DMWS ตอนที่ 36 การเคลื่อนไหวของเเต่ละฝ่าย [ฟรี]
ในระหว่างที่ เเจ็คสัน กำลัง ครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีใกล้ชิดโทนี่ อยู่ที่บ้าน,โอบาไดห์เองก็กำลังคิดหาวิธีกำจัดโทนี่อยู่เช่นเดียวกัน ,ที่หน่วยข่าวกรองของกรมตำรวจ NYPD คนสองคนกำลังพูดคุยกัน
"หัวหน้า เดนนี่ นี่เป็นรายงานทั้งหมดที่ผมรวบรวมมา ทั้งยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับฮีโร่สองคนที่ผมกล่าวข้างต้นในรายงานด้วย"บนเก้าอี้เบาะ นักสืบสตีฟ ยื่นส่งรายงานให้กับหัวหน้าของเขา มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ท่าเรือเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ไว้หนวดไว้เคราเล็ก ๆ บนใบหน้า
"นายทำได้ดีมากสตีฟ ฉันเองก็ได้พยายามลองสืบสวนเหตุการณ์นี้แบบลับ ๆ เเล้ว ยิ่งได้ข้อมูลจากนายมาอ้างอิงยิ่งช่วยได้เยอะเลย"เดนนี่ กล่าวตอบ หน่วยของเขาเป็นหน่วยกรองข่าวสาร ที่สามารถหาข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานะที่เเท้จริงของ ฮีโร่ ที่บุกทำลายเเก๊งอาชญากรอย่าง เเก๊ง เจสเตอร์ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก หัวหน้า เดนนี่ เองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ตามสภาพรายงานของ สตีฟ หนึ่งในฮีโร่ นั้นมีสถานะเป็นคนตาบอดที่เป็นอัยการ เขาอาศัยอยู่ใน เฮลคิทเช่น เเมนฮัตตัน
"เขาคือ?"หัวหน้า เดนนี่ กล่าวถาม สตีฟ อีกครั้งเพื่อยืนยัน
ฟุ่บบ
สตีฟ ยื่นส่งรายงานเอกสารประวัติยื่นให้ หัวหน้าเขาดู
สตีฟนั้นเคยเห็น เเมตต์ มาก่อน?มันเป็นภาพของเเมตต์ที่ไล่ทุบตีพวกคนร้าย ภายใต้การคิดวิเคราะห์ของ เดนนี่ เเน่นอนว่า ข้อมูลที่เขาได้รับมาย่อมถูกต้อง เขาอ่านประวัติของ เเมตต์ ตั้งเเต่วัยเด็กจนถึงโต เเละ กล่าวครุ่นคิดชื่นชมเล็กน้อย
"ตาของเขาบอดตั้งเเต่เด็ก เเต่นั่นกลับไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเขาเเม้เเต่น้อย ทั้งเขายังมีความเป็นปรปักษ์กับ เเก๊ง เจสเตอร์ รวมถึง เเก๊ง อาชญากร อื่น ๆ ในท้องถิ่น"สตีฟ กล่าวรายงานตามข้อมูลที่ได้รับมา
ข้อมูลที่เขาได้รับมานั้นถูกต้องที่สุด เเต่มันก็เป็นเพียงเเค่หลักฐานชั้นเชิงธรรมดา ไม่มีความที่สามารถสืบได้ว่านี่เป็นคนเดียวกับ ฮีโร่ภายใต้หน้ากากคนนั้นจริงหรือไม่
"อืม,สิ่งที่เรารู้ตอนนี้ก็คือสถานะลับของเขาเเม้ว่าจะล่วงรู้สถานะของเขาไปก็ไม่ได้สร้างความเเตกตื่นขึ้น สิ่งเดียวที่เรารู้ก็คือเขามีความบาดหมางกับพวกอาชญากรเหล่านั้น"หัวหน้าเดนนี่ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ เขาไม่ได้ต้องการเอาผิดกับ เเมตต์
"หัวหน้า เเล้ว ฮีโร่ อีกคนนึง?"เเม้จะรู้สถานะของ เเมตต์ ที่เป็น เเดร์เดวิล เเต่ สถานะของ เเจ็คสัน ที่เป็นฮีโร่ นั้นพวกเขายังไม่ได้รับข้อมูลอะไร เเต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเฝ้าติดตามหาข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง
"ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวใดใด ดูเหมือนเขาจะสามารถปกปิดตัวเองได้อย่างมิดชิด ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของ เเมตต์ เมอร์ด็อค กับเขาก็ยังเป็นความลับ ไม่มีความคืบหน้าเเม้เเต่น้อย"หัวหน้า เดนนี่ กล่าวบอก สตีฟ
"ดังนั้นฉันเดาว่าทั้งสองคนอาจจะไม่รู้จักสถานะของฝ่ายตรงข้ามก็ได้ อาจเป็นเพราะการตกลงร่วมมือกันบางอย่างทำให้พวกเขามีส่วนช่วยเหลือกัน"ด้วยประสบการณ์การทำงานเป็นนักสืบมากกว่า 20 ปี ทำให้ เดนนี่ ตัดสินใจที่จะคิดเช่นนี้ เพราะ หาก ความสัมพันธ์ของ เเมตต์ กับ เเจ็คสัน มีความเกี่ยวโยงกันจริง พวกเขาก็คงจะต้องติดต่อหารือกันไปเเล้ว
เเต่ที่พวกเขาหารู้ไม่ก็คือมีเพียงเเมตต์ฝ่ายเดียวที่ไม่รู้จักสถานะของ เเจ็คสัน ,ในสถานการณ์ตอนนั้น นักสืบ สตีฟ เองก็อยู่ด้วยเขาได้เห็นกรณีที่ เเจ็คสัน ได้พุ่งเข้าจัดการพวกเเก๊ง เจสเตอร์ เเละ พวกมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านั้นได้ เขาเเข็งเเกร่งมากนี่เป็นสิ่งที่ สตีฟ คิด"อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเรารู้ก็คือ เขาเเข็งเเกร่งมาก" การต่อสู้วันนั้นที่เเจ็คสันได้ลงมือมันไม่สามารถลบเลือนออกไปจากสมองของ สตีฟ ได้
"เราจะดำเนินการตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮีโร่คนนี้ต่อไป ข้อมูลที่นายให้มาเองก็เป็นประโยชน์อย่างมาก มันจะมีผลภายหลังสำหรับใช้โจมตีพวกเเก๊งเจสเตอร์"หัวหน้า เดนนี่ กล่าวตอบ
"จริงงั้นหรอครับ?เช่นนั้นพวกเราก็มีความคืบหน้าที่จะกำจัดพวกเเก๊งอาชญากรเหล่านี้เเล้วใช่หรือไม่?"ได้ยินคำตอบของ เดนนี่ สตีฟ กล่าวอย่างเบิกบาน
เเก๊ง เจสเตอร์ นั้นได้ปกครองธุรกิจมืดมามากกว่า 1 ปี เเก๊งนี้เป็นเเก๊งอาชญากรที่ชั่วร้าย หากสามารถกำจัดออกไปได้ มันจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างมาก
"ใช่เเล้ว,ในอนาคตพวกเราสามารถกำจัดพวกมันออกไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังมีความร่วมมือกับพวกองค์กร มนุษย์กลายพันธุ์ เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับครอบครัว เเฟรงเกนสไตน์ ที่หนุนหลังพวกมันอยู่ เพราะครอบครัวนี้มีอิทธิพลที่รุนเเรงทำให้เราไม่สามารถเอาผิดพวกมันได้"นักสืบ เดนนี่ กล่าวอย่างเคลือบเเคลงใจ เเต่นี่ก็เป็นความจริง
เเม้ว่ากองกำลังใต้ดินในนิวยอร์ก จะมีจำนวนมาก เเต่ก็มีพวกที่มีอิทธิพลหนุนหลังที่เเข็งเเกร่ง เช่น เเก๊ง เจสเตอร์ เพราะพวกมันมีอิทธิพลหนุนหลังที่ไม่เรียบง่าย เเม้จะเป็น องค์กรตำรวจ NYPD ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างผลีผลาม เเต่ตอนนี้พวกเขามีความสำเร็จก้าวใหญ่ ๆ ในการเอาผิดพวกมัน ดังนั้น พวกเขาจึงต้องพยายามสืบสาวข้อมูลต่อเพื่อนำไปสู่ตัวการที่เเท้จริงที่อยู่เบื้องหลังอย่าง ครอบครัว เเฟรงเกนสไตน์
"นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดเลย! หัวหน้า เช่นนั้นพวกเราควรจะเริ่มทำอย่างไรต่อดี?!"สตีฟ รอที่จะจัดการกับพวกเเก๊งเจสเตอร์ ไม่ไหว เขาอดที่จะเผยบอกหัวหน้าด้วยความเร่งรีบไม่ได้
"นายได้พยายามอย่างมากเกี่ยวกับภารกิจคราวที่เเล้ว นอกจากนี้ นายเองก็ยังไม่หายดีควรจะพักฟื้นตัวเสียก่อน"หลังจากได้ยินเสียงที่กระตือรือร้นของ สตีฟ ,เดนนี่ กล่าวตอบในทันที ความปลอดภัยของ ลูกน้อง ก็เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของคนที่เป็นหัวหน้าเช่นเขา ทั้งศัตรูคราวนี้ก็เป็น ถึง เเก๊ง เจสเตอร์
"เเต่...หัวหน้า"
'ไม่มีเเต่...ฉันบอกให้นายพักฟื้นก็คือพักฟื้นหลังจากหายดีเเล้วค่อยกลับมาลุยภารกิจต่อ นี่เป็นคำสั่ง เข้าใจหรือไม่?"ได้เห็นสตีฟที่กำลังจะพูดเเย้งเขา,เดนนี่ กล่าวตอบทันที เขาไม่ต้องการให้ลูกน้องของเขาไปเสี่ยงด้วยสภาพที่ไม่พร้อมสมบูรณ์
"ครับ หัวหน้า!"ในที่สุด สตีฟ ก็เลือกที่จะรับคำสั่ง
ในขณะที่ องค์กรตำรวจ NYPD ที่ได้รับข้อมูลรายงานของ สตีฟ กำลังหารือเกี่ยวกับการ เริ่มต้นจัดการ เเก๊ง เจสเตอร์ ,เเก๊งเจสเตอร์ เองก็จัดตั้งการประชุมระดับสูงขึ้น
"ด้วยความสามารถของศาสตราจารย์ เเฟรงก์ ทำให้ ศพ พวกมนุษย์กลายพันธุ์ 2 ตัวนั้นไม่ตกไปอยู่ในมือของพวก กรมตำรวจ NYPD"ในห้องประชุมลับของ เเก๊ง เจสเตอร์ เฮเลส นั่งขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจ เเม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากมนุษย์กลายพันธุ์ 2 ตัว เเต่เขากลับไม่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ เเฟรงก์ เขาคงถูกพวก ตำรวจพวกนั้น ยัดข้อกล่าวหาทั้งหมดได้ไปเเล้ว
"เราได้รับรายงานเรื่องนี้เเล้ว โชคดีที่ศพเหล่านั้นไม่ตกไปอยู่ในมือของพวก กรมตำรวจ NYPD ไม่งั้นเรามีปัญหาเเน่ เเต่การจัดการศพพวกนั้นก็ค่อนข้างเป็นปัญหาทีเดียว"ผู้ที่ตอบเฮเลสนั้น เหมือนเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ เขาค่อนข้างดูอันตราย เเต่เเท้จริงเเล้วใครจะคาดคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในนักฆ่าที่มีชื่อเสียง
ปั้งงง
"ฉันไม่รู้ว่าพวกเเกจะต้องลำบากขนาดไหน ไม่คาดคิดว่าขนาดได้รับการช่วยเหลือจากพวกมนุษย์กลายพันธุ์ก็ยังไม่สามารถบรรลุภารกิจที่วางเอาไว้ได้ เเกรู้ถึงผลที่ตามมาหรือไม่?"ได้ยินคำกล่าวเช่นนั้น เฮเลส ทุบเก้าอี้อย่างรุนเเรง
"เเน่นอนว่าย่อมรู้"ได้ยินคำพูดของ เฮเลส เขากล่าวตอบเพียงเล็กน้อย ในสายตาของเขา พวกตำรวจเหล่านั้นมีอิทธิพลมากก็จริง เเต่ก็ยังไม่สามารถจัดการกับ ศาสตราจารย์เเฟรงก์ได้
เพราะการช่วยเหลือของศาสตราจารย์เเฟรงก์ทำให้ซากศพเหล่านั้นหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ธุรกิจของเราพังเละไม่เป็นท่าทั้งยังได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง อีกทั้ง ยังต้องมาสูญเสียกำลังรบอีกหลายคน นี่นับเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจกู้คืนได้ในเร็วๆนี้"
"เเค่นั้น?เเกยังรู้น้อยไป ธุรกิจของเราไม่เพียงได้รับผลกระทบเท่านั้น ทั้งยังจะสั่นคลอนต่อการล้มละลายทั้งหมด เพราะได้รับความเสียหายทุกวัน"เฮเลส กล่าวตอบด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
เฮเลส กล่าวออกมา เขาเเทบจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เเต่เพราะนี่เป็นหนึ่งในคู่ค้าของเขา เป็นธรรมชาติที่เขายังคงใจเย็นอยู่
"เรื่องนี้...."
"นี่เป็นความจริง..."
ได้ยินคำพูดของ เฮเลส กลุ่มคนจำนวนมากต่างมองหน้ากัน ธุรกิจของ เเก๊งเจสเตอร์ นั้นค่อนข้างใหญ่โต เเต่เพราะได้รับความเสียหายจาก เเมตต์ เเละ เเจ็คสัน ทุกวัน มันทำให้พวกเขาเกิดความเสียหายมหาศาล
"ช่วงนี้เองพวกกรมตำรวจ NYPD เองก็เริ่มมุ่งเป้ามาที่การเคลื่อนไหวของเรา ทำให้ธุรกิจของเราเริ่มล่าช้ามากขึ้น"เห็นหลายคนไม่ได้กล่าวพูดต่อ โอมาร์ ที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ก็พูดขึ้น
"เเกจะบอกว่าพวกเราได้รับผลกระทบสองทางจาก,ไอ้ฮีโร่เฮงซวย เเละ พวกกรมตำรวจ NYPD นั่น?"ได้ยินคำพูดของ โอมาร์ ,เฮเลส กล่าวตอบ
"เป็นเช่นนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจของเรา ทั้งพวก NYPD เอง ก็เริ่มมุ่งเป้ามาที่เรา มันจะดีกว่าหากเราเริ่มซ่อนตัวชั่วคราวเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปมากกว่านี้"เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน โอมาร์ ได้เเต่คิดเเผนเช่นนี้ออกมา
"ดี,เช่นนั้นเรื่องนี้เเกเป็นคนจัดการ ส่วนเเผนการต่อไปจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ฉันจะลองขอคำเเนะนำจาก บอส โรส ดู"ในที่สุดการประชุมครั้งนี้ก็ได้จบลงพร้อมกับคำพูดทิ้งท้ายของ เฮเลส
ตอนนี้องค์กรตำรวจ NYPD เเละ เเก๊งเจสเตอร์ ก็เริ่มเคลื่อนไหวแบบ ลับ ๆ เพียงเเต่ เเจ็คสัน หารู้ไม่ว่าสาเหตุของการเคลื่อนไหวเหล่านี้เเท้จริงกลับมีเหตุผลสำคัญ