Chapter 13: การทดสอบ
ด้านในพื้นที่ทดสอบนั้น เยล ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ข้างในสมาคมโรนแมด เขารู้สึกว่าตัวเองอยู่ในป่า
เยล เดินไปรอบๆเพื่อหาสมุนไพรและผลไม้ต่างๆอีกทั้งแหล่งน้ำ ในพื้นที่ทดสอบนี้สัตว์อสูรไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบเดียว คนที่เข้าการทดสอบต้องเอาตัวรอดให้ได้
เยล มีความรู้มากมายเกี่ยวกับสมุนไพรและผลไม้ที่ได้มาจากหนังสือ ดังนั้นแล้วจึงไม่กลัวว่าจะกินอะไรที่เป็นพิษซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีคนตายเพราะมัน สิ่งที่ทำให้เด็กตายเร็วที่สุดไม่ใช่สัตว์อสูรแต่เป็นพิษต่างหาก
โชคดีที่ เยล มีระบบไว้คอยเก็บข้อมูลต่างๆที่เขาเคยอ่านมา เขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดเพราะระบบนั้นได้จดจำมันให้เขาได้อย่างสมบูรณ์
มีสมุนไพรและผลไม้ที่กินได้มากมายซึ่งทำให้ เยล นั้นผ่อนคลายลงอย่างมาก เขาสามารถแยกออกได้ว่าผลไม้รึสิ่งอะไรที่เขาไม่สามารถกินได้ เขาสามารถหาอย่างอื่นกินได้แม้ว่าเขาจะกินผลไม้เหล่านั้นไม่ได้
ในเวลาแค่เพียงชั่วโมงเดียว เยล ก็ได้ปีนขึ้นไปที่ต้นไม้ใกล้ๆกับแม่น้ำพร้อมกับกระเป๋าที่เต็มไปด้วยผลไม้และสมุนไพร เขายังคิดจะหาเนื้อเพิ่มอีกเพราะไม่อยากกินแต่ผักแต่ เยล นั้นต้องหาที่พักและทำกับดักขึ้นมาก่อน
เยล นั้นได้ทำการเรียนรู้เรื่องกับดักแต่ไม่เคยทำมันมาก่อน ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่มั่นใจอย่างมาก
แต่แม้ว่ากับดักนั้นจะล้มเหลวแต่แม่น้ำก็เป็นเพียงแหล่งน้ำเดียวในพื้นที่แห่งนี้และสัตว์อสูรต่างก็ต้องดื่มน้ำเพื่อมีชีวิตรอด ดังนั้นแล้ว เลย จึงหวังว่าจะมีสัตว์อสูรที่อ่อนแอโผล่ออกมาและเขาก็ได้รอซุ่มโจมตีมันอยู่
แม้ว่าสัตว์อสูรทุกตัวจะอยู่ในระดับมนุษย์แต่บางตัวนั้นมีความสามารถเทียบเท่านักสู้ระดับมนุษย์ 3 ดาว ได้ นี่แหละคือความยากของการทดสอบและคนที่ท้าทายความแข็งแกร่งที่เกินตัวนั้นจะต้องตาย
โชคดีที่สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งเหล่านั้นมีอาณาเขตของตัวเองในพื้นที่ทดสอบซึ่งทำให้สัตว์ตัวอื่นไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับพวกมัน
ไม่มีสัตว์ตัวไหนที่เป็นเจ้าของแหล่งน้ำและที่นี่มันก็อยู่ใกล้ๆกับเขตแดนของการทดสอบด้วย มันยากอย่างมากที่สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจะปรากฏตัวออกมาและนั่นทำให้คนที่ดูแลอยู่แถวเขตแดนนั้นรู้สึกถึงมันได้ ไม่งั้นแล้วถ้าสัตว์ที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นมาจริงงั้นมันก็ทำให้โอกาสรอดของผู้เข้าทดสอบนั้นลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
เยล คิดถูก เขาทำการล่ากระต่ายได้ด้วยธนู ธนูนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการทดสอบแบบนี้และเป้าหมายนั้นก็เป็นเป้าหมายที่ดีต่อการฝึก ดียิ่งกว่าเป้าที่อยู่นิ่งๆในสมาคม
“เควสไดนามิคอันใหม่. : ล่าสัตว์อสูรร้อยตัวโดยไม่ให้มันรู้ตัว รางวัล : สกิลติดตัว [ ซ่อนตัว : เลเวล 1 ]”
เยล ดีใจขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนหลังจากที่จับกระต่ายได้ เขาหวังอยู่นานว่าจะได้รับเควสใหม่แต่ก็ไม่มีอันไหนโผล่ขึ้นมาเลย
“ข้าว่าข้าตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว”
เยล มั่นใจขึ้น การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบขึ้น เยล ไม่เคยทำอะไรท้าทายเลย เขาชินกับการฝึกและไม่ได้รู้สึกถึงความยากของพวกมัน
แม้ว่าสเตตัสจะยังคงเดิมแต่ เยง มั่นใจมากกว่าเดิมว่าสามารถเพิ่มค่าสเตตัสให้ได้ถึง 10 หน่วยได้
โชคดีสำหรับ เยล นี่เป็นเพียงแค่การทดสอบและมันไม่ใช่ป่าสัตว์อสูรจริงๆ สมาคมได้ใช้คาถาเพื่อสร้างแหล่งน้ำขึ้นมาจนใครก็ตามสามารถดื่มมันได้ การเสี่ยงที่จะจุดไฟเพื่อต้มน้ำไว้ดื่มได้ซึ่งนั่นก็จะทำให้ดึงดูดความสนใจสัตว์อื่นๆไปด้วย
มันคงจะต่างจากเดิมถ้า เยล นั้นสามารถใช้เวทย์ได้แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มันก่อนอายุได้ 10 ปี เขาสามารถใช้ได้แต่วิธีเดิมๆเท่านั้น
สำหรับห้าวันแรก เยล ทำได้ดีและไม่ได้เจอกับปัญหาใดแต่ในวันที่ มอนเตอร์ระดับ 1 ดาวก็ได้ปรากฏตัวออกมา
ในตอนที่สัตว์อสูรเริ่มฝึกฝนเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของมัน มันจะถูกเรียกว่ามอนเตอร์ มอนเตอร์ระดับ 1 ดาวนี้ไม่ได้ทรงพลังมากไปกว่าสัตว์อสูรธรรมดาแต่มันดุร้ายกว่ามาก
มอนเตอร์ที่โผล่มาตรงหน้า เยล นี้คล้ายๆกับกระต่ายแต่ไม่ใช่กระต่ายเพราะมันมีสองเขาบนหัวและขนของมันมีสีม่วง
พิษของกระต่ายม่วงสองเขานั้นไม่ได้ร้ายแรงแต่มันก็ทำให้ชาได้สักพักแต่ในการทดสอบนี้แค่เพียงเล็กน้อยอาจจะร้ายแรงได้และ เยล นั้นไม่ได้ต้องการเนื้อเพิ่มในตอนนี้
“เดี๋ยวนะ ถ้าข้าใช้พิษของมันใส่ธนู พวกมันก็จะทำให้เป้าหมายช้ากว่าเดิมได้เล็กน้อย ถ้ามอนเตอร์ที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นมา มันก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการใช้หลบหนีได้”
เยล ไม่ใช่คนขี้ขลาดแต่เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เขาไม่อาจเอาชนะได้ งั้นเขาก็จะหนีและกลับมาลองใหม่หลังจากที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เยล ไม่ได้คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะตายแล้วโดนคนอื่นเรียกว่าผู้กล้า เขายอมปกป้องพี่สาวแม้ว่าจะเสี่ยงชีวิตแต่มันไม่มีค่าอะไรที่จะเสียสละตัวเองเพื่อความกล้าหาญรึเกียรติยศ
สำหรับการป้องกันอันสมบูรณ์แบบแล้ว เยล ไม่คิดจะนับมันไว้ใช้เพราะเขาใช้มันได้แค่เดือนละครั้ง ถ้าเขาใช้มันตอนนี้ งั้นเขาก็จะไม่มีไพ่ตาย การป้องกันนี่คือไพ่ตายอันสุดท้ายของเขาจริงๆ
เยล ยิงธนูออกไปใส่กระต่ายและได้มีแจ้งเตือนอันใหม่เด้งขึ้นมา
“เควสไดนามิคอันใหม่ : ล่ามอนเตอร์ เวลาจำกัด : อายุ 10 ปี รางวัล : คุณภาพและปริมาณของมอนเตอร์จะเป็นตัวตัดสินรางวัล เควสไดนามิคนั้นจะเสร็จสิ้นเองในตอนที่ถึงเวลาที่จำกัด”
ตาของ เยล เบิกกว้างในตอนที่ได้ยินเควสใหม่ มันเป็นครั้งแรกที่มีเควสแบบนี้ซึ่งรางวัลเองก็พอทำให้เขาเข้าใจได้บ้าง
“ข้าต้องเปลี่ยนแผนการและต้องเสี่ยง ข้าต้องได้รับรางวัลให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จากเควสไดนามิคและการล่าของข้าตอนนี้ไม่ดีพอสำหรับสิ่งที่ข้าต้องการ หลังจากที่ข้าได้สกิลซ่อนตัวแล้ว ข้าจะเข้าไปในป่าลึกกว่านี้เพื่อหามอนเตอร์เพิ่ม”
เยล คิดว่าการอยู่แบบปลอดภัยนั้นเขารู้สึกว่ามันง่ายเกินไปแต่การโผล่ขึ้นมาของเควสใหม่นั้นทำให้เขาแทบบ้า ความจริงที่ว่าไม่เห็นรางวัลนั้นก็ทำให้เขาคิดไปไกลว่าเขาจะได้รางวัลแบบไหนมา
แต่แม้ว่าเขาจะเร่งรีบกับมันไปนิดแต่เขาก็ยังคงรอคอยก่อนเพื่อที่จะทำเควสไดนามิคอันแรกให้เสร็จก่อนเพราะรางวัลที่ได้มานั้นดูเหมือนจะดีสำหรับการทดสอบอย่างมาก
เยล ใช้เวลาแค่เพียง 3 วันหลังจากที่เควสไดนามิคอันแรกโผล่ขึ้นมา เยล รีบเข้าไปตรวจสอบสกิลใหม่ทันที
“ซ่อนตัว : เลเวล 1 ในตอนที่ผู้ใช้ซ่อนตัวอยู่นั้นมันจะยากยิ่งกว่าเดิมที่จะตรวจจับได้ มันสามารถเพิ่มระดับขึ้นได้โดยการใช้สกิล”
ผลของการซ่อนตัวนั้นเป็นสิ่งที่ เยล คาดไว้อยู่แล้วและเขาคิดว่าระดับสกิลคงเพิ่มขึ้นมาอย่างมากในระหว่างการทดสอบ
แน่นอนว่า เยล ไม่ได้คิดจะเอาแต่ซ่อนตัวแล้วโจมตีด้วยธนู เขาเองก็ยังอยากฝึกฝนร่างกายไปด้วย
แต่มันก็คงขึ้นอยู่กับเวลาที่เขาจะหามอนเตอร์เจอและไม่สามารถใช้ธนูจัดการมันได้ เขาคงต้องใช้ดาบต่อสู้แทน การทำแบบนั้นมันจะดึงดูดความสนใจมากขึ้นและจากนั้นมันก็ยากกว่าเดิมในการซ่อนตัวและการใช้ธนูในการสู้ ดังนั้นแล้วเขาจึงโฟกัสไปยังการฝึกธนูไว้ก่อน
เยล เริ่มเดินไปรอบๆพยายามที่จะซ่อนตัวเพราะตั้งแต่วันนั้นแล้วพื้นที่ล่าของเขาก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำอีกต่อไป เยล นั้นเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงเพื่อที่จะได้รับรางวัลจากเควสไดนามิคซึ่งมันจะส่งผลต่ออนาคตของเขา ดังนั้นแล้วเขาจึงตัดสินใจทุ่มทุกอย่างที่มี