ตอนที่ 282 ธนูอาทิตย์แผงศร (FREE)
"ท่าน!" ร่างนั้นมองจ้องมาที่ท่านฮั่ว จากนั้นเขาก็รีบเข้ามาหาท่านฮั่วในศาลาทันที
"ข้าคิดว่าเจ้าอยู่ที่นี่เพื่อมาหาราชาต้วน?"นายฮั่วยิ้ม
"ข้าอยากฟังความเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ" ร่างนั้นพยักหน้า
"เจ้าเรียกการจัดอันดับของการทดสอบระดับจักรพรรดิว่าเรื่องเล็กน้อยรึ?" ท่านฮั่วมีน้ำเสียงเย็นชา แต่ดวงตาของเขาลุกโชติช่วง
ร่างนั้นย้ายไปนั่งข้างเขา จากนั้นก็เอาหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าอันอ่อนเยาว์ เขาคือ ซู ฉิง เป็นผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังขององค์รัชทายาท ตลอดการประลอง
"ท่านหลักแหลมมาก ข้าชื่นชมความสามารถของท่าน ข้าอยากฟังความคิดเห็นของท่านเกี่ยวกับอันดับการทดสอบสักหน่อย " ซู ฉิง ก้มโค้ง
"เจ้าสุภาพเกินไปแล้ว ข้าไม่มียศอะไรในสภา และข้าเป็นแขกในบ้านของราชาต้วน ข้าไม่เหมาะที่จะให้คำแนะนำแก่เจ้าหรอก ในทางตรงกันข้ามข้าอยากจะรู้ว่าเจ้ามีความคิดเห็นอะไรบ้าง "ท่านฮั่วยิ้ม
"ท่านเป็นนักยุทศาสตร์ของราชาต้วนและมีบทบาทมากในแผนของเขา ข้าเป็นเพียงผู้ต่ำต้อย ความคิดเห็นของข้า ไม่คู่ควรกับท่านหรอก? อย่างไรก็ตาม เห็นแก่ที่ท่านถามข้าจะบอกความคิดเห็นที่ซื่อตรงของข้าข้าหวังว่าท่านจะช่วยบอกสิ่งที่ถูกต้องให้ข้า หากคิดว่ามันผิด!" ซู่ ฉิง พูด
"ไม่เป็นไร ราชาต้วนรอนานแล้ว เข้ามากับข้าเถิด!" ท่านฮั่วเดินตรงเข้าไป
ซู ฉิง ก้มโค้งลงอีกครั้งดวงตาของเขาจ้องมองอย่างเป็นประกาย ขณะที่เขายิ้มให้ตัวเอง
...
ภายในห้องอ่านหนังสือ ราชาต้วนไม่ได้อยู่ที่เก้าอี้ของเขา เขากำลังเดินไปรอบ ๆ ห้อง คิดหนักจนขมวดคิ้วตึง
ตอนนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออกท่านฮั่วปรากฎตัวพร้อมกับอาหาร
ซู ฉิง ยืนอยู่ข้างเขา
แววตาของราชาต้วนสว่างขึ้นเมื่อเห็นทั้งสอง "ซู ฉิงและท่านฮั่วโปรดนั่งก่อน!"
ซู ฉิง รอให้ท่านฮั่วเดินนำ แต่เขากลับหันไปปิดประตูทำให้ ซู ฉิง ไม่มีทางเลือกต้องเดินเข้ามาก่อน จากนั้นท่านฮั่วก็วางอาหารไว้บนโต๊ะ
"ข้าแค่คิดถึงเรื่องการจัดอันดับของการสอบของจักรพรรดิ เจ้ามาทันเวลาพอดี บอกข้าหน่อย ว่าเจ้าคิดอย่างไร " ราชาต้วนมอง ซู ฉิง
ซู ฉิง ไม่ลังเล เขาเดินไปกลางห้อง และกราบทูลราชาต้วน "ข้าไม่สมควรออกความเห็นกับการจัดอันดับหรอก แต่ในเมื่อทานต้องการ ข้าจะพูด "
"โปรดว่ามา!" ราชาต้วนพยักหน้าและนั่งลง
"จักรพรรดิได้ให้อำนาจแก่ท่านในการพิจารณาการจัดอันดับ นี่แสดงถึงความไว้วางใจในตัวท่าน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่เห็น ไม่เพียงเป็นความต้องการของจักรพรรดิ นี่ยังรวมไปถึงความขัดแย้งของตระกูลที่ทรงอิทธิพล และการแบ่งฝักฝ่ายอีกด้วยการตัดสินใจของท่านจะเป็นตัวชี้ชะตา "
"เจ้าพูดถูก ข้าเองรู้เรื่องนี้ " ราชาต้วนพยักหน้า
"ฝ่าบาท ท่านทรงต้องตัดสินใจให้ดี!"
"เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน?"
"ฝ่าบาท ท่านคิดว่าจักรพรรดิทรงต้องการสิ่งใด""
"แน่นอนว่า เหยียน ซิว"
"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ข้าขอถามท่าน ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับตระกูลที่ทรงอิทธิพลหรือสามัญชนมากกว่ากัน?"
"แน่นอนว่าตระกูลที่มีอิทธิพล งั้นเจ้าคิดว่าข้าควรให้อันดับที่ 1 กับ เหยียน ซิว?" ราชาต้วนขยิบตาเล็กน้อย
"ฝ่าบาท ข้าไม่มีความเห็นกับทางเลือกสุดท้ายของท่าน แต่ข้ามั่นใจว่าถ้าเรื่องนี้ตัดสินใจง่ายๆ ท่านคงไม่คิดมากขนาดนี้ "
"ถูกต้อง"
"ท่านฮั่ว บอกข้าหน่อยสมมติว่า ราชาต้วนให้อันดับ 1 กับ เหยียน ซิว จะเกิดอะไรขึ้น" ซู ฉิงหันไปมอง
ท่านฮั่ว กำลังคิดเรื่องตัวเองอยู่ ทันทีที่ ซู ฉิง ถาม เขาจึงส่ายหน้าทันที
"ข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้าพูด การให้อันดับ 1 กับ เหยียน ซิว เป็นการเอาใจผู้ทรงอิทธิพลและสนับสนุนจักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม ... " ท่านฮั่วลังเลเล็กน้อย
"มีอะไร?"
"ผู้คนลืมเรื่องหนึ่งไป นั่นคือความเห็นของ เหยียน ซิว" ตาของท่านฮั่วกระพริบตาอย่างมั่นใจ
"นั่นคือสิ่งที่ข้าเองก็คิด ถ้าเราให้ เหยียน ซิว แต่เขาไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้ การตัดสินใจอาจส่งผลต่อเรา ถ้าเรามอบมันให้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่เพียงแต่ทำให้ข้าไม่พอใจ แต่จักรพรรดิเองก็ด้วย ข้าจะกลายเป็นคนที่ต่อต้านผู้มีอิทธิพล และตกอยู่ที่นั่งลำบาก! " ราชาต้วนพยักหน้า
"ท่าน ช่างเป็นคนที่มองการไกลยิ่งนัก ข้าขอชื่นชม อย่างไรก็ตาม แม่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จะมี 2 ทางเลือกที่ยากลำบาก แต่จะมีทางหนึ่งที่ดีกว่าเสมอ" ซู ฉิง ตอบ
"เจ้าหน้าที่ซู ทางเลือกนั้นคือ?" ราชาต้วนถาม
"แม้การวิเคราะห์ทั้งหมดแล้วมันจะมีน้ำหนักพอกัน แต่เราต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียด!"
"โอ้...? รอบคอบดี!"
"ทุกคนรู้ดีว่า จักรพรรดิเอนเอียงไปทางไหน อย่างไรก็ตามถ้าเราเห็นการทดสอบตัวต่อตัว ท่านคิดว่าใครควรได้รับอันดับ 1" ซู ฉิง ถาม
"ถ้าข้าเป็นกลางอย่างแท้จริงข้าคงให้ ... ฟาง เจิ้งจือ " ราชาต้วนตอบอย่างไม่ลังเล
"ใช่แล้ว ฟาง เจิ้งจือ ได้เขียนประวัติศาสตร์ของการทดสอบด้านปัญญาขึ้น เขาทำข้อสอบครบทั้ง 6 หน้า! แม้แต่ ฉือ กูเหยียน หรือ หนานกง เฮา ก็ไม่อาจจะทำได้ ระหว่างการทดสอบแม้จะถูก เหยียน ซิว ไล่ต้อน เขาก็ยังยืนอยู่ได้ยิ่งไปกว่านั้น เหยียน ซิว ยังสลบไปและมอบชัยชนะให้กับ ฟาง เจิ้งจือ อีก แม้เราจะละเลยความจริงนี้ แต่ก็นับเป็นการดวลที่ดีที่สุด "
"ถูกแล้ว" ราชาต้วนพยักหน้า
"ถ้าฝ่าบาททรงมอบอันดับให้กับ เหยียน ซิว คงจะได้รับความปราบปลื้มจากจักรพรรดิ อย่างไรก็ตามความตั้งใจของจักรพรรดินั้นไม่ชัดเจน แม่ท่านดูเหมือนจะทำเพื่อเอาใจเขา แต่ท่านก็จะถูกทำลายความน่าเชื่อถือไป! มันไม่คุ้มค่า!" ซู ฉิง ย้ำอีกครั้ง
"ท่านฮั่วคิดว่าอย่างไร?"การแสดงออกของราชาต้วนเปลี่ยนไป เขาหันไปหาท่านฮั่วเพื่อขอคำแนะนำ
"เจ้าหน้าที่ซู บอกความคิดของข้าแล้ว อย่างไรก็ตามข้ายังสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ซูยังคงอยู่ใต้อาณัติของตระกูลที่มีอิทธิพลหรือไม่?"ท่านฮั่ว หันไปมองเจ้าหน้าที่ซู
"นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงมาที่นี่ในวันนี้!" ซู ฉิง กล่าวอย่างมั่นใจ
"เจ้าหน้าที่ซู เจ้าจะทำอะไร?"
"เหตุการณ์นี้ดูซับซ้อน แต่ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ฝ่าบาททรงต้องใช้เคล็ดลับที่ฉลาดสักเล็กน้อย เพื่อทำให้คนที่ถูกว่ากลายเป็นคนอื่น"
"ใคร?"
"องค์ชาย9! ""
"น้อง9? ข้าเข้าใจแล้ว! เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของข้า ข้าเกือบจะลืมเขาไปแล้ว"
...
ยามรุ่งสางในวันถัดไป ดวงอาทิตย์ขึ้นมาจากขอบฟ้า
โรงน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเหยียนเต็มไปด้วยเหล่าอัจฉริยะและนักปราชญ์ทำให้ที่นี้นั้นเต็มไปด้วยความคึกครื้น
มีห้องที่ได้รับการออกแบบอย่างดีอยู่ข้างใน
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้ามายังห้องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มีอำนาจมากมายเช่น ปิง หยาง นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก
ปิง หยาง นั้นสวมชุดสีแดงสดใส นางเอามือหยิบขนมบนโต๊ะก่อนจะวางลงในปาก
คนที่นั่งตรงข้าม ปิง หยาง เป็นเด็กหนุ่มที่แต่งตัวดูดี เขาช่วย ปิง หยาง แกะถุงขนม และนั่งมองนางอยู่เงียบๆ
เขาคือองค์ชาย9 หลิน หยุน
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับองค์ชายหรือองค์หญิงที่จะมานั่งอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตามท่าทีขององค์ชาย9 กลับดูน่าสงสาร
"ข้าไม่คิดว่าท่านพี่คงไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับข้าเฉยๆหรอกใช่ไหม?ท่านนำชาและขนมที่ข้าชอบมาด้วย "ปิง หยางกลืนขนม และเอนหลัง
"ฮ่า ๆ มันไม่มีอะไรมาก เจ้ารู้ว่ามีเหล่าอัจฉริยะมากมายเดินทางมาที่เมืองหลวงในช่วงนี้ของปี ... "
"โอ้...?มีอะไรสนุกๆในร้านงั้นหรือ?"
"การชุนนุมก่อนหน้านี้ เป็นการชมนุมของเพื่อนเก่า อย่างไรก็ตามปีนี้มีอัจฉริยะมาที่นี่จำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น 20 อันดับแรกบนทำเนียบมังกรก็เดินทางมาที่นี่ องค์จักรพรรดิเองก็ ... "
"แล้วยังไงล่ะ?"
"มีการแข่งขันล่าสัตว์ทางทิ องค์จักรพรรดิทรงเลือกรางวัลด้วยตัวเอง!"
"การแข่งขันล่าสัตว์? ฮ่าฮ่า ... น่าสนุก! รางวัลต้องเป็นอะไรบางอย่างที่พิเศษมาก! ขอบคุณที่บอกข้าเรื่องนี้ ข้าจะได้ไปเตรียมตัว!" ปิง หยาง กล่าวอย่างตื่นเต้น
"อะ เดี๋ยวก่อน!" องค์ชาย9 ตะโกนขึ้นก่อนที่ ปิง หยาง จะจากไป
"ท่านยังมีอะไรอีกงั้นหรือ?"
"เจ้ารู้ไหมว่าบางสิ่งนั้นมีค่าสำหรับคนบางคนมาก ทั้งหมดที่ข้ามี เพียงแค่ม้าป่าอัศนีย์ม่วงเท่านั้น" องค์ชาย9 ลังเล
"ไม่!"ปิง หยาง ปฏิเสธเขาอย่างแจ่มแจ้ง
"'งันข้ายืมมันสักวันได้ไหม? แล้วข้าจะคืนเจ้าที่หลัง!องค์ชาย 9 กล่าวอย่างหดหู่ ม้านั่นเป็นของเขา แต่เขากลับต้องมาขอยืม ปิง หยาง
ช่างน่าอัปยศ
...
ภายในโรงเตี้ยมที่ออกแบบอย่างปราณีต
ฟาง เจิ้งจือ ได้พักอย่างสงบสุขที่นี่ หมอหลี่เป็นคนเก่งมาก ภายใน 1 วัน เขาก็รู้สึกกระปรี้กระเป่าพร้อมจะไปข้างนอกแล้ว
เขาไม่ได้ทานอาหารเป็นเวลา 1 วัน
ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจว่าจะหาอะไรกิน อย่างไรก็ตามเขาต้องการไปดูว่า เหยียน ซิว กำลังทำอะไรอยู่ก่อน
ห้อง เหยียน ซิว อยู่ถัดจากเขา
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เหยียน ซิว ได้จองห้องนี้ให้ ฟาง เจิ้งจือ ล่วงหน้า
เหยียน ซิว ไม่เคยขาดแคลนเงิน
ฟาง เจิ้งจือ รู้เรื่องนี้มาตลอดจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เมื่อเขาก้าวเท้าออกมาจากห้อง ก็พบชายที่ดูกำยำยืนอย่างเคร่มขรึมอยู่หน้าประตู
"นายน้อยฟาง?"ชายคนนั้นทักทายด้วยความนับถือ ขณะที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ เดินออกมา
เขาไม่ได้พูดกับ ฟาง เจิ้งจือ ในฐานะเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่เพราะเขาอยู่ในระดับที่สูงกว่า แต่เขาก็พูดกับ เหยียน ซิว เช่นเดียวกัน
ฟาง เจิ้งจือ รู้จักชายคนนี้
ตอนที่เขาเจอ เหยียน ซิว ครั้งแรก ชายคนนี้ก็อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ เดินทางด้วยกัน ชายคนนี้ก็หายตัวไป ฟาง เจิ้งจือ เดาได้ว่าทำไมชายคนนี้ถึงมาที่นี่
"ท่านลุง เถี่ย!ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร เขารู้แค่ว่า เหยียน ซิว เรียกเขาแบบนี้
"นายน้อยฟาง กำลังจะออกไปข้างนอกงั้นรึ?"
"ใช่ เหยียน ซิว เป็นอย่างไรบ้าง?"
"เขาได้สติแล้วเมื่อคืน เขากำลังพักผ่อนอยู่ เจ้าจะเข้าไปไหม?"ลุงเถี่ย เปิดประตูให้เล็กน้อย
"เขายังนอนอยู่? งั้นไม่เป็นไร " ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจไม่รบกวน เหยียน ซิว เพราะ ลุงเถี่ย เองก็อยู่ที่นี่ เหยียน ซิว นั้นอยู่ในมือคนที่ไว้ใจได้แล้ว
"อืมๆ" ลุงเถี่ย พยักหน้าและกลับไปยืนที่หน้าประตูเหมือนเดิม
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เขาเดินออกจากโรงเตี้ยมไปที่ถนน หาของอร่อยๆกิน
ไม่นานหลังจากนั้นเขามีขนมขบเคี้ยวอยู่ในมืออย่างน้อย 5-6 ชิ้น
เขาเดินต่อไปท่ามกลางแสงแดด ทันใดนั้นเขาเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีดำแขนสั้นยืนอยู่ข้างๆซอย
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจชายคนนั้น อย่างไรก็ตามผู้ชายคนนั้นยังแอบมองเขา มันทำให้ ฟาง เจิ้งจือ ขุ่นเคือง
ดังนั้นเขาตัดสินใจที่จะสั่งสอนชายคนนี้
เขาต้องการจะสั่งสอนให้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแอบมองคนอื่น
"ไอ้หยา นายน้อย โปรดเมตตา!"เสี่ยว ซื่อ คุกเข่าลง เมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ยกหมัดขึ้นมา
"บอกข้าที่ ทำไมเจ้าต้องแอบมองคนอื่นดวยหน้าตาที่หน้าเกลียดของเจ้าด้วย?"ฟาง เจิ้งจือ ถาม
"อะไรนะ?!" เสี่ยว ซื่อ ผงะไปเมื่อได้ยินคำถาม ดวงตาของเขามองไปรอบๆ "ข้ารู้ว่าข้าไม่ได้หล่อเท่าท่าน ท่านเป็นคนที่ดูแข็งแกร่ง ข้าสงสัยว่าท่านชอบสมบัติไหม?"
"สมบัติ? สมบัติอะไร?ฟาง เจิ้งจือ ตาเป็นประกายทันที หรือเขากำลังโชคดี? เขาได้เจอเข้าโจรที่กำลังขายของที่ปล้นมาได้?
"กรุณาตามข้ามา นี่คือสมับติชั้นดีทั้งนั้น! ระวังอย่าให้คนอื่นเห็น!" เสี่ยว ซื่อ บอก
"โอเค!"ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
ไม่นานเขาก็พา ฟาง เจิ้งจือ เข้าไปในซอยที่เงียบสงบ ห่างจาผู้คน
"มันคืออะไร เอามาให้ข้าดู!"ฟาง เจิ้งจือ เร่ง
"ลองดูสิ!"เสี่ยว ซื่อ ไม่ได้ต้องการจะทำให้เสียเวลา เขาหยิบบางสิ่งออกมาจากถุงที่เขาถือยู่
มันเป็นกล่องไม้
มันถูกแกะสลักอย่างประณีตจากไม้แดง นอกจากนี้ยังมีสลักอยู่ด้านบน
"นี่เป็นสมบัติที่แท้จริง มันเป็นธนูอาทิตย์แผงศร!"
เพจหลัก : Double gate TH