ตอนที่แล้วThe Dark King – Chapter 6 สมบูรณ์ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThe Dark King – Chapter 8 กำแพงยักษ์แห่งซิลเวีย [อ่านฟรี]

The Dark King – Chapter 7 ค่ารังสี [อ่านฟรี]


ฟู่เทียนพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะพูดถึงโรงเรียนเกรย์ก็มีความหวังว่าฟู่เทียนจะสามารถสืบทอดทักษะการตัดเย็บของเขาและกลายเป็นช่างตัดเสื้อที่ดีได้ ฟู่เทียนนั้นมีเป้าหมายของเขาแล้วจึงปฏิเสธเกรย์ไปตามตรง

เกรย์และภรรยาของเขาไม่ได้โกรธแต่อย่างใด มันเป็นเรื่องดีที่เด็กๆมีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเขาไม่ใช่พวกทาส ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่พวกเขาจะมีความคิดเป็นของตัวเอง

“น่าเสียดายที่สาขาการแพทย์นั้นยากที่จะเริ่มต้นเข้าไปได้” จูร่ากล่าวด้วยความเสียใจ ฟู่เทียนนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดแต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปที่เขาจะเริ่มเรียนด้านการแพทย์ในตอนนี้

“แล้วอย่างนี้ลูกอยากเรียนด้านไหนล่ะ?” เกรย์ยิ้ม

ฟู่เทียนมองไปที่พวกเขาและกล่าวออกมาว่า “ด้านกฏหมาย!”

“กฏหมาย?” เกรย์ลังเลเล็กน้อย “เทียน ลูกรู้รึเปล่าว่าอาชีพนี้ทำงานแบบไหน?” จูร่าถาม

“ฉันรู้ว่ามันเป็นหนึ่งในสามอาชีพพลเรือนที่สำคัญ ทนายความยังมีเกียรติมากกว่าหมออีกด้วย” อันที่จริงแล้วเกรย์ได้มอบตารางอาชีพต่างๆให้แก่ฟู่เทียน มีข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของงานและคุณวุฒิต่างๆนั้นจำเป็นในการทำงานในแต่ละสาขา ตารางที่ฟู่เทียนได้รับนั้นช่วยให้เขาเข้าใจเส้นทางอาชีพที่เป็นไปได้และผลประโยชน์ของตนเองได้

“ฉันแค่อยากจะบอกให้ชัดๆว่าโรงเรียนกฏหมายนั้นยากที่จะจบออกมาได้ มันยากกว่าการจะเรียนเป็นหมอเสียอีก เธอจะต้องมีความคิดที่มีชั้นเชิงและนอกกรอบ แม้ว่าลูกจะเป็นเด็กที่ฉลาดแต่ก็ต้องคิดถึงความแตกต่างระหว่างความยากของโรงเรียนกฏหมายและสิ่งที่ลูกได้เรียนรู้ในบ้านเด็กกำพร้า มันเป็นเรื่องยากที่จะจบการศึกษาจากโรงเรียนกฎหมายและผ่านการคัดเลือกด้านอาชีพนี้”

ฟู่เทียนจ้องมองด้วยความแน่วแน่ “ผมอยากเรียนกฏหมายไม่ว่าอะไรก็ตาม”

เกรย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ฟู่เทียนยืนยันความต้องการของตนเองอย่างหนักแน่นพวกเขาจึงไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร นับตั้งแต่บ้านเอวริลปฏิเสธการแต่งงานครั้งนั้น เกรย์และจูร่าก็เริ่มยอมรับว่าฟู่เทียนเป็น ‘ลูก’ ของพวกเขาอย่างแท้จริง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากทำลายความรู้สึกของเด็กชายผู้นี้

“ถ้าลูกอยากเรียนก็ให้เขาลองดู แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าสู่สอบเข้าไปสู่ศาลได้ในอนาคตการเป็นทนายความธรรมดาก็เป็นที่ยอมรับได้เช่นกัน อย่างน้อยๆเขาก็จะได้คุ้นเคยกับกฏหมาย เขาจะได้ไม่ทำผิดกฎหมายและสามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขได้”

ฟู่เทียนมองไปที่เธอขณะที่เขาคิดครู่หนึ่ง “ผมอยากจะเรียนกฎหมายไม่ใช่เพื่อจะทำตามมัน แต่เพื่อที่จะทำลายมัน!”

เกรย์ถอนหายใจออกมาและกล่าวกว่า “ตกลง”

หัวใจของฟู่เทียนเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขามองไปที่ทั้ง 2 ด้วยสีหน้าที่สดใส “ขอบคุณครับ!”

เมื่อเขาได้ยินฟู่เทียนกล่าวเช่นนี้ ใบหน้าของเกรย์ก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันทีขณะที่เขากล่าวว่า “ถ้าลูกเลือกทางนี้แล้วก็จงศึกษามาให้ดี ถ้าหากว่าลูกยอมแพ้มันในอนาคตลูกจะต้องกลับมาที่บ้านและเรียนรู้ด้านการตัดเย็บกับพ่อ ค่าจ้างของงานนี้นั้นมากเพียงพอที่จะทำให้ลูกมีชีวิตอยู่อย่างสบายได้”

ฟู่เทียนพยักหน้าเบาๆ

หลังจากฤดูฝนหมดลงอุณหภูมิก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

3 วันก่อนการประเมินผลของโรงเรียนต่างๆนั้นเป็นเทศกาลพิเศษที่เรียกว่า “วันแห่งการอธิษฐาน”

แต่ละครอบครัวจะไปยังศูนย์กลางบริเวณใกล้เคียงของวิหารแห่งเวียร่า

พวกเขาอธิษฐานต่อ ‘พระบิดาแห่งพระเจ้า’ เพื่อให้พวกเขาปลอดภัยผ่านพ้นฤดูอันแสนโหดร้ายนี้ไปด้วยดีและช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงภัยพิบัติและโรคภัยไข้เจ็บได้

มันเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่

เกรย์และภรรยาของเขาต้องการอธิษฐานให้แก่ฟู่เทียน นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ฟู่เทียนได้พบกับผู้ที่นำพาความศรัทธามาสู่ผู้คน โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในย่านที่อยู่อาศัย ปฏิมากรรมรูปปั้นขนาดใหญ่ของทูตสวรรค์สี่ปีกถูกสร้างขึ้นที่ใจกลางของจตุรัส มือทั้งสองที่กอดบรรดาผู้ศรัทธาเต็มไปด้วยความเมตตาและความสามัคคี

3 วันหลังจาก ‘วันแห่งการอธิษฐาน’ โรงเรียนต่างๆก็เริ่มลงทะเบียนเรียน

ฟู่เทียนเดินตามคู่สามีภรรยาไปที่โรงเรียนกฏหมาย พวกเขาเดินทางไปประมาณสิบกิโลเมตรไปถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา มีผู้ปกครองและเด็กๆจำนวนมากที่หน้าประตูทางเข้าส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย ส่วนใหญ่มีผิวขาวกระจ่างใสและมีบางคนที่มีผิวสีเหลือง แต่ก็มีบางคนที่มีผิวที่หยาบกร้านซึ่งหมายความว่าเป็นผู้ที่อยู่ในสถานะทางสังคมที่ต่ำกว่าและไม่จำเป็นต้องพาลูกๆของพวกเขาไปสอบวัดระดับร่างกาย เพราะโรงเรียนกฎหมายเป็นนั้นมีชื่อเสียงในเมืองซิลเวียและค่าเทอมนั้นค่อนข้างแพง ผู้ที่อยู่ในสถานะทางสังคมที่ต่ำย่อมไม่อาจจ่ายค่าเทอมไหว

“ผมได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงแต่ต้องการเข้าศึกษาโรงเรียนกฎหมายแต่คุณยังต้องการที่จะผ่านการประเมิน”

“อื้ม แต่ถ้ามันไม่ผ่านผมก็คิดจะไปที่โรงเรียนสอนตัดเย็บอาจจะเป็นสถาบันธรณีวิทยา…”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน การสอบประเมินนี้น่าจะยากน่าดู”

ผู้ปกครองบางคนเริ่มพูดคุยกันเบาๆ

“การสอบประเมินของโรงเรียนกฎหมายเริ่มขึ้นหรือยังครับ?”

“มันน่าจะคล้ายกับการสอบประเมินของโรงเรียนทางการแพทย์ของเรา” จูร่ากระพริบตาแล้วก้มลงไปพูดกับฟู่เทียน “ฉันจำได้ว่าการสอบมักจะถามถึงสิ่งง่ายๆ การสอบของวิทยาลัยทางการแพทย์นั้นเกี่ยวกับความจำเรื่องต่างๆ มันน่าจะเหมือนกันกับที่นี่”

เกรย์ยิ้มออกมา “มันขึ้นอยู่กับลูกตอนนี้ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของตัวลูกเอง ถ้าลูกไม่ผ่านที่นี่ก็ไม่ต้องเสียใจไปเรายังไปลงทะเบียนที่โรงเรียนสอนตัดเย็บได้ทัน”

ใจของฟู่เทียนนั้นเต็มไปด้วยความไม่ชอบ เขาจะมีความสุขมากถ้าการสอบนี้เป็นการสอบวัดความจำง่ายๆ ในยุคสมัยก่อนหน้านี้นั้นเด็กที่มี IQ ระหว่าง 120 ถึง 140 หนังสือเป็นอัจฉริยะ น้องสาวที่ชาญฉลาดของเขานั้นมี IQ ถึง142 แต่จากการทดสอบ IQ ของเขานั้นคือ 168 เขาไม่มีวันลืมวันที่เขาได้รับการเชื้อเชิญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตอนอายุสิบสอง

ที่ IQ ของพี่น้องคู่นี้นั้นเป็นผลมาจากยีนส์จากพ่อและแม่ของเขา ทั้งสองเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ หากภัยพิบัติครั้งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นพวกเขาควรจะได้รับรางวัลด้านวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติด้วยการประดิษฐ์เทคโนโลยี “แคปซูลแช่แข็ง” ของพวกเขา

ในตอนนี้ก็เป็นคิวของฟู่เทียนที่ต้องเข้าไป เด็กๆต่างเดินเข้าไปยังห้องสอบประเมินอย่างต่อเนื่อง

“ผู้ปกครองรออยู่ที่นี่ เด็กๆเข้าไปยังห้องสอบประเมิน” ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนนักวิชาการขวางทางของคู่สามีภรรยาเกรย์เอาไว้

“เทียน โชคดีนะ!” จูร่าอวยพรให้ฟู่เทียน ฟู่เทียนเห็นแววตาแห่งความสุขที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอ

ในห้องที่กว้างขวางฟู่เทียนเห็นผู้ชายและผู้หญิงนั่งอยู่ ผู้คุมสอบวัยกลางคน 2 คนสวมเสื้อคลุมสีดำที่เต็มไปด้วยลวดลายเย็บปักถักร้อยไหมทองที่ซับซ้อนรวมๆแล้วดูเรียบง่ายและงดงาม เมื่อพวกเขาเห็นฟู่เทียนจึงยิ้มและพูดขึ้นว่า “เด็กน้อย มาทางนี้”

ฟู่เทียนก้าวออกไป

“ฉันจะถามคำถามเธอ เธอมีกระทะอยู่หนึ่งใบและสามารถทอดปลาได้เพียง 2 ตัวในเวลาเดียวกัน การทอดแต่ละด้านนั้นใช้เวลา 1 นาที ถ้าฉันอยากจะทอดปลา 3 ตัวระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้คือเท่าไร?” หญิงวัยกลางคนยิ้ม

“3 นาที” ฟู่เทียนกล่าวโดยไม่ต้องคิด

คำถามนี้ไม่ได้ยากแต่ก็ทำให้ผู้คุมสอบทั้งสองคนต้องประหลาดใจ แม้แต่เด็กที่ฉลาดมากที่สุดก็ต้องใช้เวลาคิดสักเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามนี้ออกมา ตอบคำถามได้ถูกต้องโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดเลย… เขาค่อนข้างประทับใจกับเด็กคนนี้

“เธอผ่านแล้วเด็กน้อย เธอฉลาดอย่างยิ่ง” ชายวัยกลางคนทางด้านขวายิ้มและกล่าวขึ้น “รับนี่ไปและไปต่อที่การตรวจร่างกาย ถ้าไม่มีปัญหาในการการตรวจร่างกายเธอก็จะสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนกฎหมายแห่งนี้ได้อย่างเป็นทางการ” เขายื่นกระดาษโน๊ตเล็กๆให้กับฟู่เทียนซึ่งมีข้อความบางอย่างเขียนอยู่ภายในนั้น

“ยังมีการตรวจร่างกายอีกหรอ?” คิ้วของฟู่เทียนยกขึ้นเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องนั้น

“ยากจังเลย!”

“ฉันตอบไปว่า 4 นาทีและฉันก็รู้ว่ามันผิด ทำไมถึงไม่ใช่ 4 นาทีกัน!? ถ้าจะทอดทั้งสองด้านก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 นาทีสิ!

“คำถามนี่มัน… ทำไมปลา อ๊ะ! ฉันไม่ได้อยากที่จะกินปลาแล้วปลาทอดมันเกี่ยวอะไรกับกฎหมายกัน!

“ดีล่ะ พ่อของฉันเป็นเชฟ เขาสามารถทอดปลา 3 ตัวได้ในนาทีเดียว! พวกเขาต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน”

ฟู่เทียนเดินออกมาและได้ยินเสียงของเด็กบางคนที่อยู่ในห้องถัดไป พวกเขาไม่พอใจกับคำถามของการสอบครั้งนี้ ปากของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อย เขาหันหลังกลับไปเดินไปหาเกรย์และจูร่าราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของเด็กๆพวกนั้น

“เป็นยังไงบ้าง?” เกรย์ยิ้ม เขาได้ยินคำพูดของเด็กคนอื่น แม้ว่าเขาจะไม่รู้อย่างชัดเจนว่าคำถามของการสอบนี้เป็นอย่างไรแต่มันก็คงไม่ง่ายที่จะผ่านอย่างแน่นอน

ฟู่เทียนยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ผ่านแล้วครับ ตอนนี้ผมต้องไปตรวจร่างกาย”

เกรย์ยิ้มแต่อย่างไรก็ตามเขาต้องการให้ฟู่เทียนนั้นไปศึกษาที่โรงเรียนสอนการตัดเย็บ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความฉลาดของฟู่เทียนมากยิ่งกว่าเด็กคนอื่นๆทำให้เขารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง

“การตรวจร่างกายคือการตรวจสอบค่าของรังสีในร่างกายของเขา ผิวของเทียนนั้นมีสีขาวดังนั้นค่ารังสีก็น่าจะไม่สูงมากนัก เขาน่าจะผ่านมันอย่างง่ายดาย” จูร่าดูเหมือนจะรู้เรื่องการตรวจร่างกายเธอจึงพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

หลังจากการระเบิดของนิวเคลียร์ทั่วโลก โลกใบนี้ก็เต็มไปด้วยกัมมันตภาพรังสีมากมาย ก้อนเมฆสีเทาเงินบนฟ้านั้นเป็นผลมาจากการรวบรวมตัวของกัมมันตภาพรังสีเป็นจำนวนมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฤดูฝนถึงยาวนานในโลกใบนี้ ฤดูฝนที่โหดร้ายและอันตรายจนถึงชีวิตนั้นมันได้นำพาโรคภัยไข้เจ็บและความตายลงมาด้วยเช่นกัน

แต่ฟู่เทียนนั้นออกมาจากแคปซูลแช่แข็ง เขาเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นดังนั้นค่ารังสีในร่างกายของเขาก็คงจะไม่สูงมากนัก

แต่เขาก็ยังอยากรู้… ผู้คนที่นี่ตรวจจับค่ารังสีได้อย่างไรกัน?

‘ใช้เครื่องมืออะไรกัน? พวกเขายังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมหรือแม้แต่ไฟฟ้าพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?’

ในตอนนี้จูร่าพาเขามาที่ห้องข้างๆที่มีสัญลักษณ์ของ‘การตรวจร่างกาย’อยู่ ที่นี่ไม่ต้องต่อแถวแต่อย่างใด เพราะผู้ที่ผ่านการทดสอบแรกมาได้นั้นมีจำนวนน้อย ในห้องหญิงวัยกลางคนนำนั่งอยู่ เธอตรวจสอบกระดาษโน๊ตในมือของฟู่เทียนและกล่าวออกมาว่า “เอาล่ะมาเริ่มการทดสอบกันเถอะ”

ฟู่เทียนเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนี้ เขามองออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่เห็นเครื่องมือพิเศษแต่อย่างใด มีเพียงหลอดแก้วที่คล้ายคลึงกับเครื่องวัดอุณหภูมิเท่านั้น

หญิงวัยกลางคนตรวจสอบกระดาษโน้ตอีกครั้งเพื่อยืนยัน จากนั้นก็หยิบหลอดแก้วที่อยู่ข้างๆขึ้นมา ปลายด้านคมของหลอดแก้วนั้นอยู่ใกล้กับนิ้วก้อยของฟู่เทียน เธอยิ้มและกล่าวออกมาว่า “เด็กน้อย ไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่เจ็บ”

ฟู่เทียนไม่คาดคิดว่าหลอดแก้วขนาดเล็กอันนี้จะสามารถวัดค่ารังสีได้

ไม่นานหลังจากนั้นเลือดสีแดงของฟู่เทียนก็ได้ไหลเข้าไปยังหลอดแก้วอันนี้ ฟู่เทียนสังเกตเห็นว่าหลอดแก้วอันนี้นั้นมีเส้นสีแดงหนาๆเขียนไว้อยู่

หญิงวัยกลางคนตรวจสอบอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่มีข้อผิดพลาด เธอตกตะลึงไปในทันทีเมื่อได้เห็นผลการตรวจสอบของฟู่เทียน ผิวของเขาและมีสีขาวมาก แม้แต่เด็กผู้หญิงที่อยู่ในวัยเดียวกันก็ยังไม่ขาวเท่า

สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนไม่เคยพูดกับคู่สามีภรรยาเกรย์ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย “ค่ารังสีต่ำแบบนี้… นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น เหลือเชื่อมาก! เด็กที่มีร่างกายแข็งแรงแบบนี้ปกติจะอยู่ที่ย่านการค้าเท่านั้น!”

จูร่าเข้าใจเครื่องวัดรังสีอย่างชัดเจน ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความไม่เชื่อ เธอหันไปหาสามีที่ดูมึนงงของตนเอง “นี่คือเครื่องวัดรังสี เครื่องมือพิเศษที่ใช้ในการตรวจสอบค่ารังสีของมนุษย์ ค่ารังสีของเทียนนั้น…… ต่ำมาก มันเทียบได้กับเด็กที่อยู่ในตระกูลชั้นสูง”

เกรย์รู้ถึงความสำคัญของค่ารังสีในร่างกายของมนุษย์แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมัน แต่เมื่อจูร่าพูดว่า ‘เทียบได้กับเด็กที่อยู่ในตระกูลชั้นสูง’ ความภาคภูมิใจของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างเปี่ยมล้น เขาลูบไปที่ผมของฟู่เทียน

ฟู่เทียนมองไปยังขีดสีแดงที่อยู่บนเครื่องวัดรังสี ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าขีดสีแดงนี้บิดเบี้ยวไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งมีชีวิต!

เวลายามเย็นของวันที่ฟู่เทียนได้ไปลงทะเบียนโรงเรียนกฎหมาย ภายในปราสาทแห่งหนึ่งในย่านการค้า

ห้องพักหรูหราถูกปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคเพชร คนๆหนึ่งก็มองไปที่ผลการสอบบนโต๊ะตรงหน้าของเขา “ผลการสอบออกมาแล้ว ผู้ที่ผ่านการทดสอบนั้นมีทั้งสิ้น 27 คน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด