DND.96 - ทดสอบคุณสมบัติ
หานฉี่คิดไม่ซื่อกับลั่วหลานมานาน และหานฉี่ยังมีพระคุณกับผู้อาวุโสในสำนักอีกทั้งยังเป็นศิษย์โดยตรง สถานะของเขานั้นสูงส่ง
แต่ลั่นหลานนั้นหลงรักลี่กวงอย่างลึกซึ้ง แม้ว่านางจะไม่เคยยอมรับก็ตาม จากนั้น...หานฉี่ก็ได้พรากความบริสุทธิ๋จากนางและป้ายสีลี่กวง
ลี่กวงยังคงโกรธเกรี้ยวอยู่เสมอ...ตลอดร้อยปี
ลี่กวงได้ทุ่มเทอย่างมากกับสำนัก...สำนักจึงได้ให้โอกาสกับเขา เขาถูกส่งมายังเกาะเฉินยี่เพื่อเสาะหาศิษย์ที่เหมาะสมในรอบร้อยปี ซือร่งถูกส่งมากับเขา
ใครก็ตามที่ได้อัจฉริยะที่แกร่งที่สุดจะได้เหรียญหลิวเซี่ยนและพวกเขาก็จะขอสิ่งใดก็ได้กับจ้าวสำนักหลิวเซี่ยน
ด้วยเหรียญหลิวเซี่ยนในมือ...เขาตั้งใจจะให้มีการสอบสวนเรื่องเมื่อร้อยปีก่อนและชำระล้างนามของเขาเสียใหม่ เขามิได้ต้องการให้ลั่วหลานเข้าใจเขาผิดไปตลอดกาล เขารอโอกาสนี้บนเกาะเฉินยี่มากว่าร้อยปี...แก่เฒ่าและอ่อนพลังลง
ศิษย์สวรรค์ต่างตกใจกับเรื่องราวของราชันย์ บุคคลเช่นราชันย์มีเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ด้วยงั้นรึ? ความอดทนเช่นใดกันที่ทำให้เขารอคอยเวลาเป็นร้อยปี? เขาใช้ทั้งชีวิตเพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อนางอันเป็นที่รักและชำระล้างนามของตน
“ซือหยู...ข้าจะไม่มีวันลืมพระคุณของเจ้า”
ลี่กวงขอบคุณ
ซือหยูส่ายหัว
“ท่านได้ฟูมฟักข้ามาแล้ว ข้าควรจะตอบแทน ทั้งยังให้โอกาสข้าได้เห็นทวีปเฉินหลง ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณ”
ลี่กวงรู้สึกผิด
“แม้เจ้าจะเป็นศิษย์สวรรค์ แต่ข้าก็มิเคยชี้แนะเจ้าแม้สักคราเดียว แต่ก็แย่เกินไปแล้ว...ชีวิตข้ากำลังจะดับสูญ ข้าจะตายภายในหนึ่งเดือน ข้าเกรงว่ามิอาจจะชี้แนะเจ้าได้อีกแล้ว”
“ท่านอาจารย์!”
ศิษย์สวรรค์ทุกคนต่างเข่าอ่อนเมื่อได้ยินราชันย์
แม้ราชันย์จะมีอายุมากกว่าร้อยปี เขาก็ยังดูมีชีวิตชีวา...ร่างกายของเขาสมบูรณ์แข็งแรงมาก เขาจะมีชีวิตเหลืออยู่อีกเดือนเดีวได้ยังไง?
ซือร่งยืนอยู่ข้างเขา
“ราชันย์ของพวกเจ้าถูกหานฉี่โจมตีหลายต่อหลายครั้งเมื่อมายังเกาะเฉินยี่จนบาดเจ็บและล้มป่วย อยู่รอดมาได้ขนาดนี้...นับว่าเป็นปาฏิหาริย์”
หนึ่งเดือน...เพียงหนึ่งเดือนในการใช้ชีวิต
ทุกคนโศกเศร้า แม้ราชันย์จะถูกพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์...แต่เขาก็มิอาจได้ใช้ชีวิตร่วมกับนางอันเป็นที่รัก
แล้วชีวิตเขาจะมีค่าอะไร...ถ้าเช่นนั้น?
“ลุกขึ้นซะพวกเจ้า ในชั่วชีวิตนี้ สิ่งที่ข้าปรารถนาก็คือการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อลั่วหลาน ข้าจะได้ตายตาหลับเสียที...พวกเจ้ามิต้องโศกเศร้าเมื่อข้าจากไป”
ใบหน้าแก่เฒ่าของลี่กวงยิ้มอย่างพอใจ
ฟึ่บ--
วายุใหญ่พัดปลิวมาจากด้านบน ท้องฟ้ามืดครึ้มทันที
ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมอง...เห็นเพียงวิหคยักษ์แปลกตาที่มีปีกยาวสามร้อยศอกบินวนลงมาจากสวรรค์ วายุกรรโชกร้องโหยหวนรอบทุกคนบนผืนธรณี รังสีทรงพลังโอบล้อมสิ่งรอบกาย
ซือหยูต้องใช้พลังปราณเพื่อให้ยืนอยู่ได้ แต่เขาขยับตัวไม่ได้เลย
ผมเงยหน้ามองขึ้น
พลังวิหคประหลาดบนนภาอันน่ากลัวนั้นแข็งแกร่ง ไม่ต่างจากลี่กวงและซือร่ง!
แววตาวิหคประหลาดหยาบคายดั่งมนุษย์เมื่อตรวจสอบคนเบื้องล่าง
ครืน--
วิหคประหลาดร่อนลง...ก่อให้เกิดพายุหมุน
ทราย ศิลา และฝุ่นควันลอยวนในอากาศ
“หึหึ...จบแล้วงั้นรึ? เร็วกว่าที่ข้าคิดเสียอีก”
เสียงเยาะเย้ยดังท่ามกลางฝุ่นควัน
มองไปตามทางของเสียง ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปีในชุดสีมรกตยืนอยู่บนหลังวิหคยักษ์
รูปลักษณ์ของเขาธรรมดาสามัญ รังสีที่แผ่ออกมาก็ถูกกดเอาไว้ราวกับเขาเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา แต่แววตาของเขาต่างออกไป มันเปล่งประกายอย่างผิดธรรมชาติเมื่อมองมายังผู้คน...ราวกับแสงตะวัน
ฟึ่บ--
ชายหนุ่มชุดมรกตลงจากหลังวิหคยักษ์และมองไปยังลี่กวง
“ตาเฒ่าลี่กวง ร่างกายเจ้ายังดีอยู่นี่ ข้าตกใจจริงๆที่เจ้ายังไม่ตายหลังจากแพ้เจ้านายของข้า”
“สามหาว! มันกล้าดูหมิ่นท่านราชันย์!”
จ้าวกวงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว!
ชายหนุ่มชุดเขียวเหลือบตาไปมองจ้าวกวง
โครม---
เพียงแค่การปราดตามอง จ้าวกวงล้มคว่ำและสำลัก...โลหิตอยู่ในลำคอ เขาตกใจมาก แม้แต่ลี่กวงก็ทำให้เขาบาดเจ็บจากการมองไม่ได้!
“มดปลวกกล้าส่งเสียงดังงั้นรึ?”
ชายหนุ่มชุดสีมรกตยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ข้าดูถูกราชันย์แล้วมันจะทำไมกัน? พวกมันก็แค่สิ่งมีชีวิตต้อยต่ำในสำนัก...มิคู่ควรจะเป็นศิษย์สำนักด้วยซ้ำ!”
ลี่กวงก้าวออกไปขวางศิษย์สวรรค์ด้านหลัง ดวงตาของเขาสุขุม
“เจ้าเป็นคนของหานฉี่งั้นรึ? เจ้าผ่านระดับราชันย์และเข้าสู่ขอบเขตมังกรแล้ว เขาอาจจะโหดร้าย...แต่ก็โชคดีที่ได้เจ้าเป็นศิษย์”
“หึหึ...เขาโชคดีกว่าเจ้าแน่ มิเช่นนั้นเขาจะได้ผู้หญิงของเจ้าไปเป็นนางบำเรองั้นรึ?”
ชายหนุ่มชุดสีมรกตหัวเราะเยาะ
ลี่กวงเบิกตากว้าง เขาก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เสียงของเขาสั่นเครือ
“เจ้าจะบอกว่า...ลั่นหลานกลายเป็นนางบำเรอของหานฉี่งั้นรึ? หานฉี่บังคับนางสินะ!?”
เขาจินตนาการออกว่าลั่วหลานต้องโศกเศร้าอย่างมากและอยู่ลำพังหลังจากที่หานฉี่ฉวยโอกาสนางอีกครั้ง และบังคับฝืนใจนาง...ช่วงชิงอิสระภาพ
ความโกรธและโศกเศร้าเอ่อล้นในหัวใจลี่กวง
หานฉี่ทำร้ายและรังแกนาง แต่ลั่วหลานนั้นมิได้ล่วงรู้ความจริง อีกทั้งด้วยการที่ถูกขืนใจ นางได้กลายเป็นนางบำเรอขณะที่ลี่กวงถูกส่งมายังเกาะห่างไกลเป็นร้อยปี!
สถานการณ์ทั้งหมดมันโหดร้ายตั้งแต่เริ่มขึ้นมาแล้ว
“ศิษย์นอกสำนักเช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเอ่ยนามผู้หญิงของท่านอาจารย์?”
เขามองอย่างเยือกเย็น และสำรวจรอบๆ
“ข้าคือศิษย์หลักแห่งสำนักหลิวเซี่ยน...เคาฉวน! ข้ารับคำสั่งมาทดสอบร่างกายของพวกเจ้า...และพาพวกเจ้าไปยังทวีปเฉินหลง!”
“ห้าลำดับแรกแห่งศตวรรษ จงก้าวเข้ามา!”
เคาฉวนสั่ง
หลิวกวง เหมิงหลาง และเจียงซิ่นก้าวออกจากหุบเขาเฟิงหวง
ซือหยูและจ้าวกวงก้าวออกจากวิหาร
เคาฉวนมองพวกเขา...ดวงตาเขาจับจ้องไปยังลี่กวง ซือหยู และจ้าวกวง เขามองอย่างเย็นชา
ฟึ่บ--
เคาฉวนบินไปหาหุ่นเชิด เขาใช้นิ้วชี้กดบริเวณใบหน้าของหุ่นเชิด
หุ่นเชิดอ้าปากคายเศษกระดาษแสดงห้าลำดับแรก ซือหยูคืออันดับหนึ่งและมาจากวิหาร!
เคาฉวนมองอย่างเยือกเย็น นั่นหมายความว่าลี่กวงได้เหรียญหลิวเซี่ยนไป! เขาซ่อนความไม่พอใจก่อนจะหันไปหากลุ่มห้าลำดับแรก
เคาฉวนหยิบบอลแก้วโปร่งใสออกมาจากในเสื้อ...และเข้าไปหาสามคนจากเฟิงหวง
“เจ้า...วางมือลงบนนี้ซะ”
เคาฉวนสั่งเจียงซิ่น
เจียงซิ่นทั้งรู้สึกเกรงกลัวและเคารพ...นางกลืนน้ำลายก่อนจะวางมืออันบอบบางลงบนบอลแก้ว
บอลแก้วเปลี่ยนาสีเป็นสีแดงเข้ม มีสองคำปรากฏขึ้นที่พื้นผิว...วิญญาณไร้ค่า
“ร่างกายอันไร้ค่าเช่นนี้อยากจะเข้าสู่ทวีปเฉินหลงงั้นรึ? อวดดีนัก!”
ร่างกายผอมบางของเจียงซิ่นสั่นคลอน หน้านางขาวราวกับกระดาษ นาง….นางเสียสิทธิ์ในการไปยังทวีปเฉินหลง! น้ำตาอันขมขื่นไหลอาบใบหน้า ไหล่นางสั่นระริก เจียงซิ่นนั่งบนพื้นและร้องไห้เสียงดัง
การเข้าสู่ทวีปลึกลับนั่นมันโหดร้ายเกิดไปแล้ว!
“เจ้า!”
เคาฉวนมิสนใจเจียงซิ่น เขากลับชี้ไปยังเหมิงหลาง
เหมิงหลางตัวสั่น เขากลืนน้ำลายและวางมือลงบนบอลแก้ว
บอลแก้วกลายเป็นสีแดงก่อนจะแสดงข้อความ
“วิญญาณอำพันระดับต่ำ”
เคาฉวนถอนหายใจ
“มีแค่เกาะทะเลทรายเท่านั้นที่จะมีคนคุณภาพต่ำเช่นนี้ เจ้าจะไปเป็นขยะโสโครกชั้นต่ำที่สุดในทวีปเฉินหลง”
เหมิงหลางมิได้รู้สึกอับอาย...แต่กลับดีใจ! เขามีสิทธิ์เข้าสู่ทวีปเฉินหลง!
“นี่คือการทดสอบคุณสมบัติ”
ลี่กวงกระซิบกับซือหยูและจ้าวกวง
“คุณสมบัติอะไรงั้นรึ?”
ซือหยูถาม
“เหล่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ต่างจากผู้ฝึกตนในด้านพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นชื่อในทวีปเฉินยี่เพียงเท่านั้น ชื่อที่แท้จริงของมันคือพลังวิญญาณ! มันคือพลังที่เหนือกว่าพลังปราณ มีเพียงการดูดซับพลังวิญญาณเท่านั้นที่พวกเจ้าจะได้ทะลวงถึงระดับที่สูงกว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์”
ลี่กวงพูดอย่างหม่นหมอง
“เจ้าจะดูดซับพลังวิญญาณได้หรือไม่หรือความเร็วในการดูดซับจะเป็นเช่นใดนั้นขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของเจ้า คนส่วนมากมิอาจดูดซับพลังวิญญาณได้ พวกเขาคือวิญญาณไร้ค่า...ดังเช่นเจียงซิ่น”
“และหลายคนก็ดูดซับพลังวิญญาณได้อย่างเชื่องช้าเช่นเดียวกับเหมิงหลางที่มีวิญญาณอำพันระดับต่ำ”
“คุณสมบัติแยกเป็นสี่ประเภทนั่นคือ สวรรค์ ธรณี ทมิฬ และอำพัน วิญญาณอำพันระดับต่ำคือขั้นต่ำที่สุด...ดูดซับพลังวิญญาณได้ช้าที่สุด การเติบโตของเขาจะถูกจำกัด วิญญาณทมิฬนั้นมีคุณภาพสูงขึ้นมา...แต่วิญญาณทมิฬนั้นหายากมาก วิญญาณธรณีและสวรรค์นั้นเป็นเพียงตำนาน สำนักหลิวเซี่ยนไม่เคยมีคนเช่นนั้นเลย”
ซือหยูและจ้าวกวงเริ่มเข้าใจแล้ว การมีคุณสมบัติในวิญญาณเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์หรือพลังวิญญาณได้...และพวกเขาจะเหนือกว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ มิเช่นนั้น...พวกเขาจะถูกลิขิตให้ติดอยู่กับระดับเก้าขั้นสูงไปตลอดกาล
แต่พวกเขาทั้งสองมีคุณสมบัติวิญญาณด้วยงั้นรึ? ซือหยูกังวล
“พวกเจ้ามิต้องกังวลนัก...เราเห็นคุณสมบัติได้จากหนทางการเติบโตในฐานะผู้ฝึกตน คนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะมีระดับสติปัญญาสูงส่งและบ่มเพาะวิชาใหม่ได้ระดับสูงและรวดเร็วกว่าคนธรรมดา”
“แม้เจียงซิ่นจะอยู่ในห้าลำดับแรก นางก็ใช้อาวุธลับในการได้ลำดับขึ้นมา ระดับสติปัญญาและความเร็วในการบ่มเพาะมิได้สูงนัก...เป็นธรรมดาที่วิญญาณนางจะไร้ค่า”
“ซือหยู ระดับปัญญาเจ้าสูงส่งกว่าใคร ความเร็วในการบ่มเพาะก็น่าทึ่ง ข้าสงสัยว่าวิญญาณเจ้าจะมีระดับสูงแค่ไหนมากกว่า”
ลี่กวงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
จ้าวกวงอิจฉาออกนอกหน้า ซือหยูนั้นคือชายผู้โดดเด่น เขาอาจจะยังเป็นอัจฉริยะต่อไป...แม้จะอยู่ในเฉินหลงก็ตาม
“เจ้า!”
เคาฉวนชี้หลิวกวง
หลิวกวงวางมือลงบนบอลแก้วอย่างกังวล
แสงสีแดงสว่างขึ้นและข้อความ ‘วิญญาณอำพันระดับสูง’ ปรากฏขึ้น!
เคาฉวนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ไม่นานเขาก็รู้สึกตัวและยิ้มอย่างนอบน้อม
“ศิษย์น้องหลิวกวง สำนักหลิวเซี่ยนเป็นสถานที่ซับซอนหลากอำนาจ เจ้าที่เป็นหน้าใหม่อาจจะสับสน หากพบเจอความยากลำบาก...เจ้าจงมาหาข้า”
หลิวกวงประหลาดใจและยินดี เขาหน้าแดง
“ขอบคุณศิษย์พี่เคาฉวน”
เขาตอบอย่างระวัง
ลี่กวงประหลาดใจ สีหน้าเขาเริ่มหม่นหมอง
“หากหลิวกวงมีคุณสมบัติสูงเช่นนี้! เคาฉวนจะต้องอยากได้เขาไว้ภายใต้หานฉี่แน่”
ศิษย์ทุกคนในหุบเขาเฟิงหวงถูกทดสอบเรียบร้อย เคาฉวนมองอย่างเย็นชาไปที่จ้าวกวง
“เจ้า! เข้ามา!”
หัวใจจ้าวกวงเต้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อวางมือลงบนบอลแก้ว
แสงสีแดงสว่างขึ้นพร้อมข้อความ ‘วิญญาณอำพันระดับกลาง’ ปรากฏขึ้น!
จ้าวกวงดีใจและประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด!
เคาฉวนมองผ่านลี่กวงและถอนหายใจเสียงดัง
“อย่างเจ้าก็หาคนที่ผ่านเกณฑ์พอดีได้งั้นรึ?”
เคาฉวนที่ไม่พอใจหันไปมองซือหยู
ราชาแห่งศตวรรษ...คุณสมบัติของซือหยูต้องน่าตกตะลึงเป็นแน่!
เคาฉวนรู้สึกไม่สบายใจ เขาสีหน้าหม่นหมองเมื่อก้าวไปวางบอลแก้วลงที่หน้าซือหยู
ลี่กวง ซือร่ง หลิวกวง จ้าวกวง และคนอื่นต่างมองดูอย่างระวัง
หลิวกวงมีวิญญาณอำพันระดับสูง...หรือซือหยูจะเป็นวิญญาณทมิฬ?
ซือหยูค่อยๆวางมือลงบนบอลแก้ว
บอลแก้วส่องสว่างเป็นสีแดงอ่อนพร้อมข้อความเล็กๆอันน่าตกใจ!