ตอนที่ 486 ช่วยเหลือ
“แผนร้ายของพวกมันชั่วช้ามาก พวกมันกลับคิดใส่ร้ายพวกนอกรีต?หากมันไม่ได้เผลอหลุดปาก ฉันคงไม่เชื่อ”
หลิน ฮวงพบสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเจ้าแดงกู้คืนความทรงจำของวู่ เทียน เขาเคยได้ยินว่าพวกนักบุญและพวกนอกรีตต่างก็เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาโลกใต้ดินเพราะหนึ่งในพวกมันบูชาพระเจ้าและคิดว่าพวกไร้ศาสนาควรจะถูกเผาทั้งเป็น ขณะที่อีกหนึ่งเป็นกลุ่มที่คิดหาอิสระซึ่งคิดว่าพวกที่มีศาสนาเป็นพวกบ้า ด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน สององค์กรชั้นนำจึงมักแทงหลังกันเสมอ ความสัมพันธ์พวกเขามักถูกอธิบายว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างคนบ้าและคนโรคจิต
เมื่อมองร่างเย็นที่ถูกแบ่งเป็นสองส่วน หลิน ฮวงก็คุกเข่าและหยิบเอาสมบัติพันธนาการบนเอววู่ เทียน สมบัติพันธนาการคือโลหะทรงกลมสีดำขนาดเท่าครึ่งฝ่ามือ ด้วยความที่มีสิ่งมีชีวิตในสมบัติ หลิน ฮวงจึงไม่มีทางเก็บมันภายในช่องเก็บของเขาได้ เขาคิดเกี่ยวกับมันและค้นพบวิธีใช้สมบัติ
มันมีลวดลายที่คล้ายกับคุกเทียมมืด หลิน ฮวงใส่พลังชีวิตลงไปและหมุนมันตามลวดลาย นักเรียนกว่าสิบคนถูกปลดปล่อยจากสมบัติ มีนักเรียนทั้งหมด13คนโดยสิบคนถูกจับกุมเมื่ออยู่ในเต็นท์ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะที่นักเรียนทั้งสามต่างได้ยินบทสนทนาระหว่างวู่เทียนและหวัง หยาน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าพวกเขาถูกจับโดยพวกนักบุญ
นักเรียนทั้ง13มองหลิน ฮวงด้วยความหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัว ผมคืออาจารย์หลิน ฮวงที่สอนปี1ห้อง2เต๋าดาบ”หลิน ฮวงกล่าวและฉายบัตรประจำตัวอาจารย์“ผมได้ฆ่าคนที่จับพวกคุณไปแล้ว”
นักเรียนหลายคนรู้จักหลิน ฮวงเพราะเขาดูเด็กสุดในหมู่อาจารย์ นักเรียนหลายคนสังเกตเห็นเขาในระหว่างการปฐมนิเทศโรงเรียน และอายุเขาก็เป็นหัวข้อร้อนแรงในบรรดาสาวๆ
เมื่อมองรอยสักนอกรีตบนคอของศพ นักเรียนหลายคนที่ไม่รู้จักหลิน ฮวงก็เลือกเชื่อเขา
“ทั้งสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ออกมาได้แล้ว”หลิน ฮวงหันไปและมองพุ่มไม้ จากนั้นเด็กหนุ่มสองคนก็ก้าวออกจากพุ่มไม้ทันที พวกเขายังคงตกใจเมื่อเห็นวิธีที่หลิน ฮวงฆ่าวู่ เทียน
เมื่อเห็นนักเรียนทั้ง15ที่เขาช่วย หลิน ฮวงกลับยังไม่ผ่อนคลายเพราะเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับนักเรียนกลุ่มนี้ยังไงดี
“ตอนนี้ป่าเต็มไปด้วยพวกนักบุญ การสื่อสาร เครือข่าย และประตูมิติถูกแทรกแซง ไม่มีทางที่ผมจะส่งพวกคุณออกจากที่นี่และความช่วยเหลือจะมาถึงที่นี่อีกประมาณ1หรือ2ชั่วโมง จนถึงตอนนี้ ผมยังไม่รู้ว่ามีพวกมันกี่คน แต่ผมมั่นใจว่านักเรียนหลายคนต้องถูกจับไปแล้ว มันไม่ง่ายที่จะพาพวกคุณทุกคนไปด้วย แต่ผมก็ไม่อาจทิ้งพวกคุณไว้ที่นี่ได้”หลิน ฮวงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
“อาจารย์หลิน ผมคิดว่าคุณสามารถเก็บเราไว้ในสมบัติพันธนาการและนำมันไปกับคุณได้ สมบัติที่คุณกำลังถือเรียกว่าข่ายมืด มันคือสมบัติเกรด2และยังจุคนได้ถึง100คน ภายในปกติจะมืด แต่ก็มีโหมดให้แสงสว่างอยู่ตราบเท่าที่คุณเปิดมันด้วยลวดลายสีขาวข้างๆ ด้วยโหมดแสง เราจะสามารถพูดคุยฆ่าเวลากันได้ในนั้น”เด็กหนุ่มแว่นตากรอบดำพูดขึ้น
นักเรียนหลายคนดูเศร้าสลดเพราะพวกเขาไม่อยากกลับไปในนั้นอีก
“ไม่ว่าจะเป็นพวกนอกรีตหรือนักบุญ พวกมันต้องวางแผนมาเป็นเวลานาน พวกมันจะใช้เวลาอันสั้นเพื่อจับกุมนักเรียนทั้งหมดและหนีไป ดังนั้น ผมคิดว่าอาจารย์หลินต้องรีบช่วยคนอื่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”เด็กชายสวมแว่นดูเหมือนจะสังเกตเห็นท่าทีลังเลของพวกนักเรียนและอธิบาย
“ผมรู้ว่าการถูกเก็บไว้ในข่ายมืดไม่ใช่เรื่องดีแต่ช่วยอดทนกันหน่อยเถอะ ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยากทำให้คนอื่นต้องตายหรอก ใช่ไหม?”
“ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางอื่นอีกแล้ว แผนที่นักเรียนคนนี้พูดคือวิธีที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด”แม้กระทั่งหลิน ฮวงก็ยังคิดตาม
“อาจารย์หลิน โปรดนำเรากลับไปในข่ายมืดด้วยคะ”เด็กสาวกล่าว
นักเรียนคนอื่นที่ลังเลพากันเห็นด้วยเพราะไม่มีทางอื่น จากนั้นหลิน ฮวงก็เปิดใช้งานมันและใส่พวกเขาลงไปทีละคน
“คุณชื่ออะไร?”หลิน ฮวงอดที่จะถามเด็กหนุ่มสวมแว่นไม่ได้
“กง เจิ้งเหอจากเต๋าดาบห้อง1ครับ”
“คุณทำได้ดีมาก!”หลิน ฮวงยกนิ้วโป้งให้เขาก่อนจะใส่เขาลงไปในข่ายมืด
หลิน ฮวงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยกับการช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มแรก
“ข้าได้ปล่อยเมล็ดกาฝากใส่สมาชิกนักบุญกว่าสิบคน แต่ข้าต้องอยู่ที่นั่นด้วยตัวเองเพื่อฝังปรสิตใส่คนที่เหนือกว่าเพลิงฟ้า การแทรกแซงพิกัดเริ่มทำงานแล้ว ในไม่ช้าพวกมันจะตระหนักว่าตัวรับสัญญาณพวกมันผิดปกติและรายงานแก่สองผู้อาวุโส จากนั้น พวกมันจะพบว่ามีคนมาช่วยพวกนักเรียนแล้ว”เจ้าแดงพูดการคาดการณ์มันหลังแทรกแซง
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้พวกมันรู้”หลิน ฮวงไม่ได้สนใจ
“จากความทรงจำของวู่ เ ทียน พี่ชายเขา วู่ ฟางคือระดับนิรันดร์ขั้น3 แต่เขาไม่รู้ว่าใครคือผู้อาวุโสอีกคน แต่ทว่า เมื่อดูจากทัศนคติของวู่ ฟางที่มีต่ออาวุโสคนอื่น ผู้อาวุโสคนนั้นควรจะทรงพลังยิ่งกว่า”เจ้าแดงเตือน
“สูงกว่านิรันดร์ขั้น3 ยุ่งยากซะแล้ว.....ด้วยความสามารถฉันตอนนี้ ฉันควรจะสามารถฆ่านิรันดร์ขั้น1ได้ และจะต้องอัญเชิญมอนสเตอร์หากเป็นนิรันดร์ขั้น2 ฉันอาจต้องเปลี่ยนร่างเพื่อฆ่านิรันดร์ขั้น3...สำหรับระดับที่สูงกว่านั้น...”หลิน ฮวงขมวดคิ้ว
เนื่องจากเขาเลื่อนเป็นระดับเพลิงสวรรค์แล้ว ความสามารถเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เขาสามารถฆ่าเพลิงฟ้าได้เมื่อเขาอยู่ระดับทองขั้น3 และมันง่ายสำหรับเขาที่จะฆ่าเพลิงม่วงเมื่อเขาถึงระดับทองสมบูรณ์ เขาอาจจะฆ่าเพลิงทองได้ด้วยเช่นกัน ตอนนี้เขาคือระดับเพลิงขาว เขาคิดว่าเขาอาจจะสามารถฆ่าระดับนิรันดร์ขั้น1ได้ แต่เขาไม่มั่นใจว่าจะฆ่าคนที่เหนือกว่าระดับนิรันดร์ขั้น3ได้
“ช่างเถอะ ฉันต้องช่วยเหลือนักเรียน!เจ้าแดง ส่งพิกัดของศัตรูที่ใกล้ที่สุดมาให้ฉันที”หลิน ฮวงสะบัดไล่ความคิดออกจากหัวเขา
“นายท่าน การต่อสู้เพียงลำพังคงช้าเกินไป ท่านควรอัญเชิญพวกปีศาจออกมาช่วย”เจ้าแดงเตือน
“แต่มีเพียงแกที่สามารถนำทางได้ แกอยากให้พวกมันวิ่งรอบป่าและใช้โชคดูว่าจะพบไหมงั้นหรอ?”หลิน ฮวงไม่รู้ว่าทำไมเจ้าแดงถึงแนะนำเช่นนี้
“นายท่าน ข้าสามารถโคลนนิ่งตัวเองได้”เจ้าแดงเสนอและหมอกควันม่วงก็แบ่งเป็นหมอกควันขนาดเล็กสองก้อน
“ทำไมแกไม่บอกฉันก่อนหน้านี้?”หลิน ฮวงไม่รู้ว่าเจ้าแดงมีความสามารถเช่นนี้ เขาอัญเชิญสามปีศาจ ไป่ ชาโคลและมงกุฏราชันย์ออกมา เขาไม่ได้อัญเชิญไคลี่และตัวอื่นเพราะพวกนักบุญส่วนใหญ่อยู่ในระดับเพลิงม่วงและแม้กระทั่งเพลิงทองซึ่งพวกมันไม่อาจสู้ด้วยได้
พวกปีศาจล้วนกลายพันธ์สองครั้งและอยู่ในระดับเพลิงทอง ดังนั้นพวกมันจึงมีความสามารถพอจะฆ่าสมาชิกนักบุญทั้งหมดตราบเท่าที่พวกมันไม่พบเจอสองผู้อาวุโส แม้มอนสเตอร์กลายพันธ์สามครั้งทั้ง3เขาจะอยู่ในระดับเพลิงฟ้า ความสามารถพวกมันก็ยังเทียบได้กับสามปีศาจหรือทรงพลังกว่านั้น ตั้งแต่ที่ไป่และชาโคลได้รับการปลดผนึก พวกมันก็สามารถควบคุมกลิ่นอายเลือดเทพและเลือดมังกรได้โดยสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นหลินฮวงจึงสามารถอัญเชิญพวกมันออกมาได้ดั่งปกติ
“ชาโคล หดร่างแกหน่อย มันใหญ่เกินไปนะ”หลิน ฮวงสั่งชาโคล ชาโคลเชื่อฟังและหดร่างที่ราวกับลูกบอลลูนสูงกว่าพันเมตรจนเหลือสามเมตรในพริบตา.....
“ภารกิจของพวกแกในครั้งนี้คือการฟังเจ้าแดงเพื่อฆ่าพวกนักบุญและริบเอาข่ายมืดมา”หลิน ฮวงกล่าวและแสดงข่ายมืดในมือเขา
“มันง่ายที่จะระบุพวกนักบุญเพราะพวกมันได้ปลอมตัวเองเป็นพวกนอกรีตด้วยรอยสักไม้กางเขนสามอันตรงคอฝั่งซ้าย”หลิน ฮวงบอกและชี้ไปที่ศพบนพื้น
“ฟังเจ้าแดงกันด้วยละ”เขาพยักหน้าให้เจ้าแดง
จากนั้นเจ้าแดงก็โคลนร่างมันเป็น7ร่างและผูกตัวเองเข้ากับแขนของมอนสเตอร์ทั้ง6
“เอาละ ไปกันเถอะ!”หลิน ฮวงตะโกนขณะที่เจ้าแดงพามอนสเตอร์ทั้ง6ไปและหลิน ฮวงก็ตรงไปทิศทางอื่น