ตอนที่ 466 ผลาญโลกา
หลิน ฮวงแสร้งทำเป็นวิ่งหนีขณะที่กระโดดไปตามกิ่งไม้ลึกไปในป่า ด้วยความที่เขาปรับตัวเข้ากับจังหวะของจอมสังหารดาบดำได้แล้ว เขาจึงสามารถเปิดใช้งานโล่ทมิฬได้ทันท่วงตลอด ใช้เขตแดนเพื่อตรวจจับทุกครั้งที่มันโจมตี
ขณะที่จอมสังหารดาบดำไล่ตามเขา มันเร็วยิ่งกว่าเขาในตอนต้น แต่ด้วยต้นไม้รอบๆ วิสัยทัศน์และความเร็วมันจึงได้รับผลกระทบ ยิ่งไปกว่านั้น หลิน ฮวงยังมักวิ่งเปลี่ยนเส้นทางเขาอยู่เรื่อยเมื่อมันตามทันและพยายามปิดกั้นเส้นทางเขา ไม่มีทางที่จอมสังหารดาบดำจะหยุดเขาได้
พวกเขาวิ่งผ่านป่าหนาทึบอยู่กว่าชั่วโมง แม้หลิน ฮวงจะเป็นคนที่ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว แต่เขาก็เข้าใจถึงจังหวะของมันแล้ว บางครั้งเขาจะลดการป้องกันของโล่ทมิฬลง วิ่งช้าลงหรือแม้กระทั่งดื่มน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิต ภาพหลอกตาที่เขาสร้างขึ้นทำให้จอมสังหารดาบดำวิ่งไล่ตามเขาอย่างหน้ามืดตามัว
ในความเป็นจริง กว่าชั่วโมงที่ผ่านไป เขาไม่แม้แต่จะใช้พลังชีวิตไปสัก1กงล้อ การผลาญพลังชีวิตช้ากว่าก่อนหลายเท่า อย่างไรก็ตาม จอมสังหารดาบดำกลับกำลังผลาญพลังชีวิตมันทุกการโจมตี แม้มันจะโจมตีไม่ถี่อย่างที่ต้องการ แต่พลังชีวิตมันก็ลดลงอย่างมาก
ขณะที่พวกเขาวิ่ง แม้หลิน ฮวงจะแสร้งทำเป็นไม่เหลือพลังชีวิต แต่ความหาญกล้าเขาก็ทำให้จอมสังหารดาบดำนึกสงสัย หลิน ฮวงสังเกตเห็นว่าจอมสังหารดาบดำเริ่มลังเลเมื่อมันโจมตี จากนั้นเขาก็รู้ว่ามันเริ่มสงสัยแล้ว เขาแสยะยิ้มขณะที่กลิ้งไปบนพื้น ทันทีที่เขาทรงตัวได้ จอมสังหารดาบดำก็ติดกับเขาเสียแล้ว
มันไม่ได้โจมตีแต่กลับมองหลิน ฮวง อยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรหลังหยุดวิ่ง หลิน ฮวงถือดาบในมือหนึ่ง และแสงสีทองก็ไปอัดรวมกันที่ปลายดาบ ทันใดนั้น กลิ่นอายน่าสะพรึงก็ระเบิดออกมา คุกคามจอมสังหารดาบดำจนมันเบิกตากว้าง
“เข้ามาสิ!ไม่ใช่ว่าแกกำลังไล่ล่าฉัน?มาลิ้มรสคมดาบฉันหน่อยเป็นไง!”หลิน ฮวงตะโกนใส่จอมสังหารดาบดำที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ไม่ไกล จอมสังหารดาบดำไม่ได้ถอยหนีเพราะมันคิดว่าหลิน ฮวงคงคิดแลกชีวิต ด้วยความที่มันคือเลือดเทพ มันจึงไม่เคยกลัวการท้าทายจากคู่ต่อสู้มัน พลังชีวิตสีเขียวอัดลงไปที่ดาบดำมัน และดาบยาวแคบมันก็หนามากขึ้นกว่าปกติ มันยืดยาวจาก90เซนติเมตรเป็น1.2เมตร
เมื่อดาบดำกำลังขยายใหญ่ขึ้น แสงสีทองบนปลายดาบหลิน ฮวงก็เจิดจ้าจนไม่อาจมองได้ตรงๆ ผลาญโลกาคือทักษะที่รุนแรงที่สุดของเขาก่อนมาถึงเต๋าดาบระดับ3 ตอนนี้เขายังได้ผสานมันเข้ากับทักษะระดับตำนานอย่างโดมดารา และยังบรรลุเต๋าดาบระดับ3 แม้เขาจะกำลังสำแดงทักษะดาบระดับหายาก แต่มันก็เทียบได้กับระดับสุดยอด เพลิงคลั่งระดับสุดยอดทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนถึงตอนนี้ หลิน ฮวงไม่เคยรู้ว่าผลาญโลกานั้นทรงพลังแค่ไหนเพราะเขาไม่เคยใช้มันเมื่อฝึกกับลั่ว หมิง
เขากระทึบเท้าอย่างแรงทันทีที่แสงสีทองเปล่งรัศมีจนถึงขีดสุด เกิดรอยแตกกระจายไปทั่วราวกับใยแมงมุมบนพื้น ในไม่ช้า เขาก็หายไปจากที่ที่เขาอยู่ ในขณะเดียวกัน จอมสังหารดาบดำที่ยืนบนกิ่งไม้ก็หายไปเช่นกัน เหลือเพียงรอยเท้าบนกิ่งไม้หนา
ทันใดนั้น ดาบสองเล่มก็ปะทะกัน เกิดเป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ฝั่งหนึ่งคือแสงสีทองที่แผดรัศมีราวกับดวงอาทิตย์ขณะที่อีกฝั่งคือแสงสีดำอมเขียวราวกับท้องฟ้ายามมืดมิด แสงสองสีรวมกันราวกับหยิน-หยาง
เมื่อคลื่นกระแทกก่อตัวขึ้นจากพลัง ผลกระทบก็ขยายไปเกือบร้อยเมตรในพริบตา ท้องฟ้าเหนือหัวพวกเขาถูกย้อมไปด้วยสีทั้งสองราวกับการต่อสู้กันของสี เสียงดังกระหึ่มระเบิดจากพลังขณะที่กลิ่นอายทั้งคู่กระจายไปทุกที่ นอกจากเสียงปะทะ เกาะอีแลมกลายเป็นเงียบสนิทราวกับว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างหลับใหล ไม่เพียงแต่จะไร้เสียงของนกและสัตว์ป่า แต่ยังไม่มีแม้กระทั่งเสียงแมลง
มอนสเตอร์หลายตัวจากเกาะอื่นพากันวิ่งหนีให้ห่างจากเกาะอีแลม มอนสเตอร์ระดับเพลิงสวรรค์บางตัวปิดซ่อนกลิ่นอายพวกมันอย่างขาดกลัว ทางฝั่งตะวันออกของเกาะอีแลม เงาหลายเงาต่างพากันปลดปล่อยพลังชีวิตทั้งหมดของพวกมันบนพื้นรายโล่ง แสงสีทองและดำเขียวปกคลุมท้องฟ้าราวกับมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ทั้งสองตัวกำลังปะทะกัน
หลิน ฮวงเกือบจะทุ่มทุกอย่างในการโจมตีนี้เพราะเขาใส่พลังชีวิตไปถึง3กงล้อและยังคงใส่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน จอมสังหารดาบดำก็เป็นกังวลว่าหลินฮวงอาจหนีไปอีกครั้ง มันเองก็อัดพลังทั้งหมดลงไปเช่นกัน ไม่อยากเสียโอกาสสังหารศัตรูไป พลังชีวิต1ใน3ของมันถูกบีบอัดลงไปในดาบดำ
มันคิดว่าหลิน ฮวงกำลังจนตรอกและเหลือพลังชีวิตไม่มาก ในความคิดมัน มันคิดว่ามันสามารถฆ่าเขาโดยง่าย แต่ทว่า เมื่อดาบปะทะกัน จอมสังหารดาบดำก็ตระหนักว่ามันหลงกลแล้ว สิ่งที่หลิน ฮวงกำลังสำแดงไม่ใช่พลังชีวิตอันแห้งเหือด แต่เป็นการโจมตีที่เขารอคอยมานับชั่วโมง พลังของดาบหลิน ฮวงเกินกว่าที่ตัวมันคิดไว้ แต่เนื่องจากดาบได้ปะทะกันแล้ว ใครก็ตามที่ถอนดาบก่อนย่อมเป็นฝ่ายแพ้ อย่างช่วยไม่ได้ สิ่งเดียวที่จอมสังหารดาบดำสามารถกระทำได้คือใส่พลังชีวิตลงไปในดาบเรื่อยๆ
จากนั้นการต่อสู้ก็กลายเป็นการบดขยี้ของพลังชีวิตจำนวนมหาศาล ภายในไม่กี่วินาที หลิน ฮวงก็ใช้พลังชีวิตไปถึง5กงล้อ เขารีบใช้การ์ดเติมพลังชีวิตหนึ่งใบทันทีและในไม่ช้า กงล้อชีวิตทั้ง10เขาก็เต็มเปี่ยมอีกครั้ง แน่นอน จอมสังหารดาบดำไม่มีการ์ดเช่นนั้น ดังนั้นพลังชีวิตมันจึงกำลังหมดลง แสงสีดำเขียวเริ่มอ่อนกำลังลงและในไม่ช้า มันก็ถูกกลืนกิน
เมื่อตระหนักว่ามันกำลังเป็นฝ่ายแพ้ จอมสังหารดาบดำก็ตื่นตระหนกและถอยหนีทันที แต่ทว่า มันสายเกินไปเมื่อพลังสีดำเขียวมันไม่อาจต้านทานไว้ได้อีก แม้มันจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังไม่เร็วพอจะหลบหนีแสงสีทอง ทั่วร่างจอมสังหารดาบดำถูกกลืนด้วยแสงสีทองเจิดจ้า.....
“ชนะแล้ว?”หลิน ฮวงมองเห็นอย่างชัดเจนว่าจอมสังหารดาบดำไม่ได้หลบหนีจากรัศมีของแสงสีทอง แต่ทว่า มันกลับยังไม่มีการแจ้งเตือนจากเสี่ยว เฮย