Chapter 108 -อันตรายทุกที่(เปิดขายรอบพิเศษ)
Chapter 108 -อันตรายทุกที่
(TL: เปลี่ยนชื่อกลับมาเป็นหลิวซางเฟยอีกแล้วจากเดิมหลิงซางเฟย และจางก๋งก็มีแซ่แล้วเป็น เหอจางก๋ง)
ที่เป็นการยโสที่ป่าเถื่อนและไม่มีขอบเขต!
มันหยิ่งมากเสียจนไม่มีใครเข้าใจได้อีกต่อไป.
ถ้าลั่วเทียนเป็นคนบ้าเหมือนกับตอนแรก ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนบ้าอย่างแท้จริงและบ้าคลั่งจนไม่แม้แต่จะมองดูตัวตนของเขา.
หลังจากที่ถูกพูดชื่อและท้าดวล เฉินเทียนเหยาเย้ยเยาะอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะลงมาที่พื้นอย่างแรง มีแนวโน้มของการประหัดประหารคล้ายกับไฟลุกโชนขณะที่เขากล่าวว่า “ถ้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะท้าทายข้าในการต่อสู้ตัว-ตัว เจ้าเป็นคนโง่จริงๆหรือเป็นคนที่ไม่มีสมองกันแน่ จะเริ่มเลยหรือยัง?”
“แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน.”
“ความโกรธแค้นของลูกข้า ควรจะได้รับการแก้นแค้นโดยส่วนตัว.”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น ความโกรธของเฉินเทียนเหยาก็เพิ่มทีละนิดๆและเต็มไปด้วยความเกลียดชังเพียงอย่างเดียว.
ลั่วเทียนยืนนิ่งอยู่ที่เดิมขณะที่ถูดกลิ่นอายของเฉินเทียนเหยาคุกคาม จากนั้นเขาก็พูดด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ “ลูกเจ้าสังหารผู้อื่น เพราะงั้นข้าจึงสังหารลูกเจ้า สาวกนิกายก็ถูกข้าสังหารด้วยตัวของข้าคนเดียว เพราะงั้นคนอื่นๆจึงไม่เกี่ยวข้อง ข้าจะแบกรับความผิดชอบทั้งหมดเอง.”
“เข้าแน่ใจว่าทุกคนที่นี่รู้ว่าเจ้ามีการบ่มเพาะที่มากมายเท่าไร.”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าจานชื่อเจ้าเพื่อท้าดวลได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าผลจากการต่อสู้จะเป็นอย่างไรข้าก็หวังว่าเจ้าจะปล่อยตระกูลลั่วและคนทั่วไปของเมืองภูเขาหยกออกไป พวกเขาทั้งหมดบริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้.”
เฉินเทียนเหยาส่งเสี่ยงฮึ่มอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ลั่วเทียน เจ้าต้องการเสียสละเพื่อปกป้องผู้อื่น? ตาเฒ่าคนนี้จะบอกให้ว่า ทุกคนในตระกลูลั่วและผู้คนในเมืองภูเขาหยกจะต้องถูกฝังลงพร้อมกับลูกชายของข้า.”
ถ้าเมืองภูเขาหยกไม่พินาศทั้งหมดความโกรธในหัวใจของเขาไม่อาจหายไปได้!
อย่างไรก็ตาม...
ลั่วเทียนไม่ได้มองเฉินเทียนเหยาขณะที่เขากล่าวคำเหล่านั้นและกำลังมองไปที่หลิวซางเฟย จากนั้นเขาก็มองกลับมาที่เฉินเทียนเหยาและเยาะเย้ยอย่างเย็นชา: “อย่าสำคัญตัวเอง เพราะคำพูดของเจ้าไม่อาจเป็นตัวแทนของนิกายเมฆครามได้!”
การแสดงออกของเฉินเทียนเหยาน่าเกลียดอย่างมากในคราวนี้.
หลิวซางเฟยยิ้มน้อยๆและพูดว่า“เจ้าได้สังหารสาวกของนิกายเราเป็นจำนวนมาก ดังนั้นชื่อเสียงของนิกายเราจึงได้รับความเสื่อมเสียจากเจ้า เจ้าคิดว่าการที่เจ้าตายไปมันสามารถฟื้นฟู้ชื่อเสียงของนิกายเมฆครามได้หรือไม่?”
ลั่วเทียนเริ่มพูดกับตัวเองด้วยความรังเกียจ “ชื่อเสียงเส็งเคร็งแบบไหนที่เจ้ามี?”
มีรอยยิ้มอยู่บนหน้าของลั่วเทียนเมื่อเขาถามขึ้น “งั่นความตั้งใจของท่านคืออะไร?”
หลิวซางเฟยตอบ“ความตั้งใจของข้านั้นง่ายมาก หากว่าเจ้าแพ้ ทุกคนในเมืองภูเขาหยกจะตายไปพร้อมกับเจ้า ถ้าเจ้าชนะทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอันหายกัน.”
ลั่วเทียนพูดทันที“ดี เราจะทำตามคำพูดของท่าน!”
หลิวซางเฟยตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าลั่วเทียนจะเป็นคนตรงไปตรงมา
อย่างหนึ่งคือต้องเข้าใจว่าเฉินเทียนเหยาเป็นคู่ต่อสู้ ผู้ที่อยู่ในขั้นปราณสุดยอดเชียวชาญขั้นสุดยอด มันมีความแตกต่างระหว่างทั้งสองราวกับ108,000ไมล์ ดังนั้นลั่วเทียนยังคิดว่าเป็นคู่ต่อสู้กับเฉินเทียนเหยาได้?
ของชิ้นใดที่เขามีและเพียงพอที่จะฆ่าเฉินเทียนเหยาได้หรือไม่?
เหอจางก๋ง รู้สึกตกใจกับเรื่องนี้.
ขณะที่ลั่วเทียนทำอย่างนั้น หวังหยวนไคว่ก็ไม่ได้ต่อต้านใดๆ ทั้งสองคนเดาว่าลั่วเทียนต้องมีสมบัติมนต์ขลังเป็นอย่างน้อย.
ในเวลานี้เกิดความโลภในใจของพวกเขา!
สมบัติมนต์ขลัง มันอุปกรณ์เวทย์ที่หาได้ยากมากแม้ว่าจะอยู่ในนิกายเมฆครามเช่นกัน.
ถ้าสมบัติมนต์ขลังอยู่ในระดับสูง....หลิวซางเฟยเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย.
หลังจากที่กระแอ่มคอ หลิวซางเฟยก็มองไปที่เฉินเทียนเหยาและถามว่า“อาวุโสเฉิน ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”
เฉินเทียนเหยาตอบอย่างสุภาพ: “อาวุโสหลิว โปรดมั่นใจได้ ข้าจะสังหารเขาและคนทั้งเมืองภูเขาหยกแน่นอน!”
หลิวซางเฟยยิ้มน้อยๆ “งั้นก็ดีมาก ข้าหวังว่าท่านจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”
หลิวซางเฟยมีแผนในใจของเขาแล้ว “หากว่าสมบัตมนต์ขลังของเขาไม่อาจต้านทานความรุนแรงระดับปราณสุดยอดเชี่ยวชาญได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับข้าและความตายของเด็กคนนี้ก็เป็นไปตามความต้องการของเรา ถ้าเด็กคนนี้ชนะได้ แสดงว่าสมบัติของเขาต้องเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อแน่ๆ…”
แน่นอน เหอจางก๋งก็คิดไปในทางเดียวกัน!
ฝูงชนเริ่มเว้นระยะทางให้สำหรับคนทั้งสอง.
ลั่วเทียนมองไปที่เฉินเทียนเหยาที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร.
เสียงของเฉินเทียนเหยาเต็มไปด้วยความโกรธและเย่อหยิ่งขณะพูดว่า“คราวนี้ ข้าจะไม่เจ้าได้มีโอกาสมีชีวิตอีกแล้ว!”
“ข้าจะทำลายวิญญาณเจ้าเพื่อที่จะเจ้าจะไม่อาจกลายเป็นผีได้!”
ลั่วเทียนยิ้มด้วยความรังเกียจพูดว่า “ถุย ข้าเป็นคนที่ชอบทำความดี ลูกชายของเจ้าอยู่ในนรกแล้ว สำหรับเจ้าข้าคิดว่าจะทำความดีอีกครั้งโดยการให้พ่อลูกได้ไปเจอกัน.”
ในเวลานั้น...
ลั่วเทียนคิดและพูดในใจ “ดื่มโลหิต ขอข้ายืมพลังเจ้าสักเดี๋ยว.”
ดื่มโลหิตตกใจกับความหยิ่งของลั่วเทียน จากนั้นเขาก็เริ่มหัวเราะเหมือนคนบ้าและเสียงของเขาก็ดังขึ้นมาในใจ“ไอ้เหลือขอ เจ้าป่าเถื่อนและดุร้ายอย่างแท้จริง! เจ้าจะกล้าหาญเกินไปแล้ว! บิดาคนนี้เริ่มชอบเจ้ามาบ้างแล้ว 555…”
ถึงแม้ว่าดื่มโลหิตจะอยู่ในช่วงเวลาพักฟื้น แต่เขาก็ไม่อยากพลาดฉากสำคัญ “นี่เจ้าสารเลว เจ้าบ้ามาก แม้กระทั่งเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังอย่างนี้เจ้ายังหยิ่งได้อีก ไม่เลว ไม่เลวเลย บิดาชอบมาก! ฟ้าไม่ได้ส่งคนผิดมาให้ข้า 5555…”
ลั่วเทียนพูดในใจ “หยุดไร้สาระ เจ้าให้ข้ายืมได้หรือไม่?”
ดื่มโลหิตตอบ “แน่นอน ข้าจะให้เจ้ายืม ข้าจะพลาดฉากสำคัญอย่างนี้ได้อย่างไร? สารเลวน้อย เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอาวุโสจากนิกายเมฆคราม ซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดของปราณสุดยอดเชี่ยวชาญ ที่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าซูซางเฟยอย่างมาก เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ! ชีวิตตาเฒ่าคนนี้ยังพอจัดการมันได้ ดังนั้นหากว่าเจ้าต้องการ…”
ลั่วเทียนแอบขอบคุณและพูดว่า “ไม่มีความจำเป็นที่ท่านต้องเคลื่อนไหว ข้ามีแผน.”
ดื่มโลหิตได้หมดพลังไปแล้วจริงๆและยังถูกเขาบังคับให้ใช้พลังอีกครั้ง ยิ่งมากกว่านั้นมีโอากาสที่เขาจะหายไปจริงๆ และดาบดื่มโลหิตจะกลายเป็นเพียงใบมีดที่ไร้ชีวิตชีวาและไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง.
ลั่วเทียนจะไม่ทำให้ดื่มโลหิตมีอันตรายถึงชีวิตของเขาอย่างนั้น.
“ไอ้เหลือขอ เจ้าไม่ต้องคิดมาก ถ้าเพียงแค่กลัวว่าเจ้าจะตาย ข้าก็หวังว่าจะให้เจ้าเดินตามรอยเท้าหลังจากที่ข้าหายไป ข้าหวังแค่เพียงให้เจ้าทำอย่างนั้น.”ดื่มโลหิตพูดอย่างอ้อนวอน เมื่อนึกถึงว่า ก่อนที่เขาจะเจอกับลั่วเทียนที่ซึ่งเขาถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังที่มีเสียงที่หนาวยะเยือกดังเข้ามาและถามเข้ามาในจิตใจของเขา ดังนั้นเขาจึงถามว่า“เสียงที่หนาวยะเยือกที่คุยกับเจ้าคืออะไร?”
ลั่วเทียนตอบ “ท่านจะรู้ในภายหลัง.”
ดื่มโลหิตเริ่มมองไปข้างหน้า!
ทันทีหลังจากนั้น...
มีการเคลื่อนไหวภายในจิตใจลั่วเทียนและดื่มโลหิตก็หายไป.
หลังจากนั้นใบมีดขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเลือดตอนนี้ลอยอยู่ภายในใจของลั่วเทียน ดื่มโลหิตเริ่มเคลื่อนไหวตามความคิดของเขา.
เพียงแค่คิด...
ดื่มโลหิตก็ปรากฏอยู่ในมือขวาของลั่วเทียน ใบมีดที่ยาวสัมผัสกับพื้นและมีจิตสังหารที่แผ่ออกมาราวกับเลือดที่ไหลนอง.
มันเป็นจิตสังหารที่หนักแน่นและเข้มข้นอย่างมาก.
มีการสะท้อนไปมาระหว่างจิตสังหารจากดาบและแก่นปีศาจสังหารที่อยู่ในจิตสำนึกของลั่วเทียน นั้นก็เพียงพอที่จะต่อต้านแรงกดดันจากเฉินเทียนเหยา.
เมื่อดื่มโลหิตปรากฏ การแสดงออกเกือบทุกคนจากนิกายเมฆครามมีความกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้า!
“เป็นใบมีดที่ดุดันนัก!”
“จิตสังหารรุนแรงมาก มันเกือบจะเหมือนกับว่าใบมีดนั้นออกมาจากนรก.”
“ระดับของมันยังสูงมาก ใบมีดนี่มันน่าเย้ายวนเกินไป!”
นอกจากลูกศิษย์แล้ว หลิวซางเฟยและเหอจางก๋ง เริ่มที่จะหรี่ลงและพวกเขาทั้งสองก็จ้องมองไปที่ลั่วเทียนและพูดกับตัวเองว่า“ข้าไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะมีใบมีดที่ดีอยู่กับตัวของเขา ฮิฮิ…”
ความโลภในใจของพวกเขาเริ่มรุนแรงมากขึ้น!
โดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาทั้งสองมองไปที่กันและกันและทั้งคู่ต่างก็เปิดเผยรอยยิ้มที่เย็นชาและเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความโล�
โดยไม่สนกับผลการต่อสู้นี้ พวกเขาก็ยังคงกลืนกินลั่วเทียนอยู่ดี!
เฉินเทียนเหยาเป็นคนที่อันตรายอย่างแท้จริง.
แจา...
อันตรายของเขาไม่ใช่สิ่งที่หลิวซางเฟยและเหอจางก๋งแม้แต่ 0.001%!
อันตรายมีอยู่ทุกที่และจิตสังหารที่ซ่อนอยู่รอบตัว!