Chapter 103 - สักวันนึงข้าจะตีเจ้า(เปิดขายรอบพิเศษ)
Chapter 103 - สักวันนึงข้าจะตีเจ้า
3P?
ลั่วเทียนเริ่มสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น.
นี่คือสิ่งที่เขาใฝ่ฝันถึง.
แต่...
ลั่วเทียนไม่รู้แม้แต่น้อนว่าเขาคิดมากเกินไป คิดมากกกกกกกกกกถึงความโสมมอันนั้น.
ใบหน้าของลั่วเทียนเต็มด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ดวงตาของหลิงหานซวงเต็มไปด้วยความรังเกียจ ความรู้สึกรักเกียจเต็มหัวใจของเธอ ขณะที่เธอพูดกับตัวเอง “ทำไมถึงมีผู้ชายแบบนี้ในโลก? มีเพียงมู่หรงหวันจิง ที่สงบเมื่อเห็นข้า เข้ากลัวว่าเขาจะเป็นคนที่ถ่อมตนและเจียมเนื้อเจียมตัว เขาจะไม่ทำท่าทีที่น่าขยะแขยงอย่างนี้.”
ในหัวใจของเธอ มู่หรงหวันจิงเป็นคนที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก!
หลิงหานซวงไม่ได้ซ่อนความรังเกียจที่ออกมาจากสายตาของเธอ ลั่วเทียนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นเขาก็เก็บความตื่นเต้นของเขาลงก่อนที่จะมีท่าทีไม่แยแส.
แม่งเอ้ย บิดาดูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลย? งั้นบิดาจะให้เจ้ามองด้วยความรังเกียจ.
ไม่ว่าจะเป็นใคร...
ลั่วเทียนไม่เคยเป็นคนที่จะทำตัวอบอุ่นกับคนที่ดูถูกเขา.
เจ้าไม่ชอบข้า? งั้นบิดาก็จะบอกว่า บิดาก็ไม่ชอบเจ้าเช่นกัน.
หลิงหานซวงเป็นคนที่สวยงามมาก ความงานแบบเย็นชาของเธอคือสิ่งที่หลี่ซูเอ๋อร์ไม่มี แต่เธอก็ไม่มีความงานที่หลี่ซูเอ๋อร์มีเหมือนกัน.
มันอาจปฏิเสธไม่ได้ว่า หัวใจของลั่วเทียนสั่นไหวเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหลิงหานซวง
ในฐานะที่เป็นโอตาคุที่เพิ่งเหาะเข้าร่างมา ทั้งยังไม่ได้เห็นความสวยงามใดๆ การที่หัวใจของเขาสั่นไหวมันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์.
แต่...
เขาก็มีหลักการของเขา เนื่องจากหลิงหานซวงกำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ดูถูก จานนั้นความตื่นเต้นของเขาก็หยุดลงอย่างสมบูรณ์.
หลี่ซูเอ๋อร์สังเกตเห็นการแสดงออกของทั้งสองที่ดูเหมือนไม่ถูกกัน ดังนั้นเธอจึงยิ้มและพูดว่า “พี่ลั่วเทียน นางคือพี่สาวซวงของข้า ชื่อเต็มคือหลิงหานซวง.”
“หลิงหานซวง?”
ลั่วเทียนหัวเราะออกมาและพูดออกมาคำเดียว “ชื่อเหมาะกับนางมากๆ.”
การแสดงออกที่เย็นชาของหลิงหานซวงคือไม่มีท่าทีใดๆ
หลี่ซูเอ๋อร์ค่อยๆสัมผัสที่แขนของหลิงหานซวงและกระซิบ “พี่ซวง ท่านไม่คิดจะทำลายคำสัญญา?”
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้าของหลิงหานซวง ขณะที่เธอขมวดคิ้ว เธอมองไปที่ลั่วเทียนและยิ่งทวีความรังเกียจมากขึ้นในหัวใจของเธอ “ข้าจะสุภาพกับคนแบบนี้ได้อย่างไร? ข้าจะทนพูดกับเขาแบบนี้ได้เช่นไร?”
ลั่วเทียนสังเกตเห็นท่าทีของเธอและดูเหมือนจะคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้“ไม่จำเป็นต้องฝืนตนเอง.”
“ข้าไม่ต้องการความสงสารของเจ้า.”หลิงหานซวงตอบอย่างเย็นชา.
“บัดซบ!”
ลั่วเทียนโกรธและสถบออกมาอย่างดัง
สายตาของหลิงหานซวงก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆและมีจิตสังหารวาบเข้ามา จิตสังหารที่แผ่ออกมาอย่างเย็นชา.
จิตสังหารของลั่วเทียนยิ่งแผ่ออกมามากยิ่งขึ้น.
ถ้าไม่ใช่เพราะการบ่มเพาะที่น่ากลัวของเธอ ลั่วเทียนอาจกดดันจนเธอสลายจากนั้นลองมาดูกันว่าเจ้าจะทำเป็นเย็นชาเบื้องหน้าข้าได้ต่อไปอีกหรือไม่!
การแสดงออกของหลี่ซูเอ๋อร์เปลี่ยนไป เธอจึงกระซิบเบาๆ “พี่ซวง!”
เธอกำลังกดดันหลิงหานซวงบางๆ
เมื่อหลิงหานซวงปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเมื่อเช้านี้ หลี่ซูเอ๋อร์ก็ไม่พอใจกับเรื่องนี้ ตั้งแต่ที่เธอตกลงกันแล้วก็ไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถทำได้.
เนื่องจากมีการตกลงกันแล้วเธอต้องทำมัน!
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่หลิงหานซวงจำต้องทำตามคำสัญญาองเธอเอง
นั่นเป็นเหตุผลที่หลี่ซูเอ๋อร์ต้องกดดันเธอแกมบังคับ
หลิงหานซวงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะบิตปากเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ค่อยๆพูดอย่างเย็นชา: “นายท่าน สาวน้อยคนนี้ยอมรับความผิดพลาดของเธอ”
เสียงของเธอเย็นจนทำให้หัวใจสั่นไหว
ลั่วเทียนตกใจ แต่แล้วก็พูดอย่างสนุกสนานว่า “หะ? ข้าไม่ได้ยินที่เจ้าพูด.”
“เจ้าหาเรื่องตาย?”หลิงหานซวงพูดอย่างเย็นชาและสายตาของเธอก็เปลี่ยนไป จิตสังหารระเบิดออกมาจากร่างกายเธอที่เต็มไปด้วยความกดดัน.
ร่างกายของลั่วเทียนสั่นไหวน้อยๆ
ไม่มีางที่เขาจะทนแรงกดดันจากใครบางคนที่อยู่ในระดับปราณจิตวิญญาณ ขั้น 6.
ในช่วงเวลานั้น ความคิดและจิตสำนึกของเขารู้สึกอึกอัดมาก.
ความแตกต่างของความแข็งแกร่งมีมากเกินไป
ความโกรธของลั่วเทียนพุ่งขึ้นไปถึงท้องฟ้า กรามของเขาขบกันแน่นจนได้ยินเสียงบดฟัน แต่เขาก็ยังคงจ้องมองไปที่หลิงหานซวงขณะที่เขากำหมัด.
“หลิงหานซวง!”
หลี่ซูเอ๋อร์ตะโกนด้วยชื่อเต็มของเธอ
หลิงหานซวงดึงความกดดันกลับและพูดด้วยความรังเกียจ “เพียงแค่ความกดดันเล็กน้อยแค่นี้ เจ้าไม่อาจทนรับมันได้ แต่เจ้าก็ยังฝันว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกับนานหญิง? กองโคลนเช่นเจ้าไม่ควรค่าแก่นาง?”
“เจ้าไม่มีคุณสมบัติใดๆสักอย่าง.”
“แม้ว่าเจ้าจะฝึกฝนอย่างหนักทั้งชีวิตของเจ้า แต่มันก็ยังไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงนายหญิงของตระกูลเราและเจ้าอยู่ในโลกที่แตกต่างสิ้นเชิง โลกของเธอเป็นสถานที่ๆเจ้าไม่อาจย่างกรายเข้าไปได้.”
“ลั่วเทียน เจ้าต้องเผชิญกับความจริงและหยุดฝันเฟืองได้แล้ว.”
แต่ละคำที่พูดออกมา...
เป็นดั่งน้ำเย็นและการดูถูก
การแสดงออกของหลี่ซูเอ๋อร์เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดอย่างมาก เธอจ้องมองมาที่หลิงหานซวงโดยไม่ละสายตา สายตาที่เธอมองมาที่หลิงหานซวงเย็นชาอย่างมากตอนนี้.
เธอรู้สึกไม่มีความสุขนัก.
จิตใจของลั่วเทียนสั่นไหวขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไร
สิ่งนี้ที่ทำให้หลิงหานซวงคิดว่าลั่วเทียนเป็นคนขี้ขลาด คำพูดของเธอเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ฟัง ลั่วเทียนไม่ได้พูดอะไร นี่เป็นท่าทางของคนขี้ขลาดจริงๆ.
เธอเกลียดลั่วเทียนมากยิ่งขึ้นในตอนนี้
เธอมองไปที่ลั่วเทียนเป็นตัวตนใหม่หลังจากที่สร้างปฏิหารได้ถึง 2 ครั้ง เธอคิดว่าตราบเท่าที่ลั่วเทียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี การบ่อเพาะของเขาจะสำเร็จในสักวันหนึ่ง.
แต่เธอไม่ได้คิดอีกแล้วในคืนนี้
อยากจะฆ่ามันนัก!
ลั่วเทียนตะโกนอยู่ในใจ ถ้าเขามีพลังเขาจะตบเธอทันที.
แต่เขาทำไม่ได้!
เขาโกรธมาก แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะสิ่งที่หลิงหานซวงพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด.
เมื่อมองไปที่เบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ของหลี่ซูเอ๋อร์ มันจะมากแค่ไหนที่ได้ผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณมาเป็นองค์รักษ์ของเธอ.
เขาไม่ต่างจากพวกชาวเขาชาวดอยดาษๆ เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาแก่งแย่งเธอ? เขามีสถานนะอะไร?
ลั่วเทียนไม่เคยเป็นคนที่ชอบบังคับสิ่งต่างๆและชอบความเข้ากันทางธรรมชาติ
แต่...
ตอนนี้มันแตกต่างแล้ว.
ลั่วเทียนต้องการที่จะแข่งขันด้วยพลังทั้งหมดของเขา!
สถานะ?
แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเป็นชาวบ้าน? งั้นเมื่อเขาเป็นชาวบ้านแล้วไง?สถานะเป็นการจำกัดตัวเอง ในฐานะที่เขามาจากต่างโลกข้อจำกัดเหล่านี้ไม่สมควรเอามาใส่ใจ.
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของหลิงหานซวงที่มองมาที่เขาด้วยความรังเกียจ ลั่วเทียนก็คว้าตัวหลี่ซูเอ๋อร์ไว้ในอ้อมกอดก่อนที่จะจูบเธออย่างดูดดื่ม.
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนไม่มีใครตอบโต้ได้ทัน
ตอบแรกหลี่ซูเอ๋อร์ก็ขัดขืน แต่ท้ายที่สุดเธอก็ปล่อยตัวเองให้ตามหัวใจ
ลิ้นของพวกเขาพัวพันขณะที่น้ำลายผสมกันมั่วไปหมด นี่เป็นความรู้สึกสำหรับคนที่มีประสบการณ์.
การแสดงออกของหลิงหานซวงเปลี่ยนไปอย่างมาก
มันเป็นสีเขียวและจากนั้นก็ซีด
ลั่วเทียนกำลังจูบหลี่ซูเอ๋อร์อย่างร้อนแรงตรงหน้าเธอ!
นี่เป็นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีประกายที่ร้อนแรงบนใบหน้าของเขา!
นี่มันเหมือนกับมีเงาตบเข้ามาที่ใบหน้าเธออย่างหนักหน่วง ทำให้เธอไม่อาจจำทางกลับบ้านได้!
ทั้งสองคนจมไปกับการจูบที่ดูดดื่มและลืมเรื่องต่างๆรอบๆตัว ชุนชุนจ้องมองอย่างจริงจังก่อนที่จะหัวเราะคิกคักและพูด “พี่ใหญ่ ข้าก็ต้องการจูบบ้างเหมือนกัน.”
ใบหน้าของหลี่ซูเอ๋อร์ตอนนี้เป็นสีแดงจนเหมือนกับผลไม้ เธอหายใจไม่ออกราวกับสมองของเธอขาดออกซิเจน
ลั่วเทียนละการสัมผัวและคลายอ้อมกอดของเขา เขาไม่ได้สนใจหลิงหานซวงขณะที่เขาทัดผมของหลี่ซูเอ๋อร์ไว้ที่หลังหูของเธอ จากนั้นลั่วเทียนก็กล่าวเบาๆ“ไม่ว่าเจ้าจะมีพื้นฐานอะไร ไม่ว่าจะมีกี่คนที่พยายามที่จะหยุดข้า ไม่ว่าพวกเขาจะมีพลังเท่าไร ข้าลั่วเทียนจะสาบานกับสวรรค์ว่าเจ้าจะเอาเจ้ามาเป็นเจ้าสาวให้ได้อย่างแน่นอน!”
หลี่ซูเอ๋อร์รู้สึกได้ถึงความหวานเต็มหัวใจของเธอ ตอนนี้เธอกำลังมัวเมากับความหวานซึ้งและมีความสุข.
หลิงหานซวงพูดอย่างเย็นชา“อย่าไปพูดถึงอนาคตเลย เพราะข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีชีวิตพ้นคืนนี้!”
ในเวลานั้น...
สาวกตระกูลลั่วก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับเหงื่อเต็มหน้าผากของเขา “ประมุข ไม่ดีแล้ว มีกลุ่มจากนิกายเมฆครามจำนวนมากอยู่ที่นอกเมือง.”
หลิงหานซวงยิ้มและพูดอย่างเย็นชา“ใกล้เคียงกับเวลาที่ข้าคาดเอาไว้ ลั่วเทียนให้ข้าดูหน่อยสิว่าเจ้าจะจัดการกับสาวกนิกายเมฆครามได้อย่างไร!”
ลั่วเทียนขมวดคิ้ว เขาเคยคิดเลยว่านิกายเมฆครามจะส่งคนมาที่นี่ได้อย่างรวดเร็วมาก!
เป็นอีกครั้งที่ตระกูลลั่วอยู่รอยต่อของการล่มสลาย!
ลั่วเทียนก้าวออกไปข้างนอกสนามก่อนที่จะหันไปมองรอบๆโดยไม่มีปกบังเมื่อเขามองมาที่หน้าอกใหญ่ๆของหลิงหานซวงและก้นแน่นๆของเธอ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย“วันนึงข้าจะตีก้นเจ้าให้บานเหมือนกันดอกไม้และข้าจะทำอย่างนั้นบนเตียง!”