ตอนที่ 281 ผลที่ไม่ชัดเจน (FREE)
เหยียน ซิว ทำดีที่สุดแล้ว ที่รับการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ถึง 2 ครั้ง เขาเก็บพลังทั้งหมดไว้เพื่อใช้เต๋าแห่งอาชูร่า เหยียน ซิว ได้คำนวนทุกอย่างไว้หมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะพุ่งโจมตีเขา!
"ข้าว่าเขาไม่กลัวที่จะได้รับบาดเจ็บ!" เหยียน ซิว คิด จากนั้นใบหน้าของเขากก็ซีดขาว
ฟาง เจิ้งจือ ยกแขนขึ้นมา แม้ว่าอาการบาดเจ็บมากขึ้น แต่ในการโจมตีของเขาก็ยังมีพลังมหาศาล
เหยียน ซิว ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้
"อั้ก!" เขากระอักเลือด ตอนนั้นเอง แสงสีแดงรอบตัวเขาก็เลือนหายไป
เพราะว่า…
เหยียน ซิว ไม่มีพลังเหลือแล้ว เขาสลบไป
นี่เป็นช่วงที่ตึงเครียดที่สุดของการต่อสู้ไม่มีใครคิดว่าในการต่อสู้นี้ ทั้งสองคนจะกระเด็นออกจากเวทีพร้อมกัน
"ตูม!"
ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนา
"เหยียน ซิว เจ้าเป็นไงบ้าง?"ฟาง เจิ้งจือ เรียก เหยียน ซิว ในขณะที่แขนของเขากำลังฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ
"หมอ!"จักรพรรดิ ตะโกนอย่างไม่ลังเล
"ข้าอยู่ที่นี่!"หมอที่รออนู่แล้วตอบรับทันที เขารีบวิ่งเข้าไปหา เหยียน ซิว และเริ่มดูอาการ
บรรยากาศรอบเวทีเริ่มตึงเครียด
เหยียน ซิว เป็นทายาทตระกูลเหยียนแห่งดินแดนเหลียงตะวันตกเขามีพรสวรรค์และศักยภาพตามที่เห็น หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาทั้งทั้งอาณาจักรและตระกูลเหยียนเองต้องพบกับการสูญเสียที่ใหญ่หลวง
"ฝ่าบาท อาการของเขาไม่สาหัสมากนัก เขาเพียงแค่สลบไป คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวสัก 5 วัน!หมอชี้แจง
"เอาล่ะ ข้าฝากให้เจ้าเป็นผู้ดูแล" จักรพรรดิพยักหน้า
"ขอรับ"หมอพา เหยียน ซิว ไปที่พักด้วยความช่วยเหลือของผู้ช่วยสองสามคน
ฝูงชนแยกทางให้พวกเขาผ่านไป
ฟาง เจิ้งจือ เฝ้าดูขณะที่ เหยียน ซิว ถูกพาไปเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะวิ่งตามหมอไป
"ฟาง เจิ้งจือ เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังจะไปไหน?" ปิง หยาง โกรธเมื่อเห็นเขาพยายามวิ่งจากไป จักรพรรดิยังไม่ได้ประกาศผล เจ้ากล้าวิ่งหนีไปได้อย่างไร?
นางต้องสอนเรื่องกฎกับเขาเสียหน่อย
นี่จะป้องกันไม่ให้เขาสร้างปัญหามากไปกว่านี้
"ท่านไม่เห็นอาการบาดเจ็บของข้าหรือ? ข้าต้องการพบหมอ!" ฟาง เจิ้งจือ หันมอง ปิง หยาง ด้วยท่าทางที่เจ็บปวด
"หาหมอ?" ปิง หยาง อยากจะถามว่าเขาบาดเจ็บที่ตรงไหนอย่างไรก็ตามนางกลืนคำพูดไป
หลังจากได้เห็นความรุนแรงของการต่อสู้ครั้งนี้ ฟาง เจิ้งจือ อาจได้รับบาดเจ็บ
ฟาง เจิ้งจือ เห็น ปิง หยาง ไม่ตอบรับ จึงหันไปดู เหยียน ซิว และกำลังจะวิ่งออกไป อย่างไรก็ตาม โชคไม่เข้าข้างเขาเท่าไหร่
เขาถูกหยุดไว้โดยคนอื่น
คนนั้นคือ ซิง ฉิงซุย
"ขอขอบคุณ ฟาง เจิ้งจือ" ซิง ฉิงซุย กล่าวพูด เขาขอบคุณเรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำให้เขาได้รู้ถึงคำว่าพลัง จากนั้นเขาก็มองไปที่อาการบาดเจ็บของ ฟาง เจิ้งจือ "กองตรวจการความมั่นคงต่อสู้ในสงครามมาหลายปีเรามียาที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าได้ ทำไมไม่ ... "
เขาอยากจะถาม ฟาง เจิ้งจือ ว่าอยากจะไปรักษาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ โบกมือให้เขาหลีกทาง "ไม่เป็นไร ข้ายุ่งมากข้าขอตัวก่อน!"
จากนั้นก่อนที่ ซิง ฉิงซุย จะตอบกลับ เขาก็คุกเข่าลง
ซิง ฉิงซุย คุกเข่าลงติดพื้น เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังยุ่ง
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็ตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ซิง ฉิงซุย ขอบคุณเขา? อะไรกัน?"
"กองตรวจการความมั่นคงก็มีความสัมพันธ์กับ ฟาง เจิ้งจือ รึ?""
เจ้าหน้าที่ทุกคนเริ่มคาดเดา อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าพูดความคิดของพวกเขา กองตรวจการความมั่นคงเป็นถึงเสาหลักของอาณาจักร
ผู้นำของทั้ง 13 หน่วย!
ใครจะกล้าพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน?
"หมอหลี่ ติดตามฑูตแห่งดาบและรักษาอาการเขา" จักรพรรดิ มองไปที่ ซิง ฉิงซุย แล้วมองกลับไปทาง ฟาง เจิ้งจือ แล้วสั่งหมออีกคน
"ขอรับ ฝ่าบาท" หมอหลี่พยักหน้าและวิ่งตาม ฟาง เจิ้งจือ ไป
เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ตะลึงที่เห็นเวทีว่างเปล่า
ทั้งสองคนออกไปแล้ว? ใครเป็นผู้ชนะในรอบนี้กัน?
"เจ้าเห็นชัดเจนงั้นหรือ? ว่าใครโดนพื้นก่อน?"
"ข้าคิดว่าน่าจะเป็น ฟาง เจิ้งจือ"
"ข้าไม่มั่นใจเท่าไร เหยียน ซิว ได้หมดสติไปแล้ว ดังนั้นเขาไม่น่าจะทำอะไร ฟาง เจิ้งจือ ในอากาศได้ดังนั้นเขาน่าจะถึงพื้นก่อน ยิ่งไปกว่านั้น เหยียน ซิว สูญเสียพลังไปขณะที่สลบไปเรียบร้อยแล้ว ตามกฎ เหยียน ซิว น่าจะแพ้"
"ผู้คุมสอบไม่ได้บอกว่า เหยียน ซิว นั้นได้เสียความสามารถในการสู้รบ นั่นหมายความว่าการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป จากกฎผู้ชนะคือผู้ที่โดนพื้นที่หลัง"
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างถกเถียงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น การต่อสู้ครั้งนี้มีผลต่ออันดับของการทดสอบระดับจักรพรรดิ
"เราต้องทำตามกฎของการทดสอบระดับจักรพรรดิ สามวันหลังจากนี้โรงเรียนหลวงและผู้คุมจะประกาศอันดับการทดสอบ!"องคจักรพรรดิได้ยินเสียงถกเถียง จึงประกาศขึ้นมา
"รับทราบ องค์จักรพรรดิ!"
ราชาต้วนและองค์ชาย9 รวมถึงผู้ส่งสารหลวงนั้นรู้ถึงคำสั่งดี
องค์จักรพรรดิ พยกหน้าและเดินจากไป
ปิง หยาง ยังคงไม่พอใจเล็กน้อยที่ ฟาง เจิ้งจือ เดินจากไป"ท่านพี่ ท่านจะให้คนส่งธนูมาให้ข้า หรือให้ข้าส่งคนไปเอามัน?"
"ข้าจะให้คนส่งไปให้เจ้าพรุ่งนี้!" ท่าทีของราชาต้วนเปลี่ยนไปทันที แต่เขาก็กัดฟันเอาไว้
"ขอบคุณมากท่านพี่!"ปิง หยาง ยิ้ม
...
การทดสอบระดับสภาเบื้องต้นใกล้เสร็จแล้ว แต่ทุกคนรู้ว่ามันยังห่างไกลจากคำว่าสิ้นสุด
ความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ ที่สามารถใช้วิชาของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์และกองตรวจการความมั่นคงได้ นั้นดึงดูดความสนใจของเหล่าเจ้าหน้าที่
ที่สำคัญการทดสอบนี้ส่งผลต่อผลอันดับในการทดสบระดับจักรพรรดิ
แต่ผลยังไม่ชัดเจนนัก ใครจะเป็นอันดับ 1?
ฟาง เจิ้งจือ หรือ เหยียน ซิว?
คำตอบจะถูกเปิดเผยภายในสามวัน
นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง
มันถูกยับยั้งโดยองค์จักรพรรดิก่อนหน้านี้ มันคือการสังหารหมู่ทหารในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
ก่อนหน้านี้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง การที่ฝ่ายกฎหมายจะสอบสวนเขาได้ จะต้องได้รับอนุญาติจากองค์จักรพรรดิ
นอกจากนี้ ฟาง เจิ้งจือ พึ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับ 4 หากพวกเขาออกหมายจับ คนทั่วไปอาจจะคิดว่าพวกเขาทำไปเพื่อดาบไร้ร่องรอย
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล
อย่างไรก็ตาม เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ กลับมา ทุกอย่างอาจจะเป็นโมฆะ แต่กรณีนี้ มันเกี่ยวข้องกับชีวิตของทหารนับร้อย
พวกเขาไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้
แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ไม่มีเหตุผลต้องยับยั้งแล้วเรื่องนี้จะตกอยู่ในมือของฝ่ายกฎหมายแทน
ในที่พักขององค์รัชทายาท รัฐมนตรีว่าน ฉง เสนอความคิดต่อองค์รัชทายาท ตราบที่ ยู่ ยี่ปิง สนับสนุน เขาก็จะเสนอเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิ
ยู่ ยี่ปิง เคาะโต๊ะขณะนั่งอยู่ เขาเคาะโต๊ะเบา ๆ ด้วยมือขวา เขาขมวดคิ้วอย่างลังเลใจ
"เจ้าคิดอย่างไร?"องค์รัชทายาทถามความคิดเห็นขึ้นมา
"ข้าคิดว่ามันไม่ใช่โอกาสที่แย่ แต่ ... ก็ไม่ได้ดีเท่าไร" ยู่ ยี่ปิง ลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
"พูดมาให้ละเอียด" องค์รัชทายาทค่อนข้างสับสน
"จากข้อมูลที่ข้าได้รวบรวม ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง ก็อยู่ที่นั่นด้วย มันเป็นเรื่องยากที่พวกเราจะลงโทษ ฟาง เจิ้งจือ พวกเราทำได้มาที่สุดคือลงโทษเขาที่ทำเกินกว่าเหตุ"
"เจ้าคิดว่าเราควรปล่อยมันไป?"รัฐมนตรี ว่าน ฉง ขมวดคิ้ว ไม่เต็มใจที่จะให้ ฟาง เจิ้งจือ ผ่านไป
"ไม่การันตีความสำเร็จ ข้าคิดว่าควรปล่อยให้เป็นเรื่องของศาลไป"
"ดังนั้นเจ้าคิดว่าเราควรรอต่อไป?"องค์รัชทายาทถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"ใช่แล้ว พวกเรารอมานานแล้ว รออีกนิดหนึ่งจะเป็นไรไป ผลของการทดสอบจะประกาศเร็วๆนี้ ข้าคิดว่าราชาต้วนคงมีเรื่องอยู่ในใจมากมายตอนนี้ ลองดูว่าเขาจะตัดสินใจยังไง!" ยู่ ยี่ปิง พยักหน้า
"เอาล่ะพวกเราจะทำตามที่ ยู่ ยี่ปิง บอก ว่าน ฉง เลิกสืบสวนเรื่องนี้!"
"รับทราบ!""
...
โรงเรียนหลวงนั้นวุ่นวายมากกว่าปกติ
อันดับการทดสอบนั้นยังจัดเรียงไม่เสร็จสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นองค์จักรพรรดิให้เวลาพวกเขาสามวันเท่านั้น
และตอนนี้ ฮัน ฉางเฟิง ยังคงอยู่ในคุก โรงเรียนหลวงจึงไม่มีผู้นำ
ทุกคนในเมืองต่างพูดคุยถึงผลการทดสอบ
หลายบ้านไดใช้เงินพนันผลการทดสอบไว้มากมาย
"เชิญ วางเดิมพัน อันดับการทดสอบ! ท่านจะได้เงินมากกว่าที่ท่านเดิมพันไว้! ผลลัพธ์จะออกอีก 3 วันข้างหน้า! อย่าพลาดโอกาสนี้! เหยียน ซิว หรือ ฟาง เจิ้งจือ ! "
"ข้าเดิมพัน 50 เหรียญเงิน!"
"หลบไป! ข้าพนัน เหยียน ซิว 200 เหรียญเงิน!"
ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยเสียงดังก้องของผู้คน ความคึกคักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ภายในร้านอาหารและโรงเตี้ยม...
มีกลุ่มคนที่แต่งตัวดูดีจำนวนหนึ่งนั่งอยู่ พวกเขาคือผู้มีพรสวรรค์ที่มาเข้าร่วมการทดสอบระดับสภา แน่นอนว่าพวกเขาต้องกังวลเกี่ยวกับผลอันดับ
"นายน้อยหลี่ ท่านคิดยังไงเกี่ยวกับอันดับในครั้งนี้?"
"ข้าไม่มั่นใจ แต่ข้าคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะเดา"
"โอ้...? กรุณาให้ความกระจ่างแก่พวกเรา!"
"นี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีผลชัดเจน ดังนั้นผลที่ได้จะถูกกำหนดโดยคน ทั้งหมดที่เราต้องทำคือคาดการณ์ผลที่คนส่วนใหญ่ต้องการ "
"สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการ? ท่านหมายความว่า เหยียน ซิว จะเป็นอันดับหนึ่ง?"
"เหยียน ซิว ได้กดดัน ฟาง เจิ้งจือ หลายครั้งในการต่อสู้ นอกจากนี้ในมุมมองขององค์จักรพรรดิ เขาให้ค่า เหยียน ซิว มากกว่า ฟาง เจิ้งจือ การให้โรงเรียนหลวงตัดสิน นั้นก็เหมือนเป็นการบอกผลที่ชัดเจนแล้ว"
"ไม่แปลกใจที่ท่านอยู่ในกลุ่มแรกของการทดสอบระดับจักรพรรดิในรอบที่แล้ว ทุกสิ่งที่ท่านพูดดูเป็นเหตุเป็นผล จากแหล่งข้อมูลของข้า ราชาต้วนเป็นผู้ควบคุมการออกผลการทดสอบ ในเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ฆ่าทหารเขาไปจำนวนมาก เขาน่าจะไม่พอใจ..."
"ใช่แล้ว! เขานั้นโชคดีมากแล้ว ในฐานะคนธรรมดาที่มาไกลขนาดนี้ เขาจะเป็นผู้ชนะได้ยังไงกัน? ตามเนื้อผ้า ผู้ที่ชนะต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์และมาจากตระกูลที่มีอิทธิพล ก่อนหน้านี้คือ ฉือ กูเหยียน ก่อนหน้าอีกเป็น นานกง เฮา พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะ!"
"ตระกูลเหยียน เก็บตัวเงียบมาหลายปี ข้าไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะทำให้โลกต้องตะลึงขึ้นมา!"
"ฮ่าฮ่านั่นเป็นความจริง! ลูกพี่ลูกน้องของข้าเคยอยู่กับตระกูลเหยียน ข้าคิดว่าเขาจะเข้าเมืองมาพรุ่งนี้ จากนั้นพวกเราค่อยไปสานสัมพันธ์กับเขา"
"ข้าได้ยินมาว่า เหยียน ซิว เป็นคนเยือกเย็น พวกเราต้องการให้เจ้าช่วยทำลายความเยือกเย็นนั้น "
"เเน่นอน..."
...
ท่ามกลางเสียงเอะอะในเมืองหลวง ที่พักของราชาต้วนนั้นเงียบสงบ ทหารหุ้มเกราะลาดตระเวณไปทั่วบริเวณ นกไม่กล้าบินล้ำเข้ามาในรัศมี 100 เมตร
"ท่านฮั่ว ราชาต้วนกำลังรอท่านอยู่ เขาไม่ยอมดื่มน้ำหรือจิบชา ท่านช่วย ... "
"ฮืม เอามาให้ข้า ข้าจะเอาไปให้เอง!"ท่านฮั่วรับมาจากทหาร
"ขอขอบคุณท่านมาก" ทหารออกไป
ท่านฮั่วมองอาหารในมือ เขาไม่ได้เร่งรีบจะเข้าไป เขาหันกลับไปที่ศาลาด้านข้าง
"ฝ่าบาททรงลาดตระเวนที่ค่ายอยู่เสมอ แต่เจ้ากำลังศึกษาอะไรอยู่ ข้าคิดว่าปัญหานี้ข้าไม่สามารถแก้ได้ ต้องรอ!"
ท่านฮั่วนั่งอยู่ในศาลาและจู่ๆร่างหนึ่งก็ปรากฎขึ้นใกลๆ
"เร็วมาก? พรสวรรค์ของเจ้าช่างน่าสนใจ!" ท่านฮั่วมองไปที่ร่างนั้น และเผยรอยยิ้มอันเยือกเย็นออกมา
เพจหลัก : Double gate TH