ตอนที่ 63 ตลาดมืด
แปลโดย : Roping
– – – – – – – – – – – –
“จิ่วน้อย นี่ให้ถุงมิติข้ามาทั้งถุงเลยรึ? แล้วของๆเจ้าล่ะ?”
กวนซีหลินเปิดถุงมิติดูและพบว่านอกจากตำราฝึกฝนจิตใจที่บนปกเขียนไว้ว่า 'เพลิงผลาญแห่งมังกรและพยัคฆ์' เขายังพบของมีค่ากับเงินอีกไม่น้อย อีกทั้งยังมีขวดและภาชนะอีกหลายอันอยู่ภายใน ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างฉงนใจและถามว่า “ทำไมเจ้าต้องให้ของข้ามามากมายปานนี้?”
เขาหยิบเอาตำราออกมาดูและเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา “ตำราการฝึกปรือจิตใจระดับสวรรค์ !? ข้า…. ข้าดูไม่ผิดใช่ไหม?” ตำราการฝึกฝนจิตใจระดับสูงเช่นนี้ เชื่อว่าแม้กระทั่งราชวงศ์ของแคว้นตะวันรุ่งก็คงไม่มีในครอบครองแม้แต่เล่มเดียว!
ควรทราบว่าตำราการฝึกปรือจิตใจระดับสวรรค์นั้นเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างสุดแสน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบแม้ซักเล่มในแคว้นระดับเก้าเช่นนี้ เช่นนั้นนางไปเอามันมาจากไหนกัน?
ขณะนั้น มือที่ถือตำราของเขาสั่นน้อยๆ ด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่งและรู้สึกราวกับว่าตำรานั้นมันร้อนจนแทบลวกมือในทันใด
แค่คิดว่าเขามีโอกาสได้เห็นตำราการฝึกปรือจิตใจระดับสวรรค์ก็เป็นโชคดีอย่างมหาศาลแล้ว! ทว่าการที่จะได้ฝึกฝนตำราล้ำค่าเช่นนี้มันยิ่งน่าเหลือเชื่อเข้าไปอีก!
“ใช่แล้ว ตำราฝึกปรือจิตใจระดับสวรรค์ และมันก็ช่วยพัฒนาด้านพละกำลังด้วยเช่นกัน ซึ่งเหมาะกับพี่มากที่เดียว” นางยิ้มและกล่าวต่อ “แขนของพี่ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกกระบวนท่าหรือวิทยายุทธในตอนนี้ เพราะงั้นก็หยุดพวกมันไว้ซักพักแล้วมาทุ่มเทเวลาจดจำและศึกษาตำราฝึกปรือจิตใจนี่เสียก่อน แล้วข้าจะให้ตำราวิทยายุทธระดับสวรรค์ให้อีกเล่มเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”
ตำราฝึกปรือจิตใจนี่อยู่ในบรรดาสิ่งของที่ท่านอาจารย์ตกทอดมาให้ และนางก็รู้สึกว่ามันเหมาะกับกวนซีหลินเป็นอย่างมากจึงนำมันออกมาใช้
“ข้าฝึกมันได้จริงๆงั้นรึ?” นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายขณะที่มองไปทางเฟิ่งจิ่ว
“แน่นอน” นางพยักหน้าและพูดต่อว่า “ถ้ามีตรงไหนที่สงสัยหรือไม่เข้าใจก็ถามข้าได้”
“เช่นนั้นข้าจะกลับไปที่ห้องตัวเองเพื่อฝึกตอนนี้เลย” กวนซีหลินกระตือรือร้นอย่างสุขใจขณะที่ถือตำราไว้ในมือ เขาแทบรอต่อไปอีกไม่ไหวและรีบกลับเข้าไปในห้องเพื่อเริ่มฝึกในทันที
เฟิ่งจิ่วยิ้มเมื่อเห็นเช่นนั้น นางฝึกไท่เก๊กต่อไปอีกซักพักเพื่อยืดเส้นก่อนที่จะกลับห้องไปเพื่อฝึกพลังเช่นกัน
ในคืนต่อๆมา เหล่าทหารรับจ้างจากตลาดมืดก็มาเยี่ยมเยียนลานน้อยๆแทบทุกคืน และไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่ได้กลับออกไป…..
ซึ่งทั้งหมดนี่ กวนซีหลินไม่ทราบอะไรเลยแม้แต่นิด
เนื่องจากว่าเฟิ่งจิ่วใช้เข็มเงินของนางเพื่อดูแลรักษาชีพจรบนแขนขวาของเขาทุกคืน ซึ่งนางได้สะกิดไปที่จุดที่ทำให้เขาสิ้นสติลง ทำให้เขาหลับลึกไปจนกระทั่งถึงอีกวันหนึ่ง…..
หลายวันต่อมา เฟิ่งจิ่วจัดวางค่ายกลเขาวงกตไว้เพื่อกั้นเขตแดน จากนั้นก็กำชับคำแนะนำกับกวนซีหลินแล้วเดินทางไปที่ตลาดมืด
ในวันเดียวกัน ชายวัยกลางคนที่รอมาหลายวันทว่าไม่ได้รับข่าวใดๆกลับมา ก็เต็มไปด้วยสีหน้ามืดครึ้ม เขาผุดลุกขึ้นและตรงไปที่ตลาดมืดพลางก่นด่าไปด้วยว่า “เจ้าพวกขยะไร้ประโยชน์! กำจัดเด็กสาวคนเดียวยังทำไม่ได้!”
เมื่อพ่นคำเหล่านั้น ชัดเจนว่าเขาลืมความจริงไปเสียสนิทใจว่าตัวเขาเองนั้นก็ไม่ใช่คู่มือของเฟิ่งจิ่วเช่นกัน
ตลาดมืดนั้นคือตลาดใต้ดิน ที่นั่นท่านจะสามารถหาได้ทั้งสมุนไพรล้ำค่า ยาวิเศษ ศาสตราวุธ และทุกสิ่งที่เหล่าผู้ฝึกยุทธต้องการ
ภายในตลาดมืดนั้นมีลานประลองอยู่ มันคือเวทีที่เมื่อคว้าชัยจะได้มาทั้งเงินทองและชื่อเสียง
นอกจากนั้นยังมีเหล่าหทารรับจ้างเหลือเดนที่มักเป็นนักโทษที่หนีความผิด ทำให้ไม่อาจได้รับการยอมรับจากสังกัดทหารรับจ้างที่ถูกกฎหมาย ภายในตลาดมืดแห่งนี้มีทั้งผู้ที่ฉายเดี่ยวรับภารกิจและผู้ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มขนาดเล็กราวสามถึงห้าคน ภารกิจที่พวกเขารับก็มักเป็นการลอบสังหารที่สมาคมทหารรับจ้างที่ถูกกฎหมายไม่มีวันรับทำ
ที่นี่ พวกเขาใส่ใจเพียงแค่เงิน และทำงานเพื่อเงินเท่านั้น
เมื่อชายคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดสีแดงฉานสะดุดตาก้าวเข้ามาในตลาดมืด ผู้คนจำนวนมากภายในนั้นไม่อาจปิดบังความตื่นตะลึงและสายตาลุ่มหลงได้ ทั้งหมดปรากฎชัดอยู่บนใบหน้าของคนทุกผู้ในที่แห่งนั้น
ร่างของคนผู้นั้นค่อนข้างสูงและดูอ้อนแอ้น ทั่วร่างปลดปล่อยกลิ่นอายเย้ายวนอย่างร้ายกาจ สวมใส่หน้ากากสีทองอันงามประณีตที่ประดับไปด้วยดอกพลับพลึงสีแดงก่ำที่บานสะพรั่งปิดบังทั่วทั้งใบหน้า ดูเต็มไปด้วยความลึกลับและปริศนา ดุจดั่งว่าถูกห่อหุ้มไปด้วยหมอกจางๆจนไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่มีผู้ใดสามารถมองระดับพลังฝึกปรือของเขาออกได้เลย
ผู้ที่กล้าที่จะกรีดกรายย่างเข้ามาในตลาดมืดแห่งนี้อย่างหยิ่งผยอง ย่อมไม่มีทางเป็นบุคคลสามัญที่ไร้พลังเป็นแน่ และหากเขามิใช่บุคคลสามัญ เช่นนั้นก็เหลือเพียงความเป็นไปได้เดียว
คือคนผู้นี้ถือครองพลังอันมิอาจหยั่งถึง !
– – – – – – – – – – – –
– – – – – – – – – – – –
*พลับพลึงแดง,พลับพลึงแมงมุม 红色曼陀罗花 màn tuó luó huā
ดอกไม้ที่สื่อถึงความตายและการพลัดพราก มีหัวใต้ดินที่มีพิษ
ตามตำนานเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่บานอยู่ในนรกเพื่อนำเหล่าคนตายไปสู่การเกิดใหม่
https://anngle.org/th/j-culture/culture/higanbana.html
*มวยไท่เก๊ก,ไท่จี๋ 太极 Tàijí
มวยไท่เก๊กมีลักษณะนุ่มนวล โอนอ่อน ผ่อนคลาย การเคลื่อนไหวลื่นไหลต่อเนื่อง การหายใจสอดประสานไปกับการเคลื่อนไหว พร้อมทั้งต้องตั้งจิตติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายไปตลอดทำให้เกิดสมาธิ
เนื่องจากไม่มีการเกร็งกล้ามเนื้อ หรือการออกแรงกระแทก จึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บร่างกายได้น้อยเมื่อเทียบกับกีฬาที่ใช้แรงชนิดอื่นๆ ทำให้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แม้แก่ชราอายุ 90-100 กว่าปีก็ยังฝึกฝนได้ ประโยชน์ที่ได้รับนอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ยังสามารถใช้เป็นศิลปะป้องกันตัวได้หากได้รับการฝึกฝนเพื่อใช้ต่อสู้
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%81