SGS บทที่ 76 – ชีวิตประจำวัน การตัดสินใจ และ การรอคอยล่ะ!
อีกห้องหนึ่ง ฮินางิคุกับมิโคโตะก็ตื่นแล้ว จากนั้นพวกเธอก็ไปปลุกลิลิน ก่อนจะพากันเข้าไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัว เสร็จแล้วก็มาเปลี่ยนเสื่อผ้า
ถ้าเป็นผู้หญิงธรรมดาล่ะก็....พวกเธอเหล่านั้นก็ต้องอาบน้ำ ฉีดน้ำหอม แต่งหน้า เสร็จแล้วก็ต้องมาหาชุดที่ดูสวยๆใส่ แต่ทว่าหลักเกณฑ์นี้ย่อมใช่ไม่ได้กับท่านประธานและพี่สาวเรลกัน เพราะถึงแม้พวกเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ก็มีความเป็นทอมบอยด้วย ดันนั้นเช้านี้สองสาวจึงทำแค่จัดผมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย!
และเมื่อพวกเธอโดนออกจากห้องไปแล้วเดินที่ห้องนั่งเล่น ภาพที่เห็นทำให้สองสาวช็อค
“โย่ว ตื่นกันแล้วสินะ” วู่ที่กำลังนั่งอยู่ เมื่อเห็นสามสาวเขาก็เอ่ยทักออกไป ขณะเดียวกันปากก็ยังไม่หยุดเคี้ยวอาหารมื้อเช้า
“นะ..นาย...ทำไมกัน...” ฮินางิคุกับมิโคโตะทำสีหน้าเหลือเชื่อราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ พวกเธอชี้นิ้วที่สั่นระรัวไปที่วู่หยาน เห็นภาพนี้ทำให้เขาเจ็บใจจี๊ด
“เฮ้ ไอ้ใบหน้าแบบนั่นมันหมายความว่าไงห๊ะ.....” ด้วยอารมณ์คุกรุ่น เขาแทบจะควบคุมตัวไม่ให้พลิกโต๊ะไม่ได้
“นายคือหยานจริงๆใช่มั้ยเนี่ย? ไม่ใช่คนอื่นปลอมตัวมาหรอกนะ?.....” คำพูดของฮินางิคุ ทำวู่หยานแทบปรี๊ดแตก
“เวอร์ไปเปล่า แค่เจอฉันตอนเช้า มันจะแปลกใจอะไรนักกันหนา......” วู่หยานรู้สึกไม่ดีแบบสุดๆ ลองเป็นคนอื่นมาเจอแบบเขาดูก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
ขณะที่คุยกัน สองสาวก็จูงลิลินที่กำลังมองอิคารอสที่อยู่อีกด้านด้วยสายตาอยากรู้สุดๆมานั่งข้างๆวู่หยาน ฮินางิคุมองอาหารเช้าบนโต๊ะ แล้วพูดว่า “แน่นอนสิ มันแปลกมาก!!”
มิโคโตะยกมือกระแอ่มไอแล้วพูดว่า “นายต้องรู้ก่อนนะว่า ตัวเองอ่ะเป็นสล็อท ฉันกล้าพูดเลยว่าถ้าเป็นปกติเวลานี้นายจะไม่มีวันตื่นขึ้นมาเด็ดขาด!”
ได้ยินดังนี้วู่หยานก็ขมวดคิ้วทันที รีบเอ่ยปากปฏิเสธ “เธอจะไปรู้อะไร ตอนที่ฉันยังเป็นพ่อบ้านของฮินางิคุ ฉันตื่นเช้าทุกวันเลยนะ!”
ได้ยินคำพูดวู่หยาน ฮินางิคุก็คลี่ยิ้มเยาะเย้ยทันที กรอกตามองเขาแล้วพูดว่า “นายยังจะมีหน้ามาพูดอีก รู้มั้ยว่าตอนนั้นถ้าฉันไม่ไปขุดนายออกมาจากผ้าห่ม นายก็คงนอนตายไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!”
วู่หยานสะอึกในลำคอ เขาเถียงไม่ออกเลย
ฮินางิคุแอบยิ้มยินดีกับชัยชนะเล็กๆ ก่อนที่จะยื่นมือคว้าขนมปังบนโต๊ะขึ้นมากัดหนึ่งคำ มิโคโตะก็ทำแบบเดียวกัน
“ขนมปังนี่มาจากไหนกัน?” กัดไปได้คำเดียว สองสาวก็พร้อมใจกันวางลง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ดูเหมือนว่ารสชาติของมันจะไม่ถูกปากพวกเธอเลย
“หือ? เกิดอะไรขึ้น?” วู่หยานหยิบขนมปังชิ้นอื่นขึ้นมากัด ขณะที่กำลังเคี้ยวๆเขาก็พูดว่า “มันมาจากโรงแรมน่ะ ไม่อร่อยงั้นเหรอ? ฉันก็ว่ามันรสชาติไม่เลวเลยนะ”
“นายไม่ได้เป็นคนทำงั้นเหรอ?”
“ขอเถอะครับคุณหนูทั้งสอง.....” วู่หยานกรอกตาพูดว่า “ที่นี่มันโรงแรมนะ ในเมื่อมีบริการอาหารอยู่แล้ว ฉันจะไปทำเองทำไมล่ะ?”
ได้ยินเขาพูด สองสาวก็จิตตกทันที ฮินางิคุพูดพึมพำเบาๆว่า “แต่ก่อนหน้านี้นายเป็นคนทำนี่.....”
“ฉันไม่ใช่เชฟมืออาชีพนะ!” วู่หยานพูดเสียงดังขณะเดียวกันก็ชูมือชูไม้ประท้วงไปด้วย ดูเหมือนว่าสองสาวจะตกลงปลงใจให้เขาเป็นพ่อครัวส่วนตัวของพวกเธอไปแล้ว
“ก็ใช่ แต่..จะให้ทำไงได้ล่ะ.....” ฮินางิคุมองขนมปังด้วยสายตาอึดอัด “หลังจากได้กินอาหารฝีมือนายไป อาหารธรรมดาที่คนอื่นทำมันก็ไร้รสชาติไปเลยอ่ะ.....”
ถูกแล้วเผื่อจะลืมกัน เมื่อก่อนฮินางิคุเคยโดนวู่หยาน ‘ป้อนอาหาร’ อร่อยๆให้ตลอดทั้งเดือนเพียงเพื่อพิชิตใจเธอ และเพราะเขามี ‘ปรมาจารย์อาหาร’ ทำให้ฮินางิคุเผลอยกระดับมาตรฐานอาหารของตนเองสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
และตอนนี้ เพียงแค่ได้กัดอาหารที่ทำมาจากเชฟของโรงแรมไปคำเดียว เธอก็รู้สึกไม่อยากกินขึ้นมาทันที มิโคโตะก็ไม่ต่างกัน มีแค่ลิลินน้อยที่ยังไม่เคยชิมอาหารฝีมือเขามาก่อนซึ่งตอนนี้เธอก็กำลังทำหน้าสีหน้าสนใจมาก
รู้เหตุผลพวกเธอแล้ว ทำเขาอดที่จะตบมุขในใจไม่ได้
อาหารเช้าของโรงแรมชื่อดังที่ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่พวกคนรวยมากินกลับถูกสองสาวบอกว่าเป็นแค่ ‘อาหารธรรมดา’ นี่ถ้าให้พวกเชฟของที่นี่นมาได้ยินคงน้ำตาตกในแน่เลย.....
“ถ้าจะโทษใครคนๆนั้นก็ต้องเป็นนาย หยาน เป็นเพราะนายมันทำอาหารอร่อยเกินไป ดูสิตอนนี้พวกเราเลยไม่สามารถกินอาหารที่คนอื่นทำได้แล้วเห็นมั้ย!” มิโคโตะกัดฟังมองวู่หยาน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
กลืนขนมปังชิ้สสุดท้ายลงไป วู่หยานก็พูดอย่างหน่ายๆใจว่า “ถามหน่อยเถอะ ถึงจะพูดงั้นงี้แต่ตอนนี้พวกเธอก็หิวกันแล้วใช่ม่ะ?”
จริงๆ ตอนนี้ท่านประธานกับพี่สาวเรลกันก็ค่อนข้างหิว ดังนั้นพวกเธอจึงนั่งลงหยิบขนมปังขึ้นมากินคนล่ะอันด้วยสีหน้าไม่เต็มใจจนหมดชิ้น
และตอนนี้เอง ลิลินน้อยที่โดนสองสาวพาออกมาจากห้องพร้อมกันก็เปิดปากพูดจนได้ ขณะเดียวก็กำลังมองอิคารอสด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ
ลิลินกัดขนมปังด้วยท่าทางน่ารัก ขณะที่นั่งอยุ่ด้านหลังวู่หยาน ปากก็พูดไปว่า “พี่สาวสวยๆคนนั้นเป็นใครเหรอคะ?”
วู่หยาน ฮินางิคุกับมิโคโตะได้ยินก็สะดุ้งตกใจ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ลิลินได้เจออิคารอส
“จริงสิ! อิคารอส.....” ฮินางิคุกับมิโคโตะหันหน้าไปมองอิคารอสด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน
เป็นเพราะเมื่อกี้นี้ พวกเธอสองคนได้ลืมอิคารอสไปซะสนิทเลย.....
จริงๆเรื่องนี้อิคารอสก็มีส่วนผิด เพราะเธอเล่นเอาแต่ยืนอยู่หลังวู่หยานเงียบๆไม่พูดไม่จาเลย แน่นอนว่านี่ไม่ได้แปลว่าตัวตนของอิคารอสนั้นจืดจาง ตรงกันข้ามเลย ต่อให้เธอไม่พูดอะไร คนอื่นก็ยากที่จะไม่สังเกตเห็น เพราะอิคารอสมีเสน่ย๋มากเกินไปยังไงล่ะ!
ถ้าให้เปรียบ อิคารอสก็คงเป็นลูกท้ออันหอมหวาน และฮินางิคุกับมิโคโตะก็คงเป็นแอปเปิ้ลเขียวอ่อนที่ยังไม่สุก เพราะยังซะพวกเธอก็ยังอายุแค่14ปีและ15ปีอยู่ ร่างกายสัดส่วนต่างๆของสองสาวยังไม่ผลิบานดีเลย ถึงแม้จะมีใบหน้าสวยงาม แต่ก็ยังคงมีช่องว่างระหว่างพวกเธอกับอิคารอสอยู่ดี
แต่ก็นะ มันก็แค่ตอนนี้แหละ รอให้สองสาวครึ่งแสนห้าวครึ่งโลลนี้โตขึ้นเมื่อไหร่ ไอ้ช่องว่างนี่ก็จะหายไปเอง
และก่อนหน้านี่วู่หยานก็ได้เอาเสื้อผ้าผู้หญิงธรรมดาให้อิคารอสใส่ไม่งั้น ชุดเกราะนั่นบวกกับปีกย่อมเป็นจุดเด่นแน่นอน
สุดท้ายแล้วยังไงอิคารอสก็เพิ่งเป็นคนที่เข้ามาใหม่ได้ไม่ถึงวัน จึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่สองสาวจะลืมตัวตนเธอไป
“พี่สาวคนสวยทำไมถึงไม่สนใจลิลินเลยล่ะ? หรือว่าพี่จะ..เกลียดลิลินงะ..งั้นเหรอคะ?” ดูอิคารอามองมาตนที่เงียบๆ ไม่ตอยคำถามของตน ลิลินก็พูดเสียงอ่อน
“ฮ่าๆ ลิลินน้อยอย่าไปใส่ใจเลย ไม่ใช่ว่าอิคารอสไม่สนใจลิลินหรอกนะ แต่เป็นเพราะเธอไม่เก่งเรื่องพูดคุยสื่อสารกับคนอื่นก็เท่านั้นเอง” วู่หยานแอบเหล่ตามองลิลินที่ทำสีหน้าใกล้ร้องไห้ เขาจึงรีบพูดเบี่ยงประเด็น
อะแฮ่ม....ขอบอกอีกครั้งคุณๆทั้งหลาย....ตูไม่ได้เป็น..โลลิค่อนนะเฟ้ย!!
มิโคโตะมองอิคารอส แล้วอยู่ๆก็ถามไปว่า “อิคารอสเธอตื่นนอนนานแล้วเหรอ? ตอนฉันลุกขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอก็คิอดเหมือนว่าเธอไปไหน”
ในที่สุดอิคารอสก็ตอบสนอง ค่อยๆหันหน้าไปทางวู่หยาน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ฉัน....ไปที่ห้องนอนมาสเตอร์..”
ฟังอิคารอสพูดถึงตรงนี้ วู่หยานก็ตะโกนก้องในใจว่า ‘บรรลัยแล้ว!’ ถ้าฮินางิคุกับมิโคโตะรู้ว่าอิคารอสมาอยู่ห้องตนเองทั้งคืนมีหวัง...ได้ตายอนาถแน่นอน! โครตมั่นใจ!
นึกถึงฝันเลือดสาดเมื่อคืน วู่หยานใจเต้นโครมคราม ดังนั้นเขาจึงรับพูดขัดอิคารอสทันที “ใช่แล้ว ฮินางิค มิโคโตะ เดียววันมะรืนเราก็จะไปรวมทีมล่าขุมทรัพย์ แล้วลิลินจะทำไงดี?”
ต้องพูดว่าใช่เรื่องนี้ ดึงความสนใจพวกหล่อนได้จริงๆ
ฮินางิคุมองลิลิน ทำสีหน้าลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า “เรื่องนั้น...ฉันจะ...”
“หนูก็จะไปด้วย!” อนิจจัง โดยไม่รอให้ฮินางิคุพูดจบ ลิลินก็กระโดดชูมือด้วยสีหน้าตื่นเต้น ปากก็ตะโกนไปด้วย
“ไม่ได้! ที่ที่พวกพี่จะไปมันอันตรายมากเลยนะลิลิน!” ได้ยินคำพูดลิลิน มิโคโตะก็คัดค้านทันที ไม่ว่ายังไงลิลินก็เป็นแค่เด็กที่แรงจะฆ่าไก่ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
“ไม่เอานะ! ไม่ว่ายังไง หนูจะไปด้วยให้ได้!” ลิลินน้อยจับมือฮินางิคุ แล้วทำเสียงสะอื้น “พี่สาวฮินางิคุ แล้วก็พี่ชายคงไม่คิดจะทิ้งลิลินใช่มั้ย? ลิลินไม่อยากแยกจากพวกพี่นะคะ!”
“หยาน...” จับมือลิลินน้อย ฮินางิคุรู้สึกจนปัญญา
วู่หยานถอนหายใจ แล้วทำหน้าครุ่นคิด “พาเธอไปด้วยเถอะ เพราะยังไงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาลิลินไปฝากใคร แล้วฉันก็คิดว่าด้วยความสามารถของพวกเราย่อมปกป้องเธอได้แน่นอน!”
ได้ยินวู่หยานพูดแบบนี้ มิโคโตะก็ทำได้แค่พยักหน้ายอม เห็นดังนี้ลิลินก็ยิ้มกว้างทั้งน้ำตาทันที ปากก็ร้อง’ไชโย’ด้วยความสุข
มองสาวๆทั้งหมด วู่หยานก็พูดพึมพำว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น.....”
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน400