ตอนที่แล้วDND.84 - ประลองวายุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDND.86 - การกลับมาของซือหยู

DND.85 - มังกรเผยเกล็ด


ฉิวชางเจี้ยนรู้สึกถูกข่มขู่จากแววตาของเซี่ยจิงหยู เขาตระหนกเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า

“ใช่แล้ว มีเพียงสิบศิษย์สวรรค์เท่านั้นที่จะถูกพาไปด้วย”

มีแค่สิบศิษย์สวรรค์ที่จะถูกพาไปด้วยงั้นรึ? เซี่ยจิงหยูเต็มไปด้วยความหวัง

“ข้าจะร่วมการประลองวายุ”

แววตาสดใสของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ฉิวชางเจี้ยนตัวสั่นเล็กน้อย เขารู้สึกได้ถึงพลังอันซ่อนเร้นที่เซี่ยจิงหยูเติมเต็มให้กับห้องนี้

หลงเสี่ยวยี่มิอาจทนดูได้

“จิงหยู เจ้าเพิ่งจะฟื้นตัวจากการบาดเจ็บรุนแรง ข้าแนะนำว่าเจ้ามิควรเข้าร่วมประลองนะ”

นางกระซิบ

เซี่ยจิงหยูเดินออกไปจากห้อง นางเงยหน้ามองท้องนภาที่เต็มไปด้วยหิมะ

ภายใต้หิมะโหมกระหน่ำ ดวงตาของนางเริ่มมีน้ำเอ่อล้น

“ข้าต้องไป...นั่นเป็นความปรารถนาสุดท้ายของซือหยู ข้าจะต้องไปยังหุบเขาเฟิงหวงแทนส่วนของเขาและบอกเซี่ยนเอ๋อว่าเขาต่อสู้เพื่อนางจนวาระสุดท้ายของชีวิต”

ร่างอันเดียวดายของนางปกคลุมไปด้วยหิมะ หลงเสี่ยวยี่รู้สึกว่างเปล่า

เซี่ยจิงหยูมิหลงเหลือจิตใจอีกแล้ว….

การประลองวายุจะแบ่งเป็นสองส่วน

นั่นคือการประลองระหว่างว่าที่ศิษย์สวรรค์และการจัดอันดับของสิบศิษย์สวรรค์

การประลองจะจัดที่หน้าโถงใหญ่ของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์

เซี่ยจิงหยูฝ่าหิมะมายังที่ประลอง ดวงตานางสะท้อนเกล็ดหิมะที่เติมเต็มท้องนภา

นางงดงามราวกับเจ้าหญิงหิมะ แต่นางก็ดูเอื้อมไม่ถึง ราวกับรูปปั้นน้ำแข็งที่เยือกแข็งทั้งกายใจ

เรื่องของซือหยูกระจายไปทั่วในบรรดาว่าที่ศิษย์สวรรค์

เขาฝังตัวเองกับราชันย์เพชรฆาต มันทั้งน่ายกย่องและน่าเสียดาย

เซี่ยจิงหยูเข้าต่อสู้กับราชันย์เพชรฆาตกับซือหยู...แต่ในตอนนี้เหลือนางเพียงผู้เดียว...ที่อยู่รอด

นางจะต้องอยู่คนเดียวนับแต่นี้เป็นต้นไป

แกร่ง--

เสียงระฆังสวรรค์ดังอีกครั้ง การประลองของเหล่าว่าที่ศิษย์สวรรค์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ประตูโถงราชันย์ศัดิ์สิทธิ์ยังไม่เปิด...แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์กำลังมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

การประลองของเหล่าว่าที่ศิษย์สวรรค์จะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ใครที่ชนะทุกคนจะได้เป็นราชาแห่งว่าที่ศิษย์สวรรค์

ฉิวชางเจี้ยนคือผู้ดูแลการประลองนี้

เขาคว้าชื่อในกล่องด้วยท่าทางงุนงง

“เซี่ยจิงหยู ขึ้นมาที่ลานประลอง!”

ฟึ่บ--

นางบินขึ้นมายังลานประลองอย่างรวดเร็ว

ตัวตนอันงดงามเช่นนางช่างขัดกับหิมะที่ปกคลุมกาย ความเยือกเย็นของนางนั้นไร้เมตตาต่อผู้ใด

“ผู้ประลองจะเลือกตามลำดับท้ายสุดสู่สูงสุด หลังจากชนะแล้วพวกเจ้าจะพักได้ครึ่งชั่วยาม”

ฉิวชางเจี้ยนประกาศกฎ

“การประลองแรก!”

ผู้ท้าชิงคนแรกคือลำดับที่หนึ่งร้อยเอ็ด เขามีพลังระดับห้าขั้นกลาง

“ข้ายอมแพ้”

“การประลองต่อไป!”

“ข้าขอยอมแพ้”

เซี่ยจิงหยูมีพลังระดับเจ็ดขั้นกลาง นางเป็นผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นทำให้พวกที่เป็นระดับต่ำยอมแพ้ทั้งหมด

มีเพียงว่าที่ศิษย์สวรรค์สิบลำดับแรกเท่านั้นที่จะประลองกับเซี่ยจิงหยู

“ศิษย์น้องจิงหยู...ข้ามิใช่คู่แข่งของเจ้า ข้าขอยอมแพ้”

ศิษย์พี่หลิวที่เป็นลำดับสิบประสานมือและถอยกลับ

ชางหมิงยี่ลำดับเก้าตายในป่าอสูร

ฟึ่บ---

ลิ่วตง ลำดับแปด...ระดับเจ็ดขั้นต้น

“ข้าจะสู้กับเจ้า!”

ลิ่วตงเลียริมฝีปากและมองความงามที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ของเซี่ยจิงหยู ดวงตาเขาแสดงความหลงใหล

แม้เขาจะสู้นางไม่ได้ เขาก็ยินดีที่จะประลองกับสาวงาม

เซี่ยจิงหยูยืนนิ่งบนลานประลอง นางไม่ขยับแม้แต่น้อย

ไหล่นางปกคลุมด้วยหิมะที่ทำให้ผมนางเป็นสีขาว

และนางก็เริ่มเคลื่อนไหว!

นางยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ดัชนีของนางสะบัดเพียงเล็กน้อย...คลื่นพลังปราณถูกยิงออกไป

อ๊าก---

ลิ่วตงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะลอยออกจากลานประลอง

นางยังคงสุขุมเยือกเย็นราวกับขุนพลมากประสบการณ์ นางค่อยๆลดดัชนีลง

ฟึ่บ---

“ลำดับเจ็ด ชางเสี่ยวหัว...ขึ้นลานประลอง!”

เซี่ยจิงหยูยกดัชนี

อ๊ากกกก----

“ลำดับหก ยางหลิง...ขึ้นลานประลอง!”

เซี่ยจิงหยูยกดัชนี

อ๊าาา---

ตู้หลิน ลำดับห้า ตายในป่าอสูร

“ลำดับสี่ จางเตี๋ยน!”

จางเตี๋ยนมีพลังระดับเจ็ดขั้นสูง อีกก้าวเดียวก่อนที่เขาจะได้เป็นระดับแปด!

นางบินขึ้นลานประลอง จางเตี๋ยนยืนมือไพล่หลัง นางมิอาจทนต่อความริษยาในความงามของเซี่ยจิงหยูได้

“ศิษย์น้องเซี่ยนับว่าแข็งแกร่งนัก ศิษย์พี่จะต่อให้เจ้าสามกระบวนท่า”

จางเตี๋ยนหัวเราะ นางมีพลังระดับเจ็ดขั้นสูงซึ่งมากกว่าเซี่ยจิงหยูที่มีพลังระดับเจ็ดขั้นกลาง

เซี่ยจิงหยูส่ายหัวอย่างไม่ใยดี

“ไม่จำเป็น กระบวนท่าเดียวก็เอาชนะเจ้าได้แล้ว”

นางมิได้เหยียดหยามเซี่ยจิงหยูล้มเหลวเท่านั้น แต่เซี่ยจิงหยูกลับเหยียดหยามนางกลับ จางเตี๋ยนเกรี้ยวกราด

“พลังเจ้ามิได้เหมาะสมเลย...เจ้าก็แค่ใช้รูปลักษณ์เจ้ายั่วยวนผู้คนเก่งเท่านั้น ว่ากันว่าศิษย์น้องซือหยูโดนเจ้าล่อลวงและยอมตายเพราะเจ้า”

นางพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

เซี่ยจิงหยูสั่นเล็กน้อย แววตาอันสง่างามของนางลุกเป็นไฟ

นางมิได้โต้แย้งหรือแก้ตัว นางมิได้มีสิ่งใดจะกล่าว

ซือหยู...เขา...ตายเพื่อนาง

ความจริงนี้จะหลอกหลอนนางไปตลอดกาล

จางเตี๋ยนย่ามใจ

“ศิษย์น้องซือหยู...ถูกสตรียั่วยวนจนตัวตาย พูดให้ดี เขาคือผู้ที่ให้ความสำคัญกับสัมพันธ์อย่างยิ่งยวด แต่จะให้พูดตรงๆ เขามันก็แค่คนโง่”

นางหัวเราะ

ฉิวชางเจี้ยนขมวดคิ้วและข่มความไม่พอใจเอาไว้ ความตายของผู้คนนั้นมิอาจถูกล่วงเกินได้ จางเตี๋ยนพูดจาล้ำเส้นกับซือหยูเกินไป

แต่การประลองนี้ก็มิอาจถูกล่วงเกินได้เช่นกัน...เขาไม่มีสิทธิ์แทรกแทรง

แม้เขาจะเป็นฝ่ายถูก ก็ไม่เหมาะที่เขาจะทำเช่นนั้น

จางเตี๋ยนนั้นเป็นคนรักของศิษย์สวรรค์ลำดับแปด หลิวชิง

แต่ก่อน จางเตี๋ยนนั้นมีพลังอยู่ในระดับธรรมดา แต่นางก็น่ารัก...และเมื่อนางได้พบกับหลิวชิง นางก็เป็นคู่ครองของหลิวชิงเพื่อเพิ่มฐานะทางสังคม

ด้วยแรงสนับสนุนจากหลิวชิง ไม่มีใครกล้าทำให้นางไม่พอใจ แม้แต่หลงเสี่ยวยี่ก็เลี่ยงนาง

ในลานประลองนี้ แสงอันเย็นชาสะท้อนผ่านดวงตาเซี่ยจิงหยู

ความโกรธและจิตสังหารถูกเปล่งออกมาอย่างช้าๆ

“ใครที่กล้าดูหมิ่นพี่หยู...ต้องตาย!”

นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดตั้งแต่อยู่บนลานประลอง

หากเป็นนางเองที่โดนดูหมิ่น เซี่ยจิงหยูจะไม่สนใจเลย แต่การดูหมื่นซือหยูคือจุดอ่อนของนาง เป็นเรื่องเปราะบางในภายนอกที่เยือกเย็น

มังกรที่เกล็ดร่วงหล่นจนเผยจุดอ่อนจะสังหารทุกคนที่กล้าสัมผัสจุดนั้น

ความป่าเถื่อนเหล่านี้ได้ออกมาจากตัวตนอันงดงามที่เงียบสงบมาโดยตลอด...เซี่ยจิงหยู!

ฉิวชางเจี้ยนกับหลงเสี่ยวยี่ตกตะลึง...เซี่ยจิงหยู...นางเปลี่ยนไปแล้ว

รังสีอำมหิตล้อมรอบกายนาง

“ข้าดูหมิ่นเขาแล้วมันจะทำไม ฆ่าข้าสิถ้าเจ้าทำได้..นังจิ้งจอก!”

จางเตี๋ยนหัวเราะอย่างเย็นชา

ฟึ่บ--

“ให้ศิษย์พี่ดูหน่อย นอกจากรูปลักษณ์เจ้า...จะมีอะไรให้เจ้าภูมิในนักหนา! ผนึกยอดสิงขร!”

ฝ่ามือของจางเตี๋ยนราวกับผีเสื้อ ขณะที่ลอย ภาพลวงตาของยอดเขาก็ปรากฏไปทั่ว ทุกคนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากเทือกเขาเหล่านั้น

“วิชาระดับสวรรค์ขั้นสาม!”

เซี่ยจิงหยูยังคงนิ่งราวกับน้ำแข็ง ดวงตาของนางมิได้หวาดกลัวกระบวนท่าอันน่ากลัวนี้เลย แต่กลับเป็นจิตสังหารที่บดบัดสายตานาง

“ใครที่กล้าดูหมิ่นพี่หยู...ต้องตาย!”

เสียงอันเยือกเย็นแหบพร่าของนางดังสะท้อนไปทั่ว

ฟึ่บ--

เซี่ยจิงหยูใช้เปลี่ยนแปลงร่างกายและปกคลุมโดยรอบด้วยขอบเขตธรรมชาติ

“ฎีกาสวรรค์ระดับเทพ!”

ฉิวชางเจี้ยนตกตะลึง เซี่ยจิงหยูสำเร็จฎีกาสวรรค์จนถึงระดับของศิษย์สวรรค์แล้วงั้นเช่นนั้นหรือ?

“ดัชนีบุพผา!”

เซี่ยจิงหยูยกดัชนีชี้ไปข้างหน้าด้วยสายตาเย็นชา

พุฟ--

อ๊าก---

จางเตี๋ยนที่เคยหัวเราะอย่างเย็นชารู้สึกถึงอกที่แตกร้าว คลื่นโลหิตไหลออกมาจากร่างของนาง

“ข้ายอมแพ้!”

จางเตี๋ยนหนาวเย็นไปถึงกระดูก หากพลังดัชนีลึกกว่านี้อีกไม่กี่หุน หัวใจของนางจะแตกเป็นเสี่ยงๆ!

ฟึ่บ--

จางเตี๋ยนถอยกลับและกำลังจะกระโดดออกจากลานประลอง

...แต่นางมิอาจลงไปได้

แม้จางเตี๋ยนจะยอมแพ้ไปแล้ว เซี่ยจิงหยูก็ยังไล่ตามนางอย่าไม่หยุดหย่อน...แม้นางจะอยู่ในเขตประลอง...ที่ห้ามมีการบาดเจ็บร้ายแรงและสังหารผู้ใด

“ตาย! ตาย! ตาย!”

ใบหน้าโอบอ้อมอารีของนางได้จากไปแล้ว นางเป็นเทพีอันเยือกเย็นที่เต็มไปด้วยจิตแค้นสังหาร

พุฟ พุฟ พุฟ--

ดัชนีทั้งห้าชี้ออกไปพร้อมกัน ร่างของจางเตี๋ยนเกิดแผลมากกว่าสิบรูในทันที! โลหิตของนางมากกว่าเจ็ดในสิบส่วนกระจายไปทั่วพื้นลานประลอง

แม้นางจะไม่ตาย...นางก็จะเสียพลังของนางไปอยู่ดี!

แต่เซี่ยจิงหยูก็มิได้แสดงท่าทีจะหยุด นางกลับโจมตีต่อด้วยความตั้งใจที่จะฆ่า!

แม้นางจะไม่บรรลุเป้าหมาย...นางก็จะไม่หยุด

“ฮื่ม!”

เสียงอันเย็นชาดังก้องไปทั่วโถงราชันย์!

เซี่ยจิงหยูคำรามและพ่นเลือดออกมาจากปาก

พลังฎีกาสวรรค์ที่ล้อมรอบนางสลายไป

เอี๊ยด--

ประตูศิลาค่อยๆเปิดออก

ชายแก่ที่นั่งไขว้ขาจ้องเซี่ยจิงหยูถมึงทึง

ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว!

เซี่ยจิงหยูจ้องกลับไปอย่างเยือกเย็น

เซี่ยจิงหยูมิได้เกรงกลัวสายตาของราชันย์...ที่แม้แต่ศิษย์สวรรค์ก็มิกล้ามอง

“เจ้าชิงชังข้างั้นรึ?”

ดวงตาของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นมองทะลุทุกสิ่งและเห็นแววตาเกลียดชังของเซียจิงหยู

“ใช่!”

เซี่ยจิงหยูมิได้ซ่อนเร้นความชิงชังในหัวใจ

“ที่ข้าหยุดเจ้าน่ะรึ?”

เซี่ยจิงหยูส่ายหัวอย่างโกรธแค้น

“มิใช่! แต่เพราะเจ้าทำให้ซือหยูต้องตาย!”

หากไม่ใช่เพราะการกดดันของราชันย์ ซือหยูจะไม่มีทางเอาตัวไปเสี่ยงขนาดนั้นในป่าอสูร...เขาอาจจะยังมีชีวิตรอด!

“เจ้าอยากฆ่าข้างั้นรึ?”

ดวงตาของราชันย์ยังคงสุขุมเยือกเย็นเช่นทุกครั้ง

“หากข้ายังไม่ตาย วันนึง ข้าจะมาเอาชีวิตเจ้า! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใด!”

ดวงตาของเซี่ยจิงหยูคมกริบ แม้นางจะร่างเล็กและไม่น่ากลัว แต่น้ำเสียงของนางนั้นประกาศความตั้งใจอย่างชัดเจน นักรบหลายพันคนยังต้องกลัวนาง

ทั้งโถงประลองตกอยู่ในความวุ่นวายก่อนจะกลับมาเงียบกริบ

ตั้งแต่ครั้งโบราณ...มีเพียงผู้เดียวที่เคยข่มขู่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์...และนางมีนามว่าเซี่ยจิงหยู

“ข้ามีส่วนทำให้เขาตาย”

ราชันย์มิได้โกรธอย่างที่ทุกคนคิด แต่เขากลับมองจำนวนว่าที่ศิษย์สวรรค์ที่ลดลง ลึกในดวงตาเขาเสียใจอย่างแท้จริง

“เจ้าจะชิงชังข้า สังหารข้า ทำอะไรก็ได้ที่เจ้าอยาก...หากจะมีวันที่เจ้าทำเช่นนั้นได้”

เขาค่อยๆหลับตาและประกาศอย่างไม่คิดอะไร

“ประลองต่อไป!”

ทุกคนพูดไม่ออก!

เซี่ยจิงหยูได้ละเว้นกฎลานประลองและตั้งใจสังหารอย่างเห็นได้ชัด

ราชันย์สวรรค์...คาดไม่ถึง...เขาไม่คิดอะไรกับเรื่องนี้!

บางทีราชันย์ศักดิ์สิทธิ์อาจจะขอโทษเซี่ยจิงหยู บางทีเขาอาจจะรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่อการตายของซือหยู

เซี่ยจิงหยูมองไปทางอื่นและจ้องมองท้องนภา

“คนต่อไป!”

ฟึ่บ--

หลงเสี่ยวยี่บินขึ้นมายังลานประลอง

พลังระดับแปดขั้นสูงมิใช่อะไรที่เซี่ยจิงหยูจะมีหวังชนะได้

“จิงหยู อย่าเป็นเช่นนี้เลย คนตายมิอาจฟื้นคืน...เจ้าต้องดูแลตัวเอง”

หลงเสี่ยวยี่ทนเห็นเซี่ยจิงหยูเป็นแบบนี้ไม่ได้

เซี่ยจิงหยูมองนางด้วยความอ่อนโยนเล็กน้อย แต่เสียงของนางก็ยังคงเยือกเย็นและแหบพร่า

“เจ้าไม่เข้าใจ”

นางต้องเติมเต็มความปรารถนาของซือหยู นางต้องไปพบเซี่ยนเอ๋อ และใช้หัวใจในการส่งคำสั่งเสียของเขา…

เซี่ยจิงหยูยินดีที่จะแลกชีวิตนางในการเติมเต็มความปรารถนาของซือหยู!

“งั้นก็เริ่มกันเถอะ!”

หลงเสี่ยวยี่เห็นใจนาง...แต่มิอาจยอมเสียสิทธิ์ในการเป็นศิษย์สวรรค์

มีเพียงราชาว่าที่ศิษย์สวรรค์เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เป็นศิษย์สวรรค์

ปีที่แล้ว...นางล้มเหลว ปีนี้คือความหวังสุดท้ายของนาง

เซี่ยจิงหยูหยิบโอสถวิญญาณออกมาห้าขวดในพริบตา มันเป็นโอสถวิญญาณที่ซือหยูให้นางก่อนตาย

นางดื่มมันรวดเดียว พลังบ่มเพาะของนางค่อยๆเพิ่มขึ้น นางเตรียมจะบรรลุพลังบนลานประลอง

หลงเสี่ยวยี่ตกตะลึง แต่ก็พยักหน้า

“ข้าจะรอจนเจ้าบรรลุพลัง”

“ไม่จำเป็น”

เซี่ยจิงหยูส่ายหัว

หลงเสี่ยวยี่ทำอะไรไม่ได้ แม้เซี่ยจิงหยูจะบรรลุพลังเป็นระดับเจ็ดขั้นสูงก็ยังสู้นางไม่ได้อยู่ดี

“เช่นนั้น...ศิษย์น้องเซี่ย...ระวังตัวด้วย”

หลงเสี่ยวยี่ถอนหายใจ

“ข้าต้องการเช่นนั้น”

ฟึ่บ--

รอบกายหลงเสี่่ยวยี่หยั่งลึกไปกับธรรมชาติ มองจากไกลๆจะพบว่านางมิต่างกับฟ้าดินเลย

“ฎีกาสวรรค์ระดับสวรรค์! หลงเสี่ยวยี่สำเร็จฎีกาสวรรค์ขั้นนี้แล้วรึ!”

เหล่าผู้ชมตกตะลึงกับวิชาลับที่หลงเสี่ยวยี่ซ่อนเร้นเอาไว้

“หลงเสี่ยวยี่เก่งกว่าปีที่แล้วยิ่งนัก หากนางบรรลุพลังไปอีกขั้นนางอาจจะได้เป็นศิษย์สวรรค์ก็ได้”

ฉิวชางเจี้ยนแอบอุทาน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด