ตอนที่แล้วตอนที่ 260 จือโบตกอยู่ในอันตราย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 262 เจ้าตายข้าตาย

ตอนที่ 261 หญิงงาม สถานการณ์ของเจ้าน่าเป็นห่วง


ตอนที่ 261 หญิงงาม สถานการณ์ของเจ้าน่าเป็นห่วง

จือโบเคยพบเห็นความแข็งแกร่งของหวู่เฉิงหยี่ สมแล้วที่เขาเป็นศิษย์ของสำนักกระบี่เก้าดวงดรา ก่อนหน้านั้นจี่เซียได้ไล่ฆ่าเขาเป็นเวลากว่า 1 เดือน โดยไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แล้วจือโบล่ะจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร ?

แม้ว่าจือโบจะกัดฟันไว้แน่น นางก็ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา : หากข้ามอบวิธีการควบคุมสัตว์อสูรให้แก่เจ้า เจ้าจะปล่อยข้าไปได้ไหม ?

ข้าจะทำให้เจ้าไม่เจ็บปวด !! หวู่เฉิงหยี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

สีหน้าของโบเปลี่ยนไป นางกล่าวอย่างเย็นชา : ข้ามอบให้เจ้าแล้ว เจ้ายังจะฆ่าข้าอีก ?เจ้ายังมีคุณธรรมแห่งความเป็นมนุษย์หรือเปล่า ?

หวู่เฉิงหยี่หัวเราะอย่างเยือกเย็น : ความเป็นมนุษย์ ศีลธรรม ? ผู้แข็งแกร่งเป็นผู้ที่เหนือกว่าไม่จำเป็นที่เจ้าจะกล่าวความเป็นมนุษย์ ศีลธรรม ต่อข้า

ในขณะที่กล่าว สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไป ดวงตาประกายแพรวพราว ทันใดนั้นกลิ่นอายแห่งกระบี่ได้พุ่งโจมตีออกไป ในตำแหน่งที่ห่างจากขาของเขาเพียง 1 ฉือ

ได้ยินเสียงราวกับว่ากลิ่นอายแห่งกระบี่ได้ทิ่มแทงบางสิ่งบางอย่างโลหิตสีแดงได้ซึมออกมาจากด้านใต้พื้นดินนั้นคือแมลงควบคุมวิญญานที่จือโบวางเป็นกับดักเอาไว้

สารเลว !! หวู่เฉิงหยี่ตะโกนด่า แม้ว่าเขาจะพยายามป้องกันตนเองจากสตรีที่ดูสุงส่งจากอาณาจักรเทียนหล่าง แต่ไม่คิดว่าอีกเพียงน้อยนิดตนเองจะตกหลุมพรางที่นางวางเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะตนเองระมัดระวังอย่างมาก คงจะถูกแมลงเหล่านั้นแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย

มันเป็นสิ่งที่เจ้ารนหาเอง ข้าจะจับตัวเจ้าเอาไว้ จากนั้นจึงตัดมือและเท้าของเจ้า เพื่อให้เจ้าร้องขอความตาย ! ใบหน้าของหวู่เฉิงหยี่เต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ่า เขาตวัดกระบี่ที่อยู่ในมือ ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยแสงแห่งกระบี่ มันได้พุ่งโจมตีไปยังจือโบด้วยความเร็วที่ประดั่งแสงกระพริบแห่งสายฟ้า

สารเลว !!

จือโบสถบด่า เมื่อพบเจอกับบุรุษที่เยือกเย็นเช่นหวู่เฉิงหยี่ มันทำให้นางไม่สามารถที่จะคิดหาหนทางในการทำให้เขาตกหลุมพรางของตนเอง

จือโบหลบหนีจากการโจมตีด้วยความร้อนรอน ทันใดนั้น สองมือของนางเริงร่าใบมีดที่แหลมคมได้พุ่งโจมตีออกไป

กระบี่ของหวู่เฉิงหยี่ตวัดออกมาหลายครั้งโดยได้ป้องกันใบมีดที่พุ่งเข้ามา โดยได้ฟันมันจนกแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

สีหน้าของจือโบแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ นางกัดฟันอดทนต่อไป โดยสามารถหลบหนีจากตำแหน่งที่อันตรยได้อย่างยากเย็น บนไหล่ของนางถูกฟันด้วยกลิ่นอายแห่งกระบี่ของหวู่เฉิงหยี่

โอ๊ย !! เสียงร้องที่เจ็บปวดดังขึ้น ไหล่ของนางได้ถูกชะโลมด้วยโลหิตจนกลายเป็นสีแดง

แม้ว่าตนเองจะเป็นผู้เสียเปรียบ จือโบไม่ยอมที่จะนั่งรอความตาย นางหันหลังให้แก่หวู่เฉิงหยี่ และปลดปล่อยแมลงควบคุมวิญญานที่เหลือออกไปยังพื้นดินโดยคาดหวังว่าแมลงควบคุมวิญญานเหล่านี้จะสามารถแทรกซึ้มเข้าสู่ร่างกายของเขา

แต่เมื่อสักครู่ หวู่เฉิงหยี่เกือบจะตกหลุมพรางของนางในตอนนี้เขาจะประมาทเหมือนเช่นเคยได้อย่างไร ?

แสงประกายแห่งกระบี่ได้ม้วนแสงประกายที่ส่องสว่างมันได้ฉีกรัศมีบริเวณกว่า 10 จ้างออกภายใตการโจมตีของกระบี่ แมลงควบคุมวิญญานถูกฆ่าตายทั้งหมด

หากแมลงควบคุมวิญญานอยู่ในร่างกายของมนุษย์ มันจะแข็งแกร่งอย่างมาก มันไม่หวาดกลัวสิ่งใดนอกเสียจากความร้อย แต่ในขณะที่มันยังไม่ได้ปลูกฝังเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ มันเป็นเพียงแมลงทั่วๆไป กลิ่นอายแห่งกระบี่ของหวู่เฉิงหยี่แข็งแกร่งพอที่จะทำลายมันทั้งหมด

สีหน้าของจือโบซีดเซียว เมื่อสูญเสียแมลงควบคุมวิญญานที่เป็นหมากทีสำคัญที่สุด นางไม่รู้ว่าต้องจัดการกับหวู่เฉิงหยี่อย่างไร ในขณะที่จิตใจร้อนรน ดวงตาของนางประกายด้วยความประหลาดใจ นางจ้องมองไปยังด้านหลังของหวู่เฉิงหยี่ ใบหน้าปรากฏถึงความดีใจและความปลาบปลื้มที่สุด

สีหน้าที่เปลี่ยแปลงไปเพียงเล็กน้อยของนางไม่สามารถรอดพ้นจากการจ้องมองของหวู่เฉิงหยี่

เมื่อจิตใจรู้สึกถึงความผิดปกติ สีหน้าของหวู่เฉิงหยี่แปรเปลี่ยนเป็นความเยือกเย็นในทันที เขาไม่ควรจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ กระบี่ยาวได้พุ่งโจมตีนางเป็นครั้งสุดท้าย

ยังมิทันที่เขาจะปลดปล่อยกระบวนท่าแห่งกระบี่ ด้านหลังของเขากลับมีกลิ่นอายที่ตรึงเขาเอาไว้ หวู่เฉิงหยี่ขมวดคิ้ว เขาได้ตวัดกระบี่ออกไปด้านหลัง กลิ่นอายแห่งกระบี่ได้ส่งผลกระทบต่อการปิดผนึกบริเวณนั้น

ในขณะที่แสงแห่งกระบี่ได้ประกายออกไป หมัดสีแดงดั่งเปลวไฟได้พุ่งเข้ามา หมัดที่ปะทะกับสายลมที่ว่างเปล่า ซึ่งเต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลาย

เงาร่างของคนคนหนึ่งได้กระโดดลงมา

หวู่เฉิงหยี่ลอยออกไปอย่างแผ่วเบา เขาหันหน้ากลับมามองคนผู้นั้นด้วยความไม่เร่งรีบ เมื่อเห็นใบหนาของคนที่อยู๋ตรงหน้า เขาได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ : เป็นเจ้า !

ฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงละซิ ? หยางไค่หัวเราะและจ้องมองหวู่เฉิงหยี่ด้วยความตื่นเต้น

ก่อนหน้าที่บ่มเพาะพลังอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เขาต้องการที่จะกำจัดหวู่เฉิงหยี่ แต่ภายหลังเขาพบเจอกับจี่เซีย โดยได้ไล่ตามเขาเข้าไปในหมอกสีขาว จึงทำให้เสียโอกาสนั้นไป

แต่กลับไม่คิดว่าจะเจอหน้าเขาในสถานที่แห่งนี้ มันเป็นการพบเจอกับโอกาสที่มีค่า ช่างวิเศษอย่างยิ่ง !!

เขากดทับความดีใจของตนเองและหันไปมองจือโบที่อยู่ด้านข้าง เขาหยักคิ้วให้จือโบและกล่าวดอย่างเจ้าเล่ห์ : หญิงงาม สถานการณ์ของเจ้าไม่ปลอดภัย !! อืม หากข้ามาข้ากว่านี้ คงไม่ได้พบเจอเจ้าอย่างแน่นอน! จือโบจ้องมองหยางไค่ ใบหน้าเต็มไ่ปด้วยความดีใจ

เวลาผ่านไปหลายเดือน ในที่สุดเขาได้พบเจอกับหยางไค่อีกครั้ง จือโบไม่ทราบว่าต้องกล่าวความรู้สึกออกมาเช่นไร เดิมทีเขาคิดว่าชั่วชีวิตของตนจะไม่มีทางได้พบเจอกับเขาอีก ทำให้นางไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครทรมาณจิตวิญญานของตนเองอีก

แต่ในตอนนี้ ชั่วชีวิตของคนเราจะมีโอกาสที่ได้เจอกันอีกครั้ง แต่ในตอนนี้จือโบไม่กังวลว่าจิตวิญญานของตนเองจะถูกควบคุมและทรมาณ แต่นางกลับรู้สึกดีใจ ไม่ว่าอย่างไร ชีวิตของตนเองถือว่าปลอดภัย ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้มีชีวิตรอดออกไปก่อนค่อยวางแผนต่อไป

หยางไค่เอียงศีรษะ เขาจ้องมองนางและกล่าว : เจ้าไม่ใช่อัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์แห่งตำหนักหลิงหล่อ ทำไมถึงมีสภาพเช่นนี้ ?

เจ้าจะเข้าใจอะไร จือโบขบฟันแน่น : เจ้าระวังคนคนนี้ให้ดี เขาแข็งแกร่งมาก พลังลมปราณของเขาบริสุทธ์ยิ่งกว่าข้าหลายเท่า

หากเขาไม่แข็งแกร่งเขาจะไม่ใช่หวู่เฉิงหยี่ ! หยางไค่กล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่เยือกเย็น

การที่พลังลมปราณของเขาบริสุทธ์มากกว่าจือโบ เขาสามารถเข้าใจมันได้ บนร่างกายของหวู่เฉิงหยี่ต้องมีหยดวารีเปลวเพลิง เมื่อกลืนกินมันเข้าไปมันจะช่วยขัดเกลาพลังลมปราณ หากพลังลมปราณของมันไม่บริสุทธุ์จึงจะเป็นเรื่องที่แปลก

ข้าไม่คิดว่าคนอย่างเจ้าจะมีชีวิตรอดถึงตอนนี้ เจ้าโชคดีจริงๆ ! หวู่เฉิงหยี่กล่าวมองหยางไค่ด้วยความเหยียดหยาม

หากไม่โชคดี ข้าคงถูกศิษย์น้องของเจ้าฆ่าตั้งแต่แรก !! สายตาของหยางไค่ดั่งมีดที่แหลมคมอย่างสุดขีด

ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าต้องการชีวิตของเจ้า เจ้าไม่ควรที่จะปรากฏอยู่ตรงหน้าของข้า !คนคนหนึ่งคงไม่โชคดีตลอดไป หวู่เฉิงหยี่กล่าวด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น เขาไม่สะทกสะท้านกับการตายของจี่เจี่ยนซินแม้แต่น้อย

อยากสู้ก็สู้กันเลย พวกเจ้าทั้งสองเป็นบุรุษหนุ่มทำไมต้องกล่าวคำที่ไร้สาระเช่นนั้นด้วย ! จือโบเพิ่งถูกหวู่เฉิงหยี่โจมตีไปหลายครั้ง ในตอนนี้เมื่อยหยางไค่ปรากฏตัว เมื่อมีการช่วยเหลือจากหยางไค่ นางจึงต้องการที่จะเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้ง

นางทราบดีถึงความแข็งแกร่งของหยางไค่ หากมีเขาช่วยเหลือ เมื่อทั้งสองร่วมมือกันเพียงพอที่จะเอาชนะหวู่เฉิงหยี่

กล่าวได้ถูกต้อง !! หยางไค่พยักหน้า

ข้าต้องการเช่นนั้น !! หวู่เฉิงหยี่กล่าวสบถ เขากุมกระบี่ไว้ในมืออย่างแน่นหนา

หยางไค่เจ้าช่วยเหลือข้าอยู่ข้างๆ ข้าจะเผชิญหน้ากับเขาเอง !! จือโบกล่าวอย่างรีบร้อน

ไม่ เจ้าคอยช่วยเหลือ !! หยางไค่กล่าวกระชับและรัดกุม ทันทีที่กล่าวจบ เขาได้พุ่งไปยังทิศทางของหวู่เฉิงหยี่ ในขณะที่เข้าโจมตี พลังที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างฉับพลัน

เจ้า ... ดวงตาของจือโบประกายด้วยความตื่นตะลึง เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่กดทับของหยางไค่ด้วยความตื่นตกใจอย่างสุดขีด

เขาบรรลุเขตแดนลมปราณแท้จริง ? 4 เดือนก่อนที่แยกจากกัน เขตแดนของเขามีเพียงเขตแดนผสานลมปราณขั้นที่ 8 นอกจากนั้นยังเป็นเขตแดนผสานลมปราณขั้นที่ 8 ที่เพิ่งบรรลุ 4 เดือนที่ไม่เจอ เขากลับบรรลุไปยังเขตแดนลมปราณแท้จริง การก้าวข้ามและบรรลุของเขารวดเร็วอย่างยิ่ง

เมื่อครุ่นคิดไปมา จือโบเข้าใจในที่สุด บุรุษผู้นี้เป็นบุรุษหนุ่มที่แปลกประหลาด การที่เขาสามารถก้าวข้ามเขตแดนจนบรรลุเขตแดนลมปราณแท้จริงคงไม่ใช่เรื่องที่แปลก

เพียงพริบตา หยางไค่ได้พุ่งปะทะกับหวู่เฉิงหยี่ หวู่เฉิงหยี่ปลดปล่อยกระบวนท่าแห่งกระบี่ มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเกรี้ยวโกรและเจตนาแห่งการฆ่าที่รุนแรง หมัดทั้งสองของหยางไค่พุ่งโจมตีด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า ในขณะที่เขาลอยตัว กลิ่นอายแห่งความร้อนระอุได้ถูกปลดปล่อยออกมา ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำ

พลังแห่งฟ้าดินวุ่นวายอย่างผกผัน ลมวายุรอบบริเวณก่อกำเนิดขึ้น จือโบหรี่ตาลงด้วยความจำใจ เขาต้องการที่จะช่วยเหลือ แตไม่รู้ว่าต้องเข้าไปแทรกอย่างไร !

เพียงการโจมตีในครั้งแรก พวกเขาทั้งสองก็ได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของตนเอง โดยไม่มีการปิดกั้น กลิ่นอายแห่งพลังและกลิ่นอายแห่งการฆ่าได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง ในตอนนี้แม้ว่าจือโบที่แข็งแกร่งต้องการจะเข้าไปช่วยเหลือ ก็ไม่สามารถเข้าแทรกซึมการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองได้

แล้วนางจะมีความกล้าในการทำเช่นนั้นได้อย่างไร ?

หยางไค่บอกให้นางช่วยเหลือ ดูเหมือนว่าเป็นคำกล่าวที่ไว้หน้าแก่นาง ในตอนนี้จือโบทำได้เพียงจ้องมองเหตุการร์การต่อสู้อยู่ข้างๆ โดยไม่สามารถทำอะไรได้

ไอ่บ้า !! จือโบกล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่ขมขื่น แต่นางได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาว โดยได้ถอยออกไปราวกับใบไม้ นางได้บินถอยออกไปกว่า 100 จ้าง จึงหยุดลง

ในการต่อสู้ที่รุนแรง ใบหน้าของหวู่เฉิงหยี่เผยให้เห็นความตื่นตกใจและความไม่เชื่อ เขาไม่คาดคิดว่าคนที่ถูกเขากล่าวว่าเป็นเศษสวะที่ไร้ค่่่่า กำลังต่อสู้กับตนเอง เมื่อกลิ่นอายแห่งกระบี่เพิ่งถูกจุดประกาย มันได้ถูกทำลายจากหมัดที่บ้าคลั่งของเขา หลังจากที่กระบวนท่าของเขาถูกปลดปล่อยออกมา กระบวนท่าแห่งกระบี่ของตนเองเคลื่อนไหวอย่างพริ้วไหว ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคาดเดาทิศทางของมันได้

ระยะเวลาสั้นๆประมาณครึ่งก้านธูป ฝ่ายตรงข้ามได้ต่อต้านและโจมตีเขาถึงหลายกระบวนท่า พลังลมปราณของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ ในตอนนี้จิตใจของหวู่เฉิงหยี่เริ่มกระวนกระวายขึ้นเรื่อยๆ แต่หยางไค่ที่ยิ่งต่อสู้ยิ่งบ้าคลั่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างสุดขีด ราวกับปีศาจที่หิวกระหายที่กำลังปลดเปลื้องผ้าของสตรีที่งดงาม

ปัง .ในที่สุดทั้งสองได้แยกออกจากกัน

เสียที่อึมครึมของหวู่เฉิงหยี่ดังขึ้น เขาบินออกไป มุมปากเผยให้เห็นโลหิตสีแดง

หยางไค่ถูกโจมตีเช่นเดียวกัน ช่องท้องของเขามีรอยฟันจากกระบี่หลายแห่ง โลหิตสีแดงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

ต่างคนต่างถอยออกไปประมาณ 30 จ้าง ในที่สุดพวกเขาจึงได้หยุดฝีเท้าลง

ฮ่าฮ่า !! สะใจ !! แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่หยางไค่ยังคงหัวเราะออกมา

นี้สิถึงจะเรียกกว่าการต่อสู้ที่แท้จริง มันทำให้เขารู้สึกสนุก ในขณะที่ต่อสู้กับุรุษที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าเขาจะเกลียดชังหวู่เฉิงหยี่ และยังมีความแค้นต่อเขา แต่หยางไค่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า คนคนนี้มีความสามารถอย่างแท้จริง

เพราะเขาครอบครองเขตแดนผสานลมปราณขั้นที่ พลังลมปราณแท้จริงของเขาบริสุทธ์อย่างยิ่ง แม้แต่พลังลมปราณแท้จริงของตนเองยังไม่สามารถเทียบได้ !

เจ้าร้ายกาจมาก !! หวู่เฉิงหยี่จ้องมองหยางไค่ด้วยความลึกซึ้ง ดวงตาประกายด้วยความรู้สึกแห่งความเจ็บปวด เขาไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าเจ้าเด็กที่ถือกำเนิดในสำนักอันดับ 2 จะสามารถต่อสู้กับตนเองอย่างสูสีเช่นนี้

กล่าวชมเกินไป หยางไค่กล่าวตอบอย่างเยือกเย็น

ข้ายอมรับ ก่อนหน้านี้เข้าประเมินเจ้าต่ำไป !! ดูเหมือนว่าศิษย์น้องของข้าคงไม่ตายเพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่เขาตายอยู่ในมือของเจ้า หวู่เฉิงหยี่ค่อยๆตวัดกระบี่ของเขา เจตนาแห่งการฆ่าได้ถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง

เจ้าส่งให้เขามาลอบฆ่าข้า มันทำให้ข้าคิดถึงจุดนี้

เจ้ายอมรับก็ดี !! หวู่เฉินหยี่ได้เคลื่อนไหวกระบี่ของเขาอีกครั้ง

อยากแก้แค้น ? หยางไค่หัวเราะอย่างเยือกเย็น

เขาตาย เป็นเพราะเขาร่ำเรียนมาไม่เพียงพอ โทษใครไม่ได้ !! แต่ในวันนี้ ในเมื่อเจ้ากล้าเป็นศัตรูกับข้า อย่าคิดที่จะมีชีวิตรอดออกจากสถานที่แห่งนี้ ! ใบหน้าของหวู่เฉิงหยี่ปรากฏกลิ่นอายแห่งความโหดเหี้ยม เขากล่าวด้วยสุ้มเสียงที่ต่ำทุ้ม ศักดิ์ศรีแห่งสำนักกระบี่เก้าดวงดาราไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเหยียบย่ำได้ ! ศักดิศรีของข้าหวู่เฉิงหยี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเหยียบย่ำ !! แม้ว่าจะเป็นคุณชายแห่ง 8 ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองหลวง ยังไม่กล้าที่จะจ้องมองข้าโดยตรง แล้วจะเป็นใครถึงทำเช่นนี้ !!

กระบี่แห่งกายา !! เสียงที่ต่ำทุ้มดังขึ้น กลิ่นอายแห่งกระบี่ที่ล่องลอยอยู่รอบบริเวณของหวู่เฉิงหยี่ดังขึ้นอย่างไม่หยุด มันได้แปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของกระบี่ ลอยบินอยู่ภายนนอกร่างกายของเขา มันสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ

เคล็ดวิชาแห่งการโจมตีเช่นนี้ หยางไค่เคยสัมผัสกับมันในขณะที่ต่อสู้กับจี่เจี่ยนซิน แต่ในตอนนี้มันถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของหวู่เฉิงหยี่ เป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง

แต่ว่ากระบี่เหล่านี้ซ่อนเร้นพลังแห่งการฆ่าที่มากมายมหาศาล

คลานเข้ามารับความตาย ข้าจะทำให้เจ้าไม่เจ็บปวด ! ราวกับว่าหวู่เฉิงแปรเปลี่ยนเป็นคนละคน สีหน้าของเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กระบี่ยาวพุ่งชี้ไปที่หยางไค่ด้วยความโหดเหี้ยม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด