ตอนที่แล้วตอนที่ 249 ข้านี้แหละจอมยุทธุ์แห่งอาณาจักรอั่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 251 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ตอนที่ 250 ข้าจะเล่นสนุกับเจ้าเอง


ตอนที่ 250 ข้าจะเล่นสนุกับเจ้าเอง

ระวังปากของเจ้าเอาไว้ให้ดี !! ซูเสี่ยวหยี่ก้าวเข้ามาและกล่าวตักเตือน เดิมทีนางยังคิดสงสารและเห็นใจที่เขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าเจ็บปวด แต่ในตอนนี้เขากลับไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี เขาสบถด่าแม้แต่ศิษย์พี่ของตนเอง ความรู้สึกที่เห็นใจพลันหายไปราวกับหมอกควันที่สลายไปในอากาศ

เฉินเซี่ยซูดึงนางเอาไว้ เขาพยักหน้าให้แก่นางอย่างแผ่วเบา

นิสัยของเฉินเซี่ยซูไม่เลว เขารู้ว่าคนคนนั้นได้รับความเจ็บปวดที่หนักหนาสาหัส ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขา

แต่ใครจะรู้ว่าเขาได้ลุกขึ้นอย่างฉับพลัน เขาจ้องมองจือโบและตะโกนด่าด้วยความหยาบคาบ : นางแพศยา หากเจ้าไม่คิดหาหนทางในการรักษาจุดตันเถียนของข้า ข้าจะทำให้ชีวิตของเจ้าเหมือนอยู่อย่างตายทั้งเป็น !

จือโบมิใช่สตรีที่มีจิตใจอ่อนหวาน ระยะเวลาที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ไม่สามารถควคุมความเป็นความตายของตนเอง ต้องอยู่กับหยางไค่ด้วยความหวาดกลัว หลังจากนั้นยังถูกศิษย์พี่น้องในสำนักเดียวกันทรยศหักหลัง ความเกลียดความโกรธทั้งหมดถูกสั่งสมจนกลายเป็นไฟแห่งความเกรี้ยวโกรธ เมื่อได้ยินคำกล่าวที่ข่มขู่เช่นนี้ อารมณ์ของนางเริ่มมา นางยิ้มด้วยความเยือกเย็นและกล่าว : เจ้านะหรอ ? แม้ว่าข้จะทราบวิธีการในการช่วยเจ้า หรือ ไม่ทราบ ข้าก็ไม่มีทางช่วยเจ้า !

คำกล่าวนี้เป็นเพียงคำกล่าวแห่งการประชดประชัน แต่ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่คนคนนั้นได้ยินเขาจะแสดงสีหน้าที่ดีใจอย่างสุดขีด เขาจับแขนของปี่ซูหมิงไว้แน่นและกล่าวด้วยความดีใจ : ศิษย์พี่ ท่านได้ยินไหม ? นางมีวิธีในการช่วยเหลือข้า เร็ว จับนางเอาไว้ ให้นางช่วยข้า ! ข้าไม่อยากกลายเป็นคนพิการ !!

สีหน้าของปี่ซูหมิงลังเลอย่างไม่มั่นคง หลังจากนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างช้าๆ และกล่าวปลอบโยน : ได้ ! หากนางไม่ช่วยเจ้า เขาจะทำลายการบ่มเพาะพลังและวิชายุทธุ์ของนาง ให้นางกลายเป็นทาสรับใช้ของเจ้า รับใช้เจ้าตลอดชีวิต

ทันทีที่กล่าวจอบ เขาค่อยๆลุกขึ้น และหันหน้าจ้องมองจือโบด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

จือโบแสดงสีหน้าแห่งความโหดเหี้ยม และจ้องมองออกไปด้วยความเยือกเย็น

พวกเจ้ากำลังจะทำอะไร ? เฉินเซี่ยซูก้าวออกมาทำลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น : ปี่ซูหมิงเจ้าก็น่าจะรู้ว่าคำกล่าวของนางเป็นเพียงการประชดประชันจากความโกรธ นอกจากนั้นนางยังเป็นคนช่วยชีวิตพวกเรา หากไม่ใช่เพราะนางร่วมมือกับหยางไค่แสดงละครแสแสร้ง พวกเราคงไม่สามารถหนีพ้นจากการควบคุมของเหยาซีและเหยาเหอ เจ้าไม่รู้บุญุคุณของนางก็ไม่เป็นไร แต่เจ้ายังคิดที่จะลงมือกับนาง ?

ช่วยชีวิตพวกเรา ? ปี่ซูหมิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น : หากไม่ใช่เพราะนางร่วมมือกับเศษสวะทั้ง 2 ที่โจมตีพวกเราพร้อมๆกัน พวกเราจะถูกกักขังเช่นนี้ได้อย่างไร ? นางช่วยพวกเรา ? มันเป็นการรักษาชีวิตของนาง !!นางช่วยตัวของนางเอง เฉินเซี่ยซู เจ้ารู้ว่าเจ้ามีเจตนาดี แต่เรื่องเช่นนี้ เจ้าไม่ต้องยุ่ง !!

เฉินเซี่ยซูขมวดคิ้วไว้แน่น แม้ว่าเขาจะไม่ชื่นชอบปี่ซหมิง แต่เขามิอาจไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ปีซูหมิงกล่าวเป็นเรื่องจริง !!

ก่อนหน้านั้นสัตว์อสูรที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจือโบเคยโจมตีกลุ่มคนเหล่านี้ การที่พวกเขาถูกเหยาซีและเหยาเหอควบคุม ก็เป็นเพราะจือโบด้วยเช่นกัน เมื่อสักครู่ที่เขาร่วมมือกับหยางไค่ในการฆ่าเหยาซีและเหยาเหอ เป็นความจริงที่จือโบต้องการปกป้องตนเอง ไม่ใช่เพราะนางต้องการช่วยเหลือใคร

เพราะคำกล่าวของปี่ซูหมิงเป็นความจริง เฉินเซี่ยซูจึงรู้สึกลำบากใจ เขาไม่ชื่นชอบจือโบ แต่จือโบเป็นคนที่มาพร้อมกับหยางไค่ พวกเขาต้องมีความสัมพันธุ์ระหว่างกัน เขาไม่สามารถเข้าข้างใครได้

เฉินเซี่ยซูมีความคิดเช่นนี้ แล้วคนอื่นๆจะไม่มีความคิดเช่นเขาได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นสตรีทั้ง 4 แห่งวังบุพผาหมื่นปี หรือจะเป็นเย่วชิงซ์อและโจวจากนิกายซิ่วหล่อ พวกเขาต่างปิดปากเงียบโดยไม่เลือกเข้าง แต่จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงบ

เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจือโบมีความสัมพันธุ์กับหยางไค่เช่นไร

เมื่อเห็นสายตาจำนวนมากมายมองมาที่ตนเอง หยางไค่จึงหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาจ้องมองปี่ซูหมิงและกล่าว : เจ้าต้องการทำลายการบ่มเพาะพลังและวิชายุทธุ์ของนาง และยังจะให้นางเป็นทาสรับใช้ศิษย์น้องของเจ้า ?

เมื่อมีคนคิดร้ายต่อจือโบ เป็นธรรมดาที่เขาไม่อาจนิ่งเฉย ไม่ว่าอย่างไร ในตอนนี้ จือโบก็อยู่ในการควบคุมของเขา

หากนางไม่สามารถทำให้ศิษย์น้องของข้ากลับเป็นเหมือนตอนแรก นั่นก็คือโชคชะตาที่นางควรจะได้รับ ! ปี่ซูหมิงกล่าวด้วยสีหน้าที่อึมครึม

ศิษย์น้องของเจ้าคงไม่มีวาสนานี้ ! หยางไค่กล่าวด้วยเสียงหัวเราะที่เรียบเฉย : นางเป็นทาสของข้า !

ทรวงอกของจือโบสั่นระรัว !! แต่นางไม่สามารถปฏิเสธได้ การที่หยางไค่กล่าวว่าตนเองเป็นทาสของเขานั้นหมายความว่าหยางไค่กำลังปกป้องตัวนางเอง ความเป็นความตายของตนเองอยู่ในการควบคุมของหยางไค่ แล้วจะยังต้องกล่าวสิ่งใดออกไปอีก ?

แม้ว่าจือโบจะกัดฟันไว้แน่น แต่นางรู้สึกว่าบุรุษผู้นี้ช่างน่าเกลียดชังยิ่งนัก เพราะเขา กำลังออกหน้ารับแทนตนเอง

คนอื่นๆที่ได้ยินต่างแสดงสีหน้าที่ตื่นตะลึง เพราะพวกเขาไม่เห็นการปฏิเสธจากจือโบ พวกเขาแต่ละคนต่างเบิกตาโพลงจ้องมองจือโบและจ้องมองหยางไค่ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

พวกเขาทั้งหมด ตกอยู่ในมือของเหยาเหอและเหยาซี ใช้ชีวิตด้วยความอัปยศ ต้องทนรับการลงทัณฑ์การทรมาณจากพวกเขา แต่ความสัมพันธุ์ของหยางไค่กับจือโบกลับตาลปัตรอย่างไม่น่าเชื่อ มันเกิดอะไรขึ้น ? เขาทำได้อย่างไร ?

ใบหน้าของเหลิ่งซานประกายด้วยความสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติ หากเป็นเช่นนี้ นั่นหมายความว่านางและจือโบอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน !

ทาสของข้า มีเพียงข้าคนเดียวที่สามารถตัดสินความเป็นความตายของนาง เจ้าไม่มีสิทธิ์ หยางไค่ไม่ชื่นชอบปี่ซูหมิงตั้งแต่แรก ในตอนนี้มันเป็นเวลาเหมาะสมที่จะแสดงความรู้สึกของเขาออกมาทั้งหมด

หึหึ....... ปี่ซูหมิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาจ้องมองหยางไค่ด้วยความรังเกียจ : ดูเหมือนว่าเจ้าคงหลงเสน่ห์สตรีแหง่อาณาจักรเทียนหล่างอย่างหัวปักหัวปำ โดยไม่รู้ว่าตนเองต้องยืนอยู่ข้างไหน เจ้าพูดแทนนางเช่นนี้ หรือว่าเจ้าได้กลายเป็นบุรษที่อยู่ใต้กระโปรงของนาง ? มันก็จริง สตรีคนนี้ดูมารยาเล่ห์เหลี่ยมที่มากมาย สตรีมันก็เหมือนสุนัขตัวเมีย การที่นางให้เจ้าเล่นสนุก็คงไม่เสียหายอะไร

สตรีที่ได้ยินต่างขมวดคิ้วไว้แน่น คำกล่าวของปี่ซู่หมิงหยาบคายและน่ารังเกียจ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทนรับมันได้

สีหน้าของจือโบแปรเปลี่ยนไป ร่างกายขอนางสั่นเทา แม้ว่านางจะดูเหมือนสตรีที่ผ่านเรื่องราวมามายมาย คำกล่าวนี้ยิ่งสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้อื่น มันมีเพียงคนที่เข้าใจนางจึงจะรู้ว่า นางยังเป็นสตรีที่บริสุทธ์

เจ้าถอยไป ข้าจะฆ่ามัน ! จือโบกล่าวคำไว้แน่น นางจ้องมองปี่ซูหมิงด้วยสายตาที่เกลียดแค้น สีหน้าของนางเย็นยะเยือกอย่างน่าหวาดกลัว

เมื่อถูกทำให้อับอายเช่นนี้ คงไม่มีทางที่นางจะยอมให้อภัยได้อีกต่อไป

เจ้าลงมือไม่ได้ !! หยางไค่จ้องมองนางด้วยสายตาที่เยือกเย็น เพราะนางเป็นคนแห่งอาณาจักรเทียนหล่าง แม้ว่าการบ่มเพาะพลังจะแข็งแกร่งกว่าปี่ซูหมิง แม้ว่านางจะสามารถเอาชนะปี่ซูหมิง แต่หากนางลงมือกับปี่ซูหมิง ผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเหตุการณ์มิอาจที่จะนิ่งเฉย เมื่อถึงตอนนั้นจะเป็นเรื่องยากที่จะจัดการเรื่องนี้

ข้าไม่สน !! มันต้องตาย !! จือโบเริ่มตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง พลังลมปราณแท้จริงพลุ่งพล่านอย่างไม่สงบ

ถอยออกไป !! หยางไค่ตะโกนด้วยความโกรธ

จือโบอึ้งไปชั่วขณะ ความโกรธของนางได้บรรเทาลง นางเป็นคนฉลาด ดังนั้นจึงทราบดีว่าหยางไค่กำลังคิดจะทำอะไร เหลิ่งซานจ้องมองเหตุการณ์และรีบดึงจือโบออกมา พวกนางทั้งสองต่างเคยลิ้มรสการถูกลงทัณฑ์จากหยางไค่ และพวกนางทราบนิสัยที่เด็ดขาดของหยางไค่ หากยังไม่ทำตามคำสั่งของเขา ไม่แน่ว่าอาจจะถูกหยางไค่ทรมาณจิตวิญญานก็เป็นได้

ปี่ซูหมิงจ้องมองจือโบด้วยสายตาที่เยือกเย็นอย่างไม่วางตา

ศิษย์พี่ ห้ามปล่อยนางไป !! ศิษย์น้อของปี่ซูหมิงได้กล่าวด้วยความคลุ้มคลั่งอีกครั้ง

สายตาของปี่ซูหมิงประกายด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาด เขาพยักหน้าเบาๆ ในขณะที่เขากำลังจะพุ่งโจมตีไปยังหยางไค่ แต่หยางไค่ได้ขยับตัวและขัดขวางเอาไว้

ข้าจะเล่นกับเจ้าเอง ! หยางไค่จ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

ปี่ซูหมิงขมวดคิ้ว เขากล่าวด้วยความรังเกียจ : เพื่อคนแห่งอาณาจักรเทียนหล่างเพียงคนเดียว เจ้ามั่นใจว่าจะเป็นศัตรูกับข้า ?

ข้าบอกไปแล้ว นางเป็นทาสของข้า ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถตัดสินความเป็นความตายของนาง

เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ข้าไม่อยากฆ่าเจ้า ปี่ซิวหมิงกล่าด้วยสีหน้าที่รำคาญ

ยังไม่ได้ต่อสู้กัน จะรู้ได้อย่างไร ? ร่างกายของหยางไค่ไม่ขยับเขยื้อน

ปี่ซูหมิงจ้องมองหยางไค่ด้วยสีหน้าที่ลึกซึ้ง หลังจากนั้นเขาจึงพยักหน้าด้วยความรังเกียจ : ได้ ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง อย่ากล่าวตำหนิข้าล่ะ ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน และจัดการกับนางปีศาจคนนั้นเอง !!

ในขณะที่กล่าว ปีซูหมิงพุ่งฝ่ามือโจมตีหยางไค่อย่างรุนแรง พลังลมปราณแท้จริงหมุนเวียน ทำให้ฝ่ามือของเขามีเสียงสายลมออกมาอย่างแผ่วเบา

เสี่ยงแห่งความตื่นตกใจดังขึ้น ทุกคนต่างไม่คิดว่าปีซูหมิงจะลงมือ ! เขาเป็นผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 4 แต่หยางไค่อยู่ในเขตแดนผสานลมปราณขั้นที่ 8 เมื่อพุ่งโจมตีด้วยกระบวนท่าเช่นนี้ หยางไค่จะมีชีวิตรอดต่อไปได้อย่างไร ?

เขาไม่คิดช่วงเวลาที่หยางไค่ช่วยชีวิตเขาเลยหรือไง ? คนคนนี้ถูกครอบงำด้วยความอคติ โดยไม่สามารถเอาคำกล่าวไหนมาเปรียบเปรยกับเขา

โปรดยั้งมือ !! ฮันเสี่ยวชีตะโกนด้วยความตกใจ

เย่วชิงซือพุ่งเข้ามาพร้อมกับแสงประกายแห่งโลหิต

จือโลและเหลิงซานอ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึง ใบหน้าของพวกนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ในช่วงเวลาที่รวดเร็วดั่งแสงประกายแห่งสายฟ้า หยางไค่ยเงยหน้าและพุ่งฝ่ามือออกไป โดยประพุ่งปะทะกันฝ่ามือของปี่ซูหมิงอย่างดุดัน

พลังลมปราณปะทะกันไปมา พลังแห่งฟ้าดินผกผันวุ่นวายอย่างบ้าคลั่ง

ปังปังปัง ตึงตึง...............ปี่ซูหมิงถอยหลังออกไปหลาย 10 ก้าว จึงจะสามารถยืนนิ่งได้เหมือนเดิม แต่หยางไค่ยังยืนนิ่งโดยไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

เย่วชิงซือที่พุ่งเข้ามาหยุดนิ่งอย่างฉับพลัน แสงประกายแห่งโลหิตสว่างและดับสลับไปมอย่างวุ่นวาย ใบหน้าของนางแสดงออกด้วยความประหลาดใจอย่างสุดขีด

ดวงตาของจือโบและเหลิ่งซานประกายด้วยสีสันแห่งความสงสัย ใบหน้าแสดงออกด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

โจวป้าที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าหรี่ตาไปมา ใบหน้ากระตุกไปมาหลายครั้ง

เฉินเซี่ยซูและซูเสี่ยหยี่อ้าปากค้าง พวกเขาทั้งสองรู้สึกว่าสมองของพวกเขาขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ

คนอื่นๆต่างมีปฏิกิริยาไม่ต่างกัน พวกเขาต่างตื่นตะลึงต่อฝ่ามือของหยางไค่ที่สามารถทำให้ปี่ซูหมิงถอยออกไปได้อย่างเด็ดขาด

เขตแดนผสานลมปราณขั้นที่ 8 เขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 4 .........

มันเป็นเรื่องจริงที่ความแข็งแกร่งแห่งเขตแดนของพวกเขาแตกต่างกันถึง 5 ขั้น แต่ภายในความแตกต่างทั้ง 5 ขั้น กลับมีความแตกต่างในเขตแดนขนาดใหญ่ นั่นก็คือเขตแดนผสานลมปราณและเขตแดนลมปราณแท้จริง

ก่อนจะบรรลุเขตแดนลมปราณแท้จริง ภายในร่างกายของผู้ฝึกยุทธุ์จะมีเพียงพลังลมปราณ แต่เมื่ออยู่ในเขตแดนลมปราณแท้จริง ภายในร่างกายของผู้ฝึกยุทธุ์จะเป็นพลังลมปราณแท้จริง !

ผู้ฝึกยุทธุ์ทั้งสองอยู่ในเขตแดนที่มิอาจเปรียบเทียบกันได้ ไม่เคยมีผู้ฝึกยุทธุ์คนใดที่สามารถทำให้ยอดฝีมือแห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงต้องถอยร่นออกไปเช่นนี้ นอกเสียจากอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์ที่แท้จริงซึ่งดำรงอยู่เพียงน้อยนิด

และในตอนนี้ เหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงจนดวงตาของพวกเขาจะถลนออกมาได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเขา

ปี่ซูหมิงจ้องมองหยางไค่ด้วยสายตาที่ตื่นตะลึงอย่างสุดขีด ซ้ายมือของเขากุมขวามือเอาไว้และหมุนเวียนพลังลมปราณแท้จริงอย่างรวดเร็ว เพื่อทำลายพลังลมปราณหยางที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย ฝ่ามือขวาของเขา แดงก่ำ ราวกับถูกแผดเผา นอกจากนั้นสีแดงก่ำที่เกิดขึ้นยังได้ลุกลามขึ้นสู่ต้นแขนของเขาอย่างรวดเร็วโดยสามารถมองเห็นดวงตาเปล่า

พลังลมปราณของเจ้า ... เสียงของปีซูหมิงสั่นเทา : ทำไมถึงบริสุทธุ์เช่่นนี้ ?

หยางไค่หัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาเปิดใช้ท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหว ก่อให้เกิดเป็นเง่าร่างหนึ่ง ที่ได้พุ่งขึ้นไปยังเหนือศีรษะของปี่ซูหมิงในระยะเวลาเพียงพริบตา มือหนึ่งของหยางไค่ได้พุ่งโจมตีไปยังกลางกระหม่อมของปีซูหมิง

อ๊าก ! ปี่ซูหมิงตะโกนด้วยความตกใจ เขารีบยกฝ่ามือทั้งสองเพื่อป้องกัน

ฝ่ามือเมฆาคลื่นวายุ ฝ่ามือคลื่นวายุของเขาได้ก่อเกิดเป็นหมอกหนาทืบ สมบัติขั้นปฐพีระดับสูง มีพลังอำนาจที่ไม่ธรรมดา

หยางไค่พุ่งฝ่ามือปะทะลงไป ปัง !! ร่างกายของปี่ซู่หมิงลดต่ำลง ร่างกายของหยางไค่สั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง หลังจากที่เขาสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง เขาได้พุ่งหมัดมืออกไปอีกครั้ง

ปี่ซูหมิงไม่สามารถป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องที่รุนแรงและดุดันเช่นนี้ หมัดของฝ่ามือในครังนี้จึงพุ่งโจมตีไปยังทรวงอกของเขา

หมัดเปลวเพลิงผลาญอัคคี !!

1 เดือนก่อน ในขณะที่หยางไค่ต่อสู้กับจี่เจี่ยนซิน หมัดเปลวเพลิงผลาญอัคคีถูกทำลายจากจี่เจียนซินยอดฝีมือที่อยู่ในเขตแดนลมปรารแท้จริงอย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่หมัดเปลวเพลิงผลาญอัคคีไม่สามารถทำอันตราายต่อเขาแม้แต่น้อย แต่ในตอนนั้น ยอดฝีมือแห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงปี่ซูหมิงกลับไม่มีความสามารถเช่นนั้น

ประการแรก เป็นเพราะพลังลมปราณของหยางไคบริสุทธ์กว่าเมื่อ 1 เดือนที่แล้วอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลงานของหยดวารีเปลวเพลิง

ประการที่ 2 เพราะจี่เจี่ยนซินถือกำเนิดในสำนักกระบี่เก้าดวงดาราซึ่งเป็นสำนักชั้น 1 ที่มีความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ แต่สำนักที่ปี่ซูหมิงถือกำเนิดเป็นสำนักชั้น 2 ที่รองลงมา ความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายในจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในตอนนี้ พลังของหมัดเปลวเพลิงผลาญอัคคีได้แทรกซึมเข้าไปภายในร่างกายของปี่ซูหมิง และมันกำลังระเบิดอย่างบ้าคลั่ง ปี่ซูหมิงตะโกนร้องด้วยความโหยหวนที่น่าเวทนา โดยที่เขากระอักโลหิตออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด