ตอนที่แล้วตอนที่ 451 ฉิน เทียนซิ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 453 สวัสดี ชื่อของผมคือหลิน ฮวง

ตอนที่ 452 โตขึ้น


หลิน ฮวงได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงาน16คนก่อนเริ่มปฐมนิเทศ ด้วยความทรงจำเขา เขาสามารถจำชื่อได้ทุกคนเพราะมันจะยุ่งยากหากเขาเรียกชื่อผิดในอนาคต การปฐมนิเทศเริ่มตอน9โมงตรง คนแรกที่จะพูดคือคณบดีหวัง เขาพูดเกี่ยวประวัติสถาบันรวมถึงผู้มีชื่อเสียงที่จบจากสถาบัน คนที่สองคือคณบดีจาง

พวกเขาไม่ได้พูดนานนัก ทั้งคู่เพียงพูดไม่ถึง20นาที ต่อมาเป็นการพูดโดยผู้อำนวยการสำนักทะเบียน หลี่ เฟิง เขาพูดถึงการจัดการสถาบันและสิ่งหลักๆที่นักเรียนควรจำไว้ เขาพูดจบในเวลาไม่ถึงสิบนาที คนที่พูดนานคือผู้อำนวยการฝ่ายวิชาวัฒนธรรม บางที เขาอาจจะใช้เวลาสามชั่วโมงในการบรรยาย ดังนั้นเขาจึงพูดครึ่งชั่วโมง ซึ่งนานกว่าสามคนก่อนหน้ารวมกันเสียอีก เขาเพียงหยุดพูดหลังเลขาเตือนเขา

ในที่สุด มันก็เป็นตัวแทนนักเรียนที่ชื่อมู่ เสี่ยว เขาคือหนึ่งในนักเรียนที่ได้คะแนนเต็มในการสอบของเขต7 และยังเป็นหนึ่งในสามคนที่ถูกเลือกให้เข้าสถาบันนักล่ายุทธ์ทันที ทุกคนต่างสนใจมู่ เสี่ยวเมื่อเขาเดินขึ้นเวที

“สวัสดี ทุกคน ชื่อของฉันคือมู่ เสี่ยว ฉันคืออันดับ1ท่ามกลางนักเรียนใหม่ทุกคนในสถาบัน ฉันตั้งใจจะอยู่ในจุดนี้จนกว่าจะจบการศึกษา คนอื่นสามารถต่อสู้เพื่อแย่งชิงที่สองไปกันได้”

“เป้าหมายของฉันคือการเป็นผู้หลุดพ้นภายในสามปีและกลายเป็นผู้หลุดพ้นรุ่นเยาว์ที่สุดในเขต7!ฉันอยากเป็นภูเขาทีท่นักเรียนทุกคนในสถาบันนักล่ายุทธ์ไม่อาจก้าวข้ามได้นับร้อยปี!”

มู่ เสี่ยวเดินออกจากเวทีอย่างน่ารังเกียจหลังคำพูด หลิน ฮวงยิ้มเมื่อได้ยินเป้าหมายของเขา

“คนหนุ่มช่างเต็มไปด้วยพลัง!”

“หลิน ฮวง นายจะใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อบรรลุทองสมบูรณ์?”มู่ เสี่ยวหลานที่อยู่ไม่ไกลถามเขาด้วยรอยยิ้ม

“น่าจะหนึ่งเดือน”หลิน ฮวงยิ้มให้เธอ

“งั้น ความฝันของเด็กนั่นคงพังไม่เป็นท่า แม้ว่าเขาจะบรรลุเพลิงสวรรค์ได้ในสามปี เขาก็คงเป็นอันดับ2”มู่ เสี่ยวหลานหัวเราะขณะที่ปิดปาก

“มันเป็นความทะเยอทะยานที่ดี”หลิน ฮวงสามารถบอกได้ว่ามู่ เสี่ยวหลานอายุแค่15 แต่เขาก็อยู่ในระดับทองแดงขั้น1แล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะทำตัวอย่างนั้น

“เด็กนี้อยู่ในแผนกเคนโด้ ดูเหมือนว่าแผนกนั้นจะนำหน้าเราในปีนี้”ฉิน เทียนซิ่งส่ายหัว

หลิน ฮวงเพิ่งตระหนักว่าการแข่งขันระหว่างแผนกจะดุเดือนกว่าที่เขาคิด หลังคำพูดของมู่ เสี่ยว การปฐมนิเทศก็จบลง นักเรียนและอาจารย์ค่อยๆถยอยเดินออกไป

“หลิน ฮวง คืนนี้มีงานเลี้ยงมื้อค่ำ แต่อาจารย์ที่ไม่ต้องการก็สามารถไม่เข้าร่วมได้”ฉิน เทียนซิ่งเตือนเขา

“งั้นผมจะไม่เข้าร่วม ขอให้สนุกนะครับ ผมจะเตรียมเนื้อหาการสอนของผม”หลิน ฮวงปฏิเสธตรงๆ

“ได้สิ สนใจเนื้อหาการสอนนายเถอะ งั้นฉันจะไม่รบกวนนายละ”ฉิน เทียนซิ่งรู้ว่าอาจารย์ที่สอนเป็นครั้งแรกจะกระวนกระวายใจเพราะเขาเคยมีประสบการณ์มาก่อน

“ชั้นเรียนของนายจะเป็นศุกร์หน้าตอนบ่าย ใช่ไหม?ฉันจะไปนั่งดู”ฉิน เทียนซิ่งกล่าว

“ครับ!”หลิน ฮวงรู้ว่าฉิน เทียนซิ่งเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สามารถสอนได้ เขาอาจวางแผนจะช่วยเขาเมื่อเหตุนั้นเกิดขึ้น

เมื่อฉิน เทียนซิ่งตากไป หลิน ฮวงก็เห็นหลิน ซินกำลังวิ่งมาหาเขา

“ไง น้องเจอเพื่อนร่วมห้องยัง?”หลิน ฮวงยิ้ม

“หนูคิดว่านะ มีคนเยอะเกินในชั้นเรียน มีทั้งหมด200คน มันดีแล้วที่หนูจำชื่อบางคนได้”

“มันเป็นวันแรก น้องควรจะยังไม่มีชั้นเรียน ใช่ไหม?”หลิน ฮวงถาม เขาเพิ่งรู้ว่าต้องสอนวันศุกร์ แต่เขาไม่รู้เกี่ยวกับนักเรียนและอาจารย์คนอื่น

“ชั้นเรียนจะเริ่มอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ เช้านี้เป็นแค่การปฐมนิเทศและลงทะเบียนรหัสนักเรียนและย้ายไปในหอพักตอนบ่าย ปี1และปี2จะไม่มีสิทธิ์พักนอกโรงเรียน ดังนั้นหนูจะไปหอพี่ตอนบ่ายเพื่อขนย้ายของหนู”หลิน ซินตื่นเต้นเพราะมันเป็นครั้งแรกของเธอ เธอเคยพักแต่ในบ้านและไม่เคยอยู่กับเด็กคนอื่นในหอพัก ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลิน ฮวงยังสอนอยู่ที่สถาบัน เธอสามารถเห็นเขาได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการ ดังนั้นมันจึงไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก

อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงกลับรู้สึกเศร้าใจเพราะมันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังปล่อยลูก แม้เขาจะเป็นนักเดินทาง หลิน ซินก็กลายเป็นสมาชิกครอบครัวเขาจริงๆ

“ไม่ต้องกังวลหรอกคะ หนูจะดูแลตัวเอง เนื่องจากพี่เองก็อยู่ในสถาบัน หนูจะเรียกพี่ทันทีหากมีใครแกล้งหนู”หลิน ซินปลอบเขาเพราะเธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์เขา

“หากมีใครกล้ารังแกน้อง พี่ไม่สนว่ามันจะเป็นใคร พี่จะทำให้พวกมันต้องชดใช้”หลิน ฮวงกล่าวอย่างจริงจัง

“เอาละงั้น ไปรับรหัสนักเรียนน้องเถอะ พี่จะช่วยน้องย้ายของตอนบ่าย”หลิน ฮวงลูบหัวหลิน ซินขณะยิ้ม

“ไม่เป็นไรคะ พี่ไปเตรียมการสอนพี่เถอะ หนูมีของไม่มาก หนูแค่ต้องโยนพวกมันลงในช่องเก็บของหนู”หลิน ซินโบกมือ

“หนูไปแล้วนะ!”หลิน ซินวิ่งและไปต่อแถว

“หลิง เสวี่ย นั่นใครนะ?”เด็กสาวร่างสูงถามหลิน ซิน

หลิง เสวี่ยคือชื่อที่หลิน ฮวงสร้างไว้ให้เธอเมื่อพวกเขาไปเมืองหิมะครึ่งปีก่อนเพื่อหลบหนีพวกอีกาม่วง หลิน ซินจึงใช้ชื่อนี้เข้าไปในสถาบันนักล่ายุทธ์

“เขาหล่อมาก!”เด็กสาวสองคนข้างเธอกล่าวออกมา

หลิน ฮวงยืนอยู่กับที่ขณะที่เฝ้าดูหลิน ซินจากไป เขาตั้งเวลาบนแหวนหัวใจจักรพรรดิเขาและตรงไปหอสมุด หลังจากอ่านอยู่กว่าชั่วโมง เสียงนาฬิกาเขาก็ดังตอน11โมงครึ่ง หลิน ฮวงปิดนากาและมุ่งไปหอพัก เขาหยุดเดินเมื่ออยู่ไม่ไกลจากหอพักเพราะเขาสามารถเห็นใครบางคนกำลังขนย้ายของในหอผ่านหน้าต่างบนชั้นสอง

หลิน ซินดูเหมือนจะเก็บของและทำความสะอาดเสร็จแล้ว หลิน ฮวงคิดเกี่ยวกับมันและยืนอยู่กับที่ขณะแอบมองหลิน ซินจากหน้าต่าง เธอกำลังยิ้ม และหลิน ฮวงสามารถสัมผัสได้ว่าเธอกำลังฮัมเพลงเหมือนปกติ ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลิน ซินก็ดูเหมือนจะจัดการทุกอย่างเสร็จและเปิดประตู หลิน ฮวงรีบหลบหลังต้นไม้ทันที หลิน ซินกวาดตามองรอบๆ ดูเหมือนจะผิดหวัง เธอปิดประตูและเดินช้าๆไปตามทางใต้ต้นไม้

หลังจากนั้นไม่นาน หลินฮวงก็กระโดดจากต้นไม้และมองตามหลิน ซินไป จากนั้นก็ตรงไปหอพักหลังเธอหายไป หอพักสะอาด แม้กระทั่งห้องนั่งเล่นที่มักเละเทะก็ถูกจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว หลิน ฮวงเดินตรงไปชั้นสอง นอกจากเฟอร์นิเจอร์ ทุกสิ่งในห้องหลิน ซินล้วนถูกย้ายออกไป เมื่อมองตู้เสื้อผ้าที่ว่างเปล่าและโคมไฟเล็กๆบนโต๊ะที่หลิน ซินชอบมากที่สุด ซึ่งตอนนี้ได้หายไปแล้ว

เขาเดินออกจากห้องเธอและไปห้องเขา ซึ่งถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว มีโน้ตอยู่บนหัวเตียง เขารีบเดินไปและมองโน้ตนั้น

“พี่คะ หนูจะเรียนรู้การอยู่ด้วยตัวคนเดียวนับจากนี้ หนูจะดูแลตัวเองโดยไม่ให้พี่ต้องคอยกังวล ดูแลตัวเองด้วยนะคะ กินเมื่อถึงเวลา และพักเมื่อถึงเวลา อย่าลืมเวลาตอนพี่ฝึกละ”หลิน ซินเขียนข้อความลงบนกระดาษด้วยลายมือสวยงาม

“เธอโตขึ้นแล้วจริงๆ....”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด