Chapter 12: สกิลสืบทอด
“การป้องกันอันสมบูรณ์แบบ : สร้างพื้นที่ 5 ม.เป็นเวลา 5 วินาที ไม่มีอะไรสามารถรบกวนได้เมื่ออยู่ภายในพื้นที่จนกว่ามันจะหายไป สกิลสืบทอดนี้สามารถใช้ได้ 1 เดือนต่อครั้ง ไม่ได้ใช้พลังของผู้ใช้”
“สกิลนี้คือการปกป้องอันสมบูรณ์แบบที่แท้จริง”
การป้องกันอันสมบูรณ์แบบสามารถปกป้อง เยล และทุกสิ่งรอบๆตัวได้จากความเสียหายใดๆ แม้ว่าจะใช้ได้แค่ 5 วินาทีและสามารถใช้ได้หนึ่งเดือนต่อครั้งแต่ถ้า เยล ไปอยู่ในสถานการณ์เดิมอีก อย่างน้อยเขาก็สามารถที่จะปกป้องตัวเองและพี่สาวได้ 5 วินาที
“ข้าพัฒนาสกิลนี้ได้ด้วยหรือไม่ ?”
นี่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ถ้าพื้นทีและเวลานั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้ งั้นมันจะดีขึ้นอย่างมาก
“สกิลสืบทอดนั้นเป็นสกิลชนิดพิเศษที่ซึ่งใช้โดยตรงจากกฎของโลกในการทำงานของสกิลนี้ มันสามารถพัฒนาได้ถ้าผู้ใช้เข้าใจกฎของสกิลสืบทอด”
เยล ผิดหวังเล็กน้อย การเข้าใจกฎของโลกนั้นเป็นสิ่งที่มีแต่ผู้เชี่ยวชาญเก่งๆเท่านั้นที่จะทำได้แต่การมีสกิลสืบทอดนี่ก็ได้บ่งบอกว่าในอดีตนั้นเขาได้เข้าใจกฎของมันอยู่บ้าง งั้น เยล ก็น่าจะมีสิทธิที่จะทำแบบนั้นได้สักวัน
“กฎไว้ใช้ทำอะไรกัน ?”
กฎนั้นเกี่ยวข้องกับธาตุ การมีความสอดคล้องธาตุที่ดีกว่าเดิมนั้นก็จะทำให้เข้าใจกฎได้ดีขึ้นด้วย
“การปกป้องนี้พึ่งพากฎของเวลา”
เยล ช็อค เวลาและมิตินั้นเป็นธาตุพิเศษเหมือนกับการฮีลแต่มันฝึกฝนได้ยากกว่ามากและยากยิ่งกว่าที่หาการสอดคล้องกับมันได้
สกิลสืบทอดนี้ใช้กฎของเวลาที่ซึ่ง เยล คงพัฒนามันขึ้นมาได้ยากแต่ในเวลาเดียวกัน ระบบก็ไม่ได้โกหกว่ามันสมบูรณ์แบบ
การป้องกันที่ใช้ออกมานั้นไม่สามารถที่จะทำลายได้นอกจากว่าคนๆนั้นจะเข้าใจกฎของเวลาที่ดีกว่า การป้องกันแบบเวลานั้นไม่ได้กันการโจมตีที่เข้ามา การโจมตีนั้นจะไม่มีอยู่ในพื้นที่การป้องกันนั้นเลยต่างหาก
การป้องกันนี้ได้กลายเป็นไพ่ลับของ เยล สกิลช่วยชีวิตที่แท้จริงแล้วยังสามารถช่วยคนอื่นได้ด้วย
“มีวิธีอื่นให้ได้สกิลสืบทอดมาอีกรึเปล่า ?”
เยล ต้องการที่จะรู้ว่าเขาจะได้สกิลช่วยชีวิตมามากกว่าเดิมได้หรือไม่
“สกิลสืบทอดนั้นสามารถปลดล็อคได้โดยทำตามเงื่อนไขลับ จนกว่าจะทำตามเงื่อนไขพวกนั้นได้ ผู้ใช้จะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ”
เยล คิดว่ามันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วแต่เขาก็ยังลองที่จะถามดู
แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมระบบถึงได้เอาเรื่องยากมากมายแบบนี้มาในเมื่อมันต้องช่วยเขาให้ได้สิ่งที่สืบทอดมาจากชาติก่อน เขาเอาตัวรอดในครั้งสุดท้ายมาได้ก็เพราะโชคแต่สกิลการป้องกันนี้จะทำให้เขาหลบเลี่ยงการบาดเจ็บที่ร้ายแรงได้ตั้งแต่ต้น
เยล ไม่เข้าใจชาติก่อนของตังเองแต่เขาก็ทำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงเลือกที่จะพักผ่อนต่อเพราะตอนนี้เขายังทำการฝึกฝนไม่ได้
ในหลายวันต่อมาฮีลเลอร์และนักดาบคลั่งได้เข้ามาตรวจสอบร่างกายเขา จนกระทั่งพวกนั้นได้อนุญาตให้ เยล ทำการฝึกฝนได้
เยล เริ่มฝึกฝนโดยไม่พักเฉกเช่นแต่ก่อนและเขาก็ตระหนักได้ว่าด้วยค่าความอึดที่เต็มนี้และสกิลฟื้นฟูตัวเอง แรงของเขาจึงเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก
ผลของการฟื้นฟูตัวเองนั้นทรงพลังขึ้นในการฟืนฟูแรงและดียิ่งกว่าการฟื้นฟูบาดแผล การฟื้นฟูแรงนั้นง่าสยกว่าการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่ร่างกายได้รับ
สองเดือนต่อมา เยล ได้เพิ่มค่าความเร็วเป็น 8 หน่วย และหลังจากนั้นอีกเดือนค่าแรงของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 9 หน่วย
แต่ เยล ก็ยังไม่สามารถเพิ่มค่าความแม่นยำของเขาให้เป็น 9 หน่วยได้จนกระทั่งหนึ่งอาทิตย์ก่อนวันเกิดของเขา
เยล ได้เพิ่มพรสวรรค์ทางเวทย์ขึ้นมาอยู่ระดับกลางสูงและได้รับเควสสกิลอันใหม่ซึ่งเขาจำเป็นต้องเพิ่มสเตตัสด้านจิตใจทั้งหมดให้เป็นสิบหน่วย
ในเดือนที่ผ่านมานี้นักดาบคลั่งเอ็นดู เยล อย่างมากเพราะเด็กนี่ได้ฝึกหนักขึ้นกว่าแต่ก่อน
หลังจากที่ผ่านเรื่องเกือบตายมาด้วยอายุน้อยเช่นนี้ มันคงไม่แปลกที่จะมีผลกระทบแย่ๆกับความคิดของพวกเด็กและเปลี่ยนให้เด็กเหล่านั้นกลายเป็นคนขี้ขลาด
แต่ เยล นั้นตรงกันข้าม เขาขยันยิ่งกว่าเดิม นักดาบคลั่งนั้นคิดว่าความคิดแบบนี้คือความคิดที่ดีที่สุดในการฝึกฝนเส้นทางใดๆก็ตาม
ในอีกด้าน เยล รู้สึกว่าการฝึกของเขานั้นมีประสิทธิภาพน้อยลงและรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะเพิ่มสเตตัสไปให้ถึง 10 หน่วยในอีก 1 ปีได้
“ระบบนั้นบอกข้าว่ามีโอกาส 10% ในการสำเร็จและตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่ามันไม่ได้พูดเกินไป ค่าสเตตัสหน่วยสุดท้ายนี้มันยากจริงๆ กว่าที่จะได้มันมา”
สิบหน่วยนั้นเป็นขีดจำกัดของระดับคนทั่วไปอย่างเขาและร่างกายของเขาเกือบจะไปถึงจุดสูงสุดของระดับนั้นแล้วแต่การจะไปถึงระดับสมบูรณ์แบบได้นั้นยากเสมอ
เยล รู้ว่าเขาคงไม่สามารถที่จะทำให้มันสำเร็จได้ถ้ายังทำเรื่องปกติแบบนี้ การฝึกธรรมดาคงทำให้ร่างกายพัฒนาขึ้นไปถึงระดับนั้นไม่ได้ เยล ต้องทำการฝึกเพิ่มไปอีก
เยล รู้ว่าการฝึกฝนเพิ่มและการฝึกแบบอันตรายนั้นเป็นยังไง
แต่คนที่ทำการฝึกนั้นควรอายุอย่างน้อย 9 ปีและอายุน้อยกว่า 10 ปี เยล ยังขาดไปแค่อาทิตย์เดียว ดังนั้นแล้วเขาจึงรออีกสักพักได้แต่ปัญหาคือเงื่อนไขอื่นๆ
การแนะนำจากคนรุ่นก่อนในสมาคมและสมาชิกของคนรุ่นเก่าน่ะต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งดีในสมาคมด้วยที่จะอนุญาตให้เขาไปฝึกแบบนั้นได้
ปกติแล้วเด็กที่อยากเข้าไปฝึกแบบนี้มักจะขอพ่อตัวเองและถ้าพ่อพวกเขาไม่สามารถทำจดหมายแนะนำให้ พ่อเขาก็ต้องขอคนอื่นให้ช่วยเด็กเหล่านั้น
พ่อของ เยล นั้นสามารถที่จะทำจดหมายแนะนำแบบนั้นได้แต่เขาน่ะเป็นคนที่ไม่เคยมาเยี่ยม เยล เลยสักครั้งแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรงก็ตาม
เยล ไม่คิดที่จะไปขอร้องพ่อตัวเอง ตัวเลือกอันแรกของเขาคือขออาจารย์ เขากลัวว่านักดาบคลั่งจะไม่ต้องการที่จะทำจดหมายแนะนำให้เขา การฝึกพิเศษนี้น่ะอันตรายเกินไป
การฝึกพิเศษนี้เรียกว่าการทดสอบสัตว์อสูร
ในพื้นที่ลับของสมาคม คนรุ่นก่อนจะได้เอาสัตว์อสูรระดับมนุษย์ไว้เพื่อทำการทดสอบเด็กๆ
พวกคนที่รอดไปได้จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งแต่ส่วนมากแล้วกลายเป็นศพ
เยล ได้ขออาจารย์เขาในวันต่อมา หวังว่าจะขอร้องอาจารย์ได้
“อาจารย์ ข้าอยากไปฝึกกับสัตว์อสูร”
นักดาบคลั่งไม่คิดว่าจะมีคำขอร้องแบบนี้จากลูกศิษย์ “
“ทำไม ? เจ้าน่ะแข็งแกร่งอยู่แล้วสำหรับอายุเท่านี้และเจ้าไม่จำเป็นต้องไปฝึกอันตรายแบบนั้น”
เยล คิดอยู่แล้วว่าจะได้คำตอบแบบนี้ เด็กคนไหนที่มีพลังแบบเขาก็คงดีใจอย่างมากอยู่แล้วและคงไม่เสี่ยงเพื่อพัฒนาขึ้นมาอีกเล็กน้อยก่อนจะเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจังในเส้นทางต่างๆ
แต่ เยล มีตัวเลือกที่ต่างกันไป เขาจำเป็นต้องเพิ่มสเตตัสทุกอย่างให้ได้ 10 หน่วยก่อนที่จะเริ่มฝึกเส้นทางกำเนิด
“ข้าต้องการแข็งแกร่งกว่านี้และข้ารู้สึกว่าการฝึกธรรมดานั้นไม่ได้ผลเหมือนแต่ก่อน ข้าต้องการที่จะได้รับประสบการณ์พิเศษและการทดสอบกับสัตว์อสูรนั้นก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี”
นักดาบคลั่งถอนหายใจออกมาพร้อมกับจดจำได้ถึงความดื้อด้านของศิษย์ตัวเอง
“ด้วยความแข็งแกร่งที่แท้จริงและความชำนาญดาบของเจ้า ตราบใดที่เจ้าระวังเจ้าไม่น่าตายในการทดสอบนั้น ได้ ข้าจะทำจดหมายแนะนำให้เจ้าแต่เจ้าต้องระวังตัวด้วย”
ความชำนาญดาบของ เยล นั้นไปอยู่นะระดับฝึกหัดเลเวล 7 และด้วยการฟื้นฟูตัวเองและการป้องกันที่มีแล้วเขาสามารถที่จะหลบเลี่ยงไม่ให้เกิดบาดแผลร้ายแรงรึโดนฆ่าได้
“ขอบคุณ อาจารย์ ข้าจะเริ่มทดสอบกับสัตว์ในวันที่ข้าอายุได้ 9 ปี”
วันที่เหลือ เยล ได้ทำการเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการทดสอบ เขาได้รับดาบจริงจากอาจารย์มาและยังได้รับธนูจริงๆมาด้วย พี่สาวได้ส่งยาฟื้นฟูมาให้ ระดับของมันสูงกว่าที่เธอเคยส่งมาก่อน
สำหรับอาหารแล้ว ผู้ท้าทายที่เข้าทำการทดสอบจำเป็นต้องรับมันข้างในในการทดสอบ มันคือส่วนหนึ่งของการทดสอบด้วย
ในที่สุดเขาก็อายุได้เก้าปีและ เยล ได้ตามอาจารย์เขาไปยังพื้นที่หวงห้ามที่ซึ่งมีการทดสอบสัตว์อสูรอยู่ที่นั่น
เยล และนักดาบคลั่งนั้นเป็นเพียงสองคนในพื้นที่แห่งนี้ การทดสอบกับสัตว์อสูรนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าไหร่นักและมีเพียงนักดาบคลั่งเท่านั้นที่มาส่ง เยล ในวันนี้
เยล ได้ล่ำลาอาจารย์ของตนและเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบ