ตอนที่ 248 ความเดือดร้อนที่แสนสาหัส
ตอนที่ 248 ความเดือดร้อนที่แสนสาหัส
เหยาเหอกระแอมออกมาเบาๆ เขาจ้องมองหยางไค่และกล่าว : ในเมื่อเจ้ายินยอมที่จะเป็นคนของข้า เจ้ารู้ไหมว่าข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเช่นไร ?
หยางไค่พยักหน้า : รู้ มันก็เป็นเพียงแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น ?
เหยาเหอยิ้มอย่างแผ่วเบา : ถูกต้อง ข้าชื่นชมที่เจ้ากล้าที่จะสวามิภักดิ์ต่อพวกเราอย่างเปิดเผย แต่ข้ายังไม่เข้าใจในตัวเจ้า ข้าจำเป็นต้องปลูกฝังแมลงควบคุมวิญญาณในร่างกายของเจ้า หากในวันข้างหน้า เจ้าทำผลงานออกมาได้ดี ไม่แน่ว่าเจ้าอาจจะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย
ขอบคุณศิษย์พี่คนนี้ที่แนะนำ หยางไค่กล่าวอย่างเยิ่นยอ
ยื่นมือออกมา เหยาเหอจ้องมองจือโบด้วยสายตาที่เหยียดหยาม จากนั้นจึงกล่าวออกคำสั่งต่อหยางไค่
หยางไค่ยื่นมืออกไปอย่างรวดเร็ว
เหยาเหอนำแมลงควบคุมจิตวญญานออกมา และวางแมลงควบคุมจิตวญญานไว้ในมือของเขา แต่เหยาซีกล่าวออกมาอย่างฉับพลัน : ช้าก่อน !!
ทำไม ? เหยาเหอจ้องมองนางด้วยความสงสัย
ใบหน้าของเหยาซีเต็มไปด้วยความระมัดระวัง นางมองไปที่จือโบมองไปที่หยางไค่ และหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น
สีหน้าของเหยาเหอแปรเปลี่ยนไป เขาทราบในความหมายของศิษย์น้อง เขาปาดเหงื่อที่ไหลย้อยอย่างฉับพลัน เขาเอาแต่เหยียบย่ำจือโบ ใช้วิธีการในควบคุมหยางไค่เพื่อสร้างความอับปยศให้แก่จือโบ โดยไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นกับดัก !
หากนี้เป็นกับดัก นั่น............
โชคดีที่ศิษย์น้องของเขาฉลาดหลักแหลม เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหยาเหอรีบนำแมลงควบคุมวิญญานกลับมา เขาจ้องมองหยางไค่ด้วยความระมัดระวังและกล่าว : เจ้าแสดงวิชายุทธุ์ที่เจ้าฝึกฝนสิ ข้าจะดูว่าพลังลมปราณของเจ้ามีคุณสมบัติเช่นไร !
ดาวข่มของแมลงควบคุมวิญญาณคือความร้อน ผู้ฝึกยุทธุ์ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาที่มีคุณสมบัติของพลังหยางหรือไฟจะไม่สามารถควบคุมแมลงควบคุมวิญญาน หากแมลงควบคุมวิญญาณถูกแผดเผา จิตวิญญาณของพวกเขาจะได้รับการทรมาณ !
ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นทั้งหมด ที่อยู่ในนิกายอัคคีผลาญฟ้าต่างถูกฆ่าตายทั้งหมด
ทันทีที่เสียงของเหยาเหอดังขึ้น จือโบหัวเราะด้วยรอยยิ้มที่เกลียดชัง
ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นต่างตื่นตระหนกในทันที โดยเฉพาะเฉินเซี่ยซูและซูเสี่ยวหยี่ หยางไค่เคยต่อสู้กับพวกเขาทั้งสอง พวกเขาทั้งคู่ทราบว่าพลังลมปราณของหยางไค่มีคุณสมบัติเช่นไร ก่อนหน้านั้นพวกเขาไม่ได้คิดถึงตรงนี้ จนถึงตอนนี้เหลิ่งซานได้กล่าวตักเตือนพวกเขา พวกเขาจึงเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามต้องการตรวจสอบพลังลมปราณของหยางไค่ มันทำให้จิตใจของพวกเขาสั่นไหว กลัวว่าหยางไค่จะเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา
ฮันเซี่ยวชีสบตากับเย่วฮัน พวกนางส่งสายตาให้แก่ฮวาโน่วหญิงและหลิวชิงหยู โดยที่สตรีทั้ง 4 แห่งวังบุพผาหมื่นปีกำลังหมุนเวียนพลังลมปราณแท้จริง โดยเตรียมตัวที่จะลงมือ
เย่วชิงซือและโจวป้าก็เช่นกัน
เหยาซีจ้องมองหยางไค่และกล่าวออกคำสั่ง : ข้าให้เจ้าหมุนเวียนพลังลมปราณ แสดงวิชายุทธุ์ของเจ้าออกมา ไม่ได้ยินหรือไง ?
สัตว์อสูรกว่าร้อยตัวที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเริ่มมีการเคลื่อนไหว
หยางไค่รีบพยักหน้า เขาบีบเค้นพลังจากกระดูกทองคำของเขาออกมา
ทันใดนั้น หมอกควันสีดำทะมึนค่อยแพร่กระจายออกมา โดยได้ห่อหุ้มหยางไค่เอาไว้ ภายในหมอกควันสีดำเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่บ้าคลั่ง กลิ่นอายแห่งโลหิตและความต้องการฆ่า ทำให้หยางไค่ดูเหมือนเป็นมารปีศาจตนหนึ่ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติของพลังชนิดนี้ สีหน้าของเหยาเหอและเหยาซีผ่อนปรนลงด้วยความโล่งอก
เพียงแค่ไม่ใช่พลังลมปราณที่มีคุณสมบัติของพลังหยางและความร้อน แมลงควบคุมวิญญาณจะปลอดภัยโดยไม่ได้รับอันตราย !!
เจ้าฝึกฝนวิชายุทธุ์แห่งมารปีศาจ ? เหยาเหอจ้องมองหยางไค่ด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ
อืม
ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับต่ำ ยังไม่ถึงเขตแดนลมปราณแท้จริงด้วยซ้ำ ทำไมถึงมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ ? เหยาเหอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ?
หยางไค่อึดอัดใจอย่างยิ่ง : ครึ่งปีก่อนข้าตกลงไปยังหุบเขาแห่งหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ ข้าต้องสูญเสียพลังเป็นจำนวนมากจึงจะสามารถปีนขึ้นมาได้ แต่ทันทีที่ขึ้นมาได้ ข้ากลับถูกนางแพศยาที่แซ่จือจับตัวเอาไว้
เหยาเหอหัวเราะ : เจ้าโชคดีจริงๆ
แต่มันเป็นหตุผลเพียงพอที่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเจ้าถึงมีชีวิตรอดถึงวันนี้ เขตแดนผสานลมปราณตกลงไปยังหุบเขา เป็นความจริงที่เขาต้องปีนขึ้นมาอย่างเชืองช้า
ยื่นมือออกมา เหยาเหอโล่งอก เหยาซีไม่ได้ไปสนใจหยางไค่อีก
ผู้ฝึกยุทธุ์ที่ฝึกวิชายุทธุ์แห่งมารปีศษจ เขาจะสามารถแสดงฝีมือความสามารถอะไรได้มากกว่านี้ ?
เหยาเหอโยนแมลงควบคุมวิญญาณตัวหนึ่งไปยังมือของหยางไค่ ทันใดนั้นแมลงควบคุมวิญญานได้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของหยางไค่และค่อยๆชอนไชไปยังจุดตันเถียนของเขาด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างยิ่ง
ไปได้แล้ว !! ข้าจะเรียกจ้าเมื่อมีเรื่องต้องการ ตอนนี้ข้าจะพูดคุยกับสิษย์พี่ของข้า เหยาเหอโบกมือให้แก่หยางไค่
หยางไค่แสะยิ้มที่มุมปาก
รอยยิ้มนี้ทำให้ผู้ที่พบเจอต้องขนลุก จิตใจของเหยาเหอสั่นไหวในทันที แต่ยังมิทันที่เขาจะทำอะไร จือโบได้ลงมือโจมตีเหยาเหออย่างกะทันหัน นางก้าวไปข้างหน้าและพุ่งมายังทิศทางของเหยาเหอ
นางแพศยา ............อ่า........ เหยาเหอกล่าวออกมาได้เพียงสองคำ เขาได้ตะโกนร้องด้วยเสียงที่โหยหวน สองเขาทรุดลงกับพื้น สองมือกุมศีรษะ ใบหน้าบิดเบี้ยวไปมา ราวกับว่าได้รับการลงทัณฑ์ณฑ์จากฟ้าสวรรค์ที่เหี้ยมโหดอย่างสุดขีด
เมื่อจิตวิญญาณถูกทรมาณ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทนรับต่อความเจ็บปวดทรมาณแม้แต่วินาทีเดียว !!
จือโบกระโดดข้ามเหยาเหอออกไป โดยไม่สนใจเขา แต่พุ่งฝ่ามือโจมตีไปยังเหยาซีแทน
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหยาซียังมิทันจะได้ตอบสนอง กลับถูกฝ่ามือของจือโบโจมตีไปที่ทรวงอก ทรวงอกของนางสั่นไหว ลอยกระเด็นออกไป โดยที่ปากของนางได้กระอักโลหิตสีแดงสดออกมาอีกด้วย
ในขณะที่นางยังตกลงไม่ถึงพื้น นางมองเห็นผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นที่อยู่ใต้การควบคุมของพวกนางต่างพุ่งโจมตีด้วยฝ่ามือและใช้กระบี่ฟันไปยังลำคอของเหยาเหอ
ฉึก !! ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาของเหยาเหอ ศีรษะของเขาได้หลุดจากบ่าและตกลงไปที่พื้นดิน
ไม่ !! เหยาซีตะโกนด้วยความตื่นตะลึง นางได้กล่าวออกคำสั่งในใจ ทำให้สัตว์อสูรที่อยู่ใต้การควบคุมวิ่งมายังบริเวณแห่งนี้อย่างรวดเร็ว
สีหน้าของหยางไค่เยือกเย็นและเคร่งขรึม หลังจากที่สามารถเอาชีวิตเหยาเหอเพียงการโจมตีในครั้งเดียว เขาได้เปิดใช้ท่าร่างแห่งการเคลื่อนไหว พุ่งไปยังด้านหลังของเหยาซี โดยเขากำหมัดไว้แน่น และพุ่งโจมตีออกไปด้วยความรุนแรง
เหยาซีที่เพิ่งตกลมา ถูกโจมตีด้วยหมัดเปลวเพลิงผลาญอัคคีจากด้านหลัง !
ปัง !! พลังลมปราณหมุนเวียนเข้าสู่ร่างกายของนาง ทำให้อาการบาดเจ็บเล็กน้อยกลายเป็นอาการบาดเจ็บที่สาหัส ต่อจากนั้นจือโบได้บินกลับมาอีกครั้ง
ฝ่ามือทั้งสองของจือโบประกบกัน นางได้หมุนเวียนพลังลมปราณแท้จริง และพุ่งโจมตีไปยังเหยาซี 3-4 ครั้งรัวด้วยความรุนแรง โดยการลงมือในครั้งนี้ของนางเหี้ยมโหดอย่างสุดขีด สีหน้าของนางเยือกเย็นอย่างน่าหวาดกลัว
จนถึงตอนนี้ เหยาซีจึงมีโอการในการตอบโต้ นางรีบต่อต้านการโจมตีที่หมายเอาชีวิตของจือโบ นางกระโดดลงไปที่พื้นดิน และหอบหายใจ ก่อนที่นางจะกล่าวตะโกน : ฆ่าพวกมันให้หมด !!
คำสั่งของนาง คือการสั่งการให้ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นที่ถูกควบคุมโดยแมลงควบคุมจิตวิญญานฆ่าผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นด้วยกันเอง
ผู้ฝึกยุทธุ์กว่า 17-18 คน ถูกเขาควบคุมกว่าครึ่ง นั่นหมายความว่า นางยังสามารถควบุคมความเป็นความตายของผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นประมาณ 9 คน
แต่ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นไม่ทำตามคำสั่งของนางแม้แต่คนเดียว !
มันเป็นสิ่งที่พวกเจ้ารนหากัน สีหน้าของเหยาซีซีดขาว นางจ้องมองหยางไค่และจือโบด้วยความเกรี้ยวโกรธ และกล่าตะโกนด้วยความเหี้ยมโหด
ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่น มีคนสองคนที่ทรุดลงไป พวกเขากุมท้องด้วยความเจ็บปวด กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นดินอย่างทุรุนทุราย
หยางไค่สบตาจือโบ พวกเขาเร่งความเร็วในการเคลือนไหว
เหยาซีเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธุ์แห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 4 ความแข็งแกร่งเช่นนี้ แม้เป็นเพียงหยางไค่ก็สามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นนางยังได้รับบาเจ็บสาหัส และยังต้องเผชิญหน้ากับจือโบที่ยอดฝีมือแห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 6
หลายกระบวนท่าที่ต่อสู้ไปมา แขนข้างหนึ่งของเหยาซีถูกทำลายลงโดยจือโบ หยางไค่ไดระเบิดหยดน้ำพลังลมปราณหยางและแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็นรูปร่างของกระบี่ และพุ่งฟันไปยังลำคอของเหยาซี
แม้ในตอนที่เหยาซีตาย นางยังได้เบิกตาโพลง!!
ตั้งแต่ที่หยางไค่เริ่มโจมตีเหยาซีจนนางตาย ระยะเวลาผ่านไปเพียง 7-8 ลมหายใจ การต่อสู้ในครั้งนี้ อาจต้องเปรียบเปรยด้วยแสงแห่งสายฟ้าที่ประกายไปมาด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก
เมื่อศิษย์พี่น้องได้ตายไปถึง 2 คน สีหน้าของจือโบยังเรียบเฉยอย่างไร้อารมณ์
หยางไค่ตะโกนด้วยเสียงที่ดังสนั่น : สัตว์อสูรกำลังจะเคลื่อนไหวโจมตี ป้องกันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ปกป้องรักษาชีวิตของตนเองให้ปลอดภัย !!
สัตว์อสรูกว่าหลายร้อยตนที่อยู่ใกล้เคียง ล้วนเป็นสัตว์อสูรที่อยู๋ใต้การควบคุมของเหยาซีและเหยาเหอ แต่ในตอนนี้พวกเขาทั้ง 2 ได้ตายไป สัตว์อสูรเหล่านี้ไร้ซึ่งผู้ควบคุม จากข้อมูลที่จือโบกล่าวให้แก่เขา เมื่อสัตว์อสูรปลดเปลื้องพันธนการจากการควบคุม มันจะโจมตีทำร้ายผู้อื่น โดยนิสัยของมันจะดุดันและโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม แต่เมื่อให้พวกมันสัมผัสถึงความรู้สึกแห่งความกดดัน มันเลือกที่จะหนีไปมากกว่าต่อสู้ต่อไป
สัตว์อสูรที่มากมาย ผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่นไม่สามารถต่อกรกับมันได้ ยังไม่ต้องกล่าวถึงผู้ฝึกยุทธุ์อีก 2 คนที่ทรุดลงไปที่ดื้นที่ยังต้องให้ผู้อื่นดูแล แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันต่อสู้ ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันอยู่ดี
สิ้นเสียงของหยางไค่ สัตว์อสูรกว่า 50 ตนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเหยาเหอได้พุ่งเข้ามายังกลุ่มของผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรฮั่น
กลุ่มคนเหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์อัจฉริยะอันดับ 1 ของสำนัก ก่อนหน้านั้นพวกเขายังได้รับการตักเตือกจากเหลิ่งซาน มันทำให้พวกเขามีการเตรียมตัวและตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยให้ผู้ฝึกยุทธุ์ 2 คนที่ถูกทรมาณจากแมลงควบคุมวิญญานอยู่ในจุดศูนย์กลางภายในวงล้อมของพวกเขา ส่วนคนอื่นกระจัดกระจายกันออกไปด้านนอก โดยร่วมมือร่วมใจในการต่อต้านและตอบโตสัตว์อสูรที่พุ่งโจมตีเข้ามา
สตรีแห่งวังบุพผาหมื่อนเรียงตัวกันเป็นค่ายกลเล็กๆ พวกเขาพุ่งโจมตีพลังลมปราณที่มองเห็นด้วยตาเปล่า พลังลมปราณของทั้ง 4 หลอมรวมกันบนกลางอากาศ
ฮันเสี่ยวชีกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา: ค่ายกลบุพผา 4 ทิศ
พลังลมปราณที่หลอมรวมเป็นหนึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็นกรงขังขนาดใหญ่ มันได้ลอยลงมาจากกลางอากาศ และกักขังสัตว์อสูรจำนวน 3 ตน จากสองมือของสตรีทั้ง 4 ที่เริงร่าไปมาอย่างไม่หยุด ทำให้กรงขังแปรเปลี่ยนเป็นทะเลบุพผา ทุกกลีบของบุพผาเปรียบดั่งกระบี่เล่มเล็กที่แหลมคม มันลอยละลิ่วอยู่ในกรงขังและซ่อนเร้นพลังแห่งการฆ่าที่รุนแรง สัตว์อสูรต่างพุ่งโจมตีกรงขังเหล่านี้ แต่มันไม่สามารถทำลายกรงขังนี้ได้ ผ่านไปเพียงพริบตา สัตว์อสูรได้ถูกกลีบบุพผาเฉือนตัดแทงจนโลหิตไหลออกมาอย่างต่อเนื่องและพวกมันได้ล้มลงไปที่พื้นทันที
เย่วชิงซือและโจวป้าแห่งนิกายซิ่วหล่อถูกปกคลุมด้วยแสงประกายแห่งโลหิต กลิ่นอายแห่งการฆ่าพุ่งทะยานออกมา เย่วชิงซือเป็นสตรีที่งดงาม เมื่อนางเริ่มเข้าสู่การต่อสู้กระบวนท่าต่างๆที่นางโจมตีออกไปค่อนข้างอ่อนหวาน แสงประกายแห่งโลหิตประกายออกไปพร้อมกับเคล็ดวิชาและกระบวนท่าของนาง ก่อให้เกิดความรู้สึกแห่งปีศาจสาวที่น่าหลงใหลยิ่ง
แต่โจวป้าที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า เขาได้คว้าสัตว์อสูรขั้นที่ 4 1 ตน จากนั้นจึงฉีกร่างกายของมัน หลังจากที่เสียงโหยหวนของสัตว์อสูรขั้นที่ 4 ดังขึ้น ร่างกายของมันได้ถูกฉีกเป็น 2 ส่วน โลหิตของมันพุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุ อวัยวะภายในกระเด็นไปทั่วบริเวณ มันทำให้ใบหน้าของโจวป้าเปียกชุ่มด้วยโลหิต ราวกับเป็นปีศาจยักษ์ที่ดุดันอย่างสุดขีด
โจวป้าแสะยิ้มที่มุมปาก เผยให้เห็นฟันสีขาว โดยที่เขาได้นำซากของสัตว์อสูรไว้ที่มุมปากจากนั้นจึงใช้ปากฮีกเนื้อของสัตว์อสูรและเคี้ยวอยู่ในปากอย่างไม่หยุด โดยโลหิตได้ไหลออกจากปากของเขา จนกลายเป็นภาพที่น่าขนลุกอย่างยิ่ง
เฉินเซี่ยซูและซูเสี่ยวหยี่ร่วมมือกันฆ่าศัตรู เคล็ดวิชาจันทราล้อมดวงดาราที่เป็นเคล็ดวิชาลึกลับแห่งสำนักจันทราซ่อนเร้นได้ถูกปลดปล่อยออกมา แสงประกายแห่งจันทราครึ่งเสี้ยว ได้พุ่งทะลวงไปยังร่างกายของสัตว์อสูร กระบวนท่านี้เป็นการโจมตีในรัศมีที่กว้างขวาง การปลดปล่อยเพียงครั้งเดียว ทำให้ความแข็งแกร่งของคนอื่นๆลดลงไม่น้อย
เกาะเมฆาคู่ หออินทรีโบยบิน ตำหนักค้นใจ............ผู้ฝึกยุทธุ์แต่ละสำนักต่างพยายามสุดชีวิตในการหมุนเวียพลังลมปราณของพวกเขา โดยปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตายที่รุนแรงที่สุดออกมา ในชั่วเวลาหนึ่ง สัตว์อสูรคำรามอย่างไม่หยุด แสงประกายสีสันต่างๆนานาประกายออกมาอย่างไม่หยุด
พวกเราทั้งสองต้องพบเจอกับความเดือดร้อนที่แสนสาหัส ! หยางไค่และจือโบหันหลังชนกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
ก่อนที่เหยาซีจะตาย มันได้สั่งการให้สัตว์อสูรกว่า 50 ตนที่เหลือ ในตอนนี้พวกเขาทั้งสองถูกล้อมจากสัตว์อสูร กลายเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง
พวกเราไปรวมตัวกับพวกเขา ! จือโบกล่าวจบ นางได้หมุนตัว และโอบเอวของหยางไค่ สองขาดีดขึ้นไปและลอยอยู่บนกลางอากาศในทันที
นี้........... หยางไค่สูดลมหายใจเขา รู้สึกเสียหน้าอย่างยิ่ง
ข้าช่วยชีวิตเจ้า !! จือโบสบถด้วยเสียงที่แผ่วเบา
หยางไค่หัวเราะ และกล่าวตะโกนต่ออีกฝั่ง : หลีกทางให้เราด้วย !!
เหลิ่งซานเงยหน้า จากนั้นจึงขยับไปยังด้านข้าง
เมื่อมีตำแหน่งว่าง จือโบและหยางไค่ได้แทรกลงไป และรวมตัวกับคนอื่นๆ