The Dark King – Chapter 52 หลบหนีอย่างฉิวเฉียด [อ่านฟรี]
The Dark King – Chapter 52 หลบหนีอย่างฉิวเฉียด
ฟู่เทียนรู้สึกกลัวเขาดันประตูไว้ ประตูเก่าและสนิมเขรอะ หลังจากการทุบประตูครั้งแรกของซอมบี้ประตูเริ่มมีรอยแตก โชคดีที่มีโซฟาข้างหลังประตูไม่งั้นประตูถูกทำลายไปแล้ว
เมสันกับอีกสองคนรีบเข้าไปช่วยดันไว้ โครงไม้ข้างในโซฟาผุพังเมื่อโดนแรงพลักอย่างหนักจากเด็กทั้งสี่คนตรงกลางของโซฟาก็เริ่มแตกออก
ปัง! ประตูพังทลายฝ่ามือของพวกซอมบี้พยายามควานเพื่อจับพวกเขา โชคดีที่ร่างกายของซอมบี้เป็นรูปร่างของผู้ใหญ่ดังนั้นพวกมันจึงสูงกว่าฟู่เทียนมากทำให้ไม่สามารถจับตัวได้ในทันทีที่ประตูพัง
ฟู่เทียนลืมไปว่าวัสดุเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากถูกกัดกร่อนเป็นเวลา 300 ปี เขาตะโกนไปที่คนอื่นๆ “เร็วเข้า กระโดดจากหน้าต่างลงไปที่ชั้น 11”
เมสันกับอีกสองคนกำลังอยู่ในอาการขวัญผวา แต่หลังจากผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลาสามปีเขารีบตอบกลับไปว่า “ฉันจะต้านพวกมันเอาไว้ นายไปก่อนเลย!”
“ไป!” ฟู่เทียนตะโกน
พวกเขาไม่ต้องการสนทนากันไปมากกว่านี้ ความสูงของชั้น 12 อยู่สูงมากทำให้พวกเขารู้สึกเวียนหัว แต่ก็ไม่มีทางหนีอื่นอีกแล้ว แชมมองไปรอบๆระเบียงเห็นวัตถุยึดอยู่กับผนัง “ถ้าเราโรยตัวไปยังวัตถุนั้นเราจะสามารถลงไปที่ระเบียงชั้น 11 ได้”
มันคือคอมเพรซเซอร์เครื่องปรับอากาศ เมสันเป็นคนกล้าหาญมากที่สุดในสามคนแม้เขาจะกังวลแต่ก็ยังกระโดดลงไป
ปัง! คอมเพรซเซอร์เครื่องปรับอากาศไม่สามารถรับน้ำหนักได้จึงทรุดตัวลง เขารู้สึกกลัวแต่ก็เตรียมใจสำหรับสถานการณ์นี้ไว้แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ตอนขาของเขาสัมผัสกับกล่องเครื่องปรับอากาศเขาก็กระโดดลงไปที่ระเบียงชั้น 11 ทันที กล่องเครื่องปรับอากาศทรุดตัวลงไปกระแทกกับกล่องอื่นๆข้างใต้ กล่องเครื่องปรับอากาศทั้งหมดตกลงสู้พื้นด้านล่างทำให้เกิดเสียงดังสนั่น
เมสันปีนไปที่ระเบียงและมองขึ้นไปยังแชมและแซค “แชมนาย กระโดดลงมาก่อนฉันจะจับตัวนายไว้”
แชมเป็นคนที่ทีรูปร่างผอมบางที่สุดจากทั้งสามคน เขามองลงไปยังแขนของเมสันที่กำลังอ้ารอรับและกระโดดลงไป
เมสันจับตัวเขาไว้ในทันที แต่แรงที่เกิดจากการตกจากที่สูงเกือบทำให้เขาตกลงจากระเบียง เขารู้สึกเจ็บราวกับว่าแขนของเขากำลังจะฉีกขาดแต่เขาก็ยังยึดตัวแชมเอาไว้
แชมตกใจกลัวและเลือดก็สูบฉีดมาที่สมองของเขาเพราะความตื่นเต้น เขาคิดว่าเขากำลังจะตาย แชมมองไปที่ใบหน้าอันเจ็บปวดของเมสันและรู้สึกขอบคุณเขาอย่างมาก ตอนนี้แซคซึ่งยังติดอยู่ข้างบนกล่าวว่า “พวกนายพร้อมหรือยัง? ฉันจะกระโดดลงไปแล้วนะ”
เมสันยกแขนขึ้นและพูดกับแชมว่า “เรามาช่วยกันรับแซค”
แชมพยักหน้า ทั้งสองคนอ้าแขนและพูดกับแซคว่า “กระโดด!”
แซคกระโดดลงมา
พวกเขารีบรับตัวแซคทันทีแต่แขนของเมสันเจ็บมากทำให้แซคเกือบหลุดออกจากมือของพวกเขา
ฟู่เทียนรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินทั้งสามคนกระโดดลงอย่างปลอดภัย เขาไม่สามารถต้านทานแรงทั้งสามของผีดับได้ ตอนนี้ประตูดูกรอบเหมือนเศษกระดาด เขาหนีจากประตูและวิ่งไปที่ห้องครัว ตลอดทางเขาล้มทีวี โต๊ะ สายไฟและสิ่งของอื่นๆที่เขาคว้าได้ในห้องนั่งเล่น เขาพยายามที่จะชะลอความเร็วของซอมบี้ลง
ทริคของเขาทำงานได้ดี แม้ว่าความเร็วของซอมบี้จะเร็วกว่าเขาแต่สมองของพวกมันดูเหมือนว่าจะไม่ทำงาน พวกมันไม่รู้วิธีหลบหลีกสิ่งกีดขางและสะดุดล้มขณะที่เดินผ่านทีวี โต๊ะและสายไฟที่อยู่บนพื้น
เขาเข้าไปในห้องครัวและเริ่มโยนวัตถุทั้งหมดที่สามารถเป็นประโยชน์ได้ จากและเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดถูกโยนไปที่ซอมบี้ มันสร้างความเสียหายต่อซอมบี้ได้เล็กน้อยแต่ดึงดูดความสนใจได้ดีมาก
ฟู่เทียนรีบวิ่งไปยังห้องน้ำที่ติดกับห้องครัว เขาปิดประตูและมองไปที่หน้าต่างระบายอากศของห้องน้ำ มันทำจากโลหะผสมกับอลูมิเนียม แต่ขอบของมันผุพังในช่วง 300 ปีที่ผ่านมา เขายืนบนชักโครกและเริ่มงัดหน้าต่างระบายอากาศ
ปัง! มันแตกและเปิดออก
หน้าต่างใหญ่พอที่ร่างของเขาสามารถผ่านไปได้ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ยากที่จะออกไปได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเขายื่นออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองออกไป ความสูงสิบสองชั้นทำให้เขากลัว รถยนต์บนถนนที่ถูกปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์ต่างๆดูเหมือนขนมปังเล็กๆเมื่อมองจากฟู่เทียน เขาได้ยินเสียงขู่ฟ่อและเสียงคำรามของซอมบี้ เขาไม่ได้มองกลับไปแต่ไต่ออกมาจากหน้าต่าง
มีทางเลือกเดียวเท่านั้นก็คือ กระโดด!
ไม่มีกล่องเครื่องปรับอากาศเนื่องจากไม่มีใครติดตั้งมันไว้หลังห้องน้ำ มีท่อน้ำสีขาว 2 ท่อซึ่งใช้เป็นท่อระบายน้ำทิ้ง
เขากระโดดลงไปที่ท่อและคว้ามันไว้ ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าเขาไม่สามารถจับท่อได้เพราะมีรอยแตกอยู่ตรงหน้าของเขา
หน้าของฟู่เทียนซีดเผือด เขารีบคว้ามีดสั้นออกมา
เขาตอกมันลงบนผนัง มีดสั้นถูกเจาะเข้าไปในกำแพงและร่างของเขาแขวนอยู่บนนั้น
แฮ่! แฮ่!
จู่ๆซอมบี้ทั้งสองตัวก็โผล่หัวออกมาทางหน้าต่างห้องน้ำ พวกมันใช้กรงเล็บพยายามจับตัวเขา
ซอมบี้กำลังดันตัวเองออกอย่างไม่หยุดหย่อนและกำแพงที่อ่อนนุ่มของหน้าต่างก็ยืดออกและหลุดไปราวกับว่ามันทำมาจากโคลน ช่องหน้าต่างเปิดออกพอที่จะทำให้ทั้งสองตัวหลุดออกมา
ฟู่เทียนมองลงข้างล่างพบว่าระยะห่างระหว่างเขากับหน้าต่างห้องน้ำที่อยู่ด้านล่างประมาณเกือบ 1 เมตร ถ้าเขามีมีดสั้น 2 เล่มเขาสามารถลงไปได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เขามีเพียงแค่มีดสั้นเล่มเดียว
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นซากศพที่กำลังคลานออกมาเขาไม่กล้าที่จะรอต่อไป เขาแกว่งตัวเล็กน้อยและปล่อยมีดสั้นออก
ฟู่เทียนร่วงลงมา ร่างเขาอยู่ชิดกับผนังเขาเหยียดมือออกไปและจับขอบหน้าต่างไว้ มันเป็นระยะทางที่สั้นแต่เขารู้สึกราวกับว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด
ในขณะนั้นเขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้เกิดใหม่
ฟู่เทียนเงยหน้าขึ้นและเห็นร่างครึ่งตัวของซอมบี้ที่โผล่ออกมาจากหน้าต่าง เขากระแทกหน้าต่างอย่างรุนแรงและทุบมัน กระจกที่แตกแทงทะลุกำปั้นของเขาและเลือดเริ่มไหลออกมา เขารีบปีนขึ้นไปและงัดหน้าต่าง
ขณะที่เดินเข้าไปเข้ารู้สึกมีลมพัดอยู่ข้างหลัง
ฟู่เทียนมองลงไปด้านล่างมองหาซอมบี้ที่ตกลงมาจากหน้าต่างห้องน้ำตกลงไปที่พื้น
เมื่อมีตัวนึงตกลงไปทำให้ช่องว่างมากพอสำหรับอีกสองตัว เขาเห็นตัวหนึ่งพยายามที่จะโจมตีเขาจากบนนั้นและตกลงไปกระแทกกับพื้นใกล้ๆกับศพของซอมบี้อีกตัว
ฟู่เทียนรู้สึกประหลาดใจ พวกมันรู้วิธีการโจมตีไหม? พวกมันไม่สนใจชีวิตของตัวเองเลยหรอ?
เขานึกถึงเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างสก๊อตและซอมบี้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นก็มีความคิดผลุดขึ้นมาในใจของเขา