DND.83 - สายเลือดแห่งวิหคเพลิงเก้าหาง
“หนีเร็ว!”
ซือหยูตะโกนใส่หลงเสี่ยวยี่และวิ่งอย่าเอาเป็นเอาตายไปยังตีนเขา มีเชือกสองเส้นที่ทำจากเถาวัลย์เตรียมเอาไว้แล้ว
หากปีนเชือกนั้นจะขึ่นจากหุบเขาและหนีออกไปได้ เชือกอีกเส้นแต่เดิมถูกเตรียมไว้ให้เซี่ยจิงหยู แต่ตอนนี้มันต้องใช้เพื่อรักษาชีวิตของหลงเสี่ยวยี่
หลงเสี่่ยวยี่รู้สึกยินดีและคว้าเชือกเอาไว้ นางใช้วิชาตัวเบาของนางปืนขึ้นกำแพงหินอย่างรวดเร็ว
ความตกใจในใจของนางมิอาจบ่งบอกเป็นคำพูด
ไม่เพียงแต่ซือหยูจะวางกับดักไว้สามชั้น...เขายังเตรียมทางหนีไว้อีกด้วย!
ความคิดอ่านล้ำลึกของซือหยูและความที่ยังใจเย็นอยู่ได้นั้นยอดเยี่่ยมมาก!
ซือหยูปีนกำลังเถาวัลย์อย่างรวดเร็ว...และเขาไม่ได้เยือกเย็นเลย
พิรุณพิษเข้มข้นนั้นคือโลหิตของอสูรเก้าพิษ
ซือหยูฝังร่างอสูรเก้าพิษไว้ใต้พื้นดินและพันไว้อย่างแน่นหนาด้วยไหมพันมังกร หากกลไกทำงาน ไหมพันมังกรจะแน่นขึ้นและซากศพมิอาจทนได้แน่นอน...นั่นจะทำให้เกิดระเบิดพิรุณโลหิตพิษ!
และมันยังเป็นกับดักใต้ดิน ซือหยูมิต้องกังวลว่ามันจะเสื่อมผลเลย
แต่ซือหยูก็ไม่มั่นใจว่าโลหิตนั้นจะสังหารราชันย์เพชรฆาตได้
เพราะยังไงสามกับดักนั้นก็ถูกออกแบบมาเพื่อสังหารระดับแปดขั้นกลางหรือสูงเท่านั้น ซือหยูมิได้เตรียมพร้อมกับศัตรูระดับเก้าเลย!
“ซือหยู ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เสียงอันโกรธเกรี้ยวของราชันย์เพชรฆาตดังก้องไปทั้งหุบเขา!
ตามคาด...เขายังไม่ตาย!
ฟึ่บ--
ร่างกายอันน่าขยะแขยงปีนผาอยู่ด้านหลังซือหยูพร้อมกลิ่นอายของความตายและความเน่าเฟะ
มือทั้งสองของเขาถูกกร่อนไปจนหมด เหลือไว้เพียงกระดูกนิ้วเคลือบโลหิตสีแดงฉาน
กระดูกนิ้วของเขาราวกับเหล็กกล้า มันตัดผ่านหินราวกับเฉือนเนื้อ เขาจิกแทงหน้าผาและปืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดวงตาทั้งสองที่ถูกกัดกร่อนมองซือหยูอย่างอาฆาตแค้น!
ซือหยูรู้สึกตัวเบาขึ้นเมื่อใช้วิชาเงาลอยล่องอย่างเต็มที่!
แม้ราชันย์เพชรฆาตจะตายในอีกไม่นานด้วยพิษร้าย พลังของเขาก็ยังคงเหลือล้น!
ซือหยูในตอนนี้เทียบความเร็วของราชันย์เพชรฆาตไม่ได้เลย!
ฉึก--
ตู้ม--
ราชันย์เพชรฆาตไล่ตามทันและคว้าข้อเท้าของซือหยูด้วยกรงเล็บกระดูกที่เต็มไปด้วยพิษร้ายไว้ได้
“ถึงข้าจะตาย...เจ้าก็ต้องตายไปข้าด้วย! ด้วยสตรีของเจ้า...ข้าจะหานางได้เจอ...แล้วสังหารทิ้งเสีย!”
ราชันย์เพชรฆาตตะโกนและพ่นโลหิตออกจากปาก
ซือหยูจะไปหลบมือของระดับเก้าขั้นกลางได้อย่างไร?
อ๊าก----
โลหิตพิษของอสูรเก้าพิษสัมผัสเข้ากับข้อเท้าของซือหยูและกัดกร่อนผิวหนังทันที...ควันขาวกลิ่นฉุนโชยออกมา!
กรงเล็บกระดูกนั้นแข็งแกร่ง มันกำแน่นจนกระชากเถาวัลย์ในมือซือหยูขาด
ซือหยูร่วงหล่นสู่พื้นจากความสูงสามร้อยศอก
ขามองผืนนภากว้างใหญ่ที่ห่างไกลตัวเขาเรื่อยๆ เหล่าเมฆาบนผืนนภาดูสุขสงบ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ซือหยูรู้สึกขมขื่น ความตายไล่ตามเขาทันแล้วสินะ…
คิดย้อนกลับไป เขาเริ่มจากศิษย์ระดับเงินอันต่ำต้อย และจบชีวิตลงในฐานะของศิษย์วิหารสวรรค์ ทั้งหมดเกิดขึ้นในไม่กี่เดือน
...แต่มันก็เพียงพอแล้ว
เขามีพ่อตาเป็นดยุคเซี่ยนหยูที่เขาติดหนี้ชีวิตด้วย...และยังมีสหายที่ยอดเยี่ยมอย่างองค์ชายสาม เขายังมีสตรีอีกสองคนที่ไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต คือฉินเซี่ยนเอ๋อที่เป็นคู่หมั้น และเซี่ยจิงหยู...คู่แท้
ชีวิตนี่ยิ่งกว่าถูกเติมเต็ม...แต่ซือหยูยังเสียใจมากนัก
เขาจะไม่ได้เห็นเซี่ยนเอ๋อด้วยตาของเขาอีก...เขาทำได้แค่ให้จิงหยูพบนางแทนเขา
ซือหยูร่วงหล่นจากผา หลงเสี่ยวยี่มองอย่างตกใจ ราชันย์เพชรฆาตหัวเราะ
“ฮ่าๆๆ ข้าจะหาผู้หญิงของเจ้าให้พบและสังหารนางซะ ให้นางตายไปพร้อมเจ้า!”
จิงหยู!
หากเซี่ยจิงหยูตามรอยเท้าของซือหยูไป การได้พบจิงหยูที่หมดสตินั้นเป็นเรื่องง่ายดายนัก!
“ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าทำเช่นนั้นแน่!”
ซือหยูปะทุความโกรธออกมา
ครีน--
ความบ้าคลั่งปกคลุมจิตใจ หากเขาจะต้องตาย...เขาจะต้องเอาราชันย์เพชรฆาตกับเขาด้วย!
เขารวมพลังปราณไว้ในมือและยิงไปยังด้านบนหุบเขา
ศิลาใหญ่สิบก้อนแตกออกจากด้านบน
จุดที่พวกเขายืนอยู่นั้นเสี่ยงมาก ก้อนศิลาเหล่านั้นหล่นลงมาได้ทุกเมื่อ แต่พวกมันถูกหยุดไว้โดยไหมพันมังกร
หากไหมพันมังกรขาด...ทั้งหุบเขาจะถูกทำลายทันที
ศิลาแต่ละก้อนมีรัศมีสามสิบศอก หากตกลงมาจะเกิดแรงปะทะอย่างรุนแรง!
นี่คือสิ่งที่ซือหยูใช้เวลาตลอดสองวันสองคืนเตรียมการเอาไว้ ศิลาเหล่านั้นยากจะตระเตรียม นั่นถือแผนสำรอง...ซือหยูจำต้องทำลายหุบเขา
เพราะนี่คือโอกาสเดียวในการสังหารราชันย์เพชรฆาต!
เขายิงคลื่นพลังตรงไปยังไหมพันมังกร
คริน---
ไหมพันมังกรขาด ศิลายักษ์ทั้งสิบตกลงมา
หลงเสี่ยวยี่อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง โชคดีที่นางถึงยอดผาแล้ว
เพราะอีกทางหนึ่งราชันย์เพชรฆาตก็ง่วนกับการไลล่ตามซือหยู เขามิได้หนีรอดทันเวลา เอากรีดร้องออกมาเมื่อเห็นศิลาที่ร่วงหล่น
อ๊าก----
“ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปไหน...แม้ข้าจะเป็นผี..อ๊าากกก….”
แม้ว่าเขาจะเป็นราชันย์เพชรฆาต เขาก็มิอาจทนกับแรงกระแทกอันรุนแรงนี้ ราชันย์เพชรฆาตถูกศิลายักษ์กระแทกอย่างแรงทันที ร่างของเขาหล่นมาจากผา
ตู้ม--
ศืลาทั้งสิบตกกระแทกลงมาเสียงดังราวกับฟ้าผ่า!
หุบเขาเล็กๆนี้สั่นอย่างน่ากลัวราวกับเขาสูงจะแตกสลายด้วยแรงระเบิด!
ในพริบตา ยอดเขารอบๆแตกหักลงเช่นกัน...ทั้งเทือกเขาเต็มไปด้วยฝุ่นควัน!
ฝุ่นที่เต็มไปหมดทุกพื้นที่ทำให้หลงเสี่ยวยี่ลืมตาไม่ได้อยู่นาน นางตกตะลึงเมื่อได้เห็นผลจากสิ่งที่เกิดขึ้น
หุบเขาถูกกลบมิด โอกาสที่จะรอดเป็นศูนย์! นางเข่าอ่อน หลงเสี่ยวยี่คุกเข่าลงกับพื้นและครวญคราง
“ซือหยู...”
นางโค้งคำนับด้วยความนับถือ อกของหลงเสี่ยวยี่เต็มไปด้วยหลากอารมณ์ นางทั้งรู้สึกเคารพ รู้สึกผิด รู้สึกติดหนี้บุญคุณ
ทันใดนั้นนางก็เห็นคนจากระยะไกลวิ่งมาที่ทางเข้าหุบเขา
นางพบสตรีที่กำลังมองหาบางอย่างด้วยความกังวลใจ
ฟึ่บ--
หลงเสี่ยวยี่ที่รู้สึกผิดบินไปหานางคนนั้นทันทีและหยุดนาง
“เขาตายไปแล้ว เพื่อหยุดราชันย์เพชรฆาตไม่ให้ไล่ตามเจ้า ซือหยูคิดสละชีวิตและให้ราชันย์เพชรฆาตตายไปพร้อมกับเขา เพวกเขาถูกฝังอยู่ในข้างล่างนั่น”
หลงเสี่ยวยี่พูดเบาๆ ความหดหู่สิ้นหวังของนางกลบความยินดีที่เอาชีวิตรอดมาได้จนหมดสิ้น
ความจายของซือหยูทำให้นางรู้สึกผิด ยางจะลบเลือน
ตุบ--
ดวงตาของนางผู้นั้นมืดบอด นางรู้สึกหมดแรง นางคุกเข่าลงกับพื้นด้วยแววตาที่ไร้ชีวิตชีวา
นางผู้นี้คือเซี่ยจิงหยูที่เพิ่งได้สติ นางรู้ทันทีว่าซือหยูทำอะไรไป...นางพุ่งไปยังหุบเขาหลังจากฟื้นสติได้
นางได้พบกับเศษก้อนศิลายักษ์ที่แตกเป็นเสี่ยงๆทับถมกัน ที่แย่ที่สุดคือนางถูกบอกว่าซือหยูตายแล้ว และถูกฝังอยู่ใต้หุบเขานี้!
เซี่ยจิงหยูจดจ้องด้วยจิตใจอันว่างเปล่า
ความทรงจำมากมายถ่าโถมเข้ามา…
พวกเขาพบกันครั้งแรกที่สำนักเซี่ยนหยู...เมื่อซือหยูเป็นเพียงชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญวิชาธนู
อีกคราเมื่อนางสำรวจเทือกเขารัตติกาล และได้พบกับเงาลึกลับในชั้นใต้ดินของซากโบราณ
เวลาของพวกเขาในตำหนักดยุค...อ้อมกอดอันอบอุ่นใต้แสงจันทรา
เมื่อครั้งที่อยู่ชานเมืองหลวง...ความอายและประสบการณ์อันไม่มีวันลืมเลือน...เมื่อพวกเขาอิงกายเปลือยเปล่าแนบชิด
และเมื่อพวกเขาเข้ามายังวิหารด้วยกัน พวกเขาร่วมชะตากันฝ่าพันอุปสรรคมากมาย
ภาพต่อภาพ ความทรงจำล้นเอ่อในจิตใจ...กระชากดวงวิญญาณนางจนฉีกออก
ความเจ็บระทมทุกข์จู่โจมหัวใจนาง
นางได้เสียสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนางไป นางเสียแสงกระจ่างในชีวิต...ที่มิอาจลืมเลือน หรือหวังใจ
“ไม่จริง!”
เมื่อได้สติ ดวงตาของนางเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
“พี่หยูยังไม่ตาย! เขายังไม่ตาย!”
เซี่ยจิงหยูลุกขึ้นยืนและวิ่งไปยังใจกลางหุบเขา นางใช้มืองดงามราวหยกขยับศิลาทีละก้อน
ศิลาที่หยาบและคมเฉือนมือและชุดที่นางสวม
แต่นางต้องการเพียงซือหยูเท่านั้น
นางขุดเส้นทางผ่านศิลาทีละก้อน
ราวกับว่านางเป็นหุ่นเชิดไร้วิญญาณที่สูญเสียพลังชีวิต นางหาร่องรอยของชีวิตซือหยูอย่างบ้าคลั่ง
หลงเสี่ยวยี่ทนดูไม่ไหวอีกต่อไป
“ศิษย์น้องเซี่ย...ได้โปรด..ใจเย็นลงก่อน!”
นางพูดอย่างขมขื่น
“พี่หยูต้องไม่ตาย!”
เซี่ยจิงหยูเป็นที่รู้จักกันดีว่าเยือกเย็นได้ทุกสถานการณ์ แต่ในตอนนี้นางราวกับเป็นคนละคน ดวงตาอันเยือกเย็นและคมกริบของนางเจาะทะลุหลงเสี่ยวยี่
หลงเสี่ยวยี่มองเซี่ยจิงหยูที่ขยับศิลาตัวเป็นเกลียว
หนึ่งวันผ่านพ้นเป็นวันที่สอง...และกลายเป็นวันที่สาม…
ห้าวันผ่านไปและเซี่ยจิงหยูก็ยังเปราะบางเกินจะเข้าใจ
รูปลักษณ์ของนางที่เคยเทียบได้กับตัวตนอันงดงามในตอนนี้เป็นดั่งขอทานที่อ่อนแอ ดวงตาของนางแห้งเหือดเป็นสีแดงคล้ำ มือคู่นั้นของนางที่งดงามราวหยกมิได้เปล่งปลั่งเช่นแต่ก่อน
และเป็นหัวใจของนาง...ที่มิอาจหยุดโศกเศร้า
ตลอดห้าวัน เซี่ยจิงหยูมิได้พักผ่อนเลย นางมิได้ดื่มน้ำสักหยดหรือกินข้าวสักเม็ด
บางที...เซี่ยจิงหยูอาจจะแตกสลายไปก่อนที่จะได้พบโอกาสเจอร่างซือหยู
ท้ายสุด...พลังกายของนางก็หมดสิ้น นางหมดสติไปกับพื้น
แม้นางจะไร้สติ มือคู่นั้นของนางก็ยังคงจับก้อนศิลาไม่ปล่อย...แม้จะหลับใหล
หลงเสี่ยวยี่ถอนหายใจด้วยความเห็นใจ นางคำนับให้ซือหยูที่ถูกฝังลึกลงไปก่อนที่จะแบกเซี่ยจิงหยูออกจากป่าอสูร
…
ถูกล้อมด้วยเมฆาและหมอกอันงดงาม มองเห็นแคว้นเฟิงหวงได้เพียงลางๆ ราวกับเป็นสรวงสวรรค์แห่งโลกมนุษย์
ที่นี่คือดินแดนต้องห้ามแห่งแคว้นเฟิงหวง หุบเขาเฟิงหวง!
ลำดับชั้นของมันราวกับวิหารของพันธมิตรเก้าแคว้น ข้างในหุบเขาเฟิงหวงนั้น...เซี่ยนเอ๋อนั่งอยู่ที่ลานฝึก
นางเหงื่อโทรมกาย เซี่ยนเอ๋อจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลัง
เซี่ยนเอ๋อในอดีตนั้นซุกซนขี้เล่นและไม่ค่อยเชื่อฟังใคร
เซี่ยนเอ๋อในตอนนี้มั่นคงอยู่กับการฝึกฝน ใบหน้าของนางยังละเอียดอ่อนเช่นเดิม
สตรีอายุสิบแปดสองคนมาที่ลานฝีกอย่างเงียบเชียบ ดวงตาพวกนางชิงชังและขยะแขยง
“สายเลือดวิหคเพลิงเก้าหางทำได้แค่นี้งั้นรึ! ตามตำนานแล้วสายเลือดวิหคเพลิงต้องฝึกฝนอย่างรวดเร็ว แต่หุบเขาเฟิงหวงของเราให้โอสถวิญญาณระดับสวรรค์ที่เราสะสมไว้ทั้งหมดกับเจ้า และเจ้าก็ได้แค่สำเร็จระดับสามขั้นกลางเท่านั้น แย่เหลือเกิน...ไม่น่าเชื่อจริงๆ!”
นางคือหลานของเซียนแห่งหุบเขาเฟิงหวง สายเลือดพิเศษของนางทำให้นางได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้
โอสถวิญญาณระดับสวรรค์นั้นควรจะได้ให้กับเหล่าผู้ติดตามที่โดดเด่น แต่ทั้งหมดกลับถูกให้เซี่ยนเอ๋อเพียงคนเดียว...เพื่อให้นางได้ดื่ม
แต่...แม้จะได้รับโอสถวิญญาณระดับสวรรค์ทั้งหมดนั้นไป นางก็ทำได้แค่สำเร็จระดับสามขั้นกลางเท่านั้น
หุบเขาเฟิงหวงที่เต็มไปด้วยเหล่าผู้ติดตามอันเก่งกล้าและผู้อาวุโสต่างครหา
“เจ้าขยะนี่! ถ้าดื่มโอสถวิญญาณระดับสวรรค์ไปขนาดนั้น...ข้าก็บรรลุระดับแปดไปนานแล้ว!”
“ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ...นางหันหลังให้แคว้นเฟิงหวงมาตลอด และนางก็มาที่หุบเขาเฟิงหวงเพื่อใช้โอสถวิญญาณล้ำค่าของเราไปอย่างไร้ค่า...คนเช่นนี้สมควรตาย!”
เสี่ยงของคนสองคน...แม้จะห่างออกไป...เซี่ยนเอ๋อก็ได้ยิน
เซี่ยนเอ๋อหยุดฝึกและก้มหน้าลง นางขบริมฝีปากอย่างแผ่วเบาและห่อไหล่
ดวงตากลมโตของนางเต็มไปด้วยน้ำตา...ร่างกายและจิตใจอันบอบบางของนางถูกจู่โจมด้วยความเหงาและความลังเลใจ
“ฉินเซี่ยนเอ๋อ ตามข้ามา ตระกูลกำลังรวมตัวกัน และเจ้าจะต้องไปด้วย”
เสียงอันไม่ยี่หระกล่าว
นางงดงาม...แต่ก็มองฉินเซี่ยนเอ๋อด้วยความรังเกียจ
เซี่ยนเอ๋อรู้ว่าการรวมตัวครั้งนี้คือการตัดสินโชคชะตาของนาง