ตอนที่ 493 สู้
“ผู้ควบคุมที่พวกแกกำลังตามหาคือฉัน!”
เพียงเมื่อหลิน ฮวงชี้มาที่ตัวเอง เขาก็ติดต่อกับเสี่ยว เอยผ่านจิต
“ใช้การ์แปลงร่างชั่วคราว เปลี่ยนเป็นอิมพ์แต่ยังคงร่างมนุษย์เอาไว้”
“ท่านจะสูญเสียความสามารถทั้งหมดของมอนสเตอร์ไปเมื่อเปิดใช้งานการ์ดแปลงร่างชั่วคราวในร่างมนุษย์ มันจะเพิ่มเพียงระดับพลังท่าน ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการคงสภาพร่างมนุษย์เอาไว้?”
“ใช่!”หลิน ฮวงตอบอย่างหนักแน่น
เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งค้นพบจากชาโคลว่าการ์ดแปลงร่างสามารถใช้เพื่อเพิ่มระดับพลังอย่างเดียวได้ มันสามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงระหว่างการแปลงร่างขณะที่เพิ่มระดับพลังเพียงอย่างเดียวได้ อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่อาจใช้พลังของมอนสเตอร์ที่แปลงเป็นได้ และจะไม่มีรูปร่างของมอนสเตอร์ตนนั้น
นอกจากนี้ แม้คุณสมบัติส่วนหนึ่งของการ์ดจะถูกจำกัด การ์ดแต่ละใบก็ยังสามารถใช้ได้แค่ชั่วโมงเดียว การใช้งานจะมีความคล้ายกับปกติ ผลของการเพิ่มพลังจะหายไปโดยอัตโนมัติหลังผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง
“กำลังใช้การ์ดแปลงร่างชั่วคราว x1 กำลังกำจัดกระบวนการแปลงร่าง....ระดับพลังท่านเพิ่มเป็นเพลิงทองชั่วคราว!”
เมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยว เฮย ระดับพลังของหลิน ฮวงก็ระเบิดออกมา ในเวลาไม่ถึงวินาที เขาก็เลื่อนจากเพลิงขาวเป็นเพลิงทอง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความสามารถเขาที่เพิ่มพูนอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ระเบิดจากหลิน ฮวง ยู่ เหวินปิงและวู่ ฟางก็ตกใจ จากนั้นก็เริ่มได้สติ
“แกสามารถเพิ่มระดับพลังได้!ระดับพลังจริงๆของแกคือเพลิงทอง...ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงฆ่าลู่ เฟิงได้”วู่ ฟางตกใจ จากนั้นก็ตระหนักว่าไม่มีใครมาแทรกแซงผลของการตรวจจับ ด้ายแห่งความตายกำลังชี้มาที่หลิน ฮวงเพราะหลิน ฮวงคือนายของมังกร!
การระเบิดพลังของหลิน ฮวงทำให้เกิดความสับสน ด้วยพลังเพียงเพลิงขาวเขา วู่ ฟางและยู่ เหวินปิงจึงสันนิษฐานว่าเขาคงควบคุมได้เพียงมอนสเตอร์ระดับเพลิงแดงหรือเพลิงฟ้า มันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะมีมอนสเตอร์เหนือกว่าเพลิงฟ้าในการครอบครอง แม้ว่าเขาจะสามารถอัญเชิญกลุ่มมอนสเตอร์ได้ การฆ่าระดับนิรันดร์ก็ยังเป็นไปไม่ได้เนื่องจากช่องว่างมันห่างเกินไป
นี่ทำให้ทั้งคู่คาดเดาผิดไปและคิดว่าคงมีใครบางคนมาแทรกแซงผลการตรวจจับเมื่อพวกเขาเห็นหลิน ฮวงในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระดับพลังเขาในตอนนี้คือเพลิงทอง มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติอีกต่อไป มันไม่ยากสำหรับเขาที่จะจัดการจิตวิญญาณแฝงระดับนิรันดร์และฆ่าลู่ เฟิง
“บัดซบ!แกกล้าหลอกฉัน!”ใบหน้าของยู่ เหวินปิงบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เขาไม่เคยคิดว่าจะถูกหลอกเอาสมบัติสูงสุดไป มันเป็นความอัปยศที่ไม่ว่าใครก็คงหัวเราะเยาะหลังผ่านไป1หมื่นปี
เขาสามารถจินตนาการได้จนกระทั่งวันที่เขาตาย ผู้คนที่เดินผ่านหลุมศพคงหัวเราะเยาะเขาไม่หยุดหย่อน’ดูสิ นี่มันหลุมศพของไอโง่ที่ถูกหลอกเอาสมบัติสูงสุดไปนี่!’
อารมณ์ของยู่ เหวินปิงพุ่งสูงขึ้นและสูงขึ้น ในไม่ช้า หอกสมบัติสูงสุดก็ก่อตัวขึ้นในมือเขา
มันเป็นหอกสีดำยาวซึ่งยาวประมาณ2เมตรและหนา7เซนติเมตร หากไม่สนใจปลายหอก มันจะดูราวกับไม้ยาวสีดำในมือยู่ เหวินปิง
มีลวดลายที่ละเอียดและซับซ้อนบนตัวหอก พวกมันถูกสลักลึกบนตัวหอกยาวที่เก็บเป็นความลับต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ด้วยลวดลายซัฐว้อนและแสงจางๆที่ปรากฏบนผิวหอก หลิน ฮวงสามารถระบุได้ว่าหอกยาวนั้นคล้ายกับเซโนเนียที่ลั่ว หมิงมอบให้เขา พวกมันล้วนเป็นสมบัติสูงสุด
“ตาย!”ยู่ เหวินปิงโจมตีโดยไม่ลังเล ทิ่มแทงหอกยาวใส่หลิน ฮวง ชั่ววินาทีที่ปลายหอกพุ่งออกไป เส้นสายสีดำก็พุ่งไปในอากาศราวกับลูกศร
มันดูราวกับที่เขากำลังถืออยู่ไม่ใช่หอกแต่เป็นปืนที่สามารถยิงกระสุนติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ในขณะนี้ เขาไม่ได้ดูเหมือนคนที่ใช้หอกเป็นอาวุธหลัก แต่กลับเหมือนมือปืนที่เชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกล
ประกายไฟสีดำสาดวูบในอากาศราวกับลูกศรที่พุ่งด้วยความเร็วเหนือเสียง ส่งผลให้เกิดโซนิคบูมในอากาศ มันตัดผ่านลมจนเกิดลมแรงซึ่งกวาดผ่านป่าด้านใต้มัน ต้นไม้ทุกต้นล้วนล้มลงเมื่อใดก็ตามที่หอกพุ่งผ่าน
เส้นสายพลังคล้ายกับฝนกระหน่ำ ตอบสนองต่อความโกรธของยู่ เหวินปิงราวกับเขาอยากระบายความโกรธกับหลิน ฮวง
มันเกิดประกายไฟสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ทว่า หลิน ฮวงกลับไม่ได้เป็นกังวลเลน เขาแสยะยิ้มและก้าวไปข้างหน้า จากนั้นก็หายไปในพริบตา
ใช่ เขาไม่ได้ขยับหลบแต่กลับพุ่งใส่อากาศตรงหน้า
แทบจะในเวลาเดียวกับเมื่อหลิน ฮวงหายไป ลำแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็เข้าปกคลุมจุดที่หลิน ฮวงเคยยืนทุกทิศทาง
ลำแสงสีดำกระทบกับพื้นและเกิดเสียงดังกึ่งก้องไปไกลหลายพันกิโลเมตร
พื้นดินสั่นไหวและแผ่นดินไหวก็ดูเหมือนจะกินขอบเขตรัศมีกว่าสิบกิโลเมตร มันคล้ายกับการปะทุของภูเขาไฟ
หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดการโจมตีก็หยุด ก่อนที่หมอกจะกระจาย ผู้คนก็สามารถเห็นได้ว่าผิวดินทั้งหมดดูเหมือนกับหลุมอุกกาบาตก็ไม่ปาน หลุมขนาดใหญ่จำนวนมากที่ลึกกว่าร้อยเมตรเกิดขึ้นไปทั่ว ทำให้มันคล้ายกับผิวดวงจันทร์
ภายใน4กิโลเมตร ไม่มีร่องรอยของพืชพรรณ ทุกอย่างล้วนถูกกวาดออกไปโดยการโจมตี มีเพียงพื้นดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยหลุม
“แค่หาศพยังยากเลย...”วู่ ฟางตบหน้าผาก รู้สึกอับจนปัญญา เขาไม่เคยรู้ว่ายู่ เหวินปิงจะถูกความโกรธบังตาจนไม่คิดจะพาศพเขากลับไปแล้ว
“เอ๊ะ...”จากนั้นยู่ เหวินปิงก็ได้สติและนึกได้ว่าเขาต้องรายงานกับลู่ หยวน ใบหน้าเขากลายเป็นแข็งค้าง
“เห้ย ทำไมถึงต้องคอยมองหาศพฉันกันด้วย?มีนิสัยเช่นนี้กันหรอ?”เสียงจู่ๆก็ดังจากป่า
ยู่ เหวินปิงและวู่ ฟางหันไปมองทันทีและเห็นหลิน ฮวงกำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่
หลิน ฮวงโบกมือให้พวกเขาและยิ้มอย่างหน้าด้าน“ทำไมพวกแกถึงมองหาฉันกันนะ?”
“มังกรแกได้ฆ่าหลานชายของผู้อาวุโสลำดับที่2ของเราไป”วู่ ฟางลังเลสักพักก่อนตอบเขา
“โอ้ แกกำลังพูดถึงไอคนที่ใช้วิญญาณต่อสู้นั่นนะหรอ?ฉันไว้อยู่แล้วว่าเขาไม่อาจควบคุมวิญญาณต่อสู้เช่นนั้นได้ มันเป็นเพราะเขามีใครหนุนหลังนี่เอง”จากนั้นหลิน ฮวงก็ยอมรับ“มอนสเตอร์อัญเชิญฉันฆ่าเขาไปจริงๆ”
ยู่ เหวินปิงและวู่ ฟางได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลังได้ยินสิ่งที่เขาพูด คำอธิบายของหลิน ฮวงตรงกับสิ่งที่ลู่ เฟิงเป็น พวกเขายืนยันได้ว่าหลิน ฮวงคือฆาตรกร
“เนื่องจากแกเป็นคนยอมรับเอง นั่นก็ง่ายสำหรับเรา”ยู่ เหวินปิงยิ้มขมขื่น“เจ้าหนู จงเลือกซะ แกจะยอมไปกับเราดีๆหรือจะให้เราเอาศพแกกลับไป?”
“ฉันไม่ค่อยสนใจจะเป็นสมาชิกนักบุญสักเท่าไรเพราะฉันมักได้ยินว่าพวกนักบุญก็แค่กลุ่มคนโง่ที่ถูกล้างสมอง”หลิน ฮวงดูถูก
“แกรู้อะไรเกี่ยวกับเรา?”ยู่ เหวินปิงกล่าวด้วยน้ำเสียงลึก
“ฉันรู้ทุกอย่าง พวกแกกำลังแสร้งเป็นพวกนอกรีตเพื่อใส่ร้าย”หลิน ฮวงจ้องวู่ ฟาง เขาสามารถสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายวู่ ฟางนั้นอ่อนด้อยกว่าและเขาต้องเป็นพี่ชายของวู่ เทียน“โอ้ ใช่ ฉันรู้เรื่องทั้งหมดจากวู่ เทียน”
“เสี่ยว เทียน?!แกทำอะไรกับเขา?!”วู่ ฟางไม่อาจสงบอารมณ์ลงได้
“แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้เขารอดหลังได้ข้อมูล?แน่นอน ฉันฆ่าเขาไปแล้ว!”หลิน ฮวงตอบด้วยรอยยิ้ม