The Dark King – Chapter 33 อาหารค่ำ [อ่านฟรี]
The Dark King – Chapter 33 อาหารค่ำ
ฟู่เทียนถูกพาตัวเข้าไปในออฟฟิศที่หรูหรา
มีชายชราที่แข็งแรงนั่งอยู่ที่โต๊ะภายในห้อง มีหญิงสาวที่งดงามนั่งอยู่บนตักของเขาและถือแก้วไวน์สีแดงเข้มเอาไว้
“ปีเตอร์ เมื่อไหร่นายจะเรียนรู้ได้สักทีว่าควรเคาะประตูก่อน?” ชายชราตบไปที่ก้นของหญิงสาวและบอกให้เธอลุกขึ้นไป
ชายที่สง่างามหัวเราะ “ท่านควรจะล็อคประตูเอาไว้ตั้งแต่แรก”
ชายชราสังเกตเห็นฟู่เทียนที่เดินตามหลังปีเตอร์เข้ามา “เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเก็บขยะที่รับเข้ามาใหม่หรอ? ทำไมนายถึงพาเขาเข้ามาที่นี่ด้วย?”
ปีเตอร์ยิ้ม “เขาเป็นเมล็ดพันธ์ที่ดีที่สุดของพวกเรา สัญญาของเขามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ท่านมั่นใจได้เลยว่าของเขตของสัญญานี้ยังอยู่ในข้อตกลงของเรา”
“โอ้?” ชายชรามองไปยังฟู่เทียนด้วยความสนใจและกล่าวว่า “เมล็ดพันธ์ชั้นยอดหรอ? เด็กน้อย เธอทำได้ดีมาก ถ้าเธอยังขยันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเะอเองก็มีโอกาสที่จะเป็นนักล่าได้นะ”
ปีเตอร์ยิ้มและพูดกับฟู่เทียน: “นั่งลงก่อน เรื่องสัญญากำลังจะเสร็จในเร็วๆนี้” เขาหันไปหาชายชรา “ขอเหรียญตรายืนยันตัวตนและเครื่องแบบหน่อยครับ”
ชายชรายิ้มและเปิดลิ้นชักออกมา จากนั้นก็ดึงเครื่องแบบสีดำออกมา
ฟู่เทียนนั่งลงที่โซฟาข้างๆ เมื่อเขาเห็นเครื่องแบบนี้ก็ทำให้เขานึกถึงสถานการณ์เมื่อ 3 ปีที่แล้วขึ้นมา เจ้าหน้าที่ 2 คนที่พาเขาไปฝึกฝนก็สวมเครื่องแบบนี้เช่นกัน
“นี่คือเครื่องแบบและเหรียญตราของคนเก็บขยะของเธอ” ปีเตอร์ยื่นชุดและเหรียญตราให้แก่ฟู่เทียน มันมีเหรียญตราที่แตกต่างกันไป 2 แบบ “ต่อหน้าคนทั่วๆไปเธอจะต้องสวมเหรียญตiาอันแรกซึ่งจะแสดงสถานะของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชนชั้นสูงหรือคนอื่นๆเธอจะสามารถใช้เหรียญตราอันที่ 2 ซึ่งจะแสดงสถานะของคนเก็บขยะได้”
ฟู่เทียนมองไปยังเหรียญตราทั้ง 2 แบบ เหรียญตราสีเงินที่มีสัญลักษณ์ดาบไขว้กันนั้นแสดงถึงการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่เหรียญตราของคนเก็บขยะนั้นเป็นสีดำ มีภาพของกำแพงยักษ์สลักอยู่บนเหรียญนั้น
“เธอเป็นดาวรุ่งของสมาคมเมลลอนของเรา” ปีเตอร์นั่งลงข้างๆฟู่เทียนและกล่าวว่า “ทุกๆครั้งหลังจากที่เธอเก็บขยะ สมาคมจะมอบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ซื้อมาจากโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เธอ มันเป็นน้ำเชื่อมที่มีราคาแพงมหาศาลสำหรับชำระล้างค่ารังสีภายในร่างกาย ด้วยผลของมันนั้นจะทำให้เธอไม่ต้องกังวลในการออกไปเก็บขยะ สมาคมจะให้ความสนใจกับเธอเป็นพิเศษเมื่อเธอทำคะแนนได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ เธออาจจะได้รับโอกาสในการเข้าศึกษาโรงเรียนของนักล่าและตราบใดที่เธอยังคงฝึกฝนอย่างหนัก เธอก็จะสามารถกลายเป็นนักล่าได้อย่างแน่นอน!”
เฟอร์นันโดได้บอกกับเขาว่าการจะเป็นนักล่าได้นั้นต้องมี ‘ร่างกายแห่งแสง’ เขาไม่คิดว่าการกระทำเหล่านี้จะสามารถนำพาให้เขาได้เป็นนักล่าได้
“ผมจะตั้งใจฝึกฝนครับ” ฟู่เทียนรับเครื่องแบบและเหรียญตรามา พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ฉันเชื่อว่าเธอต้องสำเร็จอย่างแน่นอน” ปีเตอร์สนับสนุน
“สถานะของพวกนักล่าเมื่อเทียบกับเหล่าขุนนางนั้นเป็นยังไงหรอครับ?” เขาถาม
ปีเตอร์หัวเราะ “มันก็ขึ้นอยู่กับระดับของนักล่าล่ะนะแต่ระดับชั้นของพวกขุนนางก็มีผลเหมือนกัน ถ้าหากว่าเธอทำหน้าที่เก็บขยะได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วละก็พวกบรรดาขุนนางก็จะเข้าหาเธอเอง เพราะเหล่าคนเก็บขยะนั้นล้วนสร้างความมั่งคั่งให้แก่เหล่าชนชั้นสูง พูดได้เลยว่าอาชีพคนเก็บขยะนั้นเป็นอาชีพที่ชนชั้นสูงชื่นชอบมากที่สุด แต่ในสายตาของผู้มีอิทธิพลทางการเงินนั้นพวกคนเก็บขยะไม่อยู่ในสายตาของเขาเลย มีเพียงพวกนักล่าเท่านั้นที่พวกเขาจะสนใจ”
ฟู่เทียนกรอกตาไปมา “นักล่าก็มีระดับด้วยหรอครับ?
“แน่นอนว่ามี แต่มันยังเร็วเกินไปที่เธอจะรู้เรื่องนี้” ปีเตอร์ตอบ “ผลประโยชน์ของการได้เป็นนักล่านั้นมากมายกว่าที่เธอคิดไว้ พวกเขาไม่เพียงแต่สามารถเข้าอยู่อาศัยในย่านการค้าได้แต่หากว่าพวกเขาโชคดีมากพอแล้วละก็อนาคตของพวกเขานั้นก็จะไม่มีที่สิ้นสุดเลย!”
ฟู่เทียนพยักหน้าเบาๆเมื่อรู้ว่าปีเตอร์นั้นพยายามเบี่ยงเบนความสนใจในเรื่องนี้ ในใจของเขานั้นเขาไม่ได้สนใจเรื่องการได้เข้าอยู่อาศัยในย่านการค้าหรือการได้มีโอกาสเข้าร่วมกับชนชั้นสูงด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยเหล่าผู้ปกครองของโลกใบนี้ การเป็นนักล่า คนเก็บขยะ ชนชั้นสูงหรืออะไรก็ตาม เป็นเพียงสิทธิพิเศษเท่านั้น มันไม่ใช่พลังที่แท้จริง!
มันเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่เขาได้ตัดสินใจจะใช้พลังเพื่อไขว่คว้าโชคชะตาของตนเอง เขาจะไม่ยอมถูกกดขี่หรือเหยียบย่ำอีกต่อไป!
ถ้าเขายังคงมีชีวิตที่ต่ำต้อยเหมือนมด สุดท้ายแล้วก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอคอยเขาอยู่
“อีก 7 วันเธอจะได้รับภารกิจแรกของการเป็นคนเก็บขยะ” ปีเตอร์หัวเราะ “เธอจะต้องทำได้ดีอย่างแน่นอน ผลจากสิ่งที่เธอทำนี้จะเป็นการกำหนดสิ่งต่างๆที่เธอก็ไม่อาจจินตนาการได้อย่างแน่นอน ไม่ว่ายังไงฉันก็แนะนำว่าให้เธอไปอาบน้ำชำระร่างกายซะก่อน คืนนี้ฉันจะพาเธอไปด้วย อย่าลืมซะหละ พวกชนชั้นสูงนั้นเกลียดสิ่งสกปรก หวีผมให้เรียบร้อยด้วยนะ…”
ฟู่เทียนพยักหน้าเบาๆ “ผมจะใส่ใจในทุกรายละเอียดครับ”
ในตอนนี้ประตูห้องได้เปิดขึ้นและหญิงสาวก่อนหน้านี้ก็ได้เดินเข้ามา เธอยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้แก่ปีเตอร์
ปีเตอร์มองไปที่มันและยื่นมันไปให้ฟู่เทียน “ตรวจสอบดูก่อน มันน่าจะไม่มีปัญหาแล้วนะ”
ฟู่เทียนเริ่มตรวจสอบสัญญานี้ใหม่อีกครั้ง เขาเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาได้เสมอ จากนั้นเขาก็หยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นชื่อของตนเองลงไป
“เรียบร้อย” ปีเตอร์เก็บสัญญานี้กลับไปและกล่าวฟู่เทียน “อย่าลืมสวมเหรียญตราของเธอไปด้วยในคืนนี้ มันจะเป็นตัวแสดงสถานะของเธอ ถ้าจะให้ดีก็เก็บมันไว้กับตัวตลอดเวลา”
“ครับ”
“โอเค เดี๋ยวเมื่อถึงเวลาจะมีคนไปรับเธอเอง”
ฟู่เทียนพยักหน้าจากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับปิดประตูเบาๆ
เมสันและอีก 2 คนก็ได้รับเครื่องแบบและเหรียญตราของพวกเขาด้วยเช่นกัน หญิงสาวได้อธิบายรายละเอียดต่างๆให้แก่พวกเขา เมื่อเธอเห็นฟู่เทียนเดินออกมาจากห้องนั้นเธอก็พูดว่า “มากับฉัน ฉันจะพาเธอไปที่ห้องพักชั่วคราว”
…
…
ปราสาทขนาดเล็กนั้นจัดไว้เพื่อฟู่เทียนและคนอื่นๆ สภาพของมันนั้นดูสะอาดและสะดวกสบาย มีคนรับใช้และคนสวนหลายคนคอยดูแลที่แห่งนี้ แต่นี่ก็เป็นเพียงที่พักชั่วคราวเพียง 3 วันเท่านั้น หลังจากผ่าน 3 วันนี้ไปเว้นแต่ฟู่เทียน คนอื่นๆอีก 3 คนจะต้องกลับไปที่บ้านของพวกเขาในย่านที่อยู่อาศัย รถม้าของสมาคมจะไปรับพวกเขาในกรณีที่ได้รับภารกิจเพื่อไปยังที่ต่างๆ
“ดีน นายให้เราไปด้วยไม่ได้หรอ?”
เมสันและแซคมองไปยังฟู่เทียนที่แต่งตัวเรียบร้อย พวกเขารู้ว่าคืนนี้ฟู่เทียนกำลังจะไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของเหล่าชนชั้นสูง
ฟู่เทียนหันออกไปมองกระจกที่อยู่ด้านข้างเพื่อจัดการผ้าพันคอของตนเอง เขารู้สึกพึงพอใจกับภาพลักษณ์ของตนเองในตอนนี้ เขาพูดกับเมสันที่กำลังโอดครวญ “ช่วยฉันหน่อยเมสัน หยิบรองเท้ามาให้ฉันที”
ฟู่เทียนนั้นแต่งตัวอย่างเรียบร้อย เมื่อมองออกไปทางหน้าต่างเขาก็เห็นรถม้าที่งดงามเคลื่อนตัวเข้ามาตรงหน้าปราสาทแห่งนี้ เขาวางเหรียญตราของตนเองเอาไว้บนบ่าก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“ดี เธอดูหล่อมากในตอนนี้” ปีเตอร์เปิดประตูรถม้าออกมาและมองตรงมาที่เขา
ฟู่เทียนยิ้มและเดินขึ้นไปบนรถม้า
ไม่นานหลังจากนั้นรถม้าจะได้มาถึงสถานที่ที่เงียบสงบในย่านการค้า ที่นี่เต็มไปด้วยคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีกำแพงสูงโอบล้อม มีโคมไฟเรียงรายอยู่รอบ ๆ เพื่อให้แสงสว่าง รถม้ามากกว่า 10 คันจอดเรียงรายอยู่ภายนอกคฤหาสน์หลังนี้
งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อฟู่เทียนและปีเตอร์มาถึง เสียงดนตรีเบาๆที่ไพเราะดังออกมาจากข้างใน
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาสายไปหน่อยนะ” ปีเตอร์ยิ้ม “แล้วจำไว้ด้วยว่าต้องระวัง”
ฟู่เทียนพยักหน้า
ปีเตอร์แสดงบัตรเชิญของเขาเพื่อเข้าไปข้างในพร้อมกับฟู่เทียน ตลอดเส้นทางในการเดินไปห้องจัดเลี้ยงนั้นมีคนรับใช้มากมายที่ต้อนรับพวกเขา ทางเดินนี้สว่างไสวและงดงามอย่างยิ่งเสียงดนตรีก็ดังคลอเบาๆ
“นี่มัน ‘ความงามของแสงจันทร์’ ของเฮย์เดน” ปีเตอร์รีบตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยงทันที
ฟู่เทียนงั้นเดินตามหลังปีเตอร์ไปเมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นชายร่างสูงอีกคน เขาสวมชุดผ้าไหมที่งดงาม มีแหวนมรกตอยู่บนนิ้วมือของเขา
ชนชั้นสูงวัยกลางคนมองมายังฟู่เทียน เมื่อเขาเห็นเหรียญตราของคนเก็บขยะบนไหล่ของฟู่เทียน เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที “ใครให้แกเข้ามาในนี้?”