ตอนที่แล้วGE48 สิบเจ็ดสาวงามผู้กลายเป็นกระถางขัดเกลา [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE50 นิกายกุ่ยเชว่รับศิษย์ ป่าภูติพราย [ฟรี]

GE49 ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่น่าเคารพ ฑูตแห่งวิหารพิรุณ [ฟรี]


ทิศตะวันตกของแคว้นเยว่... หุบเขากระเรียนทมิฬ... หุบเขาแห่งนี้ทอดยาวถึง 100 ลี้ เมฆหมอกหนาปกคลุมตลอดทั้งปี ภายในมีพระราชวังที่งดงาม ราวกับสถานที่แห่งนี้คือสรวงสวรรค์

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดได้เชยชม เพราะหุบเขาแห่งนี้คือสถานที่ตั้งนิกายกุ่ยเชว่

ผู้ฝึกตนมากมายร่วมเดินทาง แสงสีหลากสรรค์มุ่งมาจากทุกทิศ สัตว์อสูรรูปร่างประหลาดพร้อมกับผู้ขี่ เคลื่อนผ่านเข้าไปในเมฆหมอกทมึน

เมื่อผ่านพ้นเข้าไปภายใน ทุ่งดอกไม้ที่งดงามปรากฏ เมฆหมอกเหล่านั้นเพียงทำให้ผู้คนรู้สึกมืดมนและหนาวเหน็บ

ผู้เยาว์ในชุดคลุมดำคนหนึ่งก้าวผ่านเข้าไปในเมฆหมอกร่วมกับผู้คน ผู้เยาว์คนนั้นไม่เผยระดับพลังของตน ยิ่งเมื่อทำตัวไม่สะดุดตา ผู้คนยิ่งไม่สนใจ

หลังจากผู้เยาว์คนนั้นก้าวผ่านม่านหมอก รอยยิ้มพลันปรากฏที่ใบหน้า “มืดมนและหนาวเหน็บ... แต่นั่นมิใช่อากาศรอบข้าง เป็นเพียงจิตใจเท่านั้นที่รู้สึก... ช่างน่าสนใจยิ่งนัก... ‘ปราณหยินลึกล้ำ’ ช่างน่าอัศจรรย์ ปราณเยือกแข็งสวรรค์อันดับ 7 นี้จะแช่แข็งจิตใจของผู้คน...มิใช่...ต้องกล่าวว่ากลืนกินจิตใจของผู้คนจึงจะถูก เพราะมันส่งผลกับสภาพจิตใจของผู้ที่ต้องสัมผัสอย่างรุนแรง... น่าเสียดายที่ข้ายังมิรู้ว่ามันซ่อนอยู่ที่ใด แต่มันสมควรยากที่จะช่วงชิง ขนาดอาจารย์ของข้าอยู่ที่นี่ร่วม 40 ปี แต่ยังมิอาจช่วงชิงมันได้...”

สิ่งที่ผู้เยาว์คนนี้สนใจ แท้จริงแล้วคือปราณหยินลึกล้ำ เพราะหลังจากเข้าสู่เมฆหมอก สร้อยหยินหยางที่อยู่ภายในตันเถียนสัมผัสได้ถึงบางสิ่งอย่างเบาบาง และนั่นทำให้มันตื่นเต้นยินดีอย่างที่สุด

ผู้เยาว์คนนั้นคือหนิงฝาน ผู้ที่มิได้ปิดบังใบหน้า ผู้ที่มิได้เปิดเผยจิตสังหาร และผู้ที่มิได้เปิดเผยระดับพลัง ร่างกายของหนิงฝานดูบอบบาง รอยยิ้มสดใสราวกับดวงตะวัน ดูคล้ายกับผู้เยาว์ทั่วๆไป

หลังจากผ่านหมอกไป 10 ลี้ เส้นทางเบื้องหน้าเปิดกว้าง มีผู้เชี่ยวชาญของนิกายกุ่ยเชว่คอยตรวจสอบผู้คน แม้ผู้คนมากมายที่มาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่เมื่อพวกมันพบผู้ตรวจสอบ พวกมันเร่งร่อนลงพื้นเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะจู่โจม

ไม่นานนัก เรือเหาะขนาดใหญ่ปรากฏลอยเหนือท้องนภา เรือเหาะลำนั้นมิได้ร่อนลงพื้น เหล่าผู้ตรวจสอบไม่กล้าขัดขวาง

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ! ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจากหลายนิกายได้มาร่วมชมงานรับศิษย์ของนิกายกุ่ยเชว่ งานรับศิษย์ของนิกายกุ่ยเชว่นั้น 10 ปีจะจัดขึ้นหนึ่งครั้ง ในเมื่อนิกายเทียนหลีโม่ถูกทำลาย นิกายกุ่ยเชว่จึงเลื่อนระดับขึ้นเป็นนิกายอันดับหนึ่งแทน และนั่นจึงทำให้นิกายกุ่ยเชว่เป็นที่จับตา

พวกมันอยากทราบว่าปีนี้ นิกายกุ่ยเชว่จะรับศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากมายเท่าใด...

สถานะของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำนั้นสูงส่ง ต่อให้เป็นนิกายกุ่ยเชว่ก็ไม่กล้าเสียมารยาท

หนิงฝานหยุดเดิน เขาคิดว่าหากตนเองนำเรือเหาะฉีหม่ยออกมา บางทีคนของนิกายกุ่ยเชว่อาจไม่กล้าห้าม

แต่หากใช้เรือเหาะฉีเหม่ยย่อมมิเหมาะสม ตนเองมานิกายกุ่ยเชว่เพื่อช่วงชิงปราณหยินลึกล้ำ ต้องไม่ให้เป็นจุดสนใจ แม้ตนเองจะเป็นศิษย์ของหานหยวนจี๋ หรือเป็นคู่หมั้นของหลานเหม่ยก็ตาม

ขณะที่หนิงฝานส่ายหัว บุรุษร่างกายกำยำก็เดินตรงเข้ามาพร้อมสีหน้าจริงจัง “สหายน้อยเหยียดหยามเทพเซียน ข้า ‘หยุนเลี่ย’ เหยียดหยามเทพเซียนเช่นกัน เหตุใดเทพเซียนถึงเย่อหยิ่ง... เหตุใดผู้เชี่ยวชาญถึงทะนงตน... แม้จะกล่าวเช่นนั้น ตัวข้ายังต้องการก้าวย่างบนเส้นทางแห่งเซียน มิเช่นนั้น ชีวิตอันเล็กจ้อยนี้ย่อมสูญเปล่า...”

ชายผู้นั้นมีนามหยุนเลี่ย ร่างกายกำยำโด่ดเด่น จมูกเป็นสัน ใบหน้าดำทมึนราวกับถ่าน ผิวกายดำไม่ต่างจากก้นหม้อ ผมหยักงอ แต่หากมองโดยรวม คนผู้นี้ดูแข็งแกร่งและพร้อมจะเหยียดหยามทั่วหล้า

หากสีผิวที่ดำสนิทของมันตกใส่หนิงฝาน อาจล้างไม่ออก แม้หน้าตาผิวพรรณของจะดูอัปลักษณ์ แต่อีกมุมก็ดูน่าขบขัน

หนิงฝานมิได้สนใจมัน เขาแสดงใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ ราวกับอีกฝ่ายไม่สลักสำคัญ

ในโลกแห่งการฝึกตนนี้ มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด แม้จะถือเป็นเรื่องเศร้าแต่นั่นคือความจริง

ผู้เยาว์เปิดเส้นชีพจรหลายคนที่ได้ยินคำกล่าวของชายอัปลักษณ์ ล้วนจ้องมองด้วยสายตาเย้ยหยัน ทั้งยังเผยแววตาเป็นเชิงให้มันเร่งหุบปาก

แต่ที่ทำให้ผู้คนตกใจคือชายอัปลักษณ์ผู้นั้นกลับมิหวาดกลัว

“สหายน้อยคิดเห็นเช่นใดกับเทพเซียน? สหายน้อยคิดเห็นเช่นใดกับมนุษย์?” หยุนเลี่ยมิสนใจผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรคนอื่นๆ ยิ่งมองเห็นเรือเหาะของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำบนท้องฟ้า มันยิ่งเผยสีหน้าเย้ยหยัน

มันกล่าวถามเพราะต้องการคำตอบจากหนิงฝาน หนิงฝานไม่อาจมองเห็นระดับพลังของมัน แต่มันเห็นระดับพลังของหนิงฝาน... มุมปากของหนิงฝานขมวดขึ้น ชายอัปลักษณ์ผู้นี้ลึกล้ำเกินหยั่งถึง มันให้ความรู้สึกอันตรายยิ่งกว่ากุ่ยเชว่สื่อ

ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม... แต่ในแคว้นเยว่มิมีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม... เช่นนั้นมันต้องมาจากแคว้นอื่น

หนิงฝานสังเกตุเห็นผู้ที่อยู่บนเรือเหาะเผยสีหน้าชิงชังต่อตน แต่หยุนเลี่ยกลับไม่เป็นเช่นนั้น มันมิได้ดูถูกรังเกียจ แต่กลับชื่นชม มันจึงเดินเข้ามาพูดคุยกับหนิงฝาน

“ขอบเขตพลังเปรียบดั่งขุนเขาให้ก้าวผ่าน เซียนเหล่านั้นคือผู้ที่ยืนอยู่ยอดเขา... ขอบเขตพลังเปรียบดั่งกรงขังที่มนุษย์ถูกกักตรวนไว้ภายใน หากมนุษย์ผู้ใดทำลายกรงขังออกมาได้ อาจมีโอกาสได้ยืนอยู่บนยอดเขาเฉกเช่นเซียน... แต่หากมนุษย์ผู้ใดพึงพอที่จะอยู่ในกรงขัง พวกมันย่อมมิอาจเป็นเซียน... ในสายตาของข้านั้น แม้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจะถูกยกย่องสรรเสริญ แต่มันยังห่างจากความเป็นเซียนนัก...”

ภายในหัวของหนิงฝานปรากฏภาพของจักรพรรดิสวรรค์ เพียงนิ้วเดียวทำลายดวงดาว เพียงเปล่งเสียงจักรวาลผันแปร อำนาจที่ทรงพลังจนมิอาจทัดเทียมเช่นนั้นควรค่าแก่คำว่า ‘เทพเซียน’ ที่แม้แต่เทพกษัตริย์เนี่ยยังมิคู่ควร

หนิงฝานดูสง่างามแต่มิเย่อหยิ่งจองหอง...

หลังกล่าวจบ หนิงฝานป้องมือให้แก่หยุนเลี่ยแล้วหันหลังจากไป นั่นหมายความว่าเขาไม่ต้องการสนทนากับอีกฝ่ายต่อ หยุนเลี่ยย่อมทราบดี มันจึงมองแผ่นหลังหนิงฝานที่กำลังจากไปด้วยความนับถือ

“คาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญที่ต่ำต้อยในแคว้นเยว่จะมีผู้ที่มากพรสวรรค์เช่นนี้ ต่อให้เป็น ‘วิหารพิรุณ’ ข้า... 100 ปียังยากจะพบบุคคลเช่นนี้... แต่ช่างน่าเสียกายที่เด็กคนนี้มีรากฐานของฝ่ายอธรรมที่ล้ำลึก ยากจะฝึกปรือวิชาของฝ่ายธรรมะ ที่สำคัญ ตาเฒ่าที่นั่นย่อมไม่ยอมให้คนของฝ่ายอธรรมเข้าร่วม ช่างน่าเสียดาย... ช่างน่าเสียดาย...”

เมื่อหนิงฝานเดินจากไป เรือเหาะสีทองขนาดใหญ่บนท้องนภากลับปรากฏเสียงที่เหยียดหยามความคิดเห็นของหนิงฝานดังมา

“กลายเป็นเซียน? มิอาจเป็นเซียน? ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำด้อยค่า...มิควรค่าให้เรียนขานว่าเซียน... ฮ่าฮ่า ผู้เยาว์คนนี้ช่างคุยโต ข้า ‘ฮวั๋งฟงสื่อ’ ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขอสั่งสอนเจ้าให้รู้จักผิดชอบชั่วดี!”

สัมผัสเทพของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นแรกแผ่ออกมาจากเรือเหาะ หมายเข้าจู่โจมทะเลสติของหนิงฝาน

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำผู้จิตใจคับแคบ เพียงผู้อื่นบอกเล่าความคิดเห็น มันกลับคิดสังหาร... ช่างเป็นการที่ไร้เหตุผล!

แต่นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำมิอาจทนคำหยามหมิ่น

สัมผัสเทพที่ทรงพลังของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำผู้นั้นเล็งตรงมาที่หนิงฝาน เมื่อเคลื่อนห่างจากหนิงฝานเพียง 10 จ้าง ผู้คนละแวกนั้นที่สัมผัสได้ล้วนหวาดกลัว

แววตาหนิงฝานเย็นชา กระบี่แยกสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อสำแดงเดช เข้าฝ่าทำลายสัมผัสเทพที่ทรงพลังของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ

ความสามารถในการเผาวิญญาณของมันนั้น สามารถทำลายได้แม้กระทั่งสัมผัสเทพของเทพกษัตริย์เนี่ย เหตุใดมันจะทำลายสัมผัสของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำที่อ่อนด้อยมิได้?

เมื่อสัมผัสเทพของฮวั๋งฟงสื่อถูกทำลาย มันโกรธแค้น แค่นเสียงเย็นชา ก่อนซัดฝ่ามือประทับจากเรือเหาะลงมายังหนิงฝาน

“ทำลาย!”

กรงเล็บสายหนึ่งเคลื่อนตะปบไปยังเรือเหาะลำยักษ์ของฮวั๋งฟงสื่อ เรือเหาะที่เป็นสมบัติวิญญาณระดับสูงถูกทำลายทันที

เมื่อเรือเหาะถูกทำลาย ผู้คนมากมายบนเรือร่างระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต ฮวั๋งฟงสื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสและร่วงหล่นจากท้องนภาด้วยใบหน้าซีดขาวไร้โลหิต

“ผะ...ผู้อาวุโสดวงจิตแรกเริ่ม! ผู้เยาว์หยาบคายที่จดจำท่านมิได้! ผู้อาวุโสโปรดให้อภัย!”

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำผู้เย่อหยิ่ง ตัวตนที่อาศัยอยู่ในโลกมาร่วมร้อยปีกลับหวาดกลัวชายอัปลักษณ์เบื้องหน้า

“บิดามิสังหารเจ้าหรอก” หยุนเลี่ยหันมองหนิงฝานอย่างมีนัย

เพราะหลังจากที่หนิงฝานลงมือ มันสัมผัสได้ว่าหนิงฝานมิได้หวาดกลัวผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ทั้งยังสามารถสังหารอีกฝ่ายได้

“ผู้เยาว์ประสานวิญญาณผู้นี้ไม่ธรรมดา... อีกไม่เกิน 10 ปี มันผู้นี้ย่อมเหนือล้ำที่สุดในแคว้นเยว่”

หลังจากเรือเหาะถูกทำลาย ฮวั๋งฟงสื่อผู้หยิ่งทะนงกลับหวาดกลัวเยี่ยงคนขลาดเขลา ไม่นานนักกุ่ยเชว่สื่อและผู้อาวุโสของนิกายได้เร่งรุดมายังที่เกิดเหตุด้วยสีหน้าตกตะลึง

“วิชาในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม... ‘ฝ่ามือทะลาย’!... ‘ทูตแห่งวิหารพิรุณ’ ปกติแล้วฑูตจะไปเยือนนิกายฝ่ายธรรมะ แต่เหตุใดถึงมาเยือนนิกายฝ่ายอธรรมของข้า!”

สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ...ผู้อาวุโสแห่งนิกายกุ่ยเชว่จำนวนมากมืดมน พวกมันเร่งวิ่งออกมาจากโถงหลักของนิกายทันที

“ขอบคุณผู้อาวุโส!” หนิงฝานป้องมือคาราวะอีกฝ่ายก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินหายเข้าไปในกลุ่มคน หนิงฝานคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ แม้ตนไม่ใช้เรือเหาะฉีเหม่ย แต่หากได้อยู่กับหยุนเลี่ยสักพัก คงได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คน

“มิต้องถือสา” หยุนเลี่ยพยักหน้าให้หนิงฝานแล้วจากไปทันที

‘ก้าวพริบตา’! วิชาย่างก้าวของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม!

เมื่อกุ่ยเชว่สื่อมาถึง สถานะการณ์จึงคืนสู่ความสงบ แต่หนิงฝานมิอยู่แล้ว หยุนเลี่ยก็เช่นกัน

“ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม... ยากนักที่ได้พบเห็น!” ผู้อาวุโสของนิกายกุ่ยเชว่กล่าว

แต่กุ่ยเชว่สื่อกลับขมวดคิ้วพลางพึมพัม “ดูเหมือนตัวตนของวิหารพิรุณจะมีอยู่จริง คาดไม่ถึงว่าพวกมันจะตามหาศิษย์เข้าร่วม... แต่ผู้ใดที่มันสนใจ”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด