DND.99 - อาสัญราชันย์
เมื่อเจอกับราชันย์ระดับสองซือร่ง ซือหยูแทบจะทำอะไรไม่ได้
แต่ราชันย์ระดับเจ็ดนั้นทำให้ซือหยูขยับไม่ได้เพียงดัชนีเดียวเท่านั้น!
ราวกับว่าผู้ฝึกตนระดับหนึ่งกำลังต่อกรกับระดับเก้า! เขามิใช่สิ่งใดนอกจากมดปลวกที่กำลังเจอพลังอันยิ่งใหญ่
“ข้า ลี่กวง ใช้เวลารอคอยนับร้อยปี ...เพื่อมาเจอชะตาเช่นนี้งั้นรึ!”
ลี่กวงหัวเราะอย่างน่าเศร้า
ลี่กวงดูเหมือนแก่ไปกว่าเดิมอีกร้อยปี ความผิดหวังและความอยากตายเขียนอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจน
“ลั่วหลาน เจ้าจะฆ่าข้าก็ได้ แต่เขาบริสุทธิ์ เจ้าไว้ชีวิตเขาได้หรือไม่?”
ลี่กวงรู้ว่าเขามิอาจรอดพ้นความตายจากวันนี้ไปได้...แต่ซือหยูอาจจะพอมีรางรอด
ลั่วหลานมองไปยังซือหยูและพยักหน้าอย่างแผ่วเบา
แต่ทันใดนั้นนางก็ยิงพลังปราณอันน่ากลัวใส่ซือหยู!
ซือหยูเจอกับสิ่งที่คล้ายหุบเขาถล่มเช่นในป่าอสูรอีกครั้ง มันมีพลังทำลายล้างมหาศาล
“ไม่นะ!”
ลี่กวงคำรามเสียงทุ้มต่ำ เขาผลักซือหยูออกไป!
ครืน--
แรงสั่นสะเทือนสั่นทั่วบริเวณ โลหิตพุ่งกระกายปกคลุมทุกพื้นที่ ชิ้นเนื้อกระจายทุกทิศทาง! แขนขวาของลี่กวงถูกระเบิดทิ้งเหลือแต่เพียงตอแขน! โลหิตเขาฟุ้งกระจายท่วมใบหน้าซือหยู
เขารู้สึกอุ่นที่ใบหน้า กลิ่นคาวจากโลหิตทำให้ซือหยูตัวแข็งทื่อ
ลี่กวง...ลี่กวงใช้ร่างของเขาปกป้องชีวิตซือหยูเอาไว้!
เมื่อมองไปยังร่างชายแก่ตัวสูง ดวงวิญญาณซือหยูก็ตกตะลึง
“หนีเร็ว!”
ลี่กวงใช้แขนซ้ายรัดตัวซือหยูและบินออกไป!
เสียงดังตามแผ่นหลังของพวกเขา
“ไร้ประโยชน์”
ฟึ่บ--
พวกเขาเพียงแค่เห็นภาพลางๆ ก่อนที่ลั่วหลานจะอยู่ตรงหน้าพวกเขา!
ความขมขื่นปกคลุมใบหน้าลี่กวง เขากู่ร้องอย่างเด็ดเดี่ยว
“แม้ข้าจะตาย! ข้าก็ไม่ปล่อยให้เขาเป็นอะไรเป็นอันขาด!”
ฟึ่บ--
ลี่กวงหลบไปอีกทาง!
ฟึ่บ--
ลั่วหลานส่ายหัวอย่างเย็นชา
“ไร้ประโยชน์นัก...ตายซะ!”
ร่างของนางหายไป!
ซือหยูมองตามร่างอันเลือนลางของนางทัน มืองดงามราวหยกของนางวางบนหน้าผากลี่กวงโดยไร้คำเตือน! นางมาอยู่ใกล้ลี่กวงโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว!
สายไปแล้วที่ลี่กวงจะตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น!
มืออันงดงามของนางค่อยๆกดลง!
สวบ--
แผลที่เต็มไปด้วยโลหิตปรากฏที่แผ่นหลังส่วนล่างของลี่กวง! เห็นอวัยวะภายในของเขาอย่างชัดเจน! ในตอนนั้นลี่กวงได้ใช้แผ่นหลังส่วนล่างเพื่อรับพลังโจมตีแทนซือหยู!
“ท่านราชันย์”
ซือหยูใจสั่นด้วยความเศร้า! ราชันย์ใช้ทั้งชีวิตเพื่อรอคอยที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เหตุใจชะตาเขาต้องจบลงเช่นนี้?
ลี่กวงหน้าซีดราวกับกระดาษ ใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เสียงกรีดร้องอันแก่เฒ่าของเขาน่าเวทนา
“ข้าอาจจะตาย...แต่มิใช่เจ้าด้วย!”
ลั่วหลานเยือกเย็น นางยื่นฝ่ามืออีกครั้งและถอนหายใจเบาๆ
“มันไร้ประโยชน์”
“เลี่ยงโลหิต!!”
ลี่กวงโหยหวนอย่างโกรธเกรี้ยว โลหิตจากแขนขวาพวยพุ่งไปในอากาศ โลหิตในร่างกายก็พุ่งออกไปมิต่างกัน มันกลายเป็นกรงกระจ่างล้อมรอบพวกเขา!
ฟึ่บ--
แสงนั้นทะลวงนภาออกไปตามด้วยคลื่นเสียงปะทะ ไม่กี่พริบตา พวกเขาก็หายไปยังอีกเส้นขอบนภา!
ลั่วหลานประหวาดใจเล็กน้อย สีหน้านางหม่นหมอง
“วิชาหลบเลี่ยงต้องห้ามที่กินพลังชีวิตของผู้ใช้งั้นรึ?”
ซือหยูรู้กสึกราวกับถูกห่อหุ้มด้วยโลหะหลอมเหลวอันอบอุ่น เขาแยกออกจากสิ่งรอบข้าง
พลังชีวิตของลี่กวงอยู่ในจุดวิกฤติ!
สุดท้าย...หลังครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็ตกลงสู่ยอดเขา ที่ยอดเขานั้นมีบ้านที่เต็มไปด้วยผู้คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเบาสบาย
อ๊ากกก----
ลี่กวงกระอักเลือด หน้าซีดราวกับกระดาษ เขาหายใจบางเบา จะหยุดเมื่อใดมิอาจล่วงรู้
“เร็วเข้า...พยุงข้าที ตรงนั้นคือตระกูลข้า...ตระกูลลี่...มีม่านพลังคุ้มครองตะกูล...ลั่วหลานเข้าไปไม่ได้”
ซือหยูมองข้างหลังและเห็นผ้าคลุมสีสดใสบินมาห่างกันหกสิบศอก
ซือหยูรู้สึกปวดร้าวเมื่อเห็นชีวิตลี่กวงกำลังจะถึงจุดจบ
ทำไมกัน? เหตุใจเขาต้องมาจบชีวิตเช่นนี้หลังจากเสียเวลามาร้อยปี? เขาถูกตามล่าโดยคนรัก ทำไมเขาจะต้องเจ็บปวดแสนสาหัสในวาระสุดท้ายของชีวิตกัน?
“พวกเราจะปลอดภัย...เมื่อถึงบ้าน...ขะ..ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าตาย...”
แววตาของลี่กวงเต็มไปด้วยเมตตาเมื่อเขาฝืนยิ้ม
ที่หน้าม่านพลัง...มีคนสังเกตเห็นการมาของซือหยู
“เจ้าเป็นใคร?!”
ลี่กวงหายใจอย่างแผ่วเบา เขาหัวเราะอย่างขมขื่น ใบที่เต็มไปด้วยโลหิตของเขาโยนเหรียญสัญลักษณ์ออกจากชุด มันเป็นรูปลักษณ์โบราณ มันมีส่วนโค้งจากการแกะสลักเป็นคำว่าลี่กวง
“ลี่กวง! เจ้าคนล้มเหลวลี่กวงนั่น!”
“นั่นมันเขา! ตัวอัปยศของตระกูล!”
“ฮื่ม! กลับมาหลังจากร้อยปี...เจ็บหนัด...เขาจะต้องกลับมาเพื่อขอร้องการปกป้อง! น่าละอายนัก!”
ฟึ่บ--
เสียงดังมาจากความเงียบกริบ ผู้อาวุโสที่มีผมขาวแซมดำแต่งชุดราวกับลัทธิศาสนาก้าวมาข้างหน้า
เขามีรังสีอันน่ากลัว...มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าลั่วหลาน!
“เจ้าปรารถนาความคุ้มครองจากตระกูลงั้นรึ?”
ผู้อาวุโสกล่างอย่างเย็นชาและมองไปยังขอบนภาอย่างไร้อารมณ์
ราวกับว่าลี่กวงเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่คนในตระกูล
ลี่กวงหายใจอย่างอ่อนแรง เขาพยักหน้าเล็กน้อย
ผู้อาวุโสหัวเราะอย่างเย็นชา
“เจ้ายังคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์เข้ามายังตระกูลลี่งั้นรึ?”
สมาชิกตระกูลลี่จ้องมองอย่างชิงชัง
เป็นเพราะลี่กวง ตระกูลจึงถูกเย้ยหยันอย่างหนัก พวกเขายังคงต้องพยายามกอบกู้เกียรติคืนมา
ลี่กวงส่ายหัวอย่างยากลำบาก
“มิใช่...ข้า...ลี่กวง...ทำบาปมหันต์และนำพาความอับอายสู่ตระกูล...ข้ามิอาจกลับสู่ตระกูล...”
“แล้วเจ้าจะมาเพื่อสิ่งใดกัน?”
ผู้อาวุโสถามอย่างเยือกเย็น
ลี่กวงผลักซือหยูไปข้างหน้า เขาคุกเข่าลงกับพื้น ศีรษะของเขาแนบพื้นอย่างแรง...ไม่นานจะถึงวาระสุดท้ายของเขาแล้ว
ลี่กวงขอร้องทั้งที่ยังมีโลหิตอยู่เต็มปาก
“ข้าขอร้องพวกเจ้าทุกคน...ให้เขาเข้าไปด้วยเถอะ...”
“ท่านราชันย์!”
ซือหยูคุกเข่าลงกับพื้น เขามองลั่วหลานที่กำลังเข้ามา หัวใจของเขาถูกแผดเผาด้วยความชิงชัง!
ทำไมกัน….ทำไมนางจะต้องมาตามล่าชายแก่ที่อ่อนแอเช่นนี้?
“คนนอกห้ามเข้าตระกูลลี่! ไสหัวไปซะ!”
ผู้อาวุโสปฏิเสธอย่างเย็นชาและหันหลังกลับ
ปั้ง--
เสียงเบาดังมาจากด้านหลังผู้อาวุโส
เมื่อมองกลับไปก็พบหน้าผากลี่กวงที่กระแทกกับพื้นอย่างแรง มือซ้ายที่ยังเหลืออยู่ข้างเดียวของเขากำแน่น เสียงเขาน่าเวทนา เขาตะโกนอย่างแหบแห้งด้วยพลังที่เหลืออยู่อันน้อยนิด
“ข้าขอร้องพวกเจ้าทุกคน...โปรดให้เขาเข้าไป...เห็นแก่อดีตคนในตระกูลด้วยเถอะ….”
การอ้อนวอนของเขาทำให้ฟ้าดินเงียบกริบ ห้วงเวลาช้าลงให้กับความโศกเศร้าของเขา ท่าทางของเขาน่าเวทนายิ่ง เสียงอันโศกเศร้าดังก้องสะท้อนไปทั่วแผ่นดิน
ขณะวาระสุดท้ายของชีวิต...สิ่งที่ลี่กวงทำได้ก็คือการปกป้องซือหยู!
เสียงตะโกนน่าสงสารอันแหบแห้งของเขาพร้อมอารมณ์ที่เศร้าหมอง...เขาใช่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์คนเดียวกับที่เป็นจุดสูงสุดแห่งทวีปเฉินยี่งั้นรึ?
ซือหยูกลัดกลุ้มใจ ดวงตาเขามีน้ำเอ่อล้น เขามองเหล่าสมาชิกตระกูลลี่ที่ไร้หัวใจ
“ท่านราชันย์...อย่าไปขอร้องพวกเขาเลย ข้าซือหยูมิได้สนใจชีวิต...ข้าจะไม่ยอมให้ท่าน...ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์...เสื่อมเกียรติเพื่อข้า!”
ลี่กวงเงยหน้าขึ้นก่อนจะก้มหัวคุกเข่าอีกครั้ง
ปั้ง--
เสียงของเขาแหบแห้ง เศร้าหมอง น่าเวทนา
“ข้าขอร้องทุกคนในตระกูล…ข้าอาจจะตาย…แต่ได้โปรด...อย่าปล่อยให้เขาตาย…ข้าขอร้อง!”
เมื่อได้ฟังเสียงอันน่าเวทนาที่ดังก้องสะท้อนขุนเขาอันเปลี่ยวเหงา ทุกคนในตระกูลลี่ก็เริ่มสับสน
ผู้อาวุโสนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็หันหลังจากไป
“เปิดประตูซะ!”
“เราจะให้ซือหยูเข้ามาคนเดียว...หรือ….”
ก่อนที่ผู้อาวุโสจะหายตัวไป เขาก่นด่า
“หากคนตระกูลลี่ตายที่หน้าประตูของเราจะอับอายขายหน้าต่อบรรพบุรุษ...เอาเขาเข้ามาด้วย!”
เหล่าผู้อาวุโสคลายม่านพลังและพาเขาทั้งสองเข้าเขตตระกูล
ในตอนนั้นลั่วหลานบินลงมายังพื้นดิน นางเลิกคิ้วมองม่านพลัง น่าล้อมรอบม่านพลังด้านนอกเพราะมิอาจเข้าไปได้...แต่ก็ไม่คิดจะกลับไป
ที่สวนตำหนักตระกูลลี่...ลี่กวงกำลังสั่งเสียในวาระสุดท้ายของชีวิต เขาเอนตัวพิงกำแพง ดวงตาหนักอึ้งแทบจะปิดลง
โลหิตหยุดไหลจากบาดแผล...เพราะไม่มีโลหิตหลงเหลือให้ไหลอีก
“ท่านราชันย์!”
ซือหยูรู้สึกผิดเต็มหัวใจ หากไม่ใช่เพราะเขา...ท่านราชันย์คงไม่ต้องเจ็บหนักเช่นนี้!
การบาดเจ็บอันรุนแรงที่แขนขวาและแผ่นหลังส่วนล่างทั้งหมดก็เพื่อปกป้องซือหยู
ลี่กวงที่ตัวสั่นยื่นแขนซ้ายออกมา...เขาลูบหน้าผากซือหยู เขาฝืนยิ้มอย่างน่าสงสาร
“หึหึ...มิเป็นไร...เจ้าปลอดภัยแล้ว...”
เขาพูดด้วยความอ่อนแอ
“เป็นข้าเอง...ที่พาเจ้ามาถึงจุดนี้...”
ลี่กวงเสี่ยงสั่น
“ท่านราชันย์ หยุดพูดเถอะ! คนในตระกูลท่านกำลังไปหาโอสถ”
วิญญาณซือหยูสั่นคลอน ความโศกเศร้าเอ่อล้นอยู่ภายใน
ลี่กวงยิ้มและส่ายหัวเบาๆ
“มิต้องเสียใจ...ไม่ช้าก็เร็วข้าก็ต้องตาย...แต่ก่อนข้าจะตาย...เส้นทางของเจ้า….ข้าจะต้อง...จัดการให้เจ้า...”
เขาตัวสั่นก่อนจะหยิบเหรียญและจดหมายออกมา
เหรียญนั้นคือเหรียญหลิวเซี่ยน และจดหมายนั้นก็ตราถึงหัวหน้าตระกูลลี่
“มอบจดหมายนี้กับหัวหน้าตระกูลลี่ เขาจะจัดการให้เจ้ามีส่วนร่วมการทดสอบเป็นศิษย์สำนักหลิวเซี่ยนในอีกห้าวัน...เจ้าจะได้เข้าสู่สำนักหลิวเซี่ยน...”
“เหรียญนั้น...รับมันไว้ซะ หากเจ้ามีโอกาสได้พบเจ้าสำนัก...จงขอร้องเขา...ขอร้องให้เขารับเจ้าเป็นศิษย์...เจ้าจะไม่ถูกหานฉี่คุกคาม...”
ซือหยูน้ำตาคลอเบ้า เรื่องกลายเป็นว่าลี่กวงได้ตระเตรียมจดหมายก็เพื่ออนาคตของซือหยู
“ข้าจะต้องให้สำนักหลิวเซี่ยนสืบสวนเหตุในอดีตนั่นให้จงได้ ข้าจะใช้เหรียญเพื่อชำระนามของท่าน!”
ซือหยูกำเหรียญหลิวเซี่ยนไว้ในมือ เขาทั้งโศกเศร้าและโกรธเกรี้ยว นี่คือความปรารถนาอันยาวนานของชีวิตลี่กวง!
แววตาลี่กวงค่อยๆปิดลงและส่ายหัวอย่างอ่อยแอ
“ไม่...จำเป็น...อีกแล้ว...เก็บมันไว้เถอะ….จงรอดต่อไป...”
“ข้าทำให้เจ้า...ได้แค่นี้...”
ลี่กวงเกือบจะหลับตาสนิท ริมฝีปากฉีกยิ้มอย่างเดียวดาย
เขาจะต้องตายด้วยความเศร้าไปตลอดกาล
“ท่านอาจารย์!”
ซือหยูกรีดร้องไปถึงสวรรค์ ความโศกเศร้าเต็มอก เพลิงชิงชังร้อนระอุอยู่ภายใจ!
รอยยิ้มอันเดียวดายของลี่กวงกลายเป็นรอยยิ้มจากความโล่งใจ
“เจ้า...ในที่สุดก็เรียกข้า…..อาจารย์...ฮ่าฮ่า...”
เขาพึมพำอย่างแผ่วเบา แต่ละคำเต็มไปด้วยความพอใจ...และหายไปกับสายลม
ลมหายใจสุดท้ายของเขาดับลง…
ร่างกายเต็มไปด้วยโลหิตพร้อมรอยยิ้มอันโล่งใจ...ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์จากไปอย่างเงียบงัน
“ท่านอาจารย์!”
ซือหยูเสียงสั่นเครือ เขาคุกเข่าโค้งคำนับลงกับพื้น
พวกเขาอยู่รวมกันไม่ถึงหนึ่งเดือน...แต่เขารู้สึกว่ามันยาวนานยิ่งกว่านั้น
ซือหยูคุกเข่าอยู่นาน เขาตาบวมจากการร้องไห้ คราบน้ำตายังคงเห็นได้ชัดเจนเมื่อเขาค่อยๆลิมตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยโทสะ
ผมสีเงินลอยละล่อง ชุดสีม่วงร่ายรำตามสายลม คนตระกูลลี่พบเกล็ดหิมะร่วงหล่นมายังยอดเขา...ที่มิเคยมีหิมะตกแม้สักครั้งเดียว
ร่างลี่กวงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะ
หิมะกลายเป็นน้ำแข็งโปร่งใสในไม่นาน แช่แข็งสิ่งที่หลงเหลืออยู่จากราชันย์
รอยยิ้มสุขสงบนั้นจะไม่มีวันเสื่อมคลายในน้ำแข็ง
ซือหยูโค้งคำนับสามครั้ง สีหน้าคลายความเศร้าแต่สันโดษ จิตพิโรธสังหารเจือด้วยความเศร้า
“ท่านอาจารย์! ข้าจักสาบานต่อสวรรค์...ข้าจะเอาหัวของศัตรูท่านและชำระนามของท่านให้จงได้!”
ซือหยูเงยหน้ามองหิมะที่ปกคลุมนภา เขาสาบานต่อสวรรค์...สาบานต่อห้วงแห่งเวลา!
หานฉี่กับลั่วหลาน!
ซือหยูมิอาจสงบใจได้หากยังไม่สังหารสองคนนี้!
การรับศิษย์สำนักหลิวเซี่ยนจะเริ่มในอีกห้าวัน!
“หานฉี่! ลั่วหลาน! ระวังตัวไว้ ข้า..ซือหยูจะไปเอาหัวพวกเจ้า ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใด!”
ซือหยูกำหมัดแน่น เขากู่ร้องอย่างโกรธเกรี้ยวกับท้องนภา