ตอนที่ 315 ความไว้ใจ (FREE)
"ไม่ผ่าน?"ฟาง เจิ้งจือ มอง ปิง หยาง ด้วยสายตารังเกียจ
อย่างไรก็ตาม ...
เขาจะไม่ผ่านงั้นรึ?
แม้ว่าเขาจะไม่รู้สิ่งสำคัญในการร่างนโยบายบนโลกนี้ แต่เขามั่นใจกับบทความ 'หกชาติ'
"ถ้า วู่ เฟิง พูดความจริง จะเป็นไปได้ยังไงที่ทุกคนไม่ได้เข้าพบองค์จักรพรรดิ?"เหวิน เต๋าเปา สับสน
"ความหมายของนโยบาย" เหยียน ซิว พึมพำ
"ความหมาย?"เหวิน เต๋าเปา สับสน เขาไม่รู้ว่า เหยียน ซิว พูดถึงอะไร
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เสียเงพลงช่างไพเราะเสนาะหู พาให้เคลิ้มมึนเมา
"เข้าไปกันเถอะ เราจะสนุกกับเสียงเพลงที่หน้าประตูได้ยังไง?"ปิง หยาง ไม่ค่อยสนใจเรื่องที่พวกเขาจะสอบผ่านหรือไม่
ก่อน ฟาง เจิ้งจือ หรือ เหยียน ซิว จะพูดอะไรออกมา นางก็ลากพวกเขาเข้าไปแล้ว
เหวิน เต๋าเปา เดินตามหลังอย่างไม่คัคด้าน
เมื่อพวกเขาเข้าไป ฟาง เจิ้งจือ ก็ตระหนักว่า 'ดอกไม้ไฟ' ที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากที่เขารู้ ไม่มีแสงสีชวนมึนเมา มีเพียงแค่บทกวีและศิลปะที่งดงามเท่านั้น
ที่ด้านในราวกับกระโจมละครสัตว์ มันเป็นที่กว้างโล่งและมีบันได 4 มุมไปสู่ชั้น 2
ตรงกลางห้องมีโต๊ะใหญ่เต็มไปด้วยอาหารมากมายและเหล้ารสเลิศ มีภาพเขียนที่สวยงามทั่วทั้งเพดาน
บนชั้น 2 มีแท่นเล็กๆยื่นออกมาทั้งหมด 8 จุด หญิงสาวสวมชุดยาวบางอยู่ตามระเบียงและคลุมหน้าด้วยผ้าสีขาว
แต่ละนางมีเครื่องดนตรีที่ต่างกันไป
บนชั้น 3 มีระเบียงอีก 4 มุม แต่ละมุมอยู่ตามทิศทางเหนือใต้ออกตก มีหญิงสาวยืนอยู่ประจำทุกด้านเช่นกัน
ชุดของพวกนางมีสีที่ต่างกัน เขียว แดง ทอง และขาว
ฟาง เจิ้งจือ เหลือบไปมอง เขารู้สึกว่ามันถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นเอกลักษณ์ บันได 4 , 8 เวที และระเบียงอีก 4
"4 สัญลักษณ์ กระจกแปดเหลี่ยม!"่
...
"โอ้? ฟาง เจิ้งจือ อยู่ที่นี่!"่
"และ เหยียน ซิว ... ยินดีที่ได้พบอค์หญิง ปิง หยาง!"่
ผู้คนที่นั่งอยู่ตรงกลางมองเห็นพวกเขาทั้งสอง และ เมื่อพวกเขาเห็น ปิง หยาง ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนทันที
เจ้าของร้านรู้จักกับ ปิง หยาง
ตอนนี้ ปิง หยาง เหมือนกับหญิงสาวอายุ 30 ในชุดกระโปรงขาวที่มาหาพวกเขา
"ฝ่าบาท ต้องการนั่งหรือไม่?"่
"แน่นอน" ปิง หยาง เชิดหน้า
"ตามสบายเลยฝ่าบาทข้าจะจัดหาให้เดี๋ยวนี้ "
"เร็วๆเข้าล่ะ"
"รับทราบฝ่าบาท"
ไม่นานพวกเขาก็ถูกพาไปที่โต๊ะตรงกลาง ในตำแหน่งนี้ ฟาง เจิ้งจือ สามารถมองเห็นงานศิลปะได้ทั่วทั้งร้าน
ปิง หยาง มองดูที่นั่งและส่งสายตาให้ ฟาง เจิ้งจือ ราวกับนางจะพูดคำว่า 'เป็นไงล่ะ'
"ไม่เลว"ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
"ฮะฮ่า ... แน่นอนมันไม่เลวทีเดียว" ปิง หยาง ยิ้มทันทีที่ได้ยิน
คนอื่นๆต่างมองด้วยความรังเกียจ ที่พวกเขาพึ่งถูกไล่ออกจากที่นั่ง
"พวกเขาจะสอบไม่ผ่านแน่!"่
"เราจะได้เห็นว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า เมื่อการประกาศผลวันพรุ่งนี้"
"นายน้อยวู่ บอกเราเกี่ยวกับนโยาบายของท่านเสียหน่อยมันจะทำให้บางคนได้รู็ถึงความสามารถของตัวเองเสียบ้าง "
"ฮ่าฮ่าฮ่า..."
เสียงหัวเราะดังขึ้นมา
"การชุมนุมวันนี้น่าจะเป็นการผูกมิตรและแบ่งปันความรู้ เราควรจะทำให้มันสนุกสนานราวกับศิลปะอย่าไปพูดถึงเรื่องนโยบายเลย "วู่ เฟิง ขานตอบ
"ผิดแล้วนายน้อยวู่ นโยบายเป็นส่วนสำคัญของการทดสอบด้านปัญญาระดับสภา ผู้ที่สามารถสร้างนโยบาทที่งดงามได้ ถือว่าดีกว่าพวกที่จำกฎแห่งเต๋าได้เป็นไหนๆ!"่
"แน่นอน นายน้อยวู่ถูกเรียกตัว ทำไมเขาจะไม่ผ่าน?่"่
"แม้พวกเราจะเข้าร่วมการทดสอบระดับสภา แต่พวกเราก็ไม่ถูกเรียกไปพบองค์จักรพรรดิโชคดีแค่ไหนที่ได้ใกล้ชิดกับนายน้อยวู่ในวันนี้ เราหวังว่าท่านจะให้ความรู้แก่เราบ้าง "
พวกเขาต่างอ้อนว
วู่ เฟิง ดูไม่ค่อยพอใจแต่อย่างไรก็ตามเขายังคงยิ้มแย้มเขารู้ว่าการโต้เถียงเรื่องนโยบายเป็นประเด็นของวันนี้
หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจจะพูด
"นโยบายของข้าเต็มไปด้วยความซื่อสัตย์กับรัฐรรณาการ"
"ซื่อสัตย์กับรัฐบรรณาการ?"่
"นั่นเป็นคำที่บัญญติในกฎแห่งเต๋า?"่
แววตาพวกเขาต่างเบิกกว้าง
"ใช่แล้ว จักรพรรดิต้องการมั่นใจว่าอณาจักรจะเจริญรุ่งเรือง เจ้าหน้าที่ต้องทำตามความปรารถนาของจักรพรรดิ เหล่าเด็กๆจะเป็นแบบพ่อและแม่ และพ่อแม่ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเป็นเด็กดังนั้นความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีที่สุด "
"ข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ระหว่างการทดสอบข้าสังเกตุว่าองค์จักรพรรดิหันไปมองทางทิศใต้อยู่บ่อยครั้ง การจลาจลที่ภูเขาทางใต้ยังคงอยู่ในใจเขา และช่วงนี้ก็มีพวกปีศาจเข้ามาเกี่ยวอีกด้วย ในฐานะเจ้าหน้าที่แม้เราไม่สามารถแก้ปัญหาตรงหน้าได้เราก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต "
"แม้ว่าข้าจะไม่รู้รายละเอียด แต่ภูเขาทางใต้เป็นพันธมิตรของเรามาหลายศตวรรษแล้ว และพวกเขายังเป็นอุปสรรคในการบุกรุกของปีศาจอีกด้วย "
"อาณาจักรเซี่ยเองก็ให้การสนับสนุนเช่นกัน เราช่วยพวกเขาในการเปิดถนน ภูเขาทางใต้จะต้องขอบคุณเรา "
"เพื่อที่จะให้อาณาจักรเป็นมหาอำนาจ พวกเราจำต้องยอมรับ! ในการติดต่อกับคนอื่น ๆ เราต้องซื่อสัตย์และไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วเราจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน "
"ดังนั้นข้าจึงเลือกเสนอว่าเราจำต้องซื่อสัตย์และจริงใจ!"่
เสียงของ วู่ เฟิง ดังกระหึ่ม ราวกับเขามีความปราถนาที่แรงกล้าในการช่วยโลก
"ด้วยความจริงใจ พวกเราสามารถไว้ใจพวกเขาได้งั้นหรือ? นายน้อยวู่ช่างชาญฉลาด!"่
"ไม่แปลกใจเลยที่ท่านเป็นอันดับ 3 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง พรสวรรค์ของท่านหาได้มีคู่แข่งไม่ นโยบายของท่านดีกว่าหนังสือที่ข้าเคยได้เขียนเสียอีก "
"นโยบายของนายน้อยวู่เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนใคร มันมีความหมายและใช้ความรู้บนพื้นฐาน ข้าคิดว่าแม้แต่ หนานกง เฮา ก็ยากที่จะเขียนเรื่องเช่นนี้ได้ "
"เห็นด้วย แม้ข้าจะใช้แนวคิดที่คล้ายคลึงแต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่านายน้อยวู่ "
พวกเขาอ้าปากค้างหลังจาก วู่ เฟิง พูดจบ บางคนก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
"เด็กน้อย" ฟาง เจิ้งจือ กระตุกปากอย่างดูถูก
แนวคิดที่วางไว้ล้วนเป็นความจริง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือเวลาและวิธีการใช้แนวคิดเหล่านั้น
จะไม่มีปัญหาหากไว้ใจและสัตย์ซื่อ
การที่จะให้สองประเทศซื่อสัตย์ต่อกันไม่ใช่เรื่องผิด
อย่างไรก็ตามความไว้วางใจไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย พวกเขาไม่สามารถพูดได้ว่าไว้วางใจซึ่งกัน จากนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่สนอะไร
ความไว้วางใจทั้งหมกยังคงสร้างขึ้นจากรากฐานของอำนาจยิ่งสองฝ่ายยืดอกรับความวางใจและให้ความร่วมมือกัน
หากไม่มีรากฐานข้างต้นความไว้วางใจก็ไม่มีความหมาย
วู่ เฟิง ไม่อยู่ตรงนี้ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด หลังจากพูดเสร็จเขาก็หันมามอง ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว
เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"นายน้อยเหยียน นายน้อย ฟาง และองค์หญิง ข้าสงสัยว่าพวกท่านคิดยังไงกับเรื่องนี้?"วู่ เฟิง ถามด้วยความเคารพ
เหล่าคนทั้งหมดต่างหัวเราะเยาะ
สำหรับอัจฉริยะที่ได้เข้าพบองค์จักรพรรดิ มาขอคำแนะจากผู้เข้าสอบ 2 คนที่ไม่ผ่านการสอบ
"ฟาง เจิ้งจือ ข้าพนันเลยว่าเจ้าไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ตอนที่เจ้าส่งข้อสอบ!"่
เหยียน ซิว จ้อง วู่ เฟิง แต่ไม่ได้ตอบอะไร เขายกพัดขึ้นโบกตัวเอง
จากนั้นก็หันไปมองสาวงามทั้ง 4 นางที่เต้นรำอยู่บนชั้น 3
"กรุณาอย่าบดบังวิสัยทัศน์ข้าได้หรือไม่?"่
"..."
พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง พวกเขามองกันและกันด้วยความไม่เชื่อ
อย่าบัง?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดเลยว่าคนอย่าง เหยียน ซิว จะพูดจาแดกดันแบบนี้ได้เขาอยากจะลุกปรบมือให้ เหยียน ซิว จริงๆ
หลังจาก ปิง หยางเรียกสติคืนมาได้นางก็หัวเราะออกมาอย่างหนัก
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า ..."
วู่ เฟิง ทึ่งมาก
เขามองไปที เหยียน ซิว ที่มีท่าทีเย็นชา สีหน้าเขากลายเป็นแดงก่ำ ดวงตาลุกเป็นไฟ ริมฝีปากของเขาสั่นราวกับว่าเขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามเขายังคงเงียบ
เพจหลัก : Double gate TH