ตอนที่แล้วตอนที่ 251 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 253 ความงามที่แตกต่าง

ตอนที่ 252 อย่าเล่นตลกกับข้า


ตอนที่ 252 อย่าเล่นตลกกับข้า

หยางไค่กล่าวถามด้วยใบหน้าที่คิ้วขมวด : เจ้ามีวิธีการที่จะนำพวกมันออกมาไหม ?

มันไม่ใช่แมลงควบคุมวิญญาณที่ข้าปลุกฝังลงไป !! จือโบพยักหน้า และกล่าวตอบอีกครั้ง : การที่ให้พวกมันอยู่ในร่างกายก็ไม่ได้เป็นอันตาย พวกมันเพียงดูดซึมพลังลมปราณเพียงเล็กน้อยเพื่อดำรงชีวิตต่อไป เมื่อไม่มีคนสั่งการ พวกมันจะไม่ทำร้ายพวกเจ้าอีก เมื่อพวกเจ้าบ่มเพาะพลังจนถึงเขตแดนเทพสวรรค์ พวกเจ้าจะสามารถเชื่อมต่อจิตวิญญาณกับมัน และบีบเค้นให้มันออกมา หรือเมื่อกลับไปถึงสำนักแล้ว ให้ผู้อาวุโสของพวกเจ้าลงมือ

นี้เป็นเพียงแมลงควบคุมวิญญาณที่อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด นอกจากพวกมันจะหวาดกลัวความร้อน จิตวิญญานถือเป็นอาวุธที่ร้ายกาจสำหรับพวกมัน

แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่สีหน้าของทุกคนต่างขมวดด้วยความกังวล

พวกเขาต่างไม่เชื่อในคำกล่าวของจือโบ

นอกจากนั้น แม้ว่าสิ่งที่จือโบกล่าจะเป็นความจริง พวกเขาต่างรู้ว่าจุดตันเถียนของพวกเขามีแมลงที่น่ารังเกียจดำรงอยู่ พวกเขาต่างรู้สึกว่ามันไม่เป็นตัวของตัวเอง หากในการต่อสู้แห่งความเป็นความตายแมลงตัวนี้ได้มีการเคลื่อนไหว อาจจทำให้เกิดเป็นภัยอันตรายอันใหญ่หลวงต่อพวกเขาก็เป็นได้

จือโบมองเห็นสีหน้าของทุกคน นางกลับหัวเราะด้วยความเหยียดหยาม : แต่หากพวกเจ้าต้องการที่จะนำแมลงออกจากร่างกายของพวกเจ้า ข้ามีวีการ แต่ไม่รู้ว่าพวกเจาจะยินยอมทดสอบหรือไม่ !

สีหน้าของทุกคนจ้องมองหยางไค่ด้วยความขมขื่น

พวกเขาไม่เชื่อจือโบ หากว่าสตรีแห่งอาณาจักรเทียนหล่างลงมือบางอย่างจนควบคุมพวกเขาไว้ละก็.........

แต่หากไม่ตกลง พวกเขาทุกคนต่างรู้สึกไม่สบายใจ จุดตันเถียนของพวกเขามีแมลง ไม่ว่าจะให้คิดอย่างไรก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง

จือโบหัวเราะอยู่ยบริเวณนั้น โดยพึงพอใจกับความต้องการของตนเอง นางจึงกล่าว : ประมุของข้าช่วยพวกเจ้าได้

ประมุขของเจ้า......... เฉินเซี่ยซูสบถด้วยเสียงที่แผ่วเบา

หยางไค่ไม่พึงพอใจต่อคำกล่าวของจือโบ เขาจ้องเขม็งจือโบด้วยสายตาที่เกรี้ยวโกรธ

ศิษย์น้องหยาง เจ้า........รับนางเป็นทาสรับใช้ของเจ้า ? เฉินเซี่ยหวูกล่าวถามด้วยใบหน้าที่เขิลอาย ซูเสี่ยวหยี่ที่อยู่ข้างเคียงจ้องเขม็งเขาด้วยสายตาที่ดุดัน โดยนางได้ขย้ำไปยังใบหน้าของเฉินเซี่ยซู จนเขาไม่สามารถที่จะกล่าวอะไรอีก !!

นางกล่าวไปเรื่อย !! หยางไค่ปฏิเสธ เขาสูดลมหายใจเข้าขมวดคิ้วและกล่าว : แต่ข้ามีหนทาง แต่ข้าไม่เคยทดสอบในร่างกายของมนุษย์

แมลงควบคุมวิญญาณหวาดกลัวความร้อน พลังลมปราณหยางเป็นดาวข่มของมัน ในตอนนีไร้ซึ่งการควบคุมจากเหยาซีและเหยาเหอ หากตนเองเปิดใช้พลังลมปราณหยาง ก็คงจะสามารถบีบเค้นให้มันออกจากร่างกายของพวกเขาได้

ก่อนหน้านั้นหยางไค่ใช้วิธีการนี้ จึงสามารถบีบเค้นให้แมลงควบคุมวิญญาณออกมาจากร่างกายของเสือดาวเงาลวงสายฟ้า ทำให้เขาทราบถึงความลับของแมลงควบคุมวิญญาณตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

แต่หากเป้าหมายเป็นมนุษย์ละก็ หยางไค่ไม่กล้าที่จะรับรอง พวกเขาทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะของแต่ละสำนัก แมลงควบคุมวิญญาณอาศัยอยู่ในจุดตันเถียนที่เป็นจุดอ่อนแอและเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของพวกเขา ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจจะสร้างผลลัพธุ์ที่หนักหนาสาหัส

เมื่อเห็นหยางไค่ลังเลเช่นนี้ จิตใจของทุกคนต่างเป็นกังวล

ทดสอบในร่างกายของเข้า ! หลี่ซินหยุนแห่งตำหนักค้นใจกล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนแด ใบหน้าประกายด้วยรอยยิ้มที่ทุกข์ทรมาณ : เพราะการบ่มเพาะพลังของข้าถูกทำลาย หากสามารถทำให้ศิษย์น้องหยางมีความคุ้นชินต่อการทดสอบ มันจะถือว่าเป็นการแบ่งเบาภาระต่อพี่น้องทุกคน

โจวฟางกล่าวในทันที : ศิษย์พี่ อย่ากล่าวเช่นนี้ จุดตันเถียนถูกทำลายมีโอกาสที่จะฟื้นฟูมัน เพียงการค้นหาโอสถที่วิเศษก็เพียงพอ หากจะทดสอบ ให้ข้าเป็นคนทดสอบคนแรก !

ศิษย์น้อง หลี่ซินหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น : ศิษย์พี่ไม่มีสิ่งใดให้กังวล แม้ว่าศิษย์น้อ้งหยางจะล้มเหลว มันก็เพียง 1 ชีวิต ? การมีมีชีวิตเช่นนี้ มันเหมือนตายทั้งเป็นที่ทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัส

พวกเจ้าไม่ต้องแย่งกัน ! ตัวข้ายังไม่สามารถคาดเดาโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ หยางไค่ขมวดคิ้ว จากนั้นจึงยื่นมือเรียกจือโบ

มีอะไร ? จือโบกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ แต่ก็ยังเดินเข้ามายังเชื่อฟัง

การที่นางเชื่อฟังเช่นนี้ ยิ่งทำให้สีหน้าของผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง พวกเขาต่างคิดว่าความสัมพันธุ์ระหว่างหยางไค่และนางคงเป็นทาสรับใช้และนายผู้อยู่เหนือหัว ?

สิ่งที่เกิดขึ้นน่าแปลกใจอย่างยิ่ง

กล่าวบอกแก่เข้า ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ หยางไค่กล่าวถามด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

จือโบคิดไต่ตรองและกล่าวบอก เป็นวิธีเดียวกันกับการทำลายแมลงควบคุมวิญญานในร่างกายของเสือดาวเงาลวงสายฟ้า แต่การกระทำของเขาต้องระมัดระวังให้มากกว่า หรือไม่ก็แผดเผาราวกับสายฟ้าที่กำลังผ่าลงมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้เวลาในการตอบสนองต่อมัน หรือไม่ก็ใช้วิธีการที่นุ่มนวลในการบีบเค้นให้มันออกมา ห้ามให้มันรู้สึไม่ปลอดภัย เมื่อบีบเค้นมันจนตื่นตระหนก ไม่แน่ว่ามันอาจจะทำลายจุดตันเถียนก็เป็นได้

เมื่อเข้าใจในจุดนี้ หยางไค่นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวถามทุกคน : พวกเจ้าแน่ใจว่าต้องการให้ข้าลวมือ ?

กลุ่มคนทั้งหมดต่างพยักหน้า

งั้นดี ข้ามั่นใจเพียงว่าข้าจะพยายามช่วยพวกเจ้าทำลายมัน แต่ ...ผลที่ตามมาพวกเจ้ารับผิดชอบอีก !

หยางไค่ไม่อยากทนรับผิดเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ฮันเสี่ยวชีกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ : มันต้องเป็นเช่นนั้น พวกเราเชื่อว่าเจ้าสามารถทำได้

คนอื่นๆไม่มีข้อคิดเห็น พวกเขาต่างเห็นด้วยกับคำกล่าวของเขา

หยางไค่พยักหน้า เขาคบคิดเป็นเวลานาน เขาตัดสินใจที่จะใช้วิธีการที่ 2 แม้ว่าวิธีการที่ 1 จะรวดเร็วแต่มันมีความผิดพลาดค่อนข้างสูง หากควบคุมไม่ดี อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่คนอื่นๆ

เขาจ้องมองหลี่ซินหยุนและกล่าว : ข้าจะทดสอบกับร่างกายของเจ้าก่อน !!

หลี่ซินหยุนยิ้มและพยักหน้าเบาๆ โจวฟางยังต้องการที่จะกล่าวออกมา แต่กลับถูกหลี่ซินหยุนถลึงตาใส่

เขาฉีกเสื้อออก เผยให้เห็นหน้าท้อง ทำให้สตรีทั้ง 4 แห่งวังบุพผาหมื่นปีเขิลอาย แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะหันหน้ากลับไปเพื่อพลาดต่อเหตุการณ์ที่สำคัญ โดยจ้องมองด้วยใบหน้าและใบหูที่แดงก่ำ

หยางไค่ยื่นมือทาบไปยังหน้าท้องบริเวณจุดตันเถียนของหลี่ซินหยุน เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆตั้งสมาธิด้วยความตั้งใจ ควบคุมพลังลมปราณหยางของตนเอง และค่อยๆถ่ายทอดไปยังร่างกายของหลี่ซินหยุน

หลังจากนั้นไม่นาน หยางไค่รู้สึกถึงบริเวณที่แมลงควบคุมวิญญานอาศัยอยู่ เขาเคลื่อนไหวการรับรู้ทางจิตวิญญาน และเริ่มระมัดระวังยิ่งขึ้น พลังลมปราณค่อยๆแปรเปลี่ยนเส้นไหมพันหมื่นเส้นและค่อยๆโอบอุ้มไปยังแมลงควบคุมวิญญาน ในขณะที่มันยังไม่มีท่าทีตอบสนองหยางไค่ได้ห่อรัดมันเป็นก้อนกลมๆเอาไว้ในทันที

สีหน้าของหลี่ซินหยุนแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในทันที ในตอนนี้เขาเป็นเพียงคนพิการ เมื่อพลังลมปรารที่ร้อนระอุแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย มันยากต่อการต้านทาน แต่ว่าเขามีความอดทนที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าท้องของเขาจะเหมือนว่ากำลังถูกแผดเผาอย่างสุดขีด แต่เขายังคงกัดฟันทนด้วยความแข็งแกร่งโดยไม่ส่งเสียงร้อง เขาฝืนกลั้นมันจนเส้นเอ็นที่น่าผากปรากฏอย่างเด่นชัด เหงื่อแห่งความเหนื่อยล้าไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

หยางไค่จ้องมองเขาและกล่าว : อดทนหน่อยน่ะ

สิ้นเสียงคำกล่าว หยางไค่ค่อยถ่ายเทพลังลมปราณหยางเข้าไปอีก เพื่อบีบเค้นแมลงควบคุมวิญญานที่ถูกห่อหุ้มให้ออกมา แมลงควบคุมวิญญานดิ้นรนและต่อต้านอย่างสุดกำลัง เมื่อเป็นเช่นนี้มันยิ่งทำให้หลี่ซินหยุนรู้สึกเจ็บปวดทรมาณ โจวฟางที่เป็นศิษย์น้อง จ้องมองอยู่ด้านข้างด้วยหัวใจที่อ่อนแด จิตใจของเขาสั่นไหวจนเขาต้องปาดน้ำตาแห่งความเศร้าอย่างไม่หยุด

หลังจากนั้นไม่นาน แมลงควบคุมวิญญานถูกบีบเค้นให้ออกจากตำแหน่งจุดตันเถียน เมื่อถึงจุดนี้ หยางไค่ได้ปล่อยมือ โดยไม่ต้องกังวลอีก เขาค่อยปลดปล่อยพลังลมปราณหยางที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ผ่านไปเพียงระยะเวลาสั้นๆ ทุกคนต่างมองจุดเล็กๆที่ปรากฏอยู่บนช่องท้องของหลี่ซินหยุน หยางไค่กระทำอย่างรวดเร็ว โดยที่เขาได้ยื่นมือเฉือนตำแหน่งนั้นจนกลายเป็นรูเล็กๆ และจับแมลงควบคุมวิญญานออกมา แผดเผามันจนกลายเป็นเถ้าธุรี

ในเวลาเดียวกัน หลี่ซินหยุนถอนหายใจอย่างแผวเบา เขาค่อยๆทรุดลงไปที่พื้นดิน

ศิษย์พี่ !! สีหน้าของโจวฟางซีดขาว เขารีบพยุงหลี่ซินหยุนอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น หลี่ซินหยุนค่อยๆลืมรตราด้วยความอ่อนแอ เขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่แผ่วเบา : ทรมาณเหลือเกิน ..แต่ ถือว่าเป็นอิสระแล้วเช่นกัน

เมื่อเห็นเขาปลอดภัย ความกังวลของทุกคนได้ผ่อนคลายลง

หยางไค่มีความมั่นใจมากขึ้น เขาจ้องมองไปทั่วบริเวณและกล่าว : คนต่อไป ใคร ?

ข้าเอง !! เฉินเซี่ยซูกล่าวโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาจึงนั่งขัดสมาธิตรงหน้้าของหยางไค่

เมื่อมีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ การกระทำของหยางไค่ในครั้งต่อไปต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนแต่ว่าเฉินเซี่ยซูแตกต่างจากหลี่ซินหยุน ภายในร่างกายของเขามีพลังลมปรารแท้จริง ไม่ว่าเขาจะปล่อยวางแค่ไหน พลังลมปราณจะต่อต้านพลังลมปราณหยางของหยางไค่ด้วยตัวมันเอง ทำให้หยางไค่ต้องถ่ายเทพลังลมปราณหยางที่มากกว่าเดิม เป็นเวลานานกว่าที่เขาจะสามารถบีบเค้นให้แมลงควบคุมจิตวิญญานออกมาได้

พวกเขาค่อยๆ เข้ามาทีละคน ทีละคน กลุ่มคนแห่งอาณาจักรฮั่นมีประมาณ 17-18 คนมันทำให้หยางไค่เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก

หลังจากที่ดำเนินการเป็นเวลากว่าครึ่ง ในตอนนี้เหลือเพียงสตรีแห่งอาณาจักรฮั่น

เย่วชิงซือจากนิกายซิ่วหล่อ ฟงเชียนเหิงจากหอวารีจันทรา ซูเสี่ยวหยี่แห่งสำนักจันทราซ่อนเร้น และสตรีทั้ง 4 แห่งวังบุพผาหมื่นปี

ในกลุ่มสตรีเหล่านี้ นอกเสียงจากเย่วชิงซือที่งดงาม คนอื่นๆ ต่างเขิลอายจนใบหน้าและใบหูแดงก่ำ พวกนางจ้องมองกันไปกันมา โดยเต็มไปด้วยความเขิลอาย

ไม่มีเหตุผลอื่น เพราะในขณะที่หยางไค่บีบเค้นแมลงควบคุมวิญญาน มือของเขาทาบลงที่ช่องท้องในตำแหน่งของจุดตันเถียน

จุดตันเถียน เป็นช่องท้อง และยังเป็นหน้าท้องที่งดงามของพวกนาง ..

เมื่อคิดเช่นนี้ เหล่าสตรีต่างอับอายอย่างสุดขีด

เย่วชิงซือยิ้มที่มุมปากและกล่าว : ข้าก่อน สตรีอย่างพวกเจ้า จะเขิลอายไปทำไม ? เขาไม่กินพวกเจ้าสักหน่อย

แค่กแค่ก . หยางไค่กล่าวอย่างสุภาพ : อย่าเล่นสนุกกับข้า

?

สีหน้าของบุรุษที่อยู่รอบบริเวณแปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจในทันที

เย่วชิงซือนั่งขัดสมาธิลง ดวงตาของนางแวววาวดั่งวารี นางยิ้มอย่างมีเสน่ห์ และจ้องมองหยางไค่ด้วยดวงตาที่กลมโต จากนั้นจึงค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตนเอง

ชู่วชู่ว ฮึ่ม ฮึ่ม ..

เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงดังขึ้น

เย่วชิงซือมีทรวงอกที่อวบอิ่ม ราวกับน้ำผึ้งที่หอมหวาน ใบหน้าที่งดงาม เรือนร่างที่เย้ายวน สตรีที่มีลักษณะเช่นนี้มีเสน่ห์ที่ดึงดูเหล่าบุรุษอย่างมาก

ในขณะที่นางกำลังจะปลดเสื้อของนาง ในขณะที่ทรวงอกที่อวบอิ่มกำลังจะเผยต่อหน้าสาธาณชน สายตาของบรุษหนุ่มต่าจับจ้องอย่างไม่วางตา ใครกันเล่าจะอยากพลาดสิ่งที่สวยงามเช่นนี้ ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด