คุณหมอย้อนเวลา - ตอนที่ 6 : การแสดงผาดโผน (2)
ตอนที่ 6 – การแสดงผาดโผน (2)
“นายท่าน.. ให้ผมถือของนั่นให้เถอะนะขอรับ” โดลซกรู้สึกอึดอัดเพราะจองกุกถือกระเป๋าไว้ในมือของเขาแน่น
เขาเป็นบ่าวแต่กลับเดินตัวปลิวแขนขาโล่ง ในขณะที่นายน้อยต้องเดินถือกระเป๋า
กระเป๋าที่ดูหนักอึ้ง.. ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น
“ไม่เป็นไร..” จะอย่างไรจองกุกก็ไม่อยากให้เขาถือกระเป๋านี่อยู่ดี
‘แม้เขาจะดูเป็นคนจงรักภักดิ์ดี..’
เขามองดูโดลซกที่คะยั้นคะยอให้เขามอบกระเป๋าให้ และดูเหมือนเขาก็พอจะไว้ใจโดลซกได้
เขาได้ช่วยชีวิตน้องชายของโดลซก คงไม่มีอะไรน่าระแวง..
‘แต่กระเป๋าใบนี้ก็สำคัญอย่างมาก’
เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาทำกระเป๋าใบนี้หาย กระเป๋าใบนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขานำติดตัวมาจากโลกที่เขาจากมา
‘อย่างน้อย.. ผมก็ยังใช้มันเพื่อยังชีพได้ หากเขาไม่สามารถกลับไปยังโลกเดิมได้’
เมื่อคิดเช่นนั้น.. มือที่กำกระเป๋าก็ยิ่งกำแน่นขึ้นกว่าเดิม และก็โชคดีที่ไม่มีใครเข้ามาใกล้เขา
เขาสวมหมวกสีดำ รองเท้าสีดำ แล้วก็ชุดโบราณ และก็มีบ่าวคอยติดตามด้วย คงไม่มีใครสงสัยในตัวเขาหรอก? อีกอย่างเขาเองก็เป็นถึงชนชั้นสูง..
....
“ดูนั่น..” โดลซกชี้ไปที่ยังสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันมากมาย และเพราะมีผู้คนมากมายจนเกินไป ทำให้มองไม่เห็นว่าเขาทำอะไรกัน
“นี่ยังเช้าตรู่อยู่เลย พวกเราก็เพิ่งทานอาหารเช้าเสร็จ ทำไมที่นี่ถึงได้มีผู้คนมากมายเช่นนี้?”
“คณะออเกไม่ได้มาแสดงที่นี่บ่อยนัก และบางทีพรุ่งนี้ก็อาจจะย้ายไปเล่นที่จวนท่านข้าหลวงในซูวอนแล้ว”
“ข้าหลวงงั้นเหรอ?”
เขายืนกอดอกอยู่ครู่หนึ่งเพราะไม่เข้าใจคำพูดของโดลซก แต่เพราะเขาเป็นคนฉลาด ทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาดได้
“ข้าหลวงงั้นรึ (ข้าราชการขั้นสาม)”
“ขอรับ ขอรับ”
“เรามาดูละครที่นี่แต่ดูท่าจะไม่ได้ดูแล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะขอรับ? ทำไมนายท่านพูดเช่นนั้น” โดลซกตาโตสีหน้างุนงง
“เจ้าดูสิ.. เราจะเข้าไปได้ยังไงกัน ผู้คนมากมายขนาดนี้”
“เหอ.. นายท่าน ท่านดูแปลกมากตั้งแต่เมื่อวาน” โดลซกยิ้ม เขาถกแขนเสื้อขึ้นพร้อมกับตะโกนว่า
“ถอยไป ถอยไป ชนชั้นสูงมาที่นี่แล้ว”
แม้มันจะดูน่ากระอักกระอ่วน แต่ก็ได้ผลดีทีเดียว ผู้คนต่างแหวกทางให้ โดลซกชี้ไปที่ทางเดินที่ตอนนี้เปิดออกแล้วพูดว่า “นายท่าน.. เชิญทางนี้ขอรับ”
“อ่อ.. ได้สิ” จองกุกซ่อนสีหน้าที่กระอักกระอ่วนใจของเขา และเดินผ่านผู้คนเข้าไปด้านใน กำลังคิดว่าในโลกที่เขาจากมานั้น แม้แต่ผู้อำนวยการกับท่านประธานยังไม่ได้รับการปฏิบัติแบบนี้เลย
“นายท่านขอรับ.. ตรงนี้ดีกว่าขอรับ” โดลซกชี้ไปยังเก้าอี้แถวหน้า
แน่นอน.. เก้าอี้เต็มหมด คงจะมีคนที่มาจองที่โดยที่ยังไม่ได้ทานอาหารเช้าด้วยซ้ำเพื่อให้ได้ที่นั่งที่ดีๆ
“หลีกไป..” เสียงตะโกนของโดลซกทำให้ที่นั่งแถวนั้นว่างจนเกือบหมด จองกุกยิ้มฝืดขณะมองดูพวกเขาลุกหนีไป
“เอาล่ะ..” เขาหานั่งที่นั่งเหมาะๆและนั่งลงขณะเดาะลิ้นไปด้วย
‘โชคดีที่เขาไม่ใช่สามัญชน..’ เขาโชคดีที่เป็นชนชั้นสูง ที่นั่งตรงนี้ดีจริงๆ เขาได้เห็นแม้กระทั่งรอยตีนกาของนักแสดง สุดยอดจริงๆ
“โดลซก.. มานั่งตรงนี้”
“ไม่ขอรับ.. ตรงนี้ดีแล้วขอรับนายท่าน” โดลซกยืนยันที่จะยืนอยู่ด้านหลังของจองกุกด้วยท่าทางที่พยายามสุภาพ
‘เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่.. ผู้คนด้านหลังจะมองไม่เห็นการแสดงถ้าเขาไม่นั่งลง’
จากนั้นเขาก็มองเห็นผู้หญิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีหญิงสาวบางคนในกลุ่มก็ทำทรงผมที่ดูคล้ายกับเป็นชนชั้นสูง
‘ผู้หญิงมาเดินตลาดได้ด้วยเหรอ? เอ..’ จองกุกพยายามนึกถึงสิ่งที่เขาเคยเรียนมา ‘ได้! เขาเคยเรียนมาว่ายุคโครยอเกิดขึ้นในช่วงต้นของโชซ็อน’
นี่น่าจะไม่ใช่ยุคกลาง หรือยุคปลายโชซ็อน ดูจากการที่พวกผู้หญิงในตระกูลสูงสามารถมาดูการแสดงแซนแดโนริ (Sandaenori) ที่ตลาดได้
‘ที่นี่ไม่มีผู้หญิงสวยๆเลย’ เขาถอนหายใจอย่างผิดหวัง
มันคือความจริงอย่างที่สุด.. แม้แต่ในศตวรรษที่ 21 ยุคเกาหลีใหม่ เขายังหาใครที่ดึงดูดใจเขาไม่ได้เลย แล้วเขาจะหาพบในโชซ็อนนี่ได้ยังไง?
ไม่น่าแปลกใจ..
‘ดูเหมือนจะมีการแสดงผาดโผนด้วยการเดินบนเชือก..’ เขาเริ่มสังเกตุการณ์
นักแสดงต่างเคลื่อนไหวกันอย่างกระตือรือร้น พวกเขาเริ่มติดตั้งชิงช้า และเตรียมหน้ากาก และสิ่งที่เรียกความสนใจจากผู้คนได้มากที่สุดเห็นจะเป็นการเดินบนเชือก
เชือกน่าจะผูกไว้สูงจากพื้นราวสิบเมตรได้ เพียงแค่เห็นเชือกเขาก็เริ่มเวียนหัวแล้ว
“นายท่าน.. การแสดงกำลังจะเริ่มแล้วขอรับ”
“อืมม”
เมื่อสิ้นเสียงโดลซก นักแสดงต่างพากันวิ่งออกมาที่ด้านหน้าเวที พวกเขาเริ่มความสนุกสนานด้วยการแสดงโหนเชือก.. พวกเขามีพรสวรรค์มากที่สามารถทำให้จองกุกรู้สึกตื่นเต้นได้ แม้ว่าเขาค่อนข้างจะเคยชินกับเรื่องที่น่าหวาดเสียวมาแล้วก็ตาม
‘ดูเหมือนผมกำลังดูศิลปะการต่อสู้อยู่’
หนึ่งในนักแสดงนั้นดูเหมือนจะมีทักษะด้านศิลปะในการต่อสู้ด้วย เขาวิ่งไปทางโน้นทีทางนั้นทีอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่ามันรวดเร็วจนชายชราอีกคนมองไม่ทัน
ในนาทีนั้นเอง.. ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าคณะก็ไปกระแทกเข้ากับผู้ชายที่กำลังโหนเชือกอยู่
“แย่แล้ว..! เขาได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“ไม่ขอรับ.. เขาไม่เป็นไรขอรับนายท่าน ดูเขาสิ”
เมื่อโดลซกพูด คนที่เป็นหัวหน้าก็เอามือลูบหน้าอกของเขา แล้วเริ่มแสดงต่ออีกครั้ง
“เขาไม่เป็นไรแน่นะ? อืมม.. ดูเหมือนจะไม่เป็นไร”
“ขอรับนายท่าน.. พวกเขาล้วนผ่านการฝึกฝนมา”
“นั่นสินะ.. ดูเขาค่อนข้างมีฝีมือ”
แม้ว่าการเคลื่อนไหวที่ดูหวาดเสียวนั่น จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชม แต่การแสดงที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการเดินบนเชือก..
โดลซกตื่นเต้นมากเช่นกัน.. เขาตะโกนบอก “นายท่าน Eoreumsani ออกมาแล้วขอรับ”
แม้เขาจะไม่รู้ว่า Eoreumsani (นักแสดงผาดโผนที่เดินบนเชือก) หมายความว่าอะไร แต่จองกุกก็พอจะเดาได้ว่าโดลซกน่าจะกำลังจะบอกว่า เขาเห็นนักแสดงที่อยู่ด้านบนสูงๆนั่นแล้ว
“โอ้.. ไม่นะ!”
นักแสดงผาดโผนเดินอยู่บนเชือกตัวเปล่า บางครั้งก็เดินด้วยขาข้างเดียว และบางครั้งก็วิ่งอยู่บนเชือกเส้นเดียว
“ข้าไม่เคยเห็นนักแสดงผาดโผนที่เก่งเช่นนี้มาก่อนเลย เขากระโดดได้สูงมาก! ผู้คนต่างร่ำลือว่าคณะออเกเป็นคณะที่เก่งที่สุด ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ”
“ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน พวกเขาเก่งมากจริงๆ”
จองกุกไม่เคยเห็นการแสดงอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะชีวิตของเขามีแต่เรื่องเรียน แต่เขากลับสังเกตุเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ เขาจ้องมองการแสดงตาไม่กระพริบ
‘แปลกจริง! ทำไมเขาไม่มีลูกกระเดือก’
เป็นไปได้เพียงอย่างเดียว..
‘ผู้หญิง..? ผู้หญิงเป็นนักแสดงได้ด้วยเหรอ?’
เขาไม่เข้าใจ.. แต่ก็ไม่สามารถถามโดลซกได้เช่นกัน
เพราะโดลซกบอกกับเขาว่า.. เขาดูค่อนข้างประหลาดตั้งแต่เมื่อวาน แสดงว่าเขาคงเริ่มสังสัย และเขาก็ไม่สามารถถามคำถามที่น่าอึดอัดแบบนั้นได้
ในไม่ช้า.. การแสดงก็จบลง นักแสดงต่างพากันถอดหน้ากาก.. ทุกคนเป็นผู้ชาย.. เว้นแต่นักแสดงผาดโผนผู้นั้น จองกุกมั่นใจแน่ว่าเป็นผู้หญิง ‘ถึงแม้เสื้อผ้าหลวมจะปกปิดไว้ แต่รูปร่างก็บ่งบอกชัดเจน’
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเรื่องนักแสดงผาดโผนอยู่นั้น ก็มีชายชราเดินมาด้านหน้าจองกุก แม้เขาเป็นชายชราผมขาว แต่น้ำเสียงกลับดูมีพลัง
“ถ้าท่านสนุกสนานกับการแสดง ได้โปรดแสดงความมีน้ำใจด้วยเถิด”
เมื่อพูดจบ นักแสดงต่างพากันวิ่งตรงไปที่นี่ ที่นั่น เพื่อเรี่ยไร ช่างบังเอิญที่นักแสดงที่วิ่งมาหาจองกุกนั้นคือนักแสดงผาดโผนผู้นั้น
“นายท่าน ถ้าท่านพอใจการแสดงได้โปรดให้เงินพวกเรามากหน่อย”
นักแสดงผาดโผนคนนั้นพยายามพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง แต่เขากลับรู้สึกแปลกใจเพราะมีความสงสัยอยู่แล้ว
‘แล้วผมจะไปสนใจทำไม? ไม่ใช่เรื่องอะไรของผมสักหน่อย’
นักแสดงผาดโผนนั่นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่เกี่ยวกับเขาสักนิด
‘แล้วนี่ผมต้องให้เท่าไหร่ล่ะ?’
จองกุกล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อและเริ่มลังเล ในแขนเสื้อของเขานั้นนอกจากพัดหนึ่งอันก็ไม่มีอย่างอื่นอีกเลย พัดนี่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา แต่พัดนี่น่าจะเป็นของหรูหราในยุคโชซ็อน
มันคงไม่ใช่ของที่จะให้กันได้ง่ายๆหรอกนะ
โดลซกดูออก และกระซิบที่ข้างหูของเขา
“นายท่านเก็บพัดไว้เถอะขอรับ.. ข้าน้อยจะจัดการให้เอง”
“อ่อ.. ข้าสนุกมาก”
โดลซกหยิบห่อผ้าออกมาจากหลังของเขา และให้ข้าวถ้วยใหญ่กับนักแสดงผาดโผนผู้นั้น เมื่อได้ยินเสียงเทข้าวลงในกระสอบ นักแสดงผาดโผนก็โค้งคำนับพร้อมพูดว่า “ขอบคุณ”
เหล่านักแสดงพากันเดินจากไปหลังจากเก็บเงินและสิ่งของไปแล้ว
“การแสดงสนุกไหมขอรับ” โดลซกถาม
“สนุกสิ.. สนุกมากที่สุดเลยล่ะ”
“นายท่าน ตอนนี้การแสดงหน้ากาก Sandaenori ก็จบแล้ว.. ข้าน้อยจะพานายท่านไปที่ดีๆแห่งหนึ่ง”
“ที่ดีๆงั้นเหรอ?”
“นายท่านก็รู้อยู่แล้ว”
โดลซกพาจองกุกไปที่โรงนวดที่มีกีแซงมาคอยให้บริการลูกค้า ฟังจากเสียงที่ดังออกมาจากด้านใน จองกุกคิดว่าคงมีลูกค้าคนอื่นอยู่ด้านในเช่นกัน
จู่ๆก็มีผู้หญิงสวมวิกเข้ามาคว้าแขนจองกุกแล้วลากเข้าไปข้างใน
“นายท่าน.. ไม่มาที่นี่ตั้งนานเลยนะคะ! ข้าจะหาห้องให้นายท่าน”
เมื่อเห็นเช่นนั้น โดลซกได้แต่หัวเราะ..
“นี่หญิงน่าเกลียด.. เหตุใดจึงกล้าจับแขนนายท่าน? แล้วทำไมถึงได้เสียงดังนักล่ะ?”
“คณะโอเกเพิ่งจะมาถึงที่นี่ได้ไม่นานนัก..”
เสียงหนวกหูดังมาจากด้านใน เมื่อได้ยินเสียงอึกทึกคึกโคมเช่นนั้น โดลซกได้แต่ส่ายหน้าแล้วตะโกนออกไป “ข้างในนั้น.. ใครอยู่ข้างในน่ะ เจ้านายของข้ามาเที่ยวที่นี่ เอะอังเสียงดังอะไรกัน?”
.....
“ขอรับ.. ขอรับ.. เชิญนายท่านทางนี้ขอรับ” หญิงชรานำจองกุกและโดลซกเข้าไปด้านใน ดูเหมือนห้องด้านข้างก็มีลูกค้าเช่นกัน แต่เสียงไม่เอะอะโวยวายเหมือนด้านนอก
จองกุกมองเห็นหัวหน้าคณะ นักแสดงผาดโผน และผู้ชายอีกสองคนอยู่ที่นั่น
“ข้าน้อยจะไปนำเหล้าและอาหารมาให้นายท่าน”
“เร็วๆล่ะ!” สิ้นเสียงของโดลซก หญิงชราก็ยิ้มให้และเดินออกไป โดลซกเอ่ยปากชื่นชมเขาหลังจากที่หญงชราเดินออกไป
“นายท่าน.. นายท่านดีที่สุดเลย”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“ไม่มีเจ้านายคนใหนหรอกที่จะพาบ่าวอย่างข้ามาโรงนวดด้วย”
“อ้าว.. ก็ไม่เป็นไรนี่”
จองกุกยิ้มอย่างใจเย็น
“ไม่นะนายท่าน.. นายท่านดีที่สุดเลย ท่านช่วยชีวิตโอซก วันนี้ข้าจะเลี้ยงท่านเอง”
“อะไรนะ? ได้.. แต่เจ้ามีเงินอย่างนั้นรึ?”
“มีครับนายท่าน.. ท่านอาจารย์ให้ผ้าไหมข้ามาสองพับ”
“ได้.. ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จ่าย” ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธข้อเสนอ
จองกุกนั่งเอนหลังพิงกำแพงอย่างเหนื่อยล้า.. ‘วันนี้เขาตื่นแต่เช้าตรู่’ ดูเหมือนว่าเขาสามารถหลับได้ในทันทีหลังจากที่ดื่มไปเพียงแก้วเดียว
‘ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ’
เพียงไม่กี่นาที เข้าก็ได้ยินเสียงตะโกนมาจากห้องข้างๆในระหว่างที่เขากำลังงีบหลับ ประตูเปิดออก และเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น..
“หัวหน้า.. ท่านหัวหน้าล้มลง..”