ตอนที่แล้วตอนที่ 492 ฉันรู้ว่าผู้ควบคุมที่แกหามีหน้าตายังไง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 494 วิญญาณเคียวทมิฬ

ตอนที่ 493 สู้


“ผู้ควบคุมที่พวกแกกำลังตามหาคือฉัน!”

เพียงเมื่อหลิน ฮวงชี้มาที่ตัวเอง เขาก็ติดต่อกับเสี่ยว เอยผ่านจิต

“ใช้การ์แปลงร่างชั่วคราว เปลี่ยนเป็นอิมพ์แต่ยังคงร่างมนุษย์เอาไว้”

“ท่านจะสูญเสียความสามารถทั้งหมดของมอนสเตอร์ไปเมื่อเปิดใช้งานการ์ดแปลงร่างชั่วคราวในร่างมนุษย์ มันจะเพิ่มเพียงระดับพลังท่าน  ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการคงสภาพร่างมนุษย์เอาไว้?”

“ใช่!”หลิน ฮวงตอบอย่างหนักแน่น

เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งค้นพบจากชาโคลว่าการ์ดแปลงร่างสามารถใช้เพื่อเพิ่มระดับพลังอย่างเดียวได้ มันสามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงระหว่างการแปลงร่างขณะที่เพิ่มระดับพลังเพียงอย่างเดียวได้ อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่อาจใช้พลังของมอนสเตอร์ที่แปลงเป็นได้ และจะไม่มีรูปร่างของมอนสเตอร์ตนนั้น

นอกจากนี้ แม้คุณสมบัติส่วนหนึ่งของการ์ดจะถูกจำกัด การ์ดแต่ละใบก็ยังสามารถใช้ได้แค่ชั่วโมงเดียว การใช้งานจะมีความคล้ายกับปกติ ผลของการเพิ่มพลังจะหายไปโดยอัตโนมัติหลังผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง

“กำลังใช้การ์ดแปลงร่างชั่วคราว x1  กำลังกำจัดกระบวนการแปลงร่าง....ระดับพลังท่านเพิ่มเป็นเพลิงทองชั่วคราว!”

เมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยว เฮย ระดับพลังของหลิน ฮวงก็ระเบิดออกมา ในเวลาไม่ถึงวินาที เขาก็เลื่อนจากเพลิงขาวเป็นเพลิงทอง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความสามารถเขาที่เพิ่มพูนอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ระเบิดจากหลิน ฮวง ยู่ เหวินปิงและวู่ ฟางก็ตกใจ จากนั้นก็เริ่มได้สติ

“แกสามารถเพิ่มระดับพลังได้!ระดับพลังจริงๆของแกคือเพลิงทอง...ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงฆ่าลู่ เฟิงได้”วู่ ฟางตกใจ จากนั้นก็ตระหนักว่าไม่มีใครมาแทรกแซงผลของการตรวจจับ ด้ายแห่งความตายกำลังชี้มาที่หลิน ฮวงเพราะหลิน ฮวงคือนายของมังกร!

การระเบิดพลังของหลิน ฮวงทำให้เกิดความสับสน ด้วยพลังเพียงเพลิงขาวเขา วู่ ฟางและยู่ เหวินปิงจึงสันนิษฐานว่าเขาคงควบคุมได้เพียงมอนสเตอร์ระดับเพลิงแดงหรือเพลิงฟ้า มันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะมีมอนสเตอร์เหนือกว่าเพลิงฟ้าในการครอบครอง แม้ว่าเขาจะสามารถอัญเชิญกลุ่มมอนสเตอร์ได้ การฆ่าระดับนิรันดร์ก็ยังเป็นไปไม่ได้เนื่องจากช่องว่างมันห่างเกินไป

นี่ทำให้ทั้งคู่คาดเดาผิดไปและคิดว่าคงมีใครบางคนมาแทรกแซงผลการตรวจจับเมื่อพวกเขาเห็นหลิน ฮวงในตอนแรก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระดับพลังเขาในตอนนี้คือเพลิงทอง มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติอีกต่อไป มันไม่ยากสำหรับเขาที่จะจัดการจิตวิญญาณแฝงระดับนิรันดร์และฆ่าลู่ เฟิง

“บัดซบ!แกกล้าหลอกฉัน!”ใบหน้าของยู่ เหวินปิงบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เขาไม่เคยคิดว่าจะถูกหลอกเอาสมบัติสูงสุดไป มันเป็นความอัปยศที่ไม่ว่าใครก็คงหัวเราะเยาะหลังผ่านไป1หมื่นปี

เขาสามารถจินตนาการได้จนกระทั่งวันที่เขาตาย ผู้คนที่เดินผ่านหลุมศพคงหัวเราะเยาะเขาไม่หยุดหย่อน’ดูสิ นี่มันหลุมศพของไอโง่ที่ถูกหลอกเอาสมบัติสูงสุดไปนี่!’

อารมณ์ของยู่ เหวินปิงพุ่งสูงขึ้นและสูงขึ้น ในไม่ช้า หอกสมบัติสูงสุดก็ก่อตัวขึ้นในมือเขา

มันเป็นหอกสีดำยาวซึ่งยาวประมาณ2เมตรและหนา7เซนติเมตร หากไม่สนใจปลายหอก มันจะดูราวกับไม้ยาวสีดำในมือยู่ เหวินปิง

มีลวดลายที่ละเอียดและซับซ้อนบนตัวหอก พวกมันถูกสลักลึกบนตัวหอกยาวที่เก็บเป็นความลับต่อสาธารณะ  อย่างไรก็ตาม ด้วยลวดลายซัฐว้อนและแสงจางๆที่ปรากฏบนผิวหอก หลิน ฮวงสามารถระบุได้ว่าหอกยาวนั้นคล้ายกับเซโนเนียที่ลั่ว หมิงมอบให้เขา พวกมันล้วนเป็นสมบัติสูงสุด

“ตาย!”ยู่ เหวินปิงโจมตีโดยไม่ลังเล ทิ่มแทงหอกยาวใส่หลิน ฮวง ชั่ววินาทีที่ปลายหอกพุ่งออกไป เส้นสายสีดำก็พุ่งไปในอากาศราวกับลูกศร

มันดูราวกับที่เขากำลังถืออยู่ไม่ใช่หอกแต่เป็นปืนที่สามารถยิงกระสุนติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ในขณะนี้ เขาไม่ได้ดูเหมือนคนที่ใช้หอกเป็นอาวุธหลัก แต่กลับเหมือนมือปืนที่เชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกล

ประกายไฟสีดำสาดวูบในอากาศราวกับลูกศรที่พุ่งด้วยความเร็วเหนือเสียง ส่งผลให้เกิดโซนิคบูมในอากาศ มันตัดผ่านลมจนเกิดลมแรงซึ่งกวาดผ่านป่าด้านใต้มัน ต้นไม้ทุกต้นล้วนล้มลงเมื่อใดก็ตามที่หอกพุ่งผ่าน

เส้นสายพลังคล้ายกับฝนกระหน่ำ ตอบสนองต่อความโกรธของยู่ เหวินปิงราวกับเขาอยากระบายความโกรธกับหลิน ฮวง

มันเกิดประกายไฟสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ทว่า หลิน ฮวงกลับไม่ได้เป็นกังวลเลน เขาแสยะยิ้มและก้าวไปข้างหน้า จากนั้นก็หายไปในพริบตา

ใช่ เขาไม่ได้ขยับหลบแต่กลับพุ่งใส่อากาศตรงหน้า

แทบจะในเวลาเดียวกับเมื่อหลิน ฮวงหายไป ลำแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็เข้าปกคลุมจุดที่หลิน ฮวงเคยยืนทุกทิศทาง

ลำแสงสีดำกระทบกับพื้นและเกิดเสียงดังกึ่งก้องไปไกลหลายพันกิโลเมตร

พื้นดินสั่นไหวและแผ่นดินไหวก็ดูเหมือนจะกินขอบเขตรัศมีกว่าสิบกิโลเมตร มันคล้ายกับการปะทุของภูเขาไฟ

หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดการโจมตีก็หยุด ก่อนที่หมอกจะกระจาย ผู้คนก็สามารถเห็นได้ว่าผิวดินทั้งหมดดูเหมือนกับหลุมอุกกาบาตก็ไม่ปาน หลุมขนาดใหญ่จำนวนมากที่ลึกกว่าร้อยเมตรเกิดขึ้นไปทั่ว ทำให้มันคล้ายกับผิวดวงจันทร์

ภายใน4กิโลเมตร ไม่มีร่องรอยของพืชพรรณ ทุกอย่างล้วนถูกกวาดออกไปโดยการโจมตี มีเพียงพื้นดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยหลุม

“แค่หาศพยังยากเลย...”วู่ ฟางตบหน้าผาก รู้สึกอับจนปัญญา เขาไม่เคยรู้ว่ายู่ เหวินปิงจะถูกความโกรธบังตาจนไม่คิดจะพาศพเขากลับไปแล้ว

“เอ๊ะ...”จากนั้นยู่ เหวินปิงก็ได้สติและนึกได้ว่าเขาต้องรายงานกับลู่ หยวน ใบหน้าเขากลายเป็นแข็งค้าง

“เห้ย ทำไมถึงต้องคอยมองหาศพฉันกันด้วย?มีนิสัยเช่นนี้กันหรอ?”เสียงจู่ๆก็ดังจากป่า

ยู่ เหวินปิงและวู่ ฟางหันไปมองทันทีและเห็นหลิน ฮวงกำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่

หลิน ฮวงโบกมือให้พวกเขาและยิ้มอย่างหน้าด้าน“ทำไมพวกแกถึงมองหาฉันกันนะ?”

“มังกรแกได้ฆ่าหลานชายของผู้อาวุโสลำดับที่2ของเราไป”วู่ ฟางลังเลสักพักก่อนตอบเขา

“โอ้ แกกำลังพูดถึงไอคนที่ใช้วิญญาณต่อสู้นั่นนะหรอ?ฉันไว้อยู่แล้วว่าเขาไม่อาจควบคุมวิญญาณต่อสู้เช่นนั้นได้ มันเป็นเพราะเขามีใครหนุนหลังนี่เอง”จากนั้นหลิน ฮวงก็ยอมรับ“มอนสเตอร์อัญเชิญฉันฆ่าเขาไปจริงๆ”

ยู่ เหวินปิงและวู่ ฟางได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลังได้ยินสิ่งที่เขาพูด คำอธิบายของหลิน ฮวงตรงกับสิ่งที่ลู่ เฟิงเป็น พวกเขายืนยันได้ว่าหลิน ฮวงคือฆาตรกร

“เนื่องจากแกเป็นคนยอมรับเอง นั่นก็ง่ายสำหรับเรา”ยู่ เหวินปิงยิ้มขมขื่น“เจ้าหนู จงเลือกซะ แกจะยอมไปกับเราดีๆหรือจะให้เราเอาศพแกกลับไป?”

“ฉันไม่ค่อยสนใจจะเป็นสมาชิกนักบุญสักเท่าไรเพราะฉันมักได้ยินว่าพวกนักบุญก็แค่กลุ่มคนโง่ที่ถูกล้างสมอง”หลิน ฮวงดูถูก

“แกรู้อะไรเกี่ยวกับเรา?”ยู่ เหวินปิงกล่าวด้วยน้ำเสียงลึก

“ฉันรู้ทุกอย่าง พวกแกกำลังแสร้งเป็นพวกนอกรีตเพื่อใส่ร้าย”หลิน ฮวงจ้องวู่ ฟาง เขาสามารถสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายวู่ ฟางนั้นอ่อนด้อยกว่าและเขาต้องเป็นพี่ชายของวู่ เทียน“โอ้ ใช่ ฉันรู้เรื่องทั้งหมดจากวู่ เทียน”

“เสี่ยว เทียน?!แกทำอะไรกับเขา?!”วู่ ฟางไม่อาจสงบอารมณ์ลงได้

“แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้เขารอดหลังได้ข้อมูล?แน่นอน ฉันฆ่าเขาไปแล้ว!”หลิน ฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด