ตอนที่ 478 ป่าหมอก
ซ่างกวน หุ่ยไว้ผมสั้นและมักสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ทำให้เธอดูเหมือนผู้ชาย
ในสองสามวันแรก เพศของเธอยากจะแยกแยะได้ แต่หลังจากเรียนอยู่หลายครั้ง นักเรียนในห้อง2ก็สามารถยืนยันเพศเธอได้
นอกจากเครื่องแต่งกายเธอ บุคลิกเธอดูคล้ายกับผู้ชาย เธอไม่แสดงอารมณ์ดั่งผู้หญิงและสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างมีเหตุผล นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเธอจึงสนิทกับผู้หญิงและพวกเธอก็ปฏิบัติต่อเธอราวกับเพื่อนชาย พวกเธอจะมองหาเธอเพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เผชิญ
เพื่อนร่วมห้องเธอ โจว หลิง แตกต่างจากเธอโดยสิ้นเชิงเพราะเธอเป็นคนตรงไปตรงมา เธอสูงประมาณ1.6เมตร อย่างไรก็ตาม เธอมีใบหน้าน่ารักอ่อนกวานและนอกจากชื่อเสียงเธอ เธอยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กหนุ่มมากมาย
ซ่างกวน หุ่ยขอเข้าร่วมกลุ่มของโจว หลิงทันที พวกเธออยากมองหาเพื่อนร่วมกลุ่มเอง แต่ก็สายเกินไป พวกเธอถูกกลุ่มเด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามาหา และจากนั้นก็ยอมให้เด็กหนุ่มทั้งสามร่วมกลุ่มด้วย
เด็กหนุ่มทั้งสามคือผู้คลั่งใคล้โจว หลิง และหนึ่งในนั้นก็คือซือ ตู๋ห่าวที่บรรลุระดับเหล็กแล้ว
ซือ ตู๋ห่าวอายุ16ในปีนี้และอายุเยอะที่สุดในชั้นปี1ห้อง2เต๋าดาบ เขาเพียงเด็กกว่าหลิน ฮวง2เดือน อย่างไรก็ตาม เขากลับสูง แม้จะอายุเพียง16 เขาก็สูงถึง1.85เมตรแล้ว เขาดูโตราวกับชายหนุ่มในวัยย่าง20ปี ซึ่งทำให้เพื่อนร่วมห้องเขาเรียกเขาว่าลุงห่าว
ซือ ตู๋ห่าวคือผู้คลั่งใคล้โจว หลิง เขาสารภาพกับโจว หลิงตั้งแต่วันแรกเมื่อพวกเขาพบกันและส่งผลให้โจว หลิงกลัวและวิ่งหนีไป เธอหลีกเลี่ยงเขาอยู่นานกว่าสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็ตระหนักว่าซือ ตู๋ห่าวนั้นเป็นคนดี แม้เธอจะไม่ยอมรับรักเขา ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกัน
เด็กหนุ่มอีกสองคนชื่อหยาง เจี่ย และจ้าว เซ่อที่หลงใหลโจว หลิงเช่นกัน ผลงานของพวกเขาค่อนข้างโดดเด่นในห้อง2
กลุ่มของซ่างกวน หุ่ยเป็นหนึ่งในกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในห้อง2เต๋าดาบ
“พวกเราโชคดีมากที่ถูกส่งมาข้างทะเลสาบ!”โจว หลิงตะโกน พวกเขากำลังยินดีกับเหตุบังเอิญ
“มาดูแผนที่เพื่อระบุตำแหน่งเรากันก่อนเถอะ”ซ่างกวน หุ่ยเตือน
“ทะเลสาบตรงหน้าเราคือหนึ่งในสามทะเลสาบขนาดใหญ่ในป่าหมอก ทะเลสาบบรูแมร์ มันดูเหมือนว่าเราไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกแล้ว”ซือ ตู๋ห่าวประกาศอย่างมีความสุขหลังศึกษาแผนที่
“ตอนนี้เราที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบบรูแมร์ มีปลาในทะเลสาบที่สามารถแก้ไขปัญหาด้านอาหารให้เรา แต่ทว่า เราก็มีปัญหาอื่นเช่นกัน”ซ่างกวน หุ่ยมองสมาชิกคนอื่น
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว พวกเขาก็เบี่ยงความสนใจไปที่เธอ
“อย่างแรก การฆ่ามอนสเตอร์ในน้ำย่อมยากกว่าบนพื้นดิน ทะเลสาบนี้มีขนาดกว้างกว่า800ตารางกิโลเมตร หากเราอยู่ในตำแหน่งเดิมถึงสามวัน บางที เราคงไม่แม้แต่จะพบมอนสเตอร์ที่มาดื่มน้ำ”
“อย่างที่สอง ทางทิศเหนือคือทะเลสาบ มันอาจมีตราจำนวนมากถูกซ่อนอยู่แถวนั้น เพื่อที่จะหาตรา เราต้องค้นหาริมทะเลสาบหรือเข้าไปในป่า”
“เป้าหมายเราไม่ใช่การผ่านการทดสอบอย่างปลอดภัย แต่เป็นการสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุด!”ทั้งสี่พยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่าง กวนหุ่ยกล่าว
“เสี่ยว หุ่ย เราควรทำยังไง?”โจว หลิงรู้ว่าซ่างกวน หุ่ยเป็นคนเจ้าความคิด
“ก่อนอื่น เราต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมก่อน หากไม่มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอยู่แถวนี้ เราจะตั้งแคมป์กันที่นี่ เกี่ยวกับอาหาร ค่อยลองดูรอบๆหลังจากพบว่ามีมอนสเตอร์ที่เราสามารถล่าได้ มันจะดีกว่าหากเราสามารถเตรียมอาหารไว้มากพอสำหรับสามวัน เรายังสามารถทำได้ทั้งเนื้อแห้งหรือปลาแห้ง และเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีก”ซ่างกวน หุ่ยเงียบไปสักพักและเสนอแนะ“เมื่อหมอกหายไปในวันพรุ่งนี้ เราจะมุ่งหน้าไปตะวันตกและเข้าไปในป่า จากนั้นก็เริ่มล่ามอนสเตอร์”
“ฉันเห็นด้วย!”โจว หลิงไม่คิดซ้ำสองและเห็นด้วยทันที
“เอาละ งั้นก็ทำตามที่เธอกล่าว”ทั้งสามไม่มีใครคัดค้านอะไร
ซ่างกวน หุ่ยสุ่มหยิบกิ่งไม้มาและโยนลงพื้น จากนั้นก็มองเวลาและกล่าว“ตอนนี้11โมง เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพบตรา เราต้องแยกกันสำรวจพื้นที่ โจว หลิงและฉันจะไปทางตะวันออก หยาง เจี่ยและจ้าว เซ่อจะไปทางใต้ และเนื่องจากนายแข็งแกร่งที่สุด ซือ ตู๋ห่าว นายควรจะไปทางตะวันตกและเข้าไปในป่า จุดประสงค์หลักคือการตรวจว่ามีตราแถวนั้นไหมหรือมอนสเตอร์ที่อยู่เพียงลำพัง เราจะมารวมตัวกันตรงนี้ตอนบ่าย ปิดโหมดสั่นและเสียงบนแหวนหัวใจจักรพรรดิพวกนายด้วย ค่อยติดต่อกันหากมีเรื่องอะไร”
“มันจะไม่เป็นไรงั้นหรอ?”โจว หลิงถาม รู้สึกไม่ปลอดภัย
“มันจะไม่เป็นไร จุดประสงค์หลักเราคือการมองหาตรา หากเราพบมอนสเตอร์หรือกลุ่มอื่น ก็กลับมารวมตัวกันเพื่อหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้ง การทดสอบเพิ่งเริ่มขึ้น แม้ว่าเราจะพบมู่ เสี่ยวจากฝ่ายกระบี่ พวกเขาก็คงไม่สู้กับเรา ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ที่มอนสเตอร์รวมตัวกันเยอะยังมีทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ ฝูงมอนสเตอร์ที่ใกล้สุดอยู่ทางตะวันตก และอยู่ห่างจากเรา30กิโลเมตร หากมีมอนสเตอร์ในสถานที่อื่น พวกมันอาจจะอยู่เพียงลำพังหรือเป็นกลุ่มเล็กๆ”ซ่างกวน หุ่ยอธิบาย
“เอาละ ทำตามที่เธอพูดกันเถอะ เราจะมารวมตัวกันที่นี่ตอนบ่าย หากมีใครพบมอนสเตอร์ที่อยู่เพียงลำพัง เราจะฆ่าพวกมันด้วยกันและทำให้พวกมันเป็นเนื้อแห้ง หากไม่มีมอนสเตอร์ เราจะจับปลาและตากแห้งพวกมัน”ซือ ตู๋ห่าวเห็นด้วย
หยาง เจี่ยและจ้าว เซ่อไม่ได้ปฏิเสธเธอ
จากนั้นพวกเขาก็แยกทางกันไป
การตัดสินใจของซ่างกวน หุ่ยอยู่นอกเหนือการคาดเดาของหลิน ฮวงเพราะเขาไม่เคยรู้ว่าเธอจะคิดไปในทางนั้น เขาคิดว่าซือ ตู๋ห่าวคงเป็นผู้นำกลุ่มเพราะเขาอาวุโสสุดและยังแข็งแกร่งสุด เขาไม่เคยคิดว่าซ่างกวน หุ่ยจะมีกลายมาเป็นผู้นำ
“ทั้ง5แยกกันไปสามทิศทาง พวกเขากล้าหาญมาก...อย่างไรก็ตาม เด็กสาวคนนั้นไม่ดูเหมือนจะรู้สึกกังวลเลย เธอต้องเป็นเหมือนหลิน ซินที่เคยอยู่ในเขตป่ามาก่อน”หลิน ฮวงดูเหมือนจะสามารถระบุความแตกต่างระหว่างมือใหม่กับคนที่เคยผ่านมาได้ ขณะที่คนอื่นยังคงพยายามทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม ซ่างกวน หุ่ยกลับมอบหมายงานให้เพื่อนร่วมกลุ่มเธอตั้งแต่วันแรก เห็นได้ชัดว่าพวกมือใหม่จะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
“ดูเหมือนว่าเธอจะมาจากตระกูลซ่างกวน”คณบดีหวังสังเกตเห็นผลงานของซ่างกวน หุ่ย เขาฝืนยิ้ม ส่ายหัว เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับการสร้างปัญหาของเธอในระหว่างการสอบเข้ามาก่อน
ซ่างกวน หุ่ยควรจะได้คะแนนเต็มในหลักสูตรการบ่มเพาะ แต่ทว่า ขณะที่กำลังตอบคำถาม เธอกลับถามอาจารย์ บอกถึงข้อกำหนดที่ถูกต้อง จากนั้นก็ให้คำตอบหลากหลายในแง่มุมของคำถาม
ท้ายที่สุด เธอก็ถูกหักคะแนนโดยอาจารย์ที่ตรวจสอบกระดาษเธอ
เนื่องจากตระกูลซ่างกวนคือ1ใน6ตระกูลใหญ่ ปัญหาของซ่างกวน หุ่ยจึงลอยไปถึงหูของผู้นำตระกูลซ่างกวน ท้ายที่สุด ตระกูลซ่างกวนก็ได้กดดันคนที่คิดข้อสอบในหน่วยงานรัฐบาลกลาง จากนั้นคนๆนั้นก็ยอมรับว่ามันคือความผิดเขา ในที่สุด เธอก็ได้รับคะแนนเต็มในหลักสูตรการบ่มเพาะเธอ
อย่างไรก็ตาม ความสามารถการต่อสู้เธอไม่ได้เหมือนมันสมอง ดังนั้น เธอจึงได้รับมอบหมายให้เข้าเรียนห้อง2ของเต๋าดาบตามคะแนนรวม เธอไม่ได้คัดค้านอะไรและยอมรับมัน
แน่นอน หลิน ฮวงไม่รู้เกี่ยวกับมัน เขาเพิ่งรู้ว่าตระกูลซ่างกวนคือ1ใน6ตระกูลใหญ่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่านักเรียนคนใดจะมาจากตระกูลราชวงศ์ ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับตัวตนของซ่างกวน หุ่ย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะรู้ตัวตนของซ่างกวน หุ่ย เขาก็คงจะปฏิบัติกับเธอดั่งเดิม