ตอนที่ 235 จือโบแห่งอาณาจักรเทียนหล่าง
ตอนที่ 235 จือโบแห่งอาณาจักรเทียนหล่าง
1 เดือนในการบ่มเพาะพลังความแข็งแกร่งของหยางไค่ หยางไค่ได้รับผลประโยชน์ที่น้อยมาก เขาฆ่าสัตว์อสูรได้น้อยมาก ดังนั้นจึงได้รับลูกแก้วชีพจรโลหิตเพียงน้อยนิด
สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือสัตว์อสูรเหล่านี้อ่อนแออย่างมาก ในตอนนี้สัตว์อสูรขั้นที่ 4 สามารถทนต่อการโจมตีของหยางไค่เพียงไม่กี่กระบวนท่า ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรขั้นที่ 5 ก็มิได้มากมายสำหรับเขาในตอนนี้ มันจึงทำให้เขาไม่สามารถที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดสูงสุดของเขตแดนในเวลานี้
หยางไค่กระหายโลหิตที่สดใหม่และการต่อสู้ที่รุนแรง !!
แต่ไม่ใช่ว่าหยางไค่จะไม่ได้รับอะไรเลย 1 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่หยางไค่ไม่ได้ตั้งใจ หยางไค่ได้พบความสามารถอีก 1 ประการของเคล็ดวิชาแห่งจิตวิญญาณอสูร
หลังจากที่หยางไค่ได้รับเคล็ดวิชาแห่งจิตวิญญานอสูรจากห้วงความรู้สึกสุดท้ายของสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งทั้ง 2 ตน มันไม่เพียงสามารถใช้ในการโจมตีศัตรูได้เท่านั้น !! แต่ว่าวิธีการที่หยางไค่เพิ่งค้นพบและยังอยู่ในขั้นตอนสำรวจโดยที่มันยังไม่สามารถใช้ได้อย่างสมบูรณ์
ในวันนี้ หลังจากที่หยางไค่ฆ่าสัตว์อสูรขั้นที่ 3 จำนวน 3 ตน บริเวณป่าลึกที่ห่างออกไปประมาณ 30 ลี้ สตรีนางหนึ่งลืมตาของนางอย่างกะทันหัน ดวงตาของนางประกายด้วยความเยือกเย็นและความประหลาดใจ
สตรีนางนี้สวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างจากอาณาจักรฮั่นนอกจากนั้นรูปลักษณ์ใบหน้าของนางยังแตกต่างจากคนแห่งอาณาจักรฮั่น ถูกต้อง !! นางเป็น 1 ในกลุ่มของผู้ฝึกยุทธุ์แห่งอาณาจักรเทียนหล่าง
นางมีรูปลักษณ์ที่ไม่น่าเกลียด อาจจะกล่าวได้ว่าสวยงามในระดับหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด สตรีนางนี้จึงให้ความรู้สึกแห่งกลิ่นอายปีศาจแก่ผู้ที่พบเจอ นางคล้ายคลึ่งกับสตรีแห่งอสรพิษที่มิอาจปิดกั้นตัวตนที่แท้จริง และสามารถกัดผู้ที่พบเจอด้วยพิษที่ร้ายแรงจนถึงแก่ความตาย
ไม่ว่าใครที่พบเจอนาง ก็ไม่กล้าที่จะประมาทต่อนาง
เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ค่อนข้างเปิดเผย แขนข้างหนึ่งของนางเผยออกมา เสื้อผ้าสวมบนมิอาจที่จะปิดกั้นเรือนร่างที่เย้ายวนของนาง ในขณะที่นางยกมือขึ้น หน้าท้องที่ขาวเนียนจะเปิดเผยต่อสาธาณชนอย่างไม่ต้องสงสัย เสื้อผ้าส่วนบนของนางยิ่งเรียบง่าย นางสวมใส่เพียงกางเกางตัวสั้น ซึ่งเผยให้เห็นสองขาที่เรียวยาวที่สามารถทิ่มแทงจิตใจของผู้ที่พบเจอ
นางจ้องมองไปยังทิศทางของหยางไค่ มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เยือกเย็น นางค่อยๆลุกขึ้นมา ร่างที่อ้อนแอ้นเต็มไปด้วยพลังความแข็งแกร่งที่มากมาย
ในขณะที่นางลุกขึ้น ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของนางถอยหลังออกไปหลายก้าวอย่างช้าๆ พวกเขาจ้องมองด้านหลังของสตรีแห่งอาณาจักรเทียนหล่างด้วยความหวาดกลัวและเกลียดแค้น
พวกเขาทั้ง 2 เป็นบุรุษ 1 และสตรี 1
หากหยางไค่ยังมีชีวิต คงต้องตกตะลึงอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองเป็นศิษย์สาวกแห่งสำนักทะเลสาบปีศาจจักรพรรดิ จิงฮ่าวและเหลิ่งซาน
ศิษย์สาวกระดับสูงทั้ง 2 แห่งสำนักทะเลสาบปีศาจจักรพรรดิ์ทั้งสองจ้องมองสตรีแห่งอาณาจักรเทียนหล่าง พวกเขาจ้องมองอย่างไม่วางตา พลังลมปราณแท้จริงในร่างกายเคลื่อนไหวโดยมิอาจควบคุม ดวงตายังเต็มไปด้วยเจตนาแห่งการฆ๋า
โฮ่ง............ ในตอนนั้นเอง สัตว์อสูรหลาย 10 ตัวที่ล้อมรอบบริเวณได้แสะเขี้ยวและตะโกนคำรามต่อจิงฮ่าวและเหลิ่งซาน โดยซ่อนเร้นความรู้สึกแห่งการกล่าวตักเตือน
สตรีแห่งอาณาจักรเทียนหล่างหมุนตัวอย่างช้าๆ นางจ้องมองจิงฮ่าวและเหลิ่งซ่านด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ทันใดนั้นร่างกายของพวกเขาทั้งสองสั่นสะท้าน พวกเขารีบกักเก็บเจตนาแห่งการฆ่าและพลังลมปราณแท้จริง
พวกเจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้ !! สตรีแห่งอาณาจักรเทียนชื่อว่าจือโบ พวกเขาทั้งสองติดตามนางกว่า 1 -2 เดือน ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงทราบว่านางเป็นใคร
จือโบสบทด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น : ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย หากพวกเจ้ายังคิดที่จะวางแผนทำสิ่งใด อย่ากล่าวตำหนิข้าว่าเป็นคนโหดเหี้ยม !!
แม้ว่าดวงตาของจิงฮ่าวและเหลิ่งซานจะเต็มไปด้วยความอัปยศ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะทำอะไรวู่วาม จิงฮ่าวรีบก้มศีรษะต่ำลงและกล่าว : ข้าและศิษย์น้องมิกล้า คุณหนูจือวางใจได้ !!
จือโบจ้องมองจิงฮ่าวอย่างเนิ่นนานก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเสียงดัง : น่าจะเป็นความโชคดีของพวกเจ้าที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า หากพวกเจ้าไม่ระวังตกไปยังเงื้อมมือของศิษย์พี่ทั้งสอง ในตอนนี้พวกเจ้าคงมีชีวิตอย่างตายทั้งเป็น
ในขณะที่กล่าว จือโบก้าวเดินไปข้างหน้า เอวของนางบิดไปมาอย่างแผ่วบา มุมปากของนางยังเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แผ่วเบา
จิงฮ่าวเงยหน้าจ้องมองนาง และกลืนน้ำลายเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว
เรือนร่างของจือโบงดงามอย่างมาก นางสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผย ซึ่งแตกต่งจากสตรีแห่งอาณาจักรฮั่น แม้ว่าเขาจะพบเจอกับนางเป็นเวลานาน แต่ทุกครั้งที่มองไป นางจะให้ความรู้สึกที่ทิ่มแทงอารมณ์และความชื่นชอบ โดยเฉพาะหน้าท้องที่ขาวเนียนและงดงาม มันมีแรงดึงดูดที่มากมายต่อจิงฮ่าวที่เป็นบุรุษหนุ่มคนหนึ่ง
ในบางครั้งจิงฮ่าวคิดฝันจิตตานาการ หากว่าเขาสามารถคคร่อมเรือนร่างที่ดงามของนาง ลูบไล้ กอดรัด สัมผัสความอ่อนหวานของนาง และยังได้ฟังเสียงที่ขอร้องและโหยหวนของนางคงเป็นเรื่องที่โชคดีสำหรับเขา
แต่จิงฮ่าวมีความกล้าเพียงคิดฝันเท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าจือโบ เขาไม่กล้าที่จะมีความคิดอื่นที่อัปมงคลและเจตนาที่ชั่วร้ายต่อนาง
สตรีแห่งอาณาจักรนางนี้ เป็นนายแห่งการฆ่าโดยไม่กระพริบตา !! เมื่อเทียบกับศิษย์สาวกแห่งสำนักทะเลสาปปีศาจราชันย์ นางโหดเหี้ยมยิ่งกว่า
จือโบเดินหยุดลงตรงหน้าของเหลิ่งซาน และยังคงหัวเราะอย่างไม่หยุด ใบหน้าของเหลิ่งซานแสดงออกด้วยความอึดอัดและความรังเกียจ ร่างกายของนางสั่นเทาโดยมิอาจควบคุม ไม่ว่าอย่างไรนางก็มิกล้าที่จะส่งเสียงหรือกล่าวสิ่งใดออกไป
จือโบยิ้มอย่างแผ่วเบา นางยื่นมือที่ขาวเนียนของนางออกมาและจับไปยังคางที่เล็กแหลมของเหลิ่งซาน นางจ้องมองริิมฝีปากของเหลิ่งซานอย่างไม่วาางตา
หลังจากนั้น นางเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน โดยทาบริมฝีปากของตนเองไปยังริมฝีปากของเหลิ่งซาน
จิงฮ่าวสูดลมหายใจเข้า เขาก้มตัวลงต่ำ โดยที่ก้นของเขาพุ่งชันขึ้น ในเวลานี้่เขารู้สึกเพียงว่าโลหิตในร่างกายกำลังพุ่งพลุกพล่านอย่างสุดขีด
เสียงอู้อี้ด้วยความอึดอัดใจดังขึ้น เหลิ่งซ่านไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน แต่มันกลับกระตุ้นความสนุกสนานของจือโบ หลังจากนั้นตามมาด้วยเสียงหัวเราะที่แผ่วเบา จือโบยื่นมืออีกข้างออกไป สอดเข้าไปภายในเสื่้้อผ้าของเหลิ่งซาน และเริ่มลูบไล้ด้วยความเมามันส์
จิงฮ่าวจ้องมองด้วยความอิจฉาจนตาแดงก่ำ
ในสำนักหลิ่งซานเป็นสตรีที่อยู่ในระดับสูง แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่กล้าที่จะล่วงเกินนาง แต่หลายวันที่ผ่านมานางกลับถูกสตรีอีกคนล่วงเกินด้วยความบ้าบิ่นและหยาบคายหลากหลายรูปแบบ
ลิ้นที่เปรียบเสมือนอสูรพิษที่มีจิตวิญญานได้สอดแทรกเข้าไปในปากของเหลิ่งซาน ทรวงอกที่อวบอิ่มถูกบีบเค้นจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม สะโพกที่ได้รูปถูกนวดคลึงไปมาอย่างไม่หยุด
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งสองครั้ง ระยะเวลาที่ผ่านมาจิงฮ่าวพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ถึง 7 -8 ครั้ง และในทุกๆครั้งมันทำให้ร่างกายของเขาร้อนผ่าวด้วยอารมณ์แห่งความต้องการ มันทรมาณจนเขาแทบจะทนไม่ได้
เหลิ่งซานที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในการต่อต้านกลายเป็นความจำยอม สตรีทั้งสองกอดรัดไปมาวุ่นวาย ลมหายใจของทั้งสองหนักหน่วง เสียงหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงดั่งแว่วออกมา ทำให้ผู้ที่พบเห็นจิตนาการสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ที่ร้อนผ่าว
จิงฮ่าวต้องบังคับตนเองให้หันหน้าหลบหนีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเขาหวาดกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
ผ่านไปสักครู่ จือโบจึงปล่อยเหลิ่งซานออกไป
ทรวงอกของเหลิ่งซานกระชับขึ้นลงอย่างรุนแรง หางตาของนางมีร่องรอยแห่งน้ำตา จือโบหัวเราะอย่างแผ่วเบา นางยื่นมือไปเช็ด ราวกับคนรักที่แสดงออกอย่างอ่อนโยน
อยากครอบครองนางเหมือนข้าไหม ? จือโบหันกลับไปอย่างกะทันหัน เขากล่าวถามจิงฮ่าวด้วยเสียงที่เยือกเย็น
อ่า ? จิงฮ่าวอึ้งไปชั่วขณะ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
จือโบเม้มริมฝีปาก : เจ้าชอบศิษย์น้องของเจ้า ใช่ไหม ?
จิงฮ่าวจ้องมองเหลิ่งซาน แและพยักหน้าด้วยความลำบากใจ
ข้าสามารถให้โอกาสเจ้า !! จือโบจ้องมองจิงฮ่าวด้วยสีหน้าที่แฝงความนัยอย่างลึกซึ้ง : ดูซิว่าเจ้าจะสามารถคว้ามันมาได้หรือเปล่า !!
สีหน้าของจิงฮ่าวเต็มไปด้วยความต่อต้าน มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จือโบเองไม่เร่งรีบ แต่นางจ้องมองจิงฮ่าวด้วยความสงบ เพื่อรอคำตอบของเขา นางรู้ดีว่าจิงฮ่าวไม่มีทางจะปฏิเสธข้อเสนอของตนเอง เพราะเขาไม่ใช่สุุภาบุรุษที่มีคุณธรรมสูงส่ง
หลังจากนั้น จิงฮ่าวคุกเข่าลง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน : ข้าน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนของคุณหนู จากวันนี้เป็นต้นไปข้าจะทำตามคำสั่งของคุณหนู ไม่ว่าคุณหนูจะสั่งการให้ข้าทำสิ่งใด ข้าจะทำมันโ่ดยไม่มีข้อโต้แย้ง !!
ฮ่าฮ่า .. จือโบหัวเราะด้วยความสนุกสนาน นางพยักหน้าอย่างช้าๆ : ดีมาก !!เจ้ารู้ว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควร ข้าชื่นชอบคนฉลาดเช่นเจ้า !!
ศิษย์พี่ ... สีหน้าของเหลิ่งซานเต็มไปด้วยความหดหู่ นางจ้องมองจิงฮ่าวด้วยสายตาที่มืดมน
สีหน้าของจิงฮ่าวเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ : ศิษย์น้อง ในเวลานี้ความเป็นความตายของพวกเราทั้งสองอยู่ในกำมือของคุณหนู ทำไมพวกเราต้องต่อต้านนางด้วย ? คุณหนูเป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง นางยอมให้โอกาสข้า เมื่อทำตามความต้องการของนาง พวกเราจะสามารถมีชีวิตรอดต่อไป !!
เหลิ่งซานจ้องมองจิงฮ่าวด้วยสีหน้าที่รังเกียจ นางไม่กล่าวสิ่งใดมาก แต่ค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ
จือโบหัวเราะเบาๆ นางเดินถอยหลังกลับไปยังต้นไม้ต้นหนึ่งและจ้องมองออกไปด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา : ไปจับคนคนหนึ่งกลับมา !! หากภารกิจในครั้งนี้สำเร็จ ศิษย์น้องของเจ้าจะเป็นของเจ้า เจ้าอยากทำอะไรนางก็แล้วแต่เจ้า !!
เมื่อได้ยินดังนี้ สีหน้าของเหลิ่งซานแปรเปลี่ยนในทันที แต่ใบหน้าของจิงฮ่าวกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หากเจ้าทำงานอย่างรวดเร็ว หากเจ้าทำให้ข้าไม่ต้องรอนาน . จือโบค่อยๆเลียริมฝีปากของนางและกล่าว : ให้ข้าสนุกกับเจ้าครั้งหนึ่งคงไม่เป็นไร ...ข้าเป็นคุณหนูที่ได้ทั้งบุรุษและสตรี ฮ่าฮ่า !!
จิงฮ่าวกลืนน้ำลายเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้
สามารถล่วงเกินร่างกายของศิษย์น้อง ...และยังได้เล่นกับสนุกกับเรือนร่างของสตรีแห่งอาณาจักรเทียนหล่าง
ครอบครองสตรีทั้ง 2 นางในคราเดียว ช่างเป็นความฝันที่เฝ้าถวิลหา !!!
จิงฮ่าวตื่นเต้นอย่างไม่หยุด เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้น : ข้าจะทำตามคำสั่งของคุณหนู
จือโบแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึม นางชี้ไปยังทิศทางหนึ่งและกล่าว : ห่างจากที่นี้ 30 ลี้ จะมีเป้าหมายของเจ้า เจ้าต้องเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด หากช้าไปไม่แน่ว่าเจ้าอาจจะไล่ตามเขาไม่ทัน
จิงฮ่าวขมวดคิ้ว : ข้าขอถามสักนิด บริเวณนั้นมีกลุ่มคนกี่คน ?
น่าจะมีเพียง 1 คน !! จือโบกล่าวตอบ
1 คน ? สีหน้าของจิงฮ่าวเปลี่ยนแปลงไป : สามารถดำรงชีวิตจนถึงตอนนี้เพียงคนเดียว ความแข็งแกร่งคงอยู่ในระดับสูง คุณหนู ข้าอยากไปพร้อมกับศิษย์น้อง ได้โปรดอนุญาติด้วยเถอะ !!
ฮ่าฮ่า ... จือโบหัวเราะอย่างต่อเนื่อง : ศิษย์น้องของเจ้าต้องอยู่กับเข้า ข้าไม่อนุญาติให้นางไปกับเจ้า แต่ว่า ...ข้าสามารถส่งสัตว์อสูรจำนวนหลายตัวไปพร้อมกับเจ้า สัตว์อสูรขั้นที่ 5 จำนวน 3 ตนคงจะเพียงพอกับเจ้า ?
สีหน้าของจิงฮ่าวแสดงออกด้วยความขมขื่น เขาทราบดีว่าฝ่ายตรงข้าไม่เชื่อใจตนเอง สัตว์อสูรขั้นที่ 5 จำนวน 3 ตน เพียงพอที่จะขย้ำตนเองจนตาย การที่นางบอกว่าส่งสัตว์อสูรเพื่อช่วยเหลือเขา น่าจะเป็นการส่งสัตว์อสูรเพื่อสังเกตุความเคลื่อนไหวสักมากกว่า
เพียงพอแล้ว !! จิงฮ่าวไม่กล้าแสดงสีหน้าที่ไม่พึงพอใจ เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ไปได้แล้ว ต้องจำเอาไว้ ศิษย์น้องของเจ้ารอเจ้ากลับมาดูแล .ข้าก็เช่นกัน จือโบส่งสายตาที่เย้ายวนให้แก่จิงฮ่าว
ขอรับ !! จิงฮ่าวกล่าวตอบอย่างเสียงดัง และบินไปยังทิศทางที่จือโบชี้นำให้แก่เขา
สตว์อสูรขั้นที่ 5 จำนวน 3 ตนวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเป็นสัตว์อสูรขั้นที่ 5 ความแข็งแกร่งมีการแบ่งระดับอย่างชัดเจน ในขณะที่่จิงฮ่าวบินออกไป เขาได้หันหน้ากลับมามอง เพื่อมองดูว่าสัตว์อสูรทั้ง 3 ตนมีลักษณะเช่นไร ในใจยังสบทสาปแช่งจือโบอย่างไม่หยุด
หากเป็นสัตว์อสูรขั้นที่ 5 ทั่วๆไป จิงฮ่าวสามารถจะรับมือกับพวกมัน แต่สัตว์อสูรทั้้ง 3 ตน กลับเป็นสัตว์อสูรขั้นที่ 5 ระด้ับกลาง สัตว์อสูรทุกตนต่างมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้ฝึกยุทธุ์แห่งเขตแดนลมปราณแท้จริงขั้นที่ 5-6 แล้วเขาจะกล้าขัดคำสั่งของนางได้อย่างไร ?
จิงฮ่าวทำได้เพียงอดทนต่อความเกลียดชัง เพื่อทำภารกิจที่จือโบมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์
การเคลื่อนไหวของจิงฮ่าวรวดเร็วอย่างมาก จิตใจของเขากล่าวพึมพำด้วยร่างกายที่งดงามของเหลิ่งซาน ทำให้เขามีแรงกระตุ้นที่จะไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด
เขาเก็บกลิ่นอายแห่งพลังลมปราณ กวาดสายตามองออกไป แต่ยังมองไม่เห็นร่องรอยของผู้อื่น แต่ในสถานที่แห่งนี้่มีเศษผงสีขาวที่หลงเหลือเอาไว้ เศษผงเหล่านี้เป็นร่องรอยของสัตว์อสูรที่ตายไป
สัตว์อสูร 3 ตนที่ไล่ตามมา สูดดมกลิ่นของเศษผงสีขาว ก่อนจะวิ่งตามไปยังทิศทางหนึ่ง
จิ่งฮ่าวไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
จิงฮ่าวไล่ตามไปประมาณครึ่งชั่วยาม สัตว์อสูรทั้ง 3 ตนจึงหยุดลง สีหน้าของพวกมันแสดงออกด้วยความโหดเหี้ยมและแสะเขี้ยวทีแหลมคมของพวกมันออกมา
จิงฮ่าวค่อยลอยๆตัวลงไปที่พื้นดิน ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังป่าลึกด้วยสีหน้าที่เป็นผู้ได้เปรียบ และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา : สหายคนใดอยู่ในสถานที่แแห่งนี้ ? ปรากฏตัวออกมาเดี่ยวนี้