DND.103 - องค์หญิงหยุนหยาน
นั่นหมายความว่าด้วยความยินยอมของพ่อแม่เช่นนี้...ซือหยูจะได้เป็นบุตรเขยตระกูลเฉิน! และจะได้แต่งงานกับบุพผาแห่งร้อยตระกูล!
อกลี่คงหุยแทบจะระเบิด! ตั้งแต่ซือหยูปรากฏตัวขึ้นก็ไม่มีสิ่งใดเป็นไปตามที่คาดสักอย่าง
ยิ่งไปกว่านั้นซือหยูยังช่วงชิงหัวใจนางอันเป็นที่รักของเขา และยังช่วงชิงหัวใจของพ่อแม่นางไปอีก! เขาได้เยอะเกินไปแล้ว!
ตระกูลลี่ได้ต้อนรับซือหยูด้วยความเอื้อเฟื้อ...และเขาตอบแทนด้วยความเนรคุณ!
“ก็ได้! หลังจากนี้ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักกัน!”
ลี่คงหุยกัดฟันแน่น แววตาชิงชัง
เฉินซื่อเอ๋อยิ้ม
“ขอบคุณนะพี่คงหุย พี่เป็นคนดีจริงๆ”
เฉินซื่อเอ๋อหน้าแดงเมื่อขมริมฝีปาก
“จริงๆแล้วพ่อแม่ข้าชอบพี่ซือหยู หากเป็นไปได้ ถ้าพวกเราหมั้นกัน….พี่ต้องไปงานแต่งงานของข้าด้วยนะ”
ผู้นำตระกูลเฉินคิดจะผูกติดซือหยูผ่านการแต่งงาน
เอื้อก---
คำพูดของนางทำให้เขารู้สึกราวกับถูกกระหน่ำแทงอย่างไร้ปรานีอีกครั้ง
“ซือหยู!”
ลี่คงหุยแอบคำรามในใจ เขาเกลียดชิงซือหยูจนถึงกระดูกดำ!
ซือหยูยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วยาม ซือหยูยังคงประลองกับคนหลายคนในคราเดียวต่อไป!
ในเวลาทีเหลืออยู่นี้ ซือหยูเลี่ยงที่จะประลองกับกึ่งราชันย์ อย่างน้อยก็เพื่อหลีกเลี่ยงจุดจบอันน่าเศร้า
ซือหยูประลองกับอีกสิบคน
ในนั้นมีสตรีที่เป็นกึ่งราชันย์อยู่ด้วย
หลังจากชนะระดับเก้าขั้นสูงทั้งเก้าคน ก็เหลือกึ่งราชันย์เพียงคนเดียว
“ถึงตาเจ้าแล้ว! เข้ามาซะ!”
ซือหยูแอบจับเวลา เวลาที่เหลืออยู่นี้มิอาจชนะนางได้
“ข้าชื่อเฉินซื่อเอ๋อ...ข้าขอยอมแพ้!”
กึ่งราชันย์วิ่งออกจากลานประลองด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ซือหยูตกใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ศัตรูของเขายอมแพ้ตั้งแต่ก่อนที่จะต่อสู้
แม้จะเป็นระดับเก้าขั้นสูงที่รู้ตัวว่ามิอาจสู้ได้ก็ต่อสู้จนถึงที่สุด
แต่กึ่งราชันย์นางนี้กลับยอมแพ้ตั้งแต่แรก!
ยิ่งไปกว่านั้นซือหยูยังแทบจะไม่ได้เห็นหน้านางด้วยซ้ำ
ฉีลั่วหลานตีระฆังทองแดงและประกาศอย่างเย็นชา
“ซือหยูชนะสี่สิบเก้าครั้งติดต่อกัน ได้เก้าสิบแปดคะแนน รวมกับโอสถหกขวดและบุพผาห้ากลีบ มีคะแนนทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบห้าคะแนน”
“คนต่อไป...เจ้า!”
ฉีลั่วหลานชี้นิ้วแบบสุ่มไปยังลี่คงหุย
ลี่คงหุยส่งสายตาเชือดเฉือนไปยังซือหยู เขากระโดดขึ้นลานประลองและชี้ไปยังกลุ่มคน
“ข้าจะประลองกับพวกเจ้าทั้งยี่สิบคน!”
ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล!
ผู้นำตระกูลลี่ขมวดคิ้ว
“ถูกอารมณ์ครอบงำ กระทำอย่างไร้สติ!”
ความหยาบคายของซือหยูนั้นมิใช่เรื่องจริงแม้แต่น้อยด้วยพลัง แต่เป็นลี่คงหุยเองที่ตกอยู่ในอารมณ์และอยากจะประลองกับยี่สิบคนเพื่อชิงชัยกับซือหยูและอวดเก่งต่อหน้าสตรี!
บรรยากาศความเร่าร้อนของผู้ชมมิได้ปะทุอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ลี่คงหุยผิดหวังเล็กน้อย เขาหันไปมองด้วยไฟแค้น
เฉินซื่อเอ๋อไม่แม้แต่มองลานประลอง นางยืนอยู่ข้างพ่อแม่และจ้องมองซือหยูอย่างหลงใหล!
“ซือหยู!”
กระบวนท่าของลี่คงหุยนั้นป่าเถื่อนและบ้าบิ่น ทุกกระบวนท่าเต็มไปด้วยช่องโหว่ เขาโจมตีจู่โจมไปอย่างร้อนใจและไร้แผนการ
“นี่เป็นแค่การประลอง เจ้ายังป่าเถื่อนเช่นนี้อีก! พวกเรา โจมตีมันในทีเดียวเลย!”
ลี่คงหุยได้ทำให้ระดับเก้าขั้นสูงทั้งยี่สิบคนโกรธแค้นอย่างไม่ตั้งใจ
ไม่เหมือนกับซือหยู...ลี่คงหุยมิได้มีวิชาบ่มเพาะที่สามารถจัดการกับคนกลุ่มใหญ่ได้ และการต่อกรกับคนมากมายขนาดนี้นั้นยากดั่งเข็นครกขึ้นภูเขา
ด้วยความโกรธแค้นของศัตรูนั้นทำให้ยากที่เขาจะรับมือไหว เขาตกอยู่ในอันตราย!
หลังจากหนึ่งชั่วยาม ในยี่สิบคนนี้...ลี่คงหุยเอาชนะได้เพียงสิบห้าคน
แต่ยังไงเขาก็ชนะ เขาทำตามเงื่อนไงสิบคนได้สำเร็จ
เขาบาดเจ็บหลายแห่งในร่างกาย ใบหน้าของเขาดำมืด เสื้อผ้าของเขาฉีกขาด แววตานั้นเสียใจ
เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้นี้เกินมือลี่คงหุย
และยังไม่มีกึ่งราชันย์ปะปนอยู่ในกลุ่มเลยสักคน...มิเช่นนั้นโอกาสที่เขาจะแพ้คงมหาศาล
เมื่อเห็นเช่นนี้เฉินซื่อเอ๋อก็หันไปมองซือหยูอีกครั้ง ความสะบักสะบอมของลี่คงหุยได้ทำให้ความนับถือซือหยูในตัวนางล้ำลึกขึ้น
เอื้อก--
ท่าทางสนใจซือหยูของเฉินซื่อเอ๋อทำให้หัวใจลี่คงหุยกระตุกอย่างแรก
เขาได้ประลองกับยี่สิบคนเพื่อแข่งกับซือหยูและเพื่อพิสูจน์ต่อเฉินซื่อเอ๋อว่าเขาก็ประลองกับคนมากมายได้ในคราเดียวเช่นกัน เขาทำไปเพื่อหวังว่าเฉินซื่อเอ๋อจะเปลี่ยนใจ
แต่เขาไม่รู้เลยว่าเขากลับได้ช่วยทำให้ซือหยูดูดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้ความหลงใหลในตัวซือหยูของเฉินซื่อเอ๋อนั้นมากขึ้นไปอีก!
“เมื่อกลับตระกูลแล้ว...จงหันหน้าชนกำแพงชะโงกดูเงาตัวเองไปเสียครึ่งปี!”
ผู้นำตระกูลลี่ก่นด่าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
เหตุที่ซือหยูประลองกับคนได้มากมายในคราเดียวก็เพราะเขาชำนาญการต่อสู้ครบหลายด้าน และยังปรับให้ต่อสู้ได้จริง อีกทั้งยังมีวิชาบ่มเพาะที่รับมือได้กับคนเป็นกลุ่ม
ต่างกับลี่คงหุยที่มิได้มีทักษะเหนือกว่าผู้ใดมากนัก เขายังไม่มีวิชาไว้ใช้จัดการกับคนเป็นกลุ่มอีกด้วย
ความอยากเลียนแบบซือหยูนั้นทำให้เขาเป็นเช่นนี้! เขาได้ทำให้ชื่อเสียงตระกูลลี่หม่นหมอง...เป็นความอับอายแห่งวงศ์ตระกูล!
โชคดีที่ในสายตาคนนอก ซือหยูยังนับเป็นสมาชิกตระกูลลี่ มิเช่นนั้นตระกูลลี่คงมิได้รับสายตาเกรงใจเช่นนี้
ผู้นำตระกูลลี่ถอนหายใจ การที่ชื่อเสียงของตระกูลเขาถูกคนนอกรักษาเอาไว้นั้นช่างตลกร้ายยิ่งนัก
ฉีลั่วหลานเรียกผู้แข็งแกร่งขึ้นมายังลานประลอง
อู๋ผางหยุน หลิวกวง และเหล่าสตรีอายุสิบแปดอันงดงามที่เป็นราชันย์ระดับหนึ่ง
พวกเขาถูกยั่วยุโดยซือหยู พวกเขาทั้งสามเลือกที่จะประลองกับหลายคนในคราเดียว
การต่อสู้ของราชันย์นั้นน่าตื่นตายิ่งนัก!
สตรีอันงดงามนั้นสำเร็จขั้นราชันย์ระดับหนึ่งมาไม่นาน และนางมิได้มีวิชาต่อสู้กับคนจำนวนมาก นางจึงเอาชนะได้เพียงสิบห้าคนในหนึ่งชั่วยาม ร่วมกับโอสถที่นางได้แล้ว นางมีคะแนนหนึ่งร้อยสิบสองคะแนน
แม้หลิวกวงจะสำเร็จขั้นราชันย์ระดับหนึ่งมาไม่นาน เขาก็มาจากสภาพแวดล้อมอันยากลำบากในเฉินยี่ที่มิได้มีทรัพยากรมากนัก ดังนั้นด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเขา...เขาชนะได้ถึงหกสิบคน รวมกับโอสถที่ได้แล้วเขามีคะแนนหนึ่งร้อยยี่สิบสองคะแนน
แต่คนที่น่าทึ่งที่สุดคึออู๋ผางหยุน เขาเป็นราชันย์ขั้นหนึ่งเช่นกัน แต่ก็เหนือกว่าสตรีงดงามและหลิวกวง เขาชนะไปเจ็ดสิบสองคน รวมกับโอสถที่ได้มาทำให้เขามีคะแนนหนึ่งร้อยสี่สิบสองคะแนน!
อู๋ผางหยุนทำให้ทุกคนนิ่งงัน!
“อย่างที่คิดเลย คนจากตระกูลลำดับสาม ตระกูลอู๋นั้นมีอัจฉริยะอย่างอู๋ผางหยุนที่ยากจะพบ”
“หลิวกวงที่มาจากเกาะแห้งแล้งนั่นก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่านั้น มาจากพื้นที่ที่มีทรัพยากรจำกัดและยังมีพลังอันหาตัวจับยาก!”
“องค์หญิงหยุนหยานก็เก่งไม่แพ้กัน!”
องค์หญิงหยุนหยานมีอายุสิบแปดปีและงดงาม รูปร่างอันสง่างามมาพร้อมส่วนโค้งเว้าอย่างปราณีต ชุดสีขาวพระจันทร์ของนางไร้ที่ติ ใบหน้าของนางงดงามจนเกือบลืมหายใจ ผิวหนังขาวราวกับเคลือบด้วยหิมะ ดวงตาสดใสของนางราวกับน้ำตกใสกระจ่างในป่าลึก บริสุทธิ์ไร้สิ่งด่างพร้อย ริมฝีปากแดงมาพร้อมกับใบหน้าไร้ที่ติไร้มลทิน
นางยืนอย่างเขินอายขณะที่ห้วงเวลาหยุดนิ่งไปกับนาง
ความสง่างามของนางมิอาจเทียบเคียงได้กับผู้ใด
คนรอบข้างต่างหมองอย่างเหม่อลอย รู้สึกตัวอีกทีจึงรีบหันไปมองทางอื่น
องค์หญิงหยุนหยานคือคู่หมั้นขององึ์ชายจากแคว้นอื่น องค์ชายผู้นั้นเข้าเป็นศิษย์ในได้สำเร็จในปีที่แล้ว พลังของเขาแข็งแกร่งจนน่ากลัว หากใครประสงค์ร้ายต่อองค์หญิงหยุนหยานก็ยากที่จะคิดว่าจะต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้าง!
เมื่อได้ยินเสียงคนพูดคุยกันซือหยูจึงหันไปมององค์หญิงหยุนหยาน
ไร้ที่ติและสง่างาม...นางงดงามหาใดเทียบ
ในตอนนั้นซือหยูเห็นภาพลวงตาของเซี่ยจิงหยู
แต่ในเสี้ยววินั้นเขาก็ส่ายหัวและมองไปทางอื่น
แม้น่าจะงดงาม แต่ก็ยากที่จะแทนที่เซี่ยจิงหยูที่อยู่ในใจเขา
จริงๆแล้ว...องค์หญิงหยุนหยานก็สำรวจซือหยูอยู่ด้วย
เป็นปกติที่นางจะต้องสนใจเด็กหนุ่มอายุสิบสี่ที่มีพลังอันน่าทึ่งอยู่แล้ว
เมื่อเห็นแววตาบริสุทธิ์ของซือหยูก็ทำให้องค์หญิงหยุนหยานที่มักจะเคยชินกับการอดทนสายตาเร้นราคะจากบุรุษมากมายเริ่มชอบเขา
นางยิ้ม...รอยยิ้มนั้นเพียงพอที่จะลบล้างทั้งเมือง
“การประลองจบลงแล้ว ต่อไปเป็นการจัดร้อยลำดับแรก!”
“กฏคือคนที่มีคะแนนต่ำสุดจะต้องประลองกับคนที่มีคะแนนสูงกว่า หากชนะจะได้คะแนนหนึ่งในสามจากคนที่ประลอง หากแพ้จะต้องเสียคะแนนหนึ่งในสามให้กับคนที่ประลองด้วย”
“หากเสมอ คนที่ถูกท้าประลองจะต้องให้คะแนนที่ท้าประลองหนึ่งในสี่ส่วน”
“คะแนนจะถูกคิดหลังการประลอง ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ผู้ที่คะแนนน้อยที่สุดจะต้องประลองกับคนที่คะแนนสูงกว่า!”
หลายคนมีคะแนนเพียงหนึ่งหรือสองคะแนน หลังจากพูดคุยกันแล้วพวกเขาก็เลือกคนที่จะประลอง
จากต่ำสุดสู่สูงสุด ผู้ชนะจะได้ประลองกับคนที่คะแนนสูงกว่าไปเรื่อยๆ หากแพ้คนที่ประลองด้วยนั้นก็จะประลองต่อไปกับคนที่คะแนนสูงกว่า ขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะได้คนที่มีคะแนนสูงสุด...อู๋ผางหยุน!
ขั้นตอนนี้กินเวลาอยู่นาน
ในที่สุดก็มาถึงระดับของกึ่งราชันย์
เฉินซื่อเอ๋อประลองกับลี่คงหุยที่ระดับสูงกว่านาง
นางยิ้มเผยลักยิ้มทั้งสอง
“พี่คงหุย ให้ข้าชนะนะ ตกลงไหม?”
ลี่คงหุยหวั่นไหวกับท่าทางน่าสงสารของนาง แต่เขาก็ได้ยินเสียงนางบ่นพึมพำอย่างแผ่วเบา
“หลังจากข้ายอมแพ้พี่ซือหยูแล้ว...เขาจะยังรู้สึกชอบข้าอยู่ไหมนะ? หึหึ….”
คำพูดเหล่านั้นทำให้ลี่คงหุยระเบิดโทสะ!
“ซื่อเอ๋อ หามีอารมณ์ความรู้สึกใดในการประลองไม่ และยังมีผู้อาวุโสดูอยู่ หากข้ายอมแพ้เจ้าจะถูกตำหนิเอาได้”
เฉินซื่อเอ๋อไม่พอใจ
“หลังจากชนะข้าไปแล้วเจ้าก็แพ้พี่ซือหยูอยู่ดี!”
ได้ยินเช่นนั้นลี่คงหุยก็บินไปข้างหน้าด้วยความโกรธ...เขาไม่ออมมือแม้แต่น้อย!
ตู้ม--
เพียงสามกระบวนท่า ด้วยความประมาทของเฉินซื่อเอ๋อนั้นทำให้นางมองกระบวนท่าของศัตรูคลาดเคลื่อน ทำให้นางบาดเจ็บรุนแรงที่ไหล่ นางร้องเสียงดังและพ่ายแพ้
แววตาเฉินซื่อเอ๋อเศร้าพร้อมกับร่องรอยโลหิตบนริมฝีปาก น้ำตาเอ่อล้น ก่อนที่นาจะหันบินออกไป นางพูดเพียงสามคำด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ข้า เกลียด เจ้า!”
ในตอนนั้นลี่คงหุยคืนสติจากความโกรธ แต่มันก็สายไปแล้ว!
เขาไม่มีหวังที่จะได้มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเฉินซื่อเอ๋ออีกต่อไปแล้ว!
“ต่อไปเจ้าจะต้องประลองกับคนที่คะแนนมากกว่าเจ้า”
ฉีลั่วหลานประกาศอย่างเย็นชา
ลี่คงหุยมองคนที่เหลือ มีกึ่งราชันย์ที่มีคะแนนสูงกว่าเขามากมาย แต่เขาก็มองผ่านคนเหล่านั้นก่อนจะมองมายังซือหยู
“ข้าประลองกับคนที่ลำดับสูงกว่าหลายขั้นได้หรือไม่?”
ลี่คงหุยกัดฟัน
ฉีลั่วหลานมองไปยังทิศที่เขามอง...และพบซือหยู นางจึงพยักหน้าอย่างเยือกเย็น
“ย่อมได้!”
“ดีล่ะ ถ้าเช่นนั้น ข้าขอประลองกับซือหยู!”
ลี่คงหุยดีใจ!
ในด้านพลัง ลี่คงหุยมั่นใจว่าเขาไม่แพ้ซือหยู!
“ซือหยู ก้าวมาข้างหน้า!”
ฉีลั่วหลานประกาศ
ฟึ่บ--
ทั้งสองบินมาอยู่บริเวณตรงกลางและมองหน้ากัน
“ซือหยู! ยอมตายไปซะ!”
ลี่คงหุยคำรามเสียงต่ำและโจมตีซือหยูโดยไม่ทันให้ตั้งตัว!
ใบหนห้าซือหยูยังคงสับสน เพราะเขาไม่รู้ว่าลี่คงหุยไปเอาความเกลียดชังเขามาจากไหน
ซือหยูที่รู็สึกถึงสายลมพิโรธมิอาจดูแคลนการโจมตีนี้ได้เลย
“พลังสายวารีทะลวง!”
ลี่คงหุยโจมตีเข้ามา
วิชาระดับเทพขั้นสูง!
ฝ่ามือทั้งสองของเขาวาดวงกลมในอากาศ เกิดพลังรุนแรงหมุนวนด้านใน!
พลังอันเยือกเย็นดูดกลืนสิ่งรอบข้างกลายเป็นกังหันที่ลอยได้
ตู้ม---
เขาใช้ฝ่ามือผลักพลังหมุนวนออกไป มันเป็นพลังอันรุนแรงหาใดเทียบ มันกลืนกินทุดสิ่งที่ขวางทาง ราวกับแม่น้ำทอดยาวที่หลอมรวมด้วยพลัง พลังของมันยากที่จะรับไว้ได้!
เมื่อเห็นลี่คงหุยโจมตีหมายเอาชีวิต ดวงตาซือหยูเยือกเย็นลง
“ประสานอัสนีเยือกแข็ง!”
ซือหยูยกดัชนีชี้ไปยังลี่คงหุย แสงทำลายล้างพุ่งตรงไปข้างหน้า
เอื้อก--
แม้พลังกังหันนั้นจะแข็งแกร่งมาก...ก็มิอาจต้านอัสนีเยือกแข็งของซือหยูได้!
ตู้ม---
พลังสายวารีระเบิดเสียงดัง!
แรงระเบิดทำให้เศษชิ้นส่วนภายในสายวารีกระจัดกระจายไปด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง!
ลี่คงหุยที่อยู่ด้านหลังนั้นเป็นจุดอับสายตาและมิอาจป้องกันได้ทัน ทั้งร่างของเขาถูกสายพิรุณกรวดทรายจากพลังตัวเองพุ่งเข้าใส่ทันที!
อ๊าก----
เอื้อก---
ลี่คงหุยกระอักเลือดออกมาและลอยไปข้างหลัง!
แต่การโจมตีนั้นยังไม่จบ!
พลังที่ยังปะทุอยู่ของอัสนีเยือกแข็งได้พุ่งเข้าบดขยี้อกของลี่คงหุย
ลี่คงหุยนั้นนอนคว่ำอยู่กลางอากาศ แม้เขาจะไม่ตาย เขาก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
ไม่ดีแน่!
ใบหน้าซือหยูเปลี่่ยนไปเล็กน้อย เขาเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อยและยกมือขึ้นเพื่อปัดเศษระเบิดไปอีกทางและคลายพลังอัสนีเยือกแข็งที่ยังหลงเหลืออยู่
ฟึ่บ--
ซือหยูพลิกมืออีกครั้งและคว้าลี่คงหุยที่กำลังจะกระแทกพื้นได้ทัน
เหล่าหนุ่มสาวตระกูลลี่นั้นมิได้เป็นมิตรกับซือหยูแม้แต่น้อย
แต่ลี่กวงคงไม่ปรารถนาให้ซือหยูสังหารลูกหลานในตระกูลเขาแน่
ใบหน้าผู้นำตระกูลลี่นั้นโล่งใจและยินดี
แต่ในตอนนั้นสิ่งที่ทุกคนมิได้คาดการณ์ก็เกิดขึ้น!
แววตาลี่คงหุยเยือกเย็น เขาใช้โอกาสที่ซือหยูคว้าตัวเขาและโจมตีศีรษะซือหยูด้วยฝ่ามือ!
ฝ่ามือนั้นรวดเร็วและรุนแรง มันเป็นการโจมตีที่ซือหยูไม่ทันได้ตั้งตัว แม้แต่เหล่าราชันย์ก็มิอาจป้องกันมันได้!
“ตายซะ!”
ลี่คงหุยไม่หลงเหลือเหตุผลอีกแล้ว เขามีแต่โทสะหลงเหลืออยู่ในกาย!
“เจ้าเดรัจฉานต่ำช้า!”
ผู้นำตระกูลลี่โกรธจัด!
ลี่คงหุยตอบแทนความเอื้อเฟื้อด้วยการเนรคุณ ใช้โอกาสลอบโจมตี!
ทุกคนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าลี่คงหุยจะลอบโจมตีออกมา!
แต่พวกเขาก็อยู่ห่างเกินกว่าจะช่วยซือหยูได้
ซือหยูมองฝ่ามือที่ใกล้เข้ามา แววตาเขาเยือกเย็นถึงขึดสุด
“ข้า..ซือหยูผู้นี้ทำสุดความสามารถแล้ว อย่าโทษข้าก็แล้วกัน….”