DND.93 - การประลองอันรุนแรงสูงสุด
หลิวกวงหัวเราะอย่างโกรธเกรี้ยว!
ในทวีปเฉินยี่แห่งนี้ มีแค่เขาที่ดูแคลนผู้อื่นได้! ไม่มีใครจะมาดูแคลนเขาได้เลย
ซือหยูนับเป็คนแรก!
“คนที่จะจบการต่อสู้แห่งศตวรรษนี้มิใช่เจ้า แต่เป็นข้า หลิวกวงผู้นี้!”
หลิวกวงยืนอย่างหยิ่งยโส
“พวกเจ้าแต่ละคนมีหนึ่งโอกาสในการโจมตี!”
เจียงซิ่นสีหน้ามืดหม่น นางยิงอาวุธลับแสงทมิฬจากชุดออกไปเก้าชิ้น!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ--
หลิวกวงยืนอยู่ที่เดิมและยิ้มบางๆ เขาใช้ปลายเท้าแตะพื้นที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า
การแตะเบาๆนั้นทำให้เกิดการระเบิดของพลังมหาศาล!
ครืน--
ตู้ม--
ระยะสามสิบศอกรอบกายหลิวกวงระเบิด!
ฝุ่นควันลอยฟุ้ง เหล่าเศษชิ้นส่วนกระจายไปทั่วนภา วายุทรายและเศษสิ่งของรวมตัวกันเป็นคลื่นยักษ์พัดปลิวสูงขึ้นไปในอากาศ
แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง--
แสงทมิฬทั้งเก้านั้นถูกป้องกันด้วยคลื่นยักษ์
ในเวลาเดียวกัน หลิวกวงก็ยื่นนิ้วแตะหินก้อนเล็กอย่างแผ่วเบา
ฟึ่บ--
อ๊าาา---
เจียงซิ่นหลบไม่ทันและถูกหินก้อนเล็กที่มีพลังอันรุนแรง นางคำรามอย่างเจ็บปวด
หมอกแสงปรากฏขึ้นและนำพาเจียงซิ่นที่แพ้สองครั้งออกไปจากธรณีหวงห้าม
ฝุ่นกระจัดกระจายบนท้องนภา หลิวกวงยืนมือไพล่หลังท่ามกลางวายุฝุ่นราวกับว่าเขาไร้เทียมทาน!
เหมิงหลางกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“จุมพิตหมาป่ากระหาย!”
ฟึ่บ--
ร่างของเขาแบ่งออกยากจะแยกแยะ
หลิวกวงที่ถูกล้อมโดยภาพติดตาหัวเราะ เขายังยืนมือไพล่หลังเช่นเดิม
ตอนนั้นเองหมัดจากภาพติดตาก็พุ่งเข้ามารอบทิศทาง ราวกับน้ำท่วมใหญ่
ดูเหมือนว่าหลิวกวงกำลังจะถูกหมัดนี้กลืนกิน!
แผละ--
เกิดเสียงอันแผ่วเบา และภาพติดตาก็หายไปทันที เหลือเพียงร่างที่แท้จริงของเหมิงหลางที่ยืนห่างจากหลิวกวงไม่กี่ศอก
พลังปราณนั้นก่อเกิดเป็นรูปกระบี่และพุ่งไปจ่อหน้าคิ้วของเหมิงหลาง
เหมิงหลางพ่ายแพ้ หมอกแสงพาเขาออกไปจากธรณีหวงห้าม!
ตอนที่กระบี่พลังปราณพุ่งออกไป หลิวกวงยังคงยืนมือไพล่หลังอย่างสงบสุข มิได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
จ้าวกวงอ้าปากค้าง
“การสร้างรูปลักษณ์จากพลังปราณ...เจ้ากำลังเจ้าสู่ระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์!”
ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ลี่กวงครั้งหนึ่งเคยบอกว่าทวีปเฉินยี่มีทรัพยากรจำกัด และเขามิอาจฟูมฟักราชันย์ศักดิ์สิทธิ์รุ่นใหม่ได้ แต่หลิวกวงนั้นฝืนชะตาตน และกำลังเข้าสู่ระดับของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์
หลิวกวงหัวเราะแต่ก็ยังคงสุขุมรอบคอบ เขามองจ้าวกวงด้วยความขบขัน เขาทำให้สถานการณ์นี้มีแสงสว่างริบหรี่ขึ่นมา...แต่ในตอนนี้มีจ้าวกวงยืนอยู่เพียงผู้เดียว
นี่เป็นการต่อสู้อันรุนแรงที่สั่นคลอนหัวใจของจ้าวกวง แต่ความตั้งใจของจ้าวกวงยังไม่หายไปไหน เขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ!
“ไตรเศียรฉรยางค์!”
แขนขาจ้าวกวงเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นจังหวะอันเป็นเอกลักษณ์ ราวกับว่าเขามีศีรษะเพิ่มขึ้นอีกสอง และมีแขนขาเพิ่มขึ้นอีกสี่ข้าง! ระยะโจมตีของเขาในตอนนี้นั้นปกคลุมทั่วพื้นที่! เหมิงหลางเคยแพ้วิชานี้!
“จงเพ่งมองวิชาข้า!”
จ้าวกวงคำรามดั่งสัตว์ป่า เร็วและแข็งแกร่ง
ครืน--
ทั้งสองพุ่งเข้าหากัน
เสียงถล่มสั่นคลอนนภา ฝุ่นควันตลบทั่วทุกหัวระแหง เมื่อฝุ่นควันสงบลง ก็พบภาพอันน่าตกตะลึง!
หลิวกวงยกนิ้วขึ้น
จ้าวกวงยืนอยู่ห่างสิบศอก ศีรษะทั้งสามและแขนขาทั้งหกแข็งทื่อ!
พลังปราณของหลิวกวงกลายเป็นกำแพงน้ำแข็ง ป้องกันการโจมตีจากจ้าวกวง เพียงแค่นิ้วเดียวจ้าวกวงรับมือลำบาก!
จ้าวกวงกัดฟันแน่น
“สลับเงา!”
ฟึ่บ--
จ้าวหวงหายตัวไปทันที เขาไปอยู่ข้างหลังหลิวกวง แม้จะเป็นหลิวกวงก็ตามไม่ทัน
ครืน---
แขนขาทั้งหกของจ้าวกวงโจมตีเข้าไปพร้อมกัน!
ปั้ง
ความยินดีบนใบหน้าจ้าวกวงหายไป ไม่มีหมัดใดของเขาที่โจมตีถูกกล้ามเนื้อหรือตัวหลิวกวง...ในความจริงแล้วเขารู้สึกราวกับว่าโจมตีใส่อากาศว่างเปล่า และเขาก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยด้านหลังเขา
“การโจมตีภาพติดตาข้ามันน่าสนุกขนาดนั้นเชียวรึ?”
หนึ่งดัชนีแตะแผ่นหลังจ้าวกวง
พลั่ก--
จ้าวกวงราวกับถูกทุ่มด้วยภูเขา เขาพ่นโลหิตออกมาจำนวนมาก เขากระเด็นลอยไปไกลและพ่ายแพ้
“เร็วมาก!”
จ้าวกวงเบิกตากว้าง หลิวกวงเร็วยิ่งกว่าวิชาระดับเทพของเขาเสียอีก!
“เจ้ามิใช่คนเดียวที่บ่มเพาะวิชาระดับเทพสองวิชา”
หลิวกวงยิ้ม
หุ่นเชิดผู้ตัดสินประกาศ
“หลิวกวงคือผู้ชนะ!”
“ต่อไป หลิวกวง เลือกผู้ประลอง!”
หุ่นเชิดผู้ตัดสินสั่ง
หลิวกวงยืนอยู่ศูนย์เถ้าถ่าน เขามองไปยังซือหยู
“คิดว่าหลังจากที่เจ้าดูการต่อสู้ของข้าแล้ว เจ้าคงเข้าใจความต่างระดับระหว่างข้าและเจ้า แต่ก่อนที่เราจะสู้กัน ให้ข้าเอาขยะออกไปเสียก่อน”
เอี๊ยด--
หลิวกวงพลิกนิ้วโดยไม่หันไปมองด้านหลัง
อ๊าก---
จ้าวกวงมิอาจป้องกันตัวเองได้ทัน เกิดบาดแผลรูใหญ่บนแผ่นหลังของเขา
จ้าวกวงแพ้สองครั้ง หมอกแสงล้อมรอบเขาและส่งเขาไปยังด้านนอก ที่ด้านนอก...จ้าวกวงคุกเข่าลงกับพื้นและขอร้องอย่างอับอาย
“ศิษย์ของท่านช่างไร้ค่านัก โปรดลงโทษข้าเถิด ท่านอาจารย์”
ลี่กวงตกใจ ดวงตาของเขาไร้แววตา
“ลุกขึ้น...นี่อาจจะเป็นชะตาของข้า...ความปรารถนาร้อยปีของข้ามิอาจถูกเติมเต็ม...”
ถ้อยคำของลี่กวงนำพาความโศกเศร้ามาด้วย
ในตอนนี้ เขาดูเหมือนเป็นชายแก่ที่รอคอยเวลามาร้อยปี...เพื่อเสียความตั้งใจในการมีชีวิตอยู่
วิญญาณของเขาตายจากไป
ซือร่งมองอย่างเวทนา นางส่ายหัวและถอนหายใจ
“ลี่กวง เหตุใดเจ้าเศร้าใจเพียงนี้? จ้าวกวงมีความหมายต่อเจ้ามากเพียงนั้นเลยรึ?”
ลี่กวงหลับตา เปลือกตาแก่เฒ่าของเขาสั่นไหว เขาได้เก็บงำความหวังมาตลอดร้อยปี...เพียงเพื่อให้มันหายไปในพริบตา
“ท่านอาจารย์...”
ศิษย์สวรรค์รู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนคุกเข่าครวญคราง
ลี่กวงฝืนยิ้ม
“ข้าไม่เป็นไร...”
จ้าวกวงเสียใจอย่างมาก มีเพียงเขาที่รู้ว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์รอคอยเวลานี้มาตลอดทั้งชีวิต เขาอดทนมาร้อยปีเพื่อการต่อสู้ครั้งนี้...ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย
แต่จ้าวกวงทำให้ความปรารถนาของเขาพังทลาย! ความรู้สึกผิดและความเศร้าเข้าปกคลุมจ้าวกวง
ในตอนนั้น เขาก็พบแผ่นหลังของบุรุษผู้หนึ่งแล่นเข้ามาในหัว
“ท่านอาจารย์...ข้าอาจจะพ่ายแพ้ แต่ที่นั่นยังมีศิษย์น้องซือ!”
จ้าวกวงประกาศกร้าว
“เขาอาจจะเป็นความหวังของพวกเรา!”
ซือหยูงั้นรึ? ลี่กวงพูดนามเขาอย่างแผ่วเบา หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ส่ายหัวและหัวเราะ
“เขาทำไม่ได้หรอก...”
ในสมรภูมิ มีบุรุษสองคนยืนอยู่เหยือเถ้าถ่าน
หนึ่งคนคือบุรุษผมสีเงินชุดม่วง ที่ก้าวขึ้นมาจากความแร้นแค้น เขาคือดาราที่ร่วงหล่นมายังทวีปนี้ ความเปล่งประกายของเขาน่าตกตะลึง
อีกคนคืออัจฉริยะในตำนาน เขาได้ฝืนชะตาและก้าวเข้าสู่ระดับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์...ยืนอยู่จุดเหนือสุดของโลก!
การต่อสู้แห่งศตวรรษขึ้นอยู่กับพวกเขา!
“เจ้ามดปลวกเล็กจ้อย ความสงสารที่มอบให้เจ้ามันหายไปหมดแล้ว นี่เป็นเวลาที่เจ้าจะได้เห็นความต่างที่แท้จริงของพลัง!”
หลิวกวงยืนมือไพล่หลัง ชุดของเขาปลิวไหว
พลังปราณของเขาสร้างกระบี่สิบเล่มหมุนวนร่างของเขา ใครก็ตามที่เข้าใกล้เขาจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ!
ฟึ่บ--
ภาพติดตาของหลิวกวงหยุดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหายไป!
ต่อมาเขาก็ปรากฏตัวอยู่ห่างจากซือหยูสิบศอก! กระบี่ปราณทั้งสิบเล่มจู่โจมซือหยูทันที!
ซือหยูยืนมือไพล่หลังอย่างเย็นชา
“แก่นแท้จิตน้ำแข็ง!”
ซือหยูพูดอย่างแผ่วเบา
ครืน ครืน--
ใกล้อกของเขา หัวใจที่ทำจากน้ำแข็งเริ่มเต้น มันคือวิชาระดับเทพขั้นสูงสุด แก่นแท้จิตน้ำแข็ง!
หัวใจของเขากลายเป็นแก่นแท้จิตน้ำแข็ง ตราบเท่าที่เขาปรารถนา...ทุกสิ่งจะเป็นน้ำแข็ง
เอี๊ยด--
ไอน้ำในอากาศเยือกแข็ง และก่อให้เกิดกำแพงน้ำแข็งตามประสงค์ของซือหยู
แกร๊ก--
กระบี่ปราณพุ่งเข้าใส่กำแพงน้ำแข็ง แต่มันถูกป้องกันเอาไว้ได้
ตอนที่หลิวกวงใจเย็นลง สิ่งที่เหลือตรงหน้าเขาก็เป็นเพียงภาพติดตาของซือหยู
“ฮื่ม! หนีเร็วนักนะ!”
หลิวกวงมองหารอบๆ เขาเบิกตากว้างและไม่พบซือหยู!
ในตอนนั้น หิมะก็ตกใส่ศีรษะเขาอย่างแผ่วเบา
“มองหาข้าอยู่รึ?”
บุรุษชุดม่วงลอยอยู่บนอากาศราวกับทวยเทพ
การลอยในอากาศ...มีแต่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ทำได้!
เงาลอยล่องระดับสูงสุด จะทำให้ผู้ใช้ลอยได้ชั่วคราว!
หลิวกวงตกใจแต่ก็เยาะเย้ยต่อไป
“เจ้าก็แค่ใช้วิชาลอยตัวธรรมดา ข้าจะให้เจ้าดูวิชาบินที่แท้จริง!”
ฟึ่บ--
พลังปราณของหลิวกวงกลายเป็นปีกบนแผ่นหลัง ทุกการกระพือของมันทำให้ร่างของเขาลอยขึ้น
กุญแจสำคัญในพลังที่ราชันย์ใช้บินก็คือการใช้พลังปราณ หลิวกวงที่ไปถึงระดับราชันย์สามารถเปลี่ยนพลังปราณให้เป็นรูปลักษณ์ก็ได้ รวมถึงการเปลี่ยนพลังปราณให้กลายเป็นปีก
หลิวกวงมองตรงไปยังซือหยูและหัวเราะ
“วิชาของเจ้าก็ถือว่าดี แต่ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าดูว่าวิชาระดับเทพขั้นสูงของจริงเป็นยังไง!”
“กรงเล็บเทพวิหค!”
หลิวกวงคำราม
นิ้วของเขากลายลักษณ์เป็นกรงเล็บ แสงอ่อนๆล้อมรอบนิ้วและกรีดผ่านลงมาเป็นกรงเล็บวิหคคมกริบ
ครืน--
เถ้าถ่านและเศษหินบนพื้นลอยขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เกิดหลุมลึกสามศอกห้าหลุม
การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็มีพลังขนาดนั้น!
พลังของวิชาระดับเทพขั้นสูงเข้มข้นมาก!
ซือหยูยังคงสงบนิ่ง เขาปล่อยคลื่นพลังปราณมาที่ฝ่ามือและเปลี่่ยนมันกลายเป็นกระบี่น้ำแข็ง
เขาพลิกข้อมือเล็กน้อย ฟันกระบี่ไปด้านล่าง!
ครืน--
กระบี่น้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยงๆ ระรอกคลื่นพลังได้หายไป
ซือหยูถอยหลังไปสิบก้าว ได้กลิ่นโลหิตในลำคอ!
หลิวกวงยังยืนอยู่ที่เดิม เขาปรับชุดให้เข้าที่และยิ้ม
“ทั้งสองวิชาต่างเป็นวิชาระดับเทพขั้นสูง แต่วิชาเจ้าเป็นแค่วิชาสนับสนุน เขามาเทียบกับวิชาที่ข้าใช้ได้อย่างไร?”
ซือหยูรับมือหลิวกวงไม่ไหว...มิใช่เพราะพลังของแก่นแท้จิตน้ำแข็ง...แต่เป็นเพราะความต่างของระดับการบ่มเพาะพลัง!
ซือหยูมีพลังเพียงระดับแปดขั้นสูง หลิวกวงมีพลังระดับเก้าขั้นสูง! ทั้งสองวิชาต่างเป็นวิชาระดับเทพขั้นสูง เป็นธรรมดาที่ซือหยูต้องเสียเปรียบ
“นามราชาแห่งศตวรรษเป็นของข้า หลิวกวง! หลังการต่อสู้นี้ ข้าจะเป็นมังกรทะยานฟ้า และเจ้าจะเป็นมดปลวกไปตลอดกาล!”
“สบายใจได้...ข้าจะดูแลเซี่ยนเอ๋ออย่างดี! หัวใจและร่างกายของนางเป็นของข้า หลิวกวง!!”
หลิวกวงยั่วยุต่อไป
“ข้าเกรงว่าเซี่ยนเอ๋อจะยังไม่รู้ว่าเร็วๆนี้นางจะได้เป็นผู้หญิงของข้า นางยังเรียกข้าว่าศิษย์พี่หลิวกวงอย่างน่ารักอยู่เลย วันหนึ่งนางจะกลายมาเป็นของเล่นของข้า! คนเดียวที่จะได้สายเลือดเช่นนางคือข้า! ยอมแพ้ซะ ข้าจะเก็บผู้หญิงของเจ้าไว้เอง!”
ฟึ่บ--
ทันทีที่หลิวกวงพูดจบ เขาก็หายไปอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาปรากฏตัวหน้าซือหยูในทันที
“กรงเล็บเทพวิหค!”
กรงเล็บพุ่งตรงมายังซือหยู!
ซือหยูเต็มไปด้วยจิตสังหารอันเยือกเย็น...ราวกับนภาสดใสก่อนวายุกระหน่ำ
เซี่ยนเอ๋อคือคู่หมั้นของเขา นางคือสตรีที่เขาสาบานว่าจะปกป้องตลอดกาล
ไม่มีใครจะได้รังแกนาง! แม้จะเป็นสวรรค์ ฟ้าดิน หรือเหล่าเทพ ใครที่กล้าข่มเหงนางจะต้องตายสถานเดียว!
“เจ้ามิควรดูหมิ่นนาง...”
น้ำเสียงอันเย็นชาไร้อารมณ์ส่งความเยือกเย็นไปทั้งสวรรค์
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคลายมือที่ไพล่หลังเอาไว้
บุพผาสีม่วงอยู่ในฝ่ามือข้างขวาของเขา มันตัดกับรูปลักษณ์น้ำแข็ง กลีบบุพผาปราณีตพร้อมลายสีม่วงอ่อนช้อย
นอกจากรูปลักษณ์อันงดงามแล้ว บุพผาม่วงนั้นยังมีพลังอันแข็งแกร่ง!
หัวใจหลิวกวงหยุดเต้น เขาตระหนักได้ว่าเขาพูดคำที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว!
“ข้าอยากให้เจ้า...ตายไปซะ!”
ซือหยูพูดอย่างเยือกเย็น เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า
ดูเหมือนว่ามันเป็นการก้าวข้ามสวรรค์และฟ้าดิน เหมือนกับการเดินผ่านห้วงเวลา...ก้าวข้ามทุกสิ่งกีดขวางบนโลก!
สวรรค์และฟ้าดินก็มิอาจช่วยหลิวกวงไว้ได้!