ตอนที่ 482 การโจมตีลึกลับ
ก่อนท้องฟ้าสว่าง ข้อความด่วนจากสำนักงานทะเบียนได้ถูกส่งไปทั่ว แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดี
หลิน ฮวงเด้งตัวออกจากเตียงและล้างหน้าทันที เขาเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อดับกลิ่นปากและออกไปหลังเปลี่ยนชุด
เมื่อเขามาถึงสนาม คณบดีทั้งสองและเจ้าหน้าที่จากสำนักทะเบียนก็อยู่รอแล้ว จากนั้นอาจารย์คนอื่นก็ทยอยกันมา
ในไม่ช้าหลิน ฮวงก็สังเกตเห็นว่าจอภาพมากมายบนสนามกลับมืดดับ มีน้อยกว่าครึ่งที่ยังคงทำงาน และหลายอันก็ยังดำอย่างต่อเนื่องหลังหลิน ฮวงมาถึง
“สัญญาณล้มเหลว?”นั่นคือปฏิกิริยาแรกของหลิน ฮวง
แต่ทว่า ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่ามันคงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด“หากมันแค่สัญญาณล่ม จอคงไม่ดับทีละหนึ่ง ดูเหมือนว่ายุงบันทึกภาพคงถูกโจมตี”
หลิน ฮวงมองจอภาพที่กำลังบันทึกภาพกลุ่มของหลิน ซินทันที จอยังไม่ดับแต่เขาสามารถเห็นได้ว่ามีเต็นท์สามหลังที่ปกคลุมด้วยหมอก
แม้จะไม่สามารถเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลิน ฮวงก็พยายามโทรหาหลิน ซิน
“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”เมื่อเห็นการแจ้งเตือน หลิน ฮวงก็ขมวดคิ้ว
เขาพยายามโทรหานักเรียนคนอื่น และก็เหมือนกัน เนื่องจากสัญญาณสื่อสารไม่ได้ผล เขาจึงเปิดเครือข่ายหัวใจและแท็กหานักเรียนทุกคน แต่ทว่า ไม่มีใครตอบกลับข้อความเขาหลังผ่านไปหลายวินาที
“มีใครบางคนปิดกั้นสัญญาณเครือข่ายและสื่อสาร!ยุงบันทึกภาพจะใช้สัญญาณชีวภาพและไม่มีทางปิดกั้นได้ จอภาพที่กำลังดับนั่นต้องหมายความว่ามีใครบางคนกำลังฆ่ายุงบันทึกภาพ”ในทันที หลิน ฮวงก็คาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้
อาจารย์กว่าสามพันคนมารวมตัวกัน ทั้งหมดรู้ว่าข้อความด่วนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้ามาช้า
คณบดีหวัง ซือจุนกล่าวด้วยสีหน้าดำมืด“ฉันต้องขอโทษที่รบกวนทุกคนในเวลานี้ แต่ขอให้ฉันได้อธิบายก่อน”
“ตอนประมาณตี3ครึ่ง จอภาพได้เริ่มดับ เจ้าหน้าที่ต่างคิดว่าสัญญาณล่มและหาคนมาซ่อมแซมพวกมัน ไม่มีปัญหาใดถูกพบ แต่จอภาพจากยุงบันทึกภาพกลับเริ่มหายไปทีละหนึ่ง มันเกิดขึ้นเพียงครึ่งชั่วโมงและเราก็สูญเสียจอภาพไปกว่าครึ่ง นอกจากนี้ สัญญาณเครือข่ายและสือสารยังถูกปิดกั้น เราพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่นั่นรวมถึงนักเรียน แต่เราไม่อาจติดต่อได้”
“แม้เราจะไม่อาจยืนยันได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ป่าหมอก แต่เราสามารถตรวจสอบได้ว่ามันคือเครื่องรบกวนสัญญาณที่มนุษย์สร้างขึ้น บางที เราคงสูญเสียการเชื่อมต่อกับจอภาพเพราะยุงบันทึกภาพถูกฆ่า สมมติฐานของเราคือมีใครบางคนบุกรุกป่าหมอก และต้องไม่ใช่เจตนาดีต่อนักเรียนเรา”
หลิน ฮวงกำหมัดแน่น จ้องมองจอภาพที่กำลังแสดงกลุ่มของหลิน ซิน
“เนื่องจากป่าหมอกนั้นใหญ่เกินไป ฉันต้องขอให้พวกคุณช่วยกันเพื่อที่เราจะค้นหาพวกเขาในป่าและพานักเรียนทั้งหมดออกมาอย่างปลอดภัย”ในที่สุดคณบดีก็ร้องขอ
ขณะที่คนอื่นกำลังถกเถียง บางคนก็ดูกังวล
“มันอาจเป็นคนจากโลกมืด?”
“หากพวกมันมาจากอีกาม่วงหรือนักบุญ แม้กระทั่งสมาชิกสำรองก็ยังฆ่าเราทั้งหมดได้...”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา คณบดีทั้งสองก็ขมวดคิ้ว
“เหล่าคนที่ไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร คุณสามารถอยู่ที่นี่กับคณบดีจางได้”หวัง ซือจุนยอมประนีประนอม“ใครก็ตามที่ยินดี ก็ตามฉันมา!”
เมื่อหวัง ซือจุนพูดจบ เขาก็หยิบเอาประตูมิติสีดำออกมา ขณะที่เขาพยายามติดตั้งมัน เขาก็ต้องขมวดคิ้ว
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมฉันไม่อาจกำหนดตำแหน่งได้?”
“หากผมเดาไม่ผิด พวกมันอาจแทรกแซงมิติเพื่อไม่ให้เราไปช่วยนักเรียนได้”หลิน ฮวงยืนขึ้นและกล่าว“เนื่องจากเราไม่อาจตั้งตำแหน่งของป่าหมอกในประตูมิติได้ งั้นก็ตั้งสถานที่ที่ใกล้ที่สุดแทน”
“อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดในประตูมิติฉันคือเมืองเกรดB มันอยู่ห่างจากป่าหมอกถึง4พันกิโลเมตร”สีหน้าของหวัง ซือจุนกลายเป็นปั้นยาก เขาไม่เคยคิดว่าพวกมันจะแทรกแซงมิติ“หากฉันบินด้วยความเร็วสูงสุด ฉันจะต้องใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งเพื่อไปที่นั่น หากคนอื่นเดินทางด้วยมอนสเตอร์บิน พวกเขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย3ชั่วโมง”
“มีใครมีตำแหน่งใกล้กับป่าหมอกกว่านี้ไหม?”หลิน ฮวงกวาดตามองอาจารย์คนอื่นเพราะเขาไม่เคยตั้งตำแหน่งในพื้นที่แถวนั้นมาก่อนในหมึกดำเขา
มีอาจารย์กว่าสามพันคน แต่ไม่มีใครสามารถตอบคำถามหลิน ฮวงได้
อาจารย์ส่วนใหญ่ไม่ได้มีสมบัติมิติ แม้จะมีแต่ก็ไม่มีใครตั้งพิกัดใกล้ป่าหมอก
สถาบันนักล่ายุทธ์จะจัดการฝึกในสถานที่แตกต่างกันทุกเดือน หากมันไม่จำเป็น เหล่าอาจารย์ก็จะไม่ไปเมืองเกรดCหรือDนัก
“งั้นเราก็ควรจะใช้สมบัติมิติของคุณ หากมันประมาณ4พันกิโลเมตร งั้นผมก็ต้องใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว”จากนั้นหลิน ฮวงก็หันหลังและมองหวัง ซือจุนเนื่องจากไม่มีใครตอบคำถามเขา
“ชั่วโมงเดียว?”แม้หวัง ซือจุนจะเห็นว่าหลิน ฮวงเลื่อนเป็นเพลิงขาวแล้ว เขาก็ยังไม่คิดว่าความเร็วของเพลิงขาวจะเร็วไปกว่าเขา
หลิน ฮวงคร้านจะอธิบายและอัญเชิญสายฟ้าออกมาทันที
เมื่อสายฟ้าสยายปีกมัน เงาดำก็เข้าปกคลุมพื้นที่ทันทีด้วยปีกที่กว้างกว่าสิบเมตร ร่างมันห่อหุ้มด้วยประกายสายฟ้าสีม่วง จากนั้นมันก็ร่อนลงข้างหลิน ฮวง สร้างความหวาดกลัวแก่ฝูงชน
“มันคือมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง เหยี่ยวสายฟ้า!และยังอยู่ในระดับเพลิงฟ้า!”ฉิน เทียนซิ่งกล่าวเสียงต่ำ
“เธอเป็นผู้ควบคุม....”คณบดีทั้งสองตกใจ
“กลับไปก่อน ฉันจะเรียกแกออกมาทีหลัง”หลิน ฮวงโบกมือเขาและร่างสายฟ้าก็หายไป
“ผมจะไปยังที่นั่นก่อน พวกคุณค่อยตามผมไปทีหลัง”หลิน ฮวงไม่อาจรอได้อีกต่อไปเพราะเขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับหลิน ซิน
“เอาละ เธอไปก่อน ฉันจะพาคนอื่นตามไปสนับสนุนเธอทีหลัง”
หวัง ซือจุนกังวลเพราะหลิน ฮวงอยากไปในป่าหมอกเพียงลำพัง เขาไม่มั่นใจความสัมพันธ์ระหว่างหลิน ฮวงและลั่ว หมิง ยิ่งไปกว่านั้น ระดับพลังเขายังเป็นเพียงเพลิงขาว แต่หลังจากเห็นมอนสเตอร์อัญเชิญระดับเพลิงฟ้า ความคิดเขาก็เปลี่ยนไป มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ควบคุมระดับเพลิงสวรรค์จะอัญเชิญมอนสเตอร์ได้แค่ตัวเดียว เขารู้สึกว่าความสามารถโดยรวมของหลิน ฮวงต้องเทียบได้กับเพลิงม่วง
หวัง ซือจุนตั้งพิกัดในประตูมิติเขาทันทีและหลิน ฮวงก็เข้าไปคนแรก
ปล.เอาแล้วววว