ตอนที่ 134 กลับเมืองจักรพรรดิ
เมื่อหลิงฮันมองไปยังซากศพ ความคิดบางอย่างได้เกิดขึ้นในใจของเขา
เมื่อหลายปีก่อน เจียงเย่เฟิงและจอมยุทธระดับสวรรค์หลายคนร่วมมือกันต่อต้านจอมยุทธระดับทลายมิติคนนี้ และลัพธ์ก็คือไม่มีฝ่ายไหนชนะและทุกคนต้องเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จอมยุทธระดับมลายมิตินั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้แต่จะเสียชีวิตไปแล้วก็ยังสามารถสร้างเขตแดนลึกลับที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้
หลังจากหลายปีผ่านไป แม้แต่เจตจำนงของจอมยุทธระดับทลายมิติก็ยังอ่อนแอลง และนั่นจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวจนลำธารใต้พิภพปรากฏขึ้นมาพร้อมกับอาวุธวิญญาณมากมาย
หลิงฮันไม่รู้ว่าจอมยุทธระดับทลายสวรรค์คนนี้เป็นใคร แต่เขาเชื่อใจลูกศิษย์ของเขา ในเมื่อเจียงเย่เฟิงมีส่วนร่วมในการต่อต้าน งั้นจอมยุทธระดับทลายมิติคนนี้ก็คงต้องก่อความผิดที่ร้ายแรงขึ้นแน่นอน
ถ้าเขาต้องการออกไปจากสถานที่แห่งนี้ก็เป็นเรื่องง่ายๆ!
เพราะว่าต้นตอของทุกสิ่งในที่แห่งนี้เกิดมาจากเจตจำนงของจอมยุทธระดับทลายมิติคนนี้ ตราบใดที่หลิงฮันสามารถลบเจตจำนงของมันให้หายไปได้ ทุกๆอย่างในที่แห่งนี้ก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติ
สำหรับคนอื่น การจะลบเจตจำนงของจอทยุทธระดับทลายมิติคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับหลิงฮันแล้ว เพียงแค่ออกแรงนิดๆหน่อยๆก็พอ
เพราะอย่างไรต้นกำเนิดของเจตจำนงก็คือกระดูกของซากศพนี้ และตอนนี้โครงกระดูกที่ว่าก็เกือบจะพังทลายแล้วด้วย เขาสามารถทำให้มันกลายเป็นผุยผงได้ด้วยการออกแรงเล็กน้อย
หากเป็นปกติหลิงฮันคงไม่ทำอะไรอย่างเช่นการทำลายซากศพของคนอื่น แต่คนคนนี้มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นตัวตนที่ชั่วร้าย
หลิงฮันปล่อยลูกถีบออกไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ปัง” โครงกระดูกที่มีรอยร้าวอยู่เต็มไปหมดพังทลายในทันที รวมถึงอักขระสีทองที่สลักอยู่บนโครงกระดูกได้กลายเป็นพลังงานที่มองไม่เห็นและหลั่งไหลออกไปทั่วทิศทาง
สภาพรอบข้างเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
ในตอนแรก หลิงฮันไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆภายนอกเขตแดนลึกลับได้ แต่ตอนนี้ เมื่อเจตจำนงของจอมยุทธระดับทลายมิติหายไป เขตแดนลึกลับเองก็สลายไปอย่างไร้ร่องรอย สายตาของเขาจึงไม่มีอะไรมาขัดขวางอีกต่อไป
“หลิงฮัน!” หลิวอู๋ตงและหลีซื่อฉางพูดพร้อมกันด้วยความตกตะลึง
ดวงตาของหลิงฮันมองไปรอบๆ แต่กลับพบเพียงหญิงสาวทั้งสองที่ยังอยู่ที่นี่ ไม่มีร่องรอยของคนอื่นๆแม้แต่คนเดียว เขาชะงักไปชั่วขณะแต่ก็เข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้สมุนไพรระดับพระเจ้าได้วิ่งออกไปจากเขตแดนลึกลับ มันคงกลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นๆและทำให้ไม่มีใครอยู่ที่นี่
“ข้าทำให้พวกเจ้ารอสินะ” หลิงฮันพยักหน้าให้กับทั้งสอง
สองสาวยิ้มตอบ ในความเป็นจริงทั้งสองนั้นเป็นห่วงหลิงฮันมาก แต่พวกนางรู้สึกอายเกินไปที่จะแสดงความกังวลออกมาอย่างเปิดเผย
“ไปกันเถอะ!”
ทั้งสามคนเดินกลับไปยังทางที่พวกเขามา แต่เมื่อพวกเขาเดินไปสักพัก พวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันอันทรงพลังที่กระทบร่างกายของพวกเขา หลีซางเย่และปีศาจเฒ่าคนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นมา
...ซากศพของจอมยุทธระดับทลายมิติได้ถูกทำลายไปแล้ว แสงแห่งพระเจ้าจึงหายไปด้วยเช่นกัน เพราะงั้นจึงไม่มีอะไรมาขัดขวางปีศาจเฒ่าเหล่านั้นอีกต่อไป
เหล่าปีศาจเฒ่าได้ผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าพวกมันจะมองหลิงฮันเอาไว้สูงขนาดไหน พวกมันก็คงไม่คิดหรอกว่าการที่แสงแห่งพระเจ้าหายไปจะเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนนี้ ความสนใจทั้งหมดของพวกมันได้มุ่งไปที่สมุนไพรแห่งพระเจ้า ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีเวลามาพูดคุยเล่นกับหลิงฮัน ‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ ร่างกายพวกมันพุ่งหายไปจากสายตาของพวกเขา
‘สมุนไพรระดับพระเจ้า... พวกมันไม่มีทางได้มาอย่างแน่นอน’
หลิงฮันคิดในใจ สมุนไพรระดับพระเจ้าคือสมุนไพรระดับสิบ ถึงแม้มันจะไม่แข็งแกร่ง แต่ความเร็วในการหนีของมันนั้นไร้พ่ายอย่างแท้จริง ต่อให้เขายังมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสวรรค์ เขาก็คงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะจับมัน
เหตุผลที่ทำไมเขาถึงสามารถคว้ามันเอาไว้ได้ก็เป็นเพราะเมื่อสักครู่ยังมีเขตแดนของจอมยุทธระดับทลายมิติอยู่ ทำให้ความเร็วของมันลดลง แถมตอนนั้นสมุนไพรแห่งพระเจ้ายังประมาทอีกด้วย มันไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครสามารถผ่านเข้าไปยังเขตแดนลึกลับได้
สถานที่แห่งนี้ไม่มีของล้ำค่าหลงเหลืออีกต่อไป ดังนั่นหลิงฮันจึงเลือกที่จะกลับออกไปอย่างไม่ลังเล แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องบางเรื่องที่ติดใจเขาอยู่
ทำไมจู่ๆเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนถึงมีจอมยุทธระดับทลายมิติปรากฏตัวขึ้นมา? ทำไมจู่ๆจึงมีจอมยุทธระดับสวรรค์มากมายปรากฏตัวขึ้นมา? และความผิดอันใดกันที่จอมยุทธระดับทลายสวรรค์คนนั้นก่อขึ้นจนจอมยุทธระดับสวรรค์มากมายรวมตัวกันต่อต้านและกลายเป็นโศกนาฏกรรมเช่นนั้น?
ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง เขาก็ไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้
บางทีเรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นปริศนาไปตลอดการ
หลิงฮันตั้งสติกลับมา ครั้งนี้เขาได้รับสมบัติมาสามอย่าง แหวนมิติ รากของสมุนไพรระดับพระเจ้าและจิตวิญญาณเปลวเพลิง
แหวนมิติยังไม่เท่าไหร่ แต่อีกสองอย่างนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่ตัวเขาในชีวิตที่แล้วยังต้องปรารถอยากได้อย่างบ้าคลั่ง
ระหว่างทางกลับ พวกเขาเห็นผู้คนมากมายกำลังค้นหาสมุนไพรระดับพระเจ้าไปทั่ว หลิงฮันไม่หยุดเดิน เขาตัดสินใจว่าเมื่อออกไปจากลำธารใต้พิภพเสร็จเขาจะเดินทางกลับทันที
“ฟุบ” ทั้งสามคนเพิ่งจะขึ้นถึงริมฝั่งแม่น้ำก็พบเจอกับสมุนไพรระดับพระเจ้าที่วิ่งผ่านพวกเขาไป มันวิ่งผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็วและหายวับไปจากสายตา “ฟุบ ฟุบ ฟุบ” ในไม่ช้าหลีซางเย่และปีศาจเฒ่าคนอื่นๆก็ปรากฏตัว พวกมันมีท่าทางฉุนเฉียว เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกสมุนไพรแห่งพระเจ้าหยอกล้อมา
หลิงฮันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้แสงแห่งพระเจ้าได้หายไปแล้ว ทำให้ไม่มีอะไรมาขัดขวางสมุนไพรแห่งพระเจ้า ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่มันจะไม่อาศัยอยู่ที่นี่อีกต่อไป และดูเหมือนมันคงจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาเดาว่าสมุนไพรแห่งพระเจ้าคงจะไม่ออกไปจากแคว้นพิรุณเช่นกัน และเมื่อเขาบรรลุระดับสวรรค์อีกครั้ง เขาจะกลับมาค้นหามันอีกครั้ง ใครจะรู้ล่ะ เขาอาจะสามารถจับสมุนไพรแห่งพระเจ้าต้นนั้นได้ก็ได้
หลังจากที่แสงแห่งพระเจ้าหายไป อาวุธวิญญาณระดับเก้าได้พุ่งออกไปจากลำธารใต้พิภพอย่างรวดเร็ว หลิงฮันไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ หลังจากถามความเห็นของสองสาว ทั้งสามคนก็กลับไปยังเมืองจักรพรรดิด้วยกัน
เมื่อหวู่ซงหลินเห็นว่าหลิงฮันกลับมาไว มันอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะการที่ให้ชายชราอย่างมันดูแลเด็กสาวถึงสองคนนับว่าเป็นงานที่ปวดหัวมาก ฮูหนิวนั้นป่าเถื่อนเกินไป มันจึงไม่สามารถยกนางให้สาวใช้คอยดูแลได้ ทางเลือกเดียวที่เหลือก็คือมันต้องเป็นคนดูแลนางเอง และการต้องดูแลนางเป็นเวลาหลายวันทำให้มันทุกข์ทรมานจนน้ำหนักลดไปหลายกิโล
“หลิง หลิง!” เมื่อฮูหนิวเห็นหลิงฮัน นางกระโดดเข้ามาเกาะไหล่หลิงฮันทันที ใบหน้าเล็กๆของนางยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
หลิงฮันหัวเราะออกมา เป็นเรื่องแปลกมากที่จะได้ยินเด็กสาวไม่พูดคำว่า‘เนื้อ’ ดูเหมือนว่านางจะคิดถึงเขาจริงๆ อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งจะคิดเช่นนั้นเสร็จก็ได้ยินฮูหนิวพูดขึ้นมา “เนื้อ! เนื้อ! เนื้อ!”
เอาเถอะ ความตะกละของนางคงเป็นเรื่องอยากที่จะแก้ไขได้
“ไปกินเนื้อกันเถอะ!” เขาอุ้มฮูหนิวขึ้นมา ในขณะที่อีกมือหนึ่งได้กุมมือของหลิงจือซ่วนเอาไว้และเดินจากไปพร้อมกับเด็กสาวทั้งสอง
หลิวอู๋เดินตามหลิงฮันไป แต่หลีซื่อฉางไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ นางทำได้เพียงอยู่ช่วยหวู่ซงหลินอย่างไม่เต็มใจ นั่นเพราะหวู่ซงหลินเพิ่งจะทำความเข้าใจศาสตร์แห่งการปรุงยาระดับใหม่ได้และคิดจะหลอมเม็ดยาระดับดำขั้นสูงหลายอย่างขึ้นมา ถ้าผ่านไปได้ด้วยดี มันจะทดลองหลอมเม็ดยาระดับปฐพีต่อ
ส่วนผสมที่สำคัญในการหลอมเม็ดยาระดับปฐพีนั้นมีราคาแพง ทุกๆครั้งที่เตาหลอมระเบิด นั่นก็หมายถึงการสูญเสียทรัพยากรอย่างมหาศาล ต่อให้เป็นตัวตนระดับสูงอย่างหวู่ซงหลินก็ไม่กล้าทำการหลอมเม็ดยาระดับปฐพีอย่างลวกๆ มันจำเป็นต้องมั่นใจก่อนว่าเตาหลอมจะไม่ระเบิด
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีนักปรุงยาระดับปฐพีในแคว้นพิรุณ ด้วยการที่ไม่มีโอกาสทดลองหลอมเม็ดยาระดับปฐพี แล้วจะมีคนที่สามารถกลายเป็นนักปรุงยาระดับปฐพีได้อย่างไร?
หลิงฮันอุ้มฮูหนิวในขณะที่หลิวอู๋ตงจับมือหลิงจือซ่วน ทั้งสี่คนไปกินเลี้ยงกันที่ร้านอาหาร อย่างไรคนที่ต้องจ่ายก็คือองค์ชายสามอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องเงินจึงไม่ใช่ปัญหา
หลังจากกินกันจนอิ่ม หลิวอู๋ตงกับหลิงจือซ่วนก็กลับไป เพราะพวกนางมีที่พักเป็นของตนเอง ยิ่งกว่านั้นหลิงจือซ่วนยังต้องบ่มเพาะพลัง นางจะมามัวเกาะติดอยู่กับหลิงฮันได้อย่างไร? หลังจากหลิงฮันกลับไปยังลานที่พักของตนเอง เขาหยิบรากของสมุนไพรแห่งพระเจ้าออกมาและเตรียมตัวจะใช้มันปรับแต่งร่างกาย
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*