ตอนที่ 469 การ์ดไร้ที่่ติ
จอมสังหารดาบราชันย์ทรงพลังกว่าที่หลิน ฮวงคิดไว้ มันมีความสามารถของนิรันดร์ ดังนั้นมันจึงทรงพลังยิ่งขึ้นหากมันใช้ทุกอย่าง ด้วยความที่โล่ทมิฬของแลนเซล็อตแตกสลายในการโจมตีเดียว หลิน ฮวงจึงตระหนักว่าการป้องกันที่เขาภาคภูมิคงไม่ต่างอะไรกับเศษกระดาษต่อหน้ามัน หากแลนเซล็อตไม่ปรากฏตัวตรงหน้าเขา เขาคงตายไปแล้ว
ด้วยความสามารถของจอมสังหารดาบราชันย์ แลนเซล็อตและไคลี่จึงไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการต่อสู้ เช่นเดียวกับหลิน ฮวงที่ทำได้เพียงดูสามปีศาจต่อสู้กับจอมสังหารดาบราชันย์ แม่มดคอยถ่วงรั้งจอมสังหารดาบราชันย์ด้วยทักษะทุกประเภท และปีศาจมาลาเชี่ยนที่รับหน้าที่ป้องกันขณะที่อิมพ์คอยโจมตี(เปลี่ยนจากปีศาจชั้นต่ำ)
แม้มันจะเป็นสามต่อหนึ่ง และสามปีศาจจะมีระดับสูงกว่าจอมสังหารดาบราชันย์ พวกมันก็ไม่ใช่ฝ่ายได้เปรียบ แม่มดมีคอยจำกัดการเคลื่อนไหวของจอมสังหารดาบราชันย์ด้วยทักษะเธอขณะที่มันมักหลุดได้ภายในไม่กี่วินาที ทักษะควบคุมทั้งหมดทำได้เพียงถ่วงรั้งมันหนึ่งหรือสองวินาที ยิ่งแม่มดพยายามถ่วงรั้งมันแค่ไหน ระยะเวลาของทักษะก็ยิ่งสั้นลง มันดูเหมือนว่าจอมสังหารดาบราชันย์จะมีภูมิคุ้มกันต่อทักษะแม่มด
ในขณะเดียวกัน การป้องกันของปีศาจมาลาเชี่ยนกลับสามารถทนทานต่อจอมสังหารดาบราชันย์ได้
อย่างไรก็ตาม การโจมตีจากอิมพ์ดูเหมือนจะไร้ผล แม้จะด้วยการยับยั้งของแม่มด เกราะของจอมสังหารดาบราชันย์ก็ยังสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดได้แม้จะโจมตีใส่ใบหน้ามันก็ตาม หลิน ฮวงขมวดคิ้วขณะที่อัญเชิญวิญญาณกระดูกออกมา แม้วิญญาณกระดูกระดับเพลิงแดงจะไม่อาจเข้าร่วมการต่อสู้ได้ แต่ที่หลิน ฮวงต้องการจากมันคือการจับด้วยโซ่ลงทัณฑ์ แม้โซ่จะผนึกพลังชีวิตของจอมสังหารดาบราชันย์ได้เพียงวินาทีเดียว ปีศาจชั้นต่ำก็ควรจะสามารถทำลายการป้องกันได้ในช่วงเวลานั้น
เมื่อสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของวิญญาณกระดูก จอมสังหารดาบราชันย์ก็มองหลิน ฮวงอย่างเยาะเย้ย มันไม่สนใจการปรากฏตัวของมอนสเตอร์อีกตัวหนึ่ง
“ร่วมมือกับทักษะควบคุมของแม่มดเพื่อผนึกพลังชีวิตมันด้วยโซ่ลงทัณฑ์”หลิน ฮวงสื่อสารกับวิญญาณกระดูกผ่านจิต วิญญาณกระดูกพยักหน้าให้หลิน ฮวงเบาๆ มันไม่ได้โจมตีทันทีเพราะกำลังรอคอยโอกาสอยู่
ประมาณ2-3นาทีต่อมา จอมสังหารดาบราชันย์ก็เคลื่อนไหวช้าลงเนื่องจากพิษของแม่มด เมื่อเล็งเห็นโอกาส วิญญาณกระดูกก็ตวัดโซ่ทั้ง9ใส่มันทันที ในไม่ช้า หนึ่งในพวกมันก็จับแขนข้างหนึ่งของจอมสังหารดาบราชันย์ได้ขณะที่อีก8เส้นพยายามจับร่างกายส่วนล่างมัน
ในขณะเดียวกัน อิมพ์ก็คว้าโอกาสนี้ด้วยการชกใส่หัวจอมสังหารดาบราชันย์ แต่ทันทีที่แขนมาถึงหัวของจอมสังหารดาบราชันย์ แสงสีดำก็ปรากฏในอากาศ แขนขวาของอิมพ์ถูกตัดและเลือดดำก็พุ่งกระฉูดออกมา เมื่อการโจมตีมันประสบผล จอมสังหารดาบราชันย์จึงพุ่งใส่ปีศาจชั้นต่ำโดยไม่คิดซ้ำสอง
ทันใดนั้น ปีศาจมาลาเชี่ยนก็พุ่งมาคั่นกลางระหว่างทั้งคู่และป้องกันการโจมตีของจอมสังหารดาบราชันย์ด้วยหมัดมัน เนื่องจากการโจมตีซ้ำล้มเหลว จอมสังหารดาบราชันย์ที่ถูกจับโดยโซ่จึงหันไปมองหลิน ฮวงด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน
“มนุษย์เด็ก เจ้าไม่รู้หรือไรว่ามอนสเตอร์เลือดเทพจะทนทานต่อความสามารถยับยั้งส่วนใหญ่?”
โซ่ลงทัณฑ์แตกสลายทันทีที่มันกล่าวเช่นนั้น
“ข้าขออภัย ดูเหมือนข้าจะไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้”วิญญาณกระดูกกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
แม้แขนของอิมพ์จะฟื้นฟูด้วยอัตราที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า สามปีศาจก็ยังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันต่อหน้าดาบของจอมสังหาร
เมื่อหลิน ฮวงเรียกวิญญาณกระดูกกลับ เขาก็มองปีศาจชั้นต่ำบนพื้นด้วยคิ้วขมวดแน่น
“ฉันต้องชนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะสูญเสียการ์ดระดับตำนานสามใบ!”หลิน ฮวงไม่อาจยอมรับการสูญเสียการ์ดมอนสเตอร์ระดับตำนานอย่างมงกุฏราชันย์ ชาโคล ไป่และเจ้าแดงได้จากการล้มเหลวภารกิจ เขาไม่อยากเสียพวกมันไปแม้แต่ตนเดียว โดยเฉพาะไป่ ซึ่งเป็นมอนสเตอร์อัญเชิญตัวแรกของเขา
“ทางเดียวที่จะชนะได้คือใช้การ์ดแปลงร่างชั่วคราวเพื่อยกระดับพลังฉัน”หลิน ฮวงมองสามปีศาจพลางคิดกับตัวเอง ทั้งสามอยู่ในระดับเพลิงม่วง ซึ่งเหมาะสำหรับเขาที่สุด เขามองพวกมันสักพักและตั้งเป้าที่อิมพ์
“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นอิมพ์”
เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเลือกอิมพ์ก็เพราะแม่มดไม่เหมาะกับการโจมตีระยะประชิดเนื่องจากร่างกายเธออ่อนแอ ในขณะเดียวกัน ปีศาจมาลาเชี่ยนก็ตัวใหญ่เกินไป ซึ่งไม่เหมาะกับทักษะดาบที่รวดเร็วของเขา ในทางตรงกันข้าม อิมพ์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสุดเพราะมันมีทั้งพละกำลังและพลังป้องกัน แม้มันจะกล้ามใหญ่ มันก็ยังคล่องตัวกว่าปีศาจมาลาเชี่ยน
หลิน ฮวงไม่คิดว่าการ์ดจะนำพาความสามารถใหม่อะไรมาให้เขาเพราะทั้งหมดที่เขาต้องการคือการทำให้ทักษะดาบคล่องตัวดั่งร่างเดิม
“แต่ก็มีข้อเสียที่กงล้อชีวิตเทียมในร่างไม่อาจถ่ายโอนไปร่างใหม่ได้ ฉันไม่อาจใช้พลังชีวิตได้อย่างสิ้นเปลืองดั่งปกติ”หลิน ฮวงพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้ว เพียงเมื่อเขาเตรียมจะหยิบการ์ดแปลงร่างออกมา การแจ้งเตือนของเสี่ยว เฮยก็ดังขึ้น
“ท่านสามารถใช้การ์ดไร้ที่ติกับตัวท้านเพื่อสร้างกงล้อชีวิตเทียมให้เป็นจริงได้ ดังนั้นแม้ท่านจะเปลี่ยนร่าง ท่านก็ยังจะมีสิบกงล้อชีวิตดั่งปกติ นอกจากนั้น การ์ดไร้ที่ติยังจะฟื้นคืนพลังงานทั้งหมดในร่างท่าน”
“การ์ดไร้ที่ติ?”หลิน ฮวงเกือบลืมไปแล้วว่าเขามีการ์ดนี้อยู่ เขายังคงจำได้ว่าเคยใช้การ์ดนี้เพื่อฟื้นฟูร่างเขา แต่เขากลับจำคุณสมบัติมันไม่ได้แล้ว
“การ์ดมันทำอะไรได้บ้างนะ?”เขาถามทันที
“การ์ดไร้ที่ติใช้เพื่อฟื้นฟูร่างกายของผู้ใช้ ลบล้างความเจ็บปวดทั้งหมดในร่าง รวมถึงปัญหาในพลังชีวิต กงล้อชีวิต และเลือด เช่นเดียวกับกงล้อชีวิตพังของท่าน ท่านสามารถใช้การ์ดนี้เพื่อฟื้นฟูได้”
หลังการเตือนของเสี่ยว เฮย ในที่สุดหลิน ฮวงก็จำได้ว่าเขาได้รับการ์ดไร้ที่ติมาหลังการทำงานของการ์ดภารกิจใบแรก
“ฉันเคยใช้การ์ดไร้ที่ติกับไป่เมื่อปีก่อนเพื่อให้เลือดมันไม่ได้รับผลจากพิษ และฉันไม่เคยใช้การ์ดอีกเลยนับแต่นั้น ฉันควรสะสมพวกมันได้สามใบแล้ว ใช่ไหม?”หลินฮวงจำตอนที่เสี่ยว เฮยอธิบายได้เมื่อเขาได้รับการ์ด
“ถูกต้อง”
“เอาละงั้นก็เปิดใช้งานการ์ดไร้ที่ติ!”หลิน ฮวงสั่งโดยไม่ลังเล
“ท่านแน่ใจหรือไม่?”
“ใช่!”
“กำลังใช้การ์ดไร้ที่ติx1 โปรดเลือกเป้าหมายของท่าน”
“เป้าหมายคือฉัน”หลิน ฮวงมองร่างตัวเอง
ในไม่ช้า แสงสีทองก็พุ่งออกจากที่ไหนสักแห่งและหายไปในร่างเขา มันเปลี่ยนเป็นฝุ่งสีทองเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนในกระดูกเขาราวกับกำลังอาบแดดในฤดูหนาว ภายในไม่กี่วินาที แสงสีทองก็ไหลปกคลุมทั่วร่างเขาและพุ่งไปหากงล้อชีวิตเขา มันดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับกงล้อชีวิตเทียม แต่หลิน ฮวงสามารถรู้สึกได้ถึงบางสิ่งแปลกๆ มันรู้สึกราวกับว่ากงล้อชีวิตเทียมทั้ง9ที่เหมือนเครื่องมือไร้ชีวิตกลับกลายมามีชีวิต ราวกับการที่ดาบได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กงล้อชีวิตเทียมทั้ง9นี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา พวกมันรู้สึกไม่ต่างอะไรกับกงล้อชีวิตจริง
หลิน ฮวงแม้กระทั่งพบว่าเขาสามารถใช้สิบกงล้อชีวิตเพื่อดูดซับและปลดปล่อยพลังชีวิตได้พร้อมกัน ความเร็วของการฟื้นฟูและปลดปล่อยยิ่งเร็วกว่าเดิมนับสิบเท่า ก่อนหน้านี้เขาสามารถใช้ได้เพียงแค่กงล้อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการดูดซับหรือปลดปล่อยพลังชีวิต เขาต้องทำมันโดยการใช้กงล้อชีวิตจริงเขา ในขณะเดียวกัน กงล้อชีวิตทั้ง9จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเก็บพลังชีวิตและไม่อาจดูดซับหรือปลดปล่อยพลังชีวิตได้
หลิน ฮวงรู้สึกว่าความสามารถเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังเปิดใช้งานการ์ดไร้ที่ติ เมื่อแสงสีทองหายไป เขาก็หลุดจ้าวห้วงผวัง เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในร่างเขา จากนั้นก็มองจอมสังหารดาบราชันย์ด้วยการ์ดสีทองในมือเขา
“มันถึงเวลาจบการต่อสู้นี้แล้ว!”