ตอนที่แล้วตอนที่ 130 หยอกล้อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 132 รากสามอัน

ตอนที่ 131 ฝ่าเข้าสู่เขตแดนลึกลับ


“มีใครยังไม่พอใจอยู่อีก?” หลิงฮันหยุดขยับและยิ้มไปทางคนอื่นๆ

 

คนที่อยู่ในระดับรวมธาตุต่างสายหัว หลิงฮันป่าเถื่อนเกินไป ใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุล้วนไม่มีคุณสมบัติมาแลกหมัดกับหลิงฮัน

 

จอมยุทธที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุส่งเสียง ‘หึ’ ออกมา พวกมันไม่ได้หวาดกลัวหลิงฮัน แต่พวกมันกังวลเกี่ยวกับหลิวอู๋ตง ตอนนี้นางถือดาบยืนคุ้มกันอยู่ข้างกายหลิงฮัน ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าใจร้อนลงมือ

 

ที่สำคัญคือตอนนี้พวกมันไม่มีเวลาจะมาสนใจหลิงฮัน สมุนไพรวิญญาณต้นนั้นได้หนีเข้าไปในเขตแดนลึกลับแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่พวกมันต้องทำตอนนี้คือการล่อให้มันออกมา

 

ผู้คนมากมายเริ่มทยอยเดินไปล้อมรอบสถานที่แห่งนี้จากทุกทิศทาง

 

โชคดีที่พวกมันมีจำนวนคนที่เข้ามายังช่องว่างใต้พิภพแห่งนี้มากพอ และสามารถล้อมรอบเขตแดนลึกลับที่ปรากฏขึ้นได้เกือบหมด อย่างน้อยถ้าต้นสมุนไพรนั่นโผล่ออกมาจากเขตแดนลึกลับ พวกมันก็จะสามารถรับรู้ได้ในทันที

 

“แล้วจะทำอย่างไรต่อ?” หลังจากที่พวกมันแยกย้ายกันไปยืนล้อมรอบเขตแดนลึกลับสีดำ ทุกคนถามขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วน

 

“คอยดูให้แน่ใจเอาไว้! ข้าไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่ออกมา!” ใครบางคนพูด

 

“เจ้าโง่รึเปล่า? นั่นมันเป็นพืชสมุนไพรนะ มันสามารถฝังรากลงดินและอยู่ในนั้นได้นานหลายสิบหรือหลายร้อยปี แต่พวกเราล่ะ? หลังจากนี้สามวันพวกเราต้องออกไปแล้ว!” ใครบางคนพูดตำหนิขึ้นมา

 

“จริงด้วย!” คนที่พูดขึ้นมาก่อนหน้ากล่าวด้วยความอับอาย

 

ทุกคนรู้สึกไม่พอใจ นั่นอาจจะเป็นสมุนไพรล้ำค่าที่เติบโตจนเป็นกลายเป็นสมุนไพรระดับพระเจ้าในตำนาน แต่พวกมันกลับทำได้เพียงยืนดูอยู่เฉยๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจทำให้พวกมันเกือบจะกลายเป็นบ้า

 

พวกมันบางคนเดินกลับออกไปรายงานปีศาจเฒ่าที่รออยู่ภายนอก โดยหวังเอาไว้ว่าพวกเขาจะมีความคิดอะไรดีๆบางอย่าง ในขณะที่คนอื่นๆก็ยืนเฝ้าเขตแดนลึกลับอยู่ภายใน

 

หลิงฮันเข้าไปใกล้กำแพงที่มองไม่เห็นอย่างช้าๆ เขายื่นมือออกไปเผื่อสัมผัสมัน

 

ความรู้สึกที่แสนคุ้นเคย

 

มุมปากของหลิงฮันยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ เมื่อหลายปีก่อน เขาเดินทางไปยังโบราณสถานต่างๆมากมายและพบเจอกับสถานการณ์คล้ายๆแบบนี้บ่อยครั้ง นั่นคือเหตุผลที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถรับรู้ถึงอันตรายและตะโกนบอกล่วงหน้าได้

 

นี่ไม่ใช่กำแพงแต่เป็นเขตแดนพลังวิญญาณ มันคือเขตแดนพลังวิญญาณที่มีระดับเหนือกว่าระดับสวรรค์!

 

ถ้าเขายังมีพลังอยู่ที่ระดับสวรรค์ ด้วยประสบการณ์ที่เขาเคยเจอเขตแดนวิญญาณประเภทนี้มามากมาย เขาสามารถใช้กำลังทำลายมันทิ้งและทำให้ตัวเขาผ่านเขตแดนเข้าไปได้ แต่ตอนนี้... เขาไม่มีความสามารถพอที่จะทำเช่นนั้น

 

หรือว่า... เขาจะต้องใช้สิ่งนั้นจริงๆ?

 

หลิงฮันหยิบกระบี่สภาพทรุดโทรมออกมา นี่คือกระบี่วิเศษของลูกศิษย์เขา และอาจจะเป็นของดูต่างหน้าเพียงอย่างเดียวที่เขาจะสามารถหาได้ ถ้าเขาใช้อำนาจทั้งหมดที่เหลืออยู่ในอาวุธวิญญาณเพื่อระเบิดพลังโจมตีออกไปในครั้งเดียว เขาจะสามารถแสดงพลังอำนาจที่ทัดเทียมกับจอมยุทธระดับสวรรค์ออกมาได้

 

เพียงแต่การระเบิดพลังออกมาเช่นนั้นก็หมายถึงการพลังทลายลงอย่างสมบูรณ์ของกระบี่วิเศษเล่มนี้

 

หลิงฮันรู้สึกลังเล ยิ่งกว่านั้นปัญหายังมีอีกอย่างหนึ่ง กระบี่วิเศษสามารถระเบิดพลังระดับนั้นออกมาได้เพียงครั้งเดียว หลังจากที่เขาเข้าเขตแดนไปแล้ว เขาจะกลับออกมายังไง?

 

หลังจากคิดอยู่ชั่วขณะ ในที่สุดหลิงฮันก็ตัดสินใจได้ เขาจะต้องเข้าไป!

 

เพราะไม่ได้มีสมุนไพรระดับพระเจ้าเพียงอย่างเดียวที่อยู่ข้างใน แต่ความลับที่อยู่เบื้องหลังของสงครามครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อนเองก็คงจะอยู่ในนั้นเช่นกัน เขาอยากจะรู้เหตุผลที่ว่าทำไมถึงเกิดสงครามนั่นขึ้นมา ยิ่งกว่านั้น ถ้าภายในเขตแดนมีซากศพของจอมยุทธระดับทลายมิติอยู่ล่ะก็ เขาอาจจะสามารถทำให้เขตแดนสลายไปแล้วสามารถกลับออกมาได้ก็ได้

 

“พวกเจ้าทั้งสองคุ้มกันข้าเอาไว้” หลิงฮันพูดกับหลิวอู๋ตงและหลีซื่อฉาง

 

เนื่องจากเขตแดนกินพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ละคนจึงยืนห่างกันประมาณสิบเมตรเพื่อที่จะได้สามารถล้อมรอบเขตแดนได้อย่างสมบูรณ์ หลิงฮันนั้นยืนอยู่ตรงกลางโดยมีหญิงสาวทั้งสองยืนอยู่ทางซ้ายขวาห่างจากเขาไปคนละสิบเมตร ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวทั้งสองจะสังเกตเห็นเขา

 

หญิงสาวทั้งสองไม่รู้ว่าหลิงฮันคิดจะทำอะไรแต่พวกนางก็พยักหน้า พวกนางรู้ดีกว่าใครว่าหลิงฮันเป็นชายที่สามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

 

หลิงฮันเริ่มทำการปลุกกระบี่วิเสษขึ้นมา เจตจำนงของเจียงเย่เฟิงมีต้นแบบมาจากเขา และถึงแม้ตอนนี้ตัวเขาจะยังอ่อนแออยู่ วิถีวรยุทธของพวกเขาก็ยังคงมีรูปแบบเดียวกัน ด้วยการกระตุ้นจากสัมผัสสวรรค์ของเขา เจตจำนงที่สลักอยู่ที่กระบี่วิเศษเริ่มตื่นขึ้นมา ‘วู่ม’ ตราประทับบนตัวกระบี่เริ่มส่องแสงทีละทีละนิดจนสว่างจ้า

 

แต่อย่างไรนี่ก็เป็นแสงสุดท้ายที่จะถูกปลดปล่อยออกมาจากมัน อีกไม่นานหลังจากนี้ มันจะกลายเป็นเหมือนอาวุธธรรมดาทั่วไป

หลิงฮันไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เขาใช้กระบี่วิเศษแทงเข้าไปยังเขตแดนลึกลับเพื่อสร้างทางผ่านให้กับตัวเอง

 

หลิงฮันตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด กระบี่วิเศษในมือของเขาสั่นไปมาราวกับมันเป็นปลาที่ไม่อยู่ในน้ำ แม้แต่ร่างของเขาก็ยังสั่นสะท้านเพราะแรงสั่นสะเทือนจากกระบี่

 

ร่างของเขาหายวับเข้าไปในเขตแขนลึกลับ และไม่สามารถมองเห็นร่องรอยใดๆของเขาได้

 

หลิวอู่ตงกับหลีซื่อฉางตกตะลึงจนพูดไม่ออก พวกนางแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกนางทั้งคู่สามารถมองเห็นความตกตะลึงและความชื่นชมที่อยู่ในสายตาของอีกฝ่าย มีอะไรที่ชายหนุ่มคนนี้ไม่สามารถทำได้รึเปล่าเนี่ย?

 

พวกนางรีบละสายตาออกจากกันและตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตว่าหลิงฮันหายไป ไม่เช่นนั้น ถึงแม้หลิงฮันจะสามารถได้รับสมบัติมา แต่ด้วยพลังของเขาในตอนนี้คงไม่สามารถเก็บมันเอาไว้ได้

 

ร่างกายของหลิงฮันท่วมไปด้วยเหงื่อ ภายในเขตแดนลึกลับมีภัยอันตรายอยู่ทุกที่ เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เขายังเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ เพียงแค่การก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวก็หมายถึงการได้รับบาดเจ็บสาหัส และจากพลังของเขาในตอนนี้ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิต

 

แต่นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความระมัดระวัง และดวงตาของเขาส่องประกายเจิดจ้า

 

อัจฉริยะและคนบ้ามีเพียงเส้นบางๆขีดกั้นเอาไว้

 

ในชีวิตที่แล้ว เขาตั้งมั่นและมุ่งเน้นทุกสิ่งไปกับศาสตร์แห่งการปรุงยา เมื่อเขาเริ่มปรุงยา มันราวกับเขาได้กลายเป็นคนบ้า และชีวิตนี้ที่เขาทุ่มเททุกสิ่งให้กับศาสตร์แห่งวรยุทธ และดูเหมือนจะมีบางครั้งที่เขากลายเป็นคนบ้าด้วยเช่นกัน

 

สถานการณ์ที่มีอันตรายอยู่ล้อมรอบเช่นนี้ทำให้ทั่วร่างของเขาสั่นสะท้านแต่ก็ทำให้เขาตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก การที่ต้องมาอยู่ในช่วงความเป็นและความตายทำให้เขารู้สึกถึงความสำคัญของชีวิต และสัมผัสสวรรค์ของเขาได้เพิ่มขึ้นราวกับเป็นน่านน้ำในมหาสมุทร

 

เขามีความรู้สึกว่าบางทีอาจจะต้องเป็นสถานที่ที่อันตรายแบบนี้ก็ได้ที่จะทำให้เขาสามารถฝึกฝนสัมผัสสวรรค์ของตนเอง

 

แสงสว่างจากกระบี่วิเศษเริ่มริบหรี่ หลิงฮันกลายเป็นประหลาดใจ ความเสียหายของกระบี่วิเศษนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก

 

ดวงตาของเขาเปล่งประกายและรีบเร่งความเร็วเพื่อเดินไปข้างหน้า

 

“วูบ” กระบี่สวรรค์ส่องประกายเป็นครั้งสุดท้ายและแสงสว่างจากตราประทับได้จางหายไป นี่หมายความว่าเจตจำนงที่อยู่ภายในกระบี่สวรรค์ถูกใช้จนหมดแล้ว “ฟุบ” หลิงฮันพุ่งกระโดดไปข้างหน้าอย่างสุดแรง จนในที่สุดเขาก็ออกมาจากกำแพงที่กั้นระหว่างเขตแดนลึกลับกับภายนอกได้

 

แสงสว่างปรากฏตรงหน้าหลิงฮันอีกครั้ง

 

นี่คือเขตแดนที่มีพื้นที่ประมาณร้อยฟุต ตรงกลางพื้นของเขตแดนมีซากศพกำลังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ และข้างๆก็มีสมุนไพรแห่งพระเจ้าที่กำลังพยายามฝังรากของมันลงไปที่พื้นดินอยู่ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพื้นดินภายในเขตแดนแห่งนี้จะแข็งเป็นอย่างมาก เพราะแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว สมุนไพรแห่งพระเจ้าก็ยังนำรากของตนเองลงไปในดินได้เพียงครึ่งเดียว

 

ดวงตาของหลิงฮันส่องประกายและค่อยๆขยับเข้าไปใกล้สมุนไพรแห่งพระเจ้าอย่างเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าสมุนไพรแห่งพระเจ้าจะมีร่างกายส่วนหน้าและหลังเหมือนมนุษย์ไหม แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่สังเกตว่าหลิงฮันเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว

 

สิบก้าว แปดก้าว ห้าก้าว สามก้าว!

 

หลิงฮันพุ่งตัวและยืดแขนออกไปคว้าลำต้นของสมุนไพรแห่งพระเจ้า

 

*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด