉันจะคอยเธอกลับมานะ"
[อื้อ]
ลิต้าดูเหมือนจะถอดหลังไปเล็กน้อยก่อนที่จะจูบแก้มยูอิลฮานเบาๆ จากนั้นเธอก็มองเอิลต้า
[ถ้าเธอทำอะไรในตอนฉันไม่อยู่... เธอรู้ใช่ไหม?] (ลิต้า)
[เธอทำให้ฉันกลัวแล้วนะ เธอนี่น่ากลัวจริงๆ!] (เอิลต้า)
หลังจากที่ขู่เอิลต้าแล้ว ลิต้าก็ได้หายไปทันที เพียงแค่หลังจากเธอได้หายไปเอิลต้าก็ถอนหายใจและเข้ามาหายูอิลฮาน
ด้วยความบริสุทธินับพันปีของเขาทำให้เขาไม่รู้ถึงความรักของพวกเธอที่มีต่อเขาเลย เขาได้แต่เอียงหัวและถามกับเอิลต้า
"ทำอะไรตอนไม่อยู่อะ? เธอกำลังเดทอะไรกับใครอะไรแบบนี้หรอ?"
[มันก็แค่รหัสลับระหว่างทูตสวรรค์นะอย่าคิดมาก ชั่งเรื่องนั้นเถอะนี่คือรางวัลของคุณ] (เอิลต้า)
เขาเดาได้ว่ามันเป็นเรื่องของความรักแต่ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวกับตัวเองได้ยังไงกันนะ? ถึงแม้อย่างนั้นเอิลต้าก็ถอนหายใจออกมา
ในขณะเดียวกันหลังจากได้เห็นลิต้าเปลื่ยนเรื่องแบบตรงๆ ยูอิลฮานก็ตัดสินใจที่จะไปหารหัสลับพวกนี้อีกครั้งและยื่นมืออกไป
ในตอนนี้เองเอิลต้าได้แตะมือเขาเบาๆ ข้อความสีเขียวได้ปรากฏขึ้นมา
[ภารกิจสวรรค์ 005 คลื่นดันเจี้ยนสำเร็จ!]
[ค่าสเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 7 พลังเวทย์เพิ่มขึ้นอีก 10]
[คุณได้รับสกิลต้านทานคำสาประดับสูง]
"นี่คือ...."
รางวัลตอบแทนมันไม่ใช่ง่ายๆแน่ ไม่ต้องพูดถึงค่าสเตตัสจำนวนมากเลย ต้านทานคำสาประดับสูง? เขารู้สึกไม่สงบเนื่องเขารู้สึกถึงสิ่งว่าเขาสามารถ 'ปลอดภัย' ในอนาคตได้
[มันยังไม่หมด] (เอิลต้า)
"ยังจะมีอีก?"
เนื่องจากว่ายูอิลฮานก็ได้เสริมประสิทธิภาพให้กับกระเป๋าสะพายเป็นรางวัลส่วนหนึ่งไปแล้ว เขาจึงคิดว่าสวรรค์นี่ใจ้กว้างมาก นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดเนื่องจากว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าความสำเร็จของเขามันน่าทึ่งขนาดไหน
[มันคือนี่แหละ] (เอิลต้า)
เอิลต้าได้แบมืออกมา บนมือของเธอมีนาฬิกาทรายขนาดเล็กและทรายอยู่ภายในที่แข็งตัวไม่ขยับ ยูอิลฮานได้ยิ้มอ่อนออกมา
"เธอเลือกจะสู้หรอ?"
[ดูข้อมูลก่อน] (เอิลต้า)
เขาได้ถอนหายใจคว้านาฬิกาทรายมา ในตอนนี้เองข้อความได้ปรากฏขึ้นมาทันที
[นาฬิกาทรายแห่งกาลเวลา]
[ระดับ - พระเจ้า]
[ออฟชั่น - ผู้ใช้สามารถจะสร้างบาเรียขึ้นในพื้นที่โดยรอบและแช่แข็งเวลาภายนอกทั้งหมดได้ ด้วยขีดจำกัดของผู้ใช้จะสามารถใช้ได้สูงสุด 2 เดือน ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของจะเข้าไปในบาเรียไม่ได้]
[ข้อจำกัดผู้ใช้ - เจ้าของโดยถาวรยูอิลฮาน]
[ความทนทาน - ไม่มีที่สิ้นสุด]
นี่คืออาร์ติแฟคที่จะทำให้เขากลายเป็นผู้โดดเดี่ยวอย่างแท้จริง