คุณหมอย้อนเวลา - ตอนที่ 5 : การแสดงผาดโผน (1)
ตอนที่ 5 – การแสดงผาดโผน (1)
‘เกร๊ง เกร๊ง เกร๊ง!’
แม้จะเป็นเช้ารุ่งอรุณวันใหม่แล้ว.. แต่ท้องฟ้าก็ยังคงมืดครึ้ม..
‘นี่พวกเขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ทำไมกดกริ่งหลายครั้งแบบนี้?’
เสียงกริ่งดังน่าจะยี่สิบแปดครั้งได้..
เขาเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่า เสียงนั้นดังจากหน่วยลาดตระเวน พวกเขาจะตีระฆังตอนเวลาตีห้าของทุกๆเช้า เพื่อแสดงการยกเลิกเคอร์ฟิวของวันนั้น..
....
จองกุกเป็นคนที่คุ้นเคยกับการตื่นเช้าอยู่แล้ว เขาจึงลุกขึ้นจากเตียงและเปิดประตูออกไป และก็สัมผัสได้ถึงความเย็นและอากาศที่แสนสดชื่น
‘รู้สึกดีจัง’
คำพูดที่ออกจากปากเขานั้นเป็นควันสีขาวพวยพุ่งออกมา เขาไม่ได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์แบบนี้มานานมากแล้ว แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่ขาดไป.. เมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือ นิ้วของเขาก็ดูว่างๆเหมือนไม่มีอะไรจะทำ เขาจึงรู้สึกเบื่อหน่าย
“ตื่นแล้วหรือขอรับนายท่าน”
เมื่อเขาหันไปมอง.. เขาก็เห็นโดลซกกำลังยืนถืออ่างล้างหน้าที่มีน้ำอุ่นอยู่ด้านใน โดลซกนำมาวางไว้ตรงหน้าเขา
“การเป็นชนชั้นสูงมันดีแบบนี้นี่เอง”
ทันทีที่เขาตื่นขึ้นมา.. โดลซกก็จัดแจงนำน้ำอุ่นมาให้เขาล้างหน้า จองกุกพยักหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ขอบใจนะ.. โอซกเป็นไงบ้าง?”
“เขาดีขึ้นแล้วขอรับนายท่าน แต่..”
โดลซกยังพูดไม่จบแต่ยังคงก้มหน้า.. ดูเหมือนจะมีปัญหา..
“มีบางอย่างผิดปกติงั้นรึ?”
แม้ว่าจะเป็นวิธีการพูดแบบใหม่ แต่เขาก็เริ่มคุ้นเคยกับมันแล้ว
เขาไม่คิดมาก่อนว่าละครประวัติศาสตร์ที่เขาเคยดูในสมัยเด็กอย่าง ‘หยดน้ำตามังกร’ จะเป็นประโยชน์กับเขาในตอนนี้
“เม็ดยาวๆขาวๆที่นายท่านให้ข้าไว้มันได้หายไปแล้ว ข้าพยายามหาอยู่นานก็ไม่พบ”
“อะไรนะ? เจ้าหมายถึงยาที่ข้าให้ไว้น่ะรึ?”
“ขอรับนายท่าน..”
“เอิ่ม..” จองกุกได้แต่คำรามด้วยความโกรธ มันเป็นยาฆ่าเชื้อที่ดูเหมือนจะไม่มีราคาอะไร แต่มันเป็นสิ่งที่จองกุกหาไม่ได้ในโลกแห่งนี้
เขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้
“ข้าจะให้เจ้าใหม่ ดูแลให้ดีล่ะ”
“ขอรับนายท่าน.. อภัยให้ข้าด้วย”
เขาเปิดกระเป๋าแพทย์ที่วางอยู่ข้างตัวออกเพื่อค้นหายาฆ่าฆ่าเชื้อ (Mayact) แต่เขากลับต้องประหลาดใจอย่างมาก..
“เห้ย?”
ทำไมมียา Mayact ในกระเป๋าอีกตั้ง 60 เม็ด!
“นี่มันอะไรกัน?”
เขาจำได้ว่าเขานับอย่างดีแล้ว.. เขาจึงลองนับใหม่อีกครั้ง นับแล้ว นับอีก และพบว่ามันมี 60 เม็ดจริงๆ
‘เป็นไปไม่ได้!’
แค่เรื่องกลับมาในยุคโชซ็อนก็บ้าบอคอแตกแล้ว จองกุกเปิดดูเครื่องไม้เครื่องมือผ่าตัดที่ใช้ไปเมื่อวานนี้เพื่อสำรวจดูว่าสิ่งที่เขาคาดเดานั้นถูกต้องหรือไม่..
‘ไหมเย็บแผล.. ทุกอย่างยังดูเหมือนเดิม’
ใบมีดที่เขาใช้กับมีดผ่าตัดยังคงอยู่ในสภาพเหมือนก่อนหน้านี้ กระเป๋ายังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงสภาพเหมือนครั้งแรกที่เขาเปิดกระเป๋า..
‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นบนโลกใบนี้?’ จองกุกลูบคางด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
เขาใช้ชีวิตและคิดอย่างนักวิทยาศาสตร์มาตลอด เขาเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนมีเหตุและผล และกระบวนการก็ต้องเป็นเหตุเป็นผลด้วยเช่นกัน
‘นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่ชอบเลย’
แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ? บางครั้ง อาจมีบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่เข้าใจเกิดขึ้นก็ได้
‘ช่างเถอะ.. การมียามากขึ้นก็ยิ่งดี’ ยังไงๆเกินก็ดีกว่าขาด
เขาหยิบยาออกมาให้กับโดลซกสองเม็ด
“เอ้านี่.. บดให้ดีๆล่ะคราวนี้.. แต่ไม่ดีกว่า เราไปด้วยกันเลย”
“ขอบคุณขอรับนายท่าน”
....
จองกุกล้างหน้าและลำคออย่างลวกๆ แล้วรีบไปดูอาการโอซกพร้อมกับโดลซก
โอซกดูแตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง อย่างน้อยวันนี้เขาก็ลุกขึ้นนั่งได้ เขากำลังจะลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นจองกุก
“นายท่าน..”
“ไม่ต้องลุกขึ้น.. นอนลงไปเหมือนเดิม ข้าต้องการดูที่ท้องเจ้าหน่อย”
“ขอรับนายท่าน..”
เขาตรวจดูรอยแผลผ่าตัดที่เขาเย็บเมื่อวานนี้อย่างพิถีพิถัน โชคดีที่ไหมเย็บแผลยังติดแน่นเหมือนเดิม
‘แล้วยาที่โอซกกินเข้าไปแล้วล่ะ.. มันจะหายไปเองได้เหมือนกันหรือเปล่า?’
ถ้ายานั่นหายไปได้เอง แล้วยาบางส่วนที่โอซกกินเข้าไปแล้วล่ะ.. มันจะหายไปได้เองด้วยหรือเปล่า แต่ถ้าส่วนที่กินเข้าไปแล้วหายไปได้เอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่โอซกจะฟื้นตัวได้ดีแบบนี้..
“ดีมาก..! ไม่ต้องบดแล้วล่ะ กลืนเข้าไปเลย”
“ขอรับนายท่าน”
“นี่เจ้าผายลมรึ?”
“เอ่อ.. ขอรับนายท่าน”
“ถ้าเช่นนั้น.. เจ้าควรกินข้าวต้มนะ”
“ขอรับนายท่าน.. ขอบคุณขอรับ”
“พักผ่อนให้มากๆล่ะ”
จองกุกปิดแผลที่ท้องของโอซกด้วยผ้าพันแผลแล้วจึงออกจากห้องไป ระหว่างเดินออกมา โดลซกโค้งคำนับจนสุด..
“นายท่าน.. ขอบคุณนายท่านมากนะขอรับที่ช่วยชีวิตโอซกไว้”
จองกุกมองโดลซกที่โค้งคำนับละขอบคุณเขาอยู่หลายครั้ง และนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนโค้งคำนับให้เขาอย่างซาบซึ้งใจขนาดนี้ หากพิจารณาตามลำดับชั้นระหว่างเขากับโดลซก ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร เพียงแต่เขาเองยังไม่คุ้นเคย..
เขาจับไหล่โดลซกให้เงยหน้าขึ้น
“นี่เจ้าทำเช่นนี้ทำไมกัน?”
“เป็นธรรมดาที่จะต้องโค้งคำนับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไม่ใช่หรือขอรับ”
“ข้าก็แค่ทำสิ่งที่ควรจะทำ ไม่ต้องลำบากหรอก”
“แต่ว่า.. อ้อ! ข้าไปจับกระต่ายมาให้นายท่านดีหรือไม่ขอรับ?”
กระต่ายเหรอ? กระต่ายป่า? ตามตัวคงมีแต่ยาฆ่าแมลง..
“ไม่ต้อง.. ไม่ต้อง.. เจ้ามากับเข้าจะดีกว่า”
“ออกไปข้างนอกหรือขอรับ?”
“ใช่..”
“ขอรับ.. ข้าจะไปนำอาหารเช้ามาให้นายท่านก่อน” จากนั้นโดลซกก็ลุกขึ้นและรีบวิ่งไปยังห้องครัวอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ได้กลิ่นหอมของข้าวลอยมาจากในครัว ภายในห้องครัวมีหญิงสาวมากมายกำลังยุ่งกับการทำอาหารเพื่อเตรียมสำรับอาหารเช้า
‘ใช่.. ข้าหิวข้าวแล้ว’ จองกุกเดินตรงไปที่ห้อง ส่วนมือก็ลูบท้องไปด้วย
ขณะที่เขากำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะภายในห้อง โดลซกก็เข้ามาพร้อมสำรับอาหารจากที่นำมาจากในครัว
“รับประทานได้แล้วขอรับ”
เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อเห็นโดลซกวางสำรับอาหารลงบนโต๊ะ มีเพียงข้าวสวย ปูเค็ม ซอสถั่วเหลือง และกิมจิ..
“เอิ่ม.. ขอบใจ”
เขาพยายามไม่แสดงความรู้สึกผิดหวังออกมาทางสีหน้า แต่เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้
‘ไม่มีเนื้อสัตว์เลยงั้นเหรอ?’
เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าซอสถั่วเหลืองก็นำมาทำเป็นกับข้าวได้ด้วย เขาคิดว่ามันใช้เป็นเพียงน้ำจิ้มได้เท่านั้น
‘แล้วทำไมชามข้าวถึงได้ใหญ่จัง?’
ดูเหมือนมันจะมากกว่าปกติถึงสามเท่าเชียว..
เมื่อเขามองออกไปนอกหน้าต่าง.. เขาก็เห็นข้าทาสบริวารรวมถึงโดลซกกำลังนั่งรับประทานอาหาร ในสำรับของคนเหล่านั้นไม่มีปูเค็ม พวกเขามีเพียงซอสถั่วเหลืองกับกิมจิ ดูเหมือนจะมีเพียงข้าวที่เป็นอาหารที่พอจะให้พลังงานได้
จองกุกกินไปเพียงครึ่งเดียว ก่อนจะเรียกโดลซกให้มาเก็บอาหารกลับไป โดลซกถามด้วยความเป็นห่วง “นายท่านไม่สบายหรือขอรับ?”
“ไม่.. ข้าสบายดี เพียงแค่ไม่เจริญอาหาร เจ้าไปได้แล้ว”
“นายท่าน.. ข้าได้ยินมาว่าวันนี้จะมีซังแดโนริ (Sandaenori – การแสดงที่สวมหน้ากาก) มาแสดงที่ตลาด ท่านอยากจะไปหรือไม่ขอรับ?”
“ซังแดโนริงั้นรึ?”
“ขอรับ.. วันนี้จะมีคณะละครจากออเก (Aeogae) มาแสดงที่ตลาดขอรับ”
คณะละครเหรอ! ได้ดูการแสดงแบบนี้ก็น่าจะดี
ถ้าที่ใหนมีผู้คนรวมมารวมตัวกันอยู่มากๆ ที่นั่นก็จะมีการสนทนาของผู้คนมากหน้าหลายตา และเขาเองก็น่าจะพอหาหนทางกลับบ้านได้
“ได้สิ.. ไปกันเลย”
“ขอรับนายท่าน.. กระผมจะรีบพานายท่านไปทันทีหลังจากที่เก็บสำรับไปไว้ในครัว”
โดลซกนำสำรับไปเก็บที่ครัว ส่วนจองกุกก็นั่งมองกระเป๋าสีดำอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเขาจะต้องอยู่ที่นั่นอีกนานแค่ใหน เขาจึงคิดว่าน่าจะดีกว่า หากเขาจะสำรวจดูว่าในกระเป๋านั้นมีอะไรอยู่บ้าง..
‘เมื่อวานผมเห็นยาฆ่าปฏิชีวินะ นี่ก็ยาแก้อักเสบ และก็มียาความดันสูง ยาโรคเบาหวาน และยาฆ่าเชื้อบางอย่าง.. แล้วนี่อะไร?’
ในกระเป๋ามียาที่เขาไม่คาดคิดว่าจะมีในกระเป๋าแพทย์
‘ไวอากร้า? นี่ท่านประธานกำลังเล่นตลกอะไรกัน!’
วัยขนาดเขายังต้องใช้ไวอากร้าเพื่ออะไร? เขาควรต้องอยู่สงบๆแล้ว
‘แต่ก็ดี’
มีไวอากร้าก็ดี.. แถมยังมีเยอะมากด้วย
‘ตั้ง 180 เม็ด’
นี่ถ้าท่านประธานกินวันละเม็ด.. ที่มีอยู่นี่ก็ใช้ไปได้อีกตั้งหกเดือนเชียว เขาคิดว่าท่านประธานคงเป็นบ้าไปแล้ว
เขาหยิบไวอากร้าสิบเม็ดออกมาจากกระเป๋าแล้วพยักหน้า.. เขาต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาคาดเดานั้นถูกต้องหรือไม่
‘ดูซิว่า.. มันจะเพิ่มจำนวนได้เองอัตโนมัติหรือไม่’
เพราะถ้าเป็นมันสามารถเพิ่มจำนวนได้เองจริงๆ เขาก็จะได้โล่งอก เพราะไม่รู้ว่าเรื่องแปลกประหลาดนี้จะยังคงอยู่กับเขาอีกนานแค่ใหน อย่างน้อยเขาก็ยังพอมีอะไรที่จะพึ่งพาได้บ้าง
ระหว่างที่เขาเก็บยาเข้าไปในกระเป๋า เขาก็ได้ยินเสียงของโดลซก
“นายท่าน.. ไปกันได้แล้วขอรับ”