ตอนที่ 138 ลอบสังหาร
ชายชราแหงนหน้าขึ้น และเมื่อสายตาของมันจ้องมองไปยังสตรีที่แสนงดงามคนนั้น จังหวะของเสียงดนตรีก็เปลี่ยนไป
หญิงสาวที่มาพร้อมกับมันก็เปลี่ยนเพลงร้องเช่นกัน เพลงที่นางร้องออกมาเป็นเพลงปลุกระดมทำให้คนอยากโจมตี ในขณะเดียวกัน นางเริ่มเต้นรำราวกับนางกำลังฝึกฝนทักษะดาบ และถึงแม้จะไม่มีดาบในมือของนาง ทักษะที่นางแสดงออกมาก็ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
การเคลื่อนไหวของนางเริ่มใช้พื้นที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ และนางค่อยๆเข้าไปใกล้สตรีที่งดงามคนนั้น
บทเพลงที่ก้องกังวานไปทั่วร้านราวกับเป็นคลื่นมหาสมุทรได้จับกุมจิตใจและความคิดของเหล่าคนที่ฟัง คนที่ไม่ได้รับผลกระทบมีเพียงหลิงฮัน สัมผัสสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธระดับรวมธาตุทั่วๆไป แถมเขายังมีจิตวิญญาณที่เป็นของจอมยุทธระดับสวรรค์ที่คอยปกป้องจิตใจและความคิดของเขาอีกด้วย
ตอนนี้พวกมันจะเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงแล้วสินะ?
หญิงสาวเต้นรำอยู่ใกล้ๆสตรีที่งดงามในขณะที่จู่ๆมือขวาของนางก็สั่นไหวพร้อมกับมีดาบเล่มหนึ่งปรากฏออกมา และฟันไปยังสตรีที่งดงามคนนั้นทันที
ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว นางดูราวกับเป็นเทพธิดาที่ล่องลอยลงมาจากสรวงสวรรค์ ความงดงามของนางนั้นเกินจะบรรยายเป็นคำพูด
“ข้าคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นพวกเจ้า!” ในตอนนั้นเอง สตรีที่งดงามก็ใช้ฝ่ามือตบไปที่โต๊ะ ‘ปัง’ โต๊ะที่ทำจากไม้ชั้นดีแหลกออกเป็นหลายส่วนในทันที เศษไม้ที่ที่ถูกตบจนแหลกได้พุ่งเข้าไปใส่หญิงสาวราวกับพวกมันเป็นลูกธนู
‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ หญิงสาวสะบัดดาบเพื่อป้องกันเศษไม้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นสมาชิกของกองทัพเมฆาทมิฬทั้งสามก็ได้สติกลับคืนมา พวกมันมีสีหน้าที่ตกตะลึง นั่นเพราะพวกมันรู้สึกตัวช้าเกินไป ถ้าพวกมันเป็นเป้าหมายของหญิงสาวนักฆ่า พวกมันคงจะถูกสังหารไปแล้ว
“เจ้ากล้าดีอย่างไร!” ชายทั้งสามตะโกนขึ้นมาพร้อมกันอย่างเกรี้ยวกราดและชักอาวุธเข้าจู่โจมหญิงสาว
ใครสนล่ะว่าเจ้าเป็นสาวงามล่มเมือง? ใครก็ตามที่กล้าลงมือกับพระชายาจะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ และญาติพี่น้องของคนคนนั้นจะต้องถูกกำจัดไปพร้อมๆกันเพื่อเป็นบทลงโทษ
“มดปลวกสามตัว!” แววตาของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น ดาบของนางฟันไปข้างหน้าเป็นรูปจันทร์เสี้ยวและปรากฏปราณดาบสามเล่มออกมา
“อะไรกัน?!” คนของกองทัพเมฆาทมิฬทั้งสามตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้เป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นสูง และปราณดาบอันทรงพลังของนางไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสามคนจะต้านทานได้ เมื่อปราณดาบพุ่งไป ‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ บาดแผลได้ปรากฏขึ้นที่หน้าอกของชายทั้งสามพร้อมกับมีเลือดพุ่งกระฉูดออกมา พวกมันถูกสังหารในพริบตา
หญิงสาวผิวปากเบาๆและโจมตีไปยังสตรีที่งดงามต่อ
“ฆาตกร!” ในที่สุดลูกค้าที่เหลืออยู่ไม่กี่คนก็ได้สติและตระโกนออกมาพร้อมกับวิ่งหนีลงบันได
“สาวน้อย พวกเจ้าสินะที่เป็นคนล่อข้าออกมา?” สตรีที่งดงามหัวเราะคิกคัก นางไม่ยืนขึ้น แต่กลับนั่งเฉยๆและใช้มือเปล่าป้องกันใบดาบอันคมกริบของหญิงสาว
เมื่อมองให้ดี จะเห็นว่าที่มือของนางมีแสงอ่อนคลุมเอาไว้อยู่ ทุกๆครั้งที่นางปัดป้องดาบที่ฟันมา แสงที่มือจะส่องสว่างขึ้นและป้องกันทุกๆความเสียหายที่เกิดจากใบดาบ
หญิงสาวไม่พูดตอบ นางเร่งพลังขึ้นมา ทุกๆการโจมตีที่นางฟันออกไปทั้งรวดเร็วและรุนแรง
“สาวน้อย ผู้ใดคืออาจารย์ของเจ้ากัน?” สตรีที่งดงามมีท่าทางสงบนิ่งอย่างมาก นางอยู่ในระดับห้วงจิตวิญญาณ และอยู่เหนือกว่าหญิงสาวที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นธรรมดาที่นางจะสู้แบบไม่จริงจัง
“ฮึ่ม!” ชายชราหยุดบรรเลงซอเอ้อหู มันกระโดดพุ่งเข้าไปทางสตรีที่งดงาม เมื่อมันสะบัดมือขวา สายของซอเอ้อหูได้พุ่งไปข้างหน้าเพื่อหวังมัดตัวสตรีที่งดงาม
สตรีที่งดงามหรี่ตาลงก่อนที่จะยิ้มและพูด “เจ้าไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่พี่สาวคนนี้ชอบ พี่สาวไม่อยากจะถูกจับมัดโดยเจ้า แต่ถ้าเจ้าเป็นชายหนุ่มหล่อเหลา พี่สาวอาจจะสนใจหน่อยๆก็ได้”
ทั้งสองคนเป็นนักฆ่า สีหน้าของพวกมันจึงไม่เปลี่ยนเพียงเพราะคำพูดของศัตรู แต่ตรงกันข้าม การโจมตีของพวกมันกลายเป็นรวดเร็วและรุนแรงขึ้น พวกมันโจมตีเคลื่อนไหวได้เข้าขากันอย่างมาก อย่างไรก็ตาม พวกมันทั้งคู่อยู่เพียงระดับก่อเกิดธาตุ ถึงแม้จะเป็นก่อเกิดธาตุขั้นเก้า แต่พวกมันจะสามารถต่อกรกับระดับห้วงจิตวิญญาณได้รึ?
สตรีที่งดงามออกแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทั้งสองคนตกอยู่ในสภาพที่มีอันตรายรอบด้าน
“คงไม่เคยคาดคิดเลยสินะ? ข้าที่ทรยศต่อตำหนักบุปผาร่วงหล่น แต่พลังบ่มเพาะกลับสามารถทะลวงผ่านระดับห้วงจิตวิญญาณได้!” แม้ร่างของนางเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย แต่การโจมตีของนางนั้นทั้งรวดเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ถ้าจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเอาจริง จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุจะมาต่อต้านอย่างไร?
นักฆ่าทั้งสองตกอยู่ในภาวะคับขันและสถานการณ์ที่ยากลำบากในทันที
“ข้าต้องการคนส่งข่าวกลับไปยังตำหนักบุปผาร่วงหล่นเพียงแค่คนเดียว!” สตรีที่งดงามปลดปล่อยจิตสังหารที่เยือกเย็นออกมา “กลับไปบอกฮัวหวู่เย่ซะ เมื่อไหร่ที่ข้าทะลวงผ่านระดับแก่นแท้จิตวิญญาณได้ เมื่อถึงตอนนั้นจะเป็นวันที่ยัยนั่นหัวหลุดออกจากบ่า!”
จิตสังหารของนางแพร่กระจายไปทั่วพร้อมกับพลังโจมตีที่รุนแรงกว่าเดิม
ชายชราและหญิงสาวแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนที่พวกมันจะยืดมือออกไปและกุมมือกัน ทันใดนั้นเอง พลังของพวกมันเกิดการโคจรอย่างรวดเร็วและพลังต่อสู้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจนสามารถต้านทานกระบวนท่าสังหารของสตรีที่งดงามได้
หลิงฮันคิดในใจ ‘นั่นมันทักษะสองใจรวมเป็นหนึ่ง?’ มันคือทักษะลับที่สามารถเพิ่มศักยภาพของคนสองคนได้ถึงสิบเท่า อย่างไรก็ตาม เมื่อผลลัพธ์ของทักษะหมดลง พลังบ่มเพาะของสองคนที่ใช้ทักษะนี้จะลดลงชั่วขณะ
อย่างไรก็ตาม ‘ทักษะสองใจรวมเป็นหนึ่ง’ มีข้อกำหนดในการใช้ที่ยากลำบาก นั่นคือทั้งสองคนที่ใช้ทักษะนี้จะต้องเป็นพี่น้องกัน แต่ดูจากชายชราและหญิงสาวตรงหน้าแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งสองจะเป็นพี่น้องกัน?
ในขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจ นักฆ่าทั้งสองคนเองก็รู้สึกตัวแล้วว่าพวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสตรีที่งดงาม พวกมันทำได้เพียงต้านทานการโจมตีได้ไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น พวกมันรีบกระโดดพุ่งออกไปทางหน้าต่างและหนีไปให้ไกลที่สุด
สตรีที่งดงามเดินไปยืนที่หน้าต่างและจ้องมองไปยังจุดที่นักฆ่าทั้งสองหายตัวไป โดยไม่ไล่ตามไป
ผู้คนที่เดินอยู่ตรงถนนได้ยินเสียงกระจกแตกและมองขึ้นมาข้างบน แต่สิ่งที่พวกมันมองเห็นมีเพียงสตรีที่งามล่มเมืองกำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ผู้ที่เดินสัญจรไปมาอดที่จะน้ำลายไหลไม่ได้เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ช่างเป็นผู้หญิงที่ยั่วยวนและมีเสน่ห์จริงๆ!
สตรีที่งดงามหันหลังและกวาดสายตาไปยังหลิงฮัน “น้องชาย เจ้านี่กล้าจริงๆนะที่ไม่วิ่งหนีไป”
หลิงฮันยิ้มและพูด “ข้ากลัวจนขาอ่อนไปหมดแล้ว ต่อให้อยากจะหนีก็ทำไม่ได้”
“ฮิฮิ!” สตรีที่งดงามใช้มือปิดปากและหัวเราะ “พี่สาวชอบผู้ชายปากหวานและมีอารมณ์ขันแบบเจ้า แต่น่าเสียดายจริงๆที่พี่สาวแต่งงานแล้ว!”
ร่างของนางพุ่งออกไปทางหน้าต่าง โดยเมินเฉยต่อซากศพของกองทัพเมฆาทมิฬทั้งสามคนอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือจิตใจของหญิงสาว!
อวัยวะภายในของหลิงฮันสั่นสะท้าน เมื่อสักครู่ สตรีที่งดงามปล่อยจิตสังหารมาทางเขา แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆนางถึงได้ยกเลิกความตั้งใจนั้น
แค่การมากินอาหารก็ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้แล้ว เขาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดเลยจริงๆ
หลิงฮันลุกขึ้นและเดินออกจากร้าน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาไม่มีเวลาว่างพอจะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่น
เมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของจักรพรรดิ แต่กลับมีสมาชิกของกองทัพเมฆาทมิฬตายไปถึงสามคน นี่นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก ทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิตกอยู่ในความโกลาหล ตามถนนจะเห็นกองทหารเดินตรวจตราเพื่อค้นหาร่องรอยของนักฆ่าทั้งสอง
หลังจากหลิงฮันกลับสำนักฮูหยางและเดินเข้าไปยังลานที่พัก คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันในทันที
มีคนแตะต้องเขตหวงห้ามและเข้ามาในลานที่พักของเขา!
“ฟุบ” มีแสงประกายเกิดขึ้นและดาบเล่มหนึ่งได้ชี้มาที่หน้าอกของเขาพร้อมกับการปรากฏตัวของหญิงสาว “อย่าส่งเสียง ไม่งั้นข้าจะสังหารเจ้า!”
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*