ตอนที่แล้วChapter 105 - โกรธถึงขีดสุด(เปิดขายรอบพิเศษ)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 107 -ถ้าเจ้ามีความหาญกล้า มาสู้กับบิดาตัว-ตัว(ไหมสราด)-(เปิดขายรอบพิเศษ)

Chapter 106 -คราวนี้เป็นตาของบิดาคนนี้บ้างแล้ว(เปิดขายรอบพิเศษ)


 

Chapter 106 -คราวนี้เป็นตาของบิดาคนนี้บ้างแล้ว

เขาเสียสติไปแล้ว?

เขาพ่นคำด่าออกมาในเวลานี้ได้อย่างไง...ลั่วเทียนมันโง่ไปแล้ว?

เขาไม่มีความคิดแล้วใช่ไหม?

เขาบ้าไปจริงๆแล้วสินะ!

ทุกคนคิดว่าเขากลายเป็นคนโง่ไปแล้ว

ตระกูลลั่วถูกล้อมกรอบจนกระทั่งมดก็ไม่อาจผ่านไปได้ แต่ลั่วเทียนยังมีอารมณ์โมโห? เขาคงไม่ได้บ้าไปแล้วนะ?

เมื่อลั่วเทียนพูดเสร็จการแสดงออกของท่าทางของเขาก็เป็นยโสสุดๆ เขาไม่ได้สนใจว่านิกายเมฆครามเป็นตัวอะไร!

สิ่งนี้ทำให้สาวกนิกายทุกคนอยากจะพุ่งเข้าใส่เขา!

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความรังเกียจ ขณะที่พวกเขากระพริบตามองลั่วเทียน ราวกับพวกเขาต้องการที่จะกลืนกินลั่วเทียนทั้งเป็น.

เขาดูถูกสาวกนิกายเมฆครามจนถึงจุดที่ว่ามันไม่มีค่าอะไร.

นี่เป็นการดูหมิ่นที่มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมี.

ทันใดนั้น...

สาวกของนิกายที่อยู่ในขั้นปราณเชียวชาญระดับ 8 ก็พุ่งเข้าหาลั่วเทียนพร้อมกับตะโกน “ไอ้สุนักบัดซบ! นิกายเมฆครามไม่ใช่สถานที่ๆเจ้าจะมาด่าว่าได้…”

หลังจากที่เขาพูดเสร็จ...

ลั่วเทียนก็หัวเราะและตะโกนในใจ“Level 2 Berserk!”

พลังสี่เท่าก็ระเบิดออกมา

เขากระโจนเข้าไปข้างหน้า ปล่อยหมัดทั้งคู่ของเขาพร้อมกับรำพึงอย่างเย็นชา“ตายซะ!”

“ปัง~!”

สาวกนิกายไม่อาจรับการโจมตีของลั่วเทียนได้ การเคลื่อนไหวของลั่วเทียนเหมือนกับเฉินเทียนเหยาดั่งที่ผ่านมา.

นอกจาก...

ลั่วเทียนรอด แต่สาวก ตาย!

ไม่มีการออมมือใดๆแม้แต่น้อยในหมัดนั้น สาวกถูกฆ่าในหมัดเดียว!

“ติ้ง!”

มีเสียงเตือนในใจของเขา.

สาวกร่วงลงกับพื้นและมีแอ่งเลือดเจิ่งนองออกมา หน้าอกของเขายุบและตาของเขาก็กระจายหลุดออกมา การแสดงออกบนใบหน้าของเขาบอกว่าเขาไม่เชื่อว่าเขาจะตายได้.

ด้วยหมัดนี้เพียงหมัดเดียวก็สามารถฆ่าสาวกนิกายทันที มันเหมือนกับการตบหน้านิกาย การตบนี้มันทำให้พวกเขารู้สึกแสบร้อนเป็นอย่างมาก.

นี่ทำให้พวกเขามีความโกรธไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า!

ลั่วเทียนยืนอยู่บนพื้นอย่างยโสและสถบออกมา“เวรเอ้ย มีใครไม่พอใจอีกไหม? มานี่ มาหาบิดานี่ถ้าเจ้ามีความกล้า!”

กลิ่นอายของพวกเขาทะลุไปถึงสวรรค์!

จิตสังหารที่ไหลออกมาจากลั่วเทียนได้ทะลุไปถึงขอบฟ้าขณะที่คนรอบๆเต็มไปด้วยความกลัว.

ในเวลานั้น อาจจะเป็นช่วงสั้นๆประมาณวินาทีหรือสองวินาที ทุกคนจากนิกายก็ถูกลั่วเทียนโอ้อวด แม้กระทั่งสองอาวุโสที่อยู่ด้านบนก็มองไปที่ลั่วเทียนด้วยความเหยียดหยามและรังเกียจเล็กน้อยในใจพวกเขา.

บ้าคลั่ง!

เขาบ้าคลั่งโดยไม่สนใจคนอื่น!

ทุกคนในตระกูลลั่วก็ตกตะลึง หัวใจของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความเดือดพล่าน.

พวกเขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่ได้เห็นสาวกนิกายตายโดยหมัดเดียว แนวโน้มของพวกเขาจึงมีความหวัง.

“บ้าและเสียสติอย่างสมบูรณ์!”

“บองดูว่ามันจะกัดได้อีกนานแค่ไหน” มีคนเดินออกมาจากฝูงชนของนิกาย.

ฝูงชนเริ่มก้าวร้าว

“พี่ชายอาวุโส หวังหยวนไคว่!”

“หวังหยวนไคว่ คือคนที่ใกล้จะบรรลุระดับปราณสุดยอดเชียวชาญมากที่สุด ไม่ว่าเด็กน้อยลั่วเทียนนั่นจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็มีเพียงชะตากรรมเดียว คือความตาย เมื่อพี่ชายอาวุโสออกมา.”

“พี่ชายอาวุโสหวัง ฆ่าเขา!”

หวังหยวนไคว่ เขามีอายุเพียง 18 ปีและเป็นศิษย์สายในของนิกายเมฆคราม หลังจากที่เขาเข้าร่วมนิกายเพียงสองวัน.

เขาทรงพลังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการต่อสู้ที่เขามีความเข้าใจอย่างมาก.

เขาเป็นคนที่อยู่ในระดับไร้พ่ายในขั้นเดียวกัน.

แม้แต่คนที่อยู่ในระดับปราณเชียวชาญขั้นต้นเขาก็สามารถเผชิญหน้าได้.

เขาเป็นอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบของนิกายเมฆครามและเป็นส่วนบนสุดในบรรดานั้น

ในขณะที่เขาก้าวออกมา คนที่รายล้อมเขาก็ตะโกนกันอย่างก้าวร้าว

ลมหายใจของหวังหยวนไคว่มีความสงบเป็นมากขณะที่เขาเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา“เจ้าไม่ควร ไม่ควร ไม่ควรหาเรื่องกับนิกายของเรา เพียงแค่มองไปที่อายุและความสามารถของเจ้า เจ้าสามารถที่จะเป็นสาวกของนิกายเราได้.... น่าเสียดายที่เจ้าต้องตายตอนนี้.”

“แต่…”

“เจ้าควรจะคิดว่าเจ้านั้นโชคดีที่เจ้าสามารถตายด้วยมือของข้า หวังหยวนไคว่ได้ มันเป็นเกรียติต่อเจ้าอย่างมาก.”

เสียงของเขาไม่ดัง แต่เต็มไปด้วยความดุร้าย นี่เป็นการดูถูกที่ไม่ต้องแสดงออกของเขา แต่การดูถูกนี้สำหรับลั่วเทียน มันราวกับว่าจะออกมาจากกระดูกของเขา.

ระดับปราณเชี่ยวชาญ ขั้น 9 เหมือนกับซูซางเฟย แต่เขาแข็งแกร่งกว่า!

ลั่วเทียนกำหมัดแน่นพร้อมกับขดริมฝีปากและพูดอย่างเยือกเย็น “เลิกพูดพร่ำได้แล้ว และมาสู้กัน มาเล่นข้าให้ตายถ้าเจ้ามีความสามารถ หยุดโอ้อวดต่อหน้าบิดาคนนี้เมื่อเจ้าไม่อาจฆ่าข้าได้ เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะโอ้อวดต่อหน้าบิดาคนนี้!”

ท่าทีที่ป่าเถื่อน?

บิดาคนนี้จะแสดงท่าทีเหล่านั้นยิ่งกว่าเจ้า!

การแสดงออกของหวังหยวนไคว่ก็เปลี่ยนไปพร้อมกับตะโกนอย่างเย็นชา“เจ้า! รนหาที่ตาย!”

ทันทีหลังจากนั้น...

ฝ่ามือของเขาก็เคลื่อนไหวและมีกลิ่นอายออกมาจากร่างกายของเขา พลังปราณที่พลุ่งพล่านออกมาจากฝ่ามือและเคลื่อนที่เร็วกว่าสายฟ้า.

“แปดฝ่ามือรกร้าง!”

“ตายซะ!”

ราวกับว่าเสียงของเขาก็พังทลายลงจากความต่างของแรงกดดันของหวังหยวนไคว่ พลังปราณของเขาก็ปะทุไหลบ่าออกมา.

ลั่วเทียนรู้สึกอึดอัดอย่างมากราวกับว่าตอนนี้มีภูเขากดทับเข้ามาในจิตใจของเขา.

ลั่วเทียนยืนอยู่นิ่งๆและการยิ้มเยาะของเขาก็ไม่ได้หายไป แต่กลับยิ่งมีรอยยิ้มที่กว้างขึ้นก่อนที่เงยหน้าหัวเราะออกมา.

ท่าทีที่เขาหัวเราะราวกับคนป่าเถือนที่ไม่มีอะไรให้ต้องพะวง!

ฝูงชนเหล่านั้นไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น.

ไม่มีใครรู้ว่าลั่วเทียนกำลังทำอะไรเมื่อเขายืนอยู่ที่นั่น.

ไม่มีใคนที่สามารถคิดออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

เขากลัวจนเอ๋อไปแล้ว?

รอความตายของเขาเอง?

หรือไม่ก็เขาเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ?

หวังหยวนไคว่ยังไม่รู้ว่าลั่วเทียนจะทำอะไร แต่เขาก็รู้สึกแย่กับเสียงหัวเราะของเขา ด้วยความแข็งแกร่งของแปนฝ่ามือรกร้าง มันแข็งแกร่งมากในระดับเดียวกัน ลั่วเทียนหากไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะหลบมัน เขาก็เหลือหนทางเดียว ตาย!

สาวกนิกายก็ยิ้มออกมาและยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ.

แปดฝ่ามือรกร้างเป็นทักษะการต่อสู้ที่พี่ชายอาวุโสหวังฝึกฝนมาหลายปี การแสวงหาความก้าวหน้าของเขาเกี่ยวกับฝ่ามือ ยิ่งกว่าอาวุโสในนิกายก็ไม่อาจมีความเข้าใจเท่ากับเขาได้

“เด็กนี่ยังมีหน้าหัวเราะอีก เขากลัวจนโง่ไปแล้วมั้ง?.”

“เขาไม่ใช่พวกชาวเขางั้นรึ? อย่างมากเขาก็แค่เดินไปมาในเมืองเล็กๆอย่างนี้ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับพี่ชายอาวุโสได้!”

ฝ่ามือทั้งสองที่ออกมามีพลังจากแปดฝ่ามือรกร้างต่างกระบวนท่ากันเนื่องจากความเพรียรของเขา ซึ่งมันทำให้แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ในระดับ ปราณเชี่ยวชาญ ขั้น 9 ก็ต้องกลายเป็นกองเนื้อเมื่อเขาโดนอันนี้.

แต่...

ลัวเทียนก็หยุดหัวเราะและพูดอย่างตื่นเต้นว่า“ทักษะฝ่ามือนี่ไม่เลว พี่ใหญ่คนนี้ต้องการมันอย่างมาก!”

“Level 2 Berserk!”

พลังปราณ 3000 ถูกใช้ทันทีและพลัง 4 เท่าก็ระเบิดออกมา.

อย่างไรก็ตาม...

ลั่วเทียนยังคงยืนอยู่ที่นั่นและไม่เคลื่อนไหวใดๆบนร่างกายของเขา เขาโคจรพลังปราณไปยังแขนของเขา แต่แขนของเขาก็ไม่ได้ขยายตัวขึ้น แต่เส้นเลือกของเขาเริ่มปูดโปน หลอดเลือดดำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวและหลอดเลือดแดงเริ่มเปล่งปลั่งราวกับกำลังเผาไหม้.

ไม่เคลื่อนไหวดั่งภูเขา.

แม้ว่าความกดดันจากหวังหยวนโคว่จะทำให้เขารู้สึกกดดันและอึดอัดในหัวใจจนเริ่มตื่นตระหนก ตอนนี้เขาไม่ต่างจากคนบ้า.

มีบางคนในตระกูลลั่วไม่อาจทนเฝ้ามองอีกต่อไปได้.

หัวใจของทุกคนราวกับจะหยุดเต้นจากความวิตก เนื่องจากไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ มันทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดหัวใจ.

“นรกเถอะ มันคงจะดีกว่านี้หากว่าข้าอยู่ในขั้นปราณราชันย์ แน่นอนว่าข้าจะฆ่าคนเหล่านี้ทั้งหมด.”

“คนจากนิกายเมฆครามเหล่านี้น่ารังเกียจจริงๆ.”

“บรรพบุรุษระยำ…”

ทุกคนในตระกูลลั่วกำหมัดแน่น พวกเขาต่างตำหนิที่ไม่อาจแบ่งเบาภาระของลั่วเทียนได้ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เตือนสติตัวเองว่า หากพวกเขารอดออกไปได้ พวกเขาจะเริ่มบ่มเพาะอย่างบ้าคลั่ง.

“ตูมม~...”

หวังหยวนโคว่โจมตีด้วยแปดฝ่ามือรกร้าง.

มันกระแทกเข้ากับหน้าอกของลั่วเทียนเข้าอย่างจัง.

หน้าของลั่วเทียนจมเข้ากับพื้นดินทันทีจากที่เขายืนอยู่โดยไม่หลบ เนื่องจากมีเกราะเลือดปีศาจที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร มันมีการป้องกันระเดียวกับสมบัติจิตวิญญาณ นั่นเป็นเหตุผลที่ลั่วเทียนรับฝ่ามือนี้ของเฉินเทียนเหยาได้.

ในเวลาเดียวกันฝ่ามือคู่ของหวังเทียนเหยาเข้ามา ลั่วเทียนคำรามอย่างดุร้ายและพูดอย่างรังเกียจว่า“แรงของเจ้ามีเท่านี้? ทำไมมันอ่อนแอนัก มันไม่ต่างจากการเกาหลังให้ข้า.”

“หลานชาย ถึงตาข้าแล้ว!”

“บิดาคนนี้จะบอกให้เจ้ารู้ถึงความรู้สึกที่แข็งแกร่งเอง!”

ทั้งสองแขนของลั่วเทียนสะบัดลง...

ก่อนที่จะพุ่งออกไปราวกับจรวด!(TL:ตอนท้ายไม่ต้องสงสัยนะเป็นการเปรียบเปรยว่าเร็วมากๆเท่านั้นเอง)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด