ตอนที่ 278 กงล้อแห่งความดีและชั่ว (FREE)
ฟาง เจิ้งจือ พึมพำกับตัวเองซ้ำไปมา "เต๋าแห่งอาชูร่า" เขาพยายามนึกถึงสิ่งที่เขาเคยอ่านเกี่ยวกับอาชูร่าแห่งเต๋าในโลกก่อนหน้านี้
มันมาจากอาชูร่า พวกเขาเป็นเทพปีศาจชั่วร้ายที่หลงไหลในสงคราม เพศชายน่าเกลียดมาก แต่เพศหญิงสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนคำอธิบายนั้นจะใช้ไม่ได้ในโลกนี้่
ดังนั้น...
มีเพียงอีกคำอธิบายหนึ่งเท่านั้น เต๋าแห่งอาชูร่านั้นเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน อย่างไรก็ตามมันก็ประกอบด้วยความกระหายในการสู้รบ
เดี๋ยวก่อนนะ..
เต๋าแห่งอาชูร่า เป็น 1 ใน 6?!
ฟาง เจิ้งจือ นึกถึงบางอย่าง โลกนี้ดูเหมือนจะมีคำธิบายมากมายเกี่ยวกับเต๋าสวรรค์
คำทำนายจากสวรรค์, ศิลาเซียน ...
เต๋าแห่งาชูร่า ก็เป็น 1 ใน 6 เต๋าที่ถูกบันทึกไว้ในพงสาวดารอาณาจักร
"เต๋าทั้ง 6?"ฟาง เจิ้งจือ พยายามไขข้อสงสัย
เหยียน ซิว ที่กำลังจะอธิบาย ก็นิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูด
ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยเข้าเรียน ผู้คนจึงมักจะคิดว่าเขารู้น้อยกว่าคนอื่น
ทุกคนที่ได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด จะต้องตกใจเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
ฟาง เจิ้งจือ เป็นเด็กหนุ่มที่ทำคะแนนการทดสอบได้เต็มทั้งหมด ต่อให้ไม่เคยเข้าเรียนมาก่อน
นี่เป็นความมหัศจรรย์
เขาไม่แปลกใจเลยที่ ฟาง เจิ้งจือ รู้เกี่ยวกับ เต๋าทั้ง 6
"ใช่แล้ว เต๋าแห่งอาชูร่า ก็เหมือนกับ เต๋าสวรรค์ มันคือ 1 ใน 6!"
ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ค่อยเข้าใจดีเท่าไร ไม่ใช่เพราะคำอธิบายของ เหยียน ซิว แต่เหมือนเขากำลังเดาอย่างอื่นอยู่
"แล้วถ้าเป็นเหนือระดับอภินิหารละ?" ฟาง เจิ้งจือ ถามทันที
"ระดับจุติ!" เหยียน ซิว ตอบ เขาไม่ได้แปลกใจกับคำตอบของ ฟาง เจิ้งจือ
"ข้าเข้าใจแล้ว" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
เมื่อ เหยียน ซิว พูดว่า จุติ เขาก็รู้คำตอบทั้งหมด เต๋าทั้ง 6 นั้นคู่กับการจุติ
6 เต๋าแห่งการจุติ!
โลกนี้มีเต๋า 3000 เต๋า 6 เต๋าแห่งการจุติ เป็นเต๋าสูงสุด
ในเมื่อ เหยียน ซิว เข้าใจ เต๋าแห่งอาชูร่า แน่นอนว่าเขาต้องแข็งแกร่งอย่างไรก็ตามยังมีปัญหาอยู่
จากความสามารถของเขาในตอนนี้ เขาไม่สามารถควบคุมเต๋าแห่งอาชูร่า ได้อย่างสมบูรณ์
เห็นได้จากความเจ็บปวดของเขา
"ใช่ แม้ว่าข้าจะเข้าใจ แต่ข้ามีพลังไม่มากพอ เต๋าแห่งอาชูร่า นั้นเป็นด้านดี แต่ถ้าข้าถูกมันกลืนกิน ข้าก็จะกลายเป็นปีศาจ ข้ายืนอยู่บนกงล้อแห่งความดีและชั่ว ถ้าเกิดข้อผิดพลาด ข้าจะสูญเสียความดี และกลายเป็นปีศาจ ดังนั้นข้าจึงสามารถคงสภาพนี้ได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น ถ้าเจ้าทนได้ถึงเวลานั้นข้าจะต้องแพ้แน่นอน!" เหยียน ซิว พยักหน้าให้ ฟาง เจิ้งจือ
"ข้าจะจัดการเจ้าภายใน 15 นาทีแน่นอน!" ฟาง เจิ้งจือ ชอบเล่นมุขตลกแต่ตอนนี้เขาไม่ได้ล้อเล่น
เจ้าหน้าที่ทุกคนมองด้วยความสับสน
เหยียน ซิว แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีพลังมากกว่า ฟาง เจิ้งจือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็บอกอย่างชัดเจนว่าเขาอยู่ในสภาพนี้ได้อีก 15 นาที
ตามปกติน่าจะต้องลากการต่อสู้ออกไป
แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับบอกว่าจะจัดการใน 15 นาที?
มันเป็นมุขบ้าอะไรกัน!
"เขาโง่งั้นรึ?"
"เจ้าอย่าไปว่าคนโง่สิ ฮ่า ฮ่า "
"เขาจะจัดการ เหยียน ซิว ได้ยังไง? แม้เขาจะไม่สามารถควบคุมเต๋าแห่งอาชูร่าไดอย่างเต็มที่! แต่เขาก็มีพลังเป็น 3 เท่าของพลังจริงๆ ข้าคิดว่าแม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหาร ก็ไม่สามาถเอาชนะเขาได้!!"
"ข้าอยากเห็นตอนที่เขาทำไม่ได้อย่างที่พูดจริงๆ!"
เจ้าหน้าที่ทุกคนล้อเลียน ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีใครเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะชนะการต่อสู้ครั้งนี้
ราชาต้วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก"เขาควรจะดึงดาบออกมาได้แล้วมั้ง?ต่อให้เขาไม่มีโอกาสชนะ เขาก็น่าจะดึงดาบออกมาตอนนี้?"
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่เชื่อ อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว กลับพยักหน้าและกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม
"ดี!"
...
ชายเสื้อของเขาโบกพัดไปตามลมแต่ ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่มีแขนเสื้อให้ทำอย่างนั้น
ตอนนี้แขนเสื้อของเขาได้หายไปหมดแล้ว
เจ้าหน้าที่ทุกคนว่าทำไม เหยียน ซิว ถึงบอกว่าดี
มันเป็น...
การปลอบใจ?
ใช่มันต้องเป็นคำปลอบใจ ฟาง เจิ้งจือ แน่นอน!
ด้วยมิตรภาพระหว่างพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องแปลก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังถกเถียงกัน ฟาง เจิ้งจือ ก็เคลื่อนไหว
เขาพุ่งเข้าไปหา เหยียน ซิว โดยไม่พูดพล่ามหรือใช้อาวุธลับใดๆ
มันค่อนข้างดูเหมือนเป็นแค่การโจมตีธรรมดาๆ
เจ้าหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะโจมตีแบบนี้ออกไป
"นี่เป็นวิธีที่เขาจะจัดการ เหยียน ซิ?"
"เขาคงจะยอมแพ้แล้วละสิ?"
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ใช้ดาบไร้ร่องรอย หรือวิชาต่างๆ เหล่าเจ้าหน้าที่ก็อาจจะพอเขาข้างเขาได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ จึงทำแบบนี้
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้คิดที่จะใช้วิชาอื่นด้วยเลย
หลังจากรู้เงื่อนไขของ เหยียน ซิว ฟาง เจิ้งจือ มีความคิดเดียวเท่านั้น เขาจะจัดการ เหยียน ซิว อย่างยุติธรรม หรือจะถูกจัดการอย่างยุติธรรมเอง
มีอย่างเดียวที่อธิบายความรู้สึกของ ฟาง เจิ้งจือ ในตอนนี้ได้
ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เขาไม่สามารถขี้ขลาดได้!
เหยียน ซิว บอกกับเขาว่าอยู่ในสภาพนี้ได้แค่ 15 นาที ถ้าเขาถ่วงเวลาไป และชนะขึ้นมาจะดูเป็นลูกผู้ชายอยู่งั้นรึ?
ฟาง เจิ้งจือ พุ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล
ท่าทีของ เหยียน ซิว เปลี่ยนไปทันทีความเจ็บปวดของเขาหายไปชั่วขณะ แม้ว่าเหงื่อของเขาจะไหลอยู่ แต่ใบหน้าของเขายังคงยิ้ม
มันเป็นการยิ้มอย่างจริงใจจาก
เพื่อน
เหยียน ซิว รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นแข็งแกร่งจริงๆ อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ชอบที่จะใช้พลังตัวเองเท่าไร ถ้าอยู่ได้ด้วยสมอง จะใช้แรงให้เหนื่อยไปทำไมกัน ?
มันดูป่าเถื่อนเกินไปหน่อย
เหยียน ซิว เคยถาม ฟาง เจิ้งจือ ว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบใช้กำลัง ฟาง เจิ้งจือ บอกว่าเขาว่ากลัวความเจ็บปวด กลัวบาดเจ็บ
เขาไม่เข้าใจตรรกะนี้ แต่เขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ บอกความจริง
ตอนนี้...
เจ้าหน้าที่ไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทนได้ถึง 15 นาที แต่ เหยียน ซิว นั้นต่างออกไป ด้วยความอดทนของ ฟาง เจิ้งจือ ต่อให้เป็นชั่วโมงเขาก็ทนได้ 15 นาทีนั้นน้อยไปด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ก็ตัดสินใจใช้กำลัง
เหยียน ซิว ไม่แปลกใจที่ ฟาง เจิ้งจือ เลือก ในเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้พูดเอาไว้แล้วว่าจะจัดการเขาใน 15 นาที
พวกเขาเป็นเพื่อนกัน
เพื่อนแท้
เหยียน ซิว เองก็พุ่งตรงไปยัง ฟาง เจิ้งจือ
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดต่างเคร่งเครียด ฟาง เจิ้งจือ อาจจะใช้กลอุบาย เหยียน ซิว นั้นเชื่อใจเขาเกินไป
"ตูม!"
ทั้งสองร่างปะทะกันบนเวที
จากนั้นไม่นานพวกเขาก็แยกตัวจากกัน และพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง
"ตูมมม!"
"ตูม!"
"ตูม!"
เหล่าเจ้าหน้าที่ที่กำลังดูด้วยความทึ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พุ่งเข้าใส่ เหยียน ซิว ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาได้เปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้แล้ว
"ป่าเถื่อนอะไรขนาดนี้?!"
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นวิธีที่ยากที่สุดที่ ฟาง เจิ้งจือ จะได้รับชัยชนะ แล้ว ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรกัน?
บนเวที
ฟาง เจิ้งจือ ยังคงเข้าปะทะกับ เหยียน ซิว อย่างต่อเนื่อง
ความเร็วดั่งประกายแสงที่ปรากฎให้เห็นชั่วพริบตาปะทะกันกลางอากาศแล้วหายไป เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน
ภูเขาขนาดใหญ่พุ่งลงใส่เวที
แม่น้ำซัดเซาะไหลผ่าน
ดวงตะวันสีแดงจากทิศตะวันออก
...
เขตแดนมากมายปรากฎขึ้นบนเวที ภูเขา ก้อนหิน แม่น้ำ ต้นไม้ ดวงอาทิตย์ ...
ฟาง เจิ้งจือ ถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว
เขาใช้ทุกสิ่งที่เขามีในมิติพิเศษ
เขามีดวงดาวกว่า 300 ดวง เขาไม่สนใจอีกต่อไป มีเพียงความคิดเดียวในใจของเขา
พุ่งเข้าชน!
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นดินแดนต่างๆ
พวกเขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร
เต๋าแต่ละอย่าง วิชาของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นดูซับซ้อน วุ่นวาย...
ยังไงก็ตาม ...
ภายในชั่วพริบตาเขาใช้เต๋าไปกว่า 10 ชนิด นอกจากนี้เขายังมีพลังสำรองอยู่อีกมากมาย
ที่สำคัญที่สุด แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะกระหน่ำโจมตีอย่างบ้าบิ่น เหยียน ซิว เองก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้
แปลกมาก
มันไม่น่าเชื่อเลย
อย่างไรก็ตามความสามารถในปัจจุบันของ เหยียน ซิว อย่างน้อยก็ในระดับอภินิหาร ตามหลัก ฟาง เจิ้งจือ ไม่ควรจะยืนหยัดทนอยู่ได้มากกว่า 3 การโจมตี
เหยียน ซิว รออะไรอยู่?
ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ ถ้า เหยียน ซิว ต้องการจะรอ เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้เต๋าแห่งอาชูร่า ดังนั้นเกิดอะไรขึ้น?
หรือว่า...
เจ้าหน้าที่ทุกคนคิดอย่างเดียวกัน จากนั้นพวกเขาปฏิเสธมันอย่างสิ้นเชิง
"เป็นไปไม่ได้!"
"สามัญชนอย่าง ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถต่อสู้กับคนที่มีพลังเหนือกว่าแบบ ฉือ กูเหยียน และ หนานกง เฮา ได้ยังไง?"
ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่จะยอมเชื่อได้ลงว่า ฟาง เจิ้งจือ จะมีพลังมากขนาดนั้น
ความต่างระหว่างระดับพลังมันราวฟ้ากับเหว
นี่เป็นกฎ อย่างไรก็ตาม มีน้อยคนนักที่จะฝ่าฝืนกฎนั้นไปได้ ซึ่งก็คือ ฉือ กูเหยียน และ หนานกง เฮา
พวกเขาแข็งแกร่งและมีพลังอำนาจมากเกินกว่าการระดับพลังที่แท้จริงของตัวเอง
ราวกับการเทียบหิน 2 ก้อน หินก้อนหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าหินก้อนอื่นๆ โดยปกติหินขนาดใหญ่จะมีน้ำหนักที่มาก อย่างไรก็ตามจะเป็นยังไงหากหินก้อนเล็กนั้นทำจากแร่เหล็กดำ?
หากเป็นเช่นนั้นหินก้อนเล็กจะไม่ใช่หินก้อนเล็กอีกต่อไปแล้ว แต่มันคือแร่เหล็ก
มันแตกต่างกันโดยเนื้อแท้
ฉือ กูเหยียน และ หนานกง เฮา เป็นแบบนั้น แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ ก็ต่างจากผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับคนอื่นๆ
เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว
ฉือ กูเหยียน และ หนานกง เฮา นั้นเป็นร่างทรงเต๋า!
แล้ว ฟาง เจิ้งจือ เป็นแบบนั้น?
แน่นอนว่าไม่
เช่นนี้ เขาต่อสู้กับ เหยียน ซิว ที่ทรงพลังได้ยังไง?
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่เข้าใจ
แต่ความจริงก็คือ ฟาง เจิ้งจือ โจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน เขาพุ่งไปหา เหยียน ซิว อย่างบ้าคลั่งโดยละเลยความจริงที่ว่าเสื้อผ้าของเขาถูกฉีกขาด
...
เขาไม่หยุด
แม้ว่าวิชาของเขาจะดูยุ่งเหยิง
แต่จริงๆแล้ว มันดัดแปลงมาจากหนังสือ ที่ ฉือ กูเหยียน เคยทิ้งไว้ให้เขาอ่าน เขาใช้วิชาพวกนี้เพื่อไขความลับบนกำแพงน้ำแข็งเช่นกัน
ตอนนี้...
เขากำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของเขา
เขาจะใช้วิชาอะไรก็ตามที่เขารู้ เขาไม่สนใจว่านี่เป็นวิชาที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเขาไม่เคยเรียนวิชาใดๆมาก่อน
เหยียน ซิว นั้นเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกด้วยเหงื่อ
ดวงตาของเขาเป็นประกาย การโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ ดูยุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบ แต่ทั้งหมดล้วนถูกคิดมาอย่างรอบคอบ
เหตุผลที่มันดูยุ่งเหยิง เพราะ ฟาง เจิ้งจือ กำลังรวบรวมพวกมันเข้าด้วยกัน
"เขาสามารถต่อสู้ได้อย่างสูสี แม้ไม่เข้าใจเต๋าขั้นสูง?เหยียน ซิว ไม่ได้อิจฉา ฟาง เจิ้งจือ แต่เขารู้สึกประหลาดใจและยินดีกับ ฟาง เจิ้งจือ
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เฝ้าดูการดวลอย่างตั้งใจ
มีเพียงความคิดเดียวในใจของพวกเขา
ฟาง เจิ้งจือ วางแผนจะจัดการ เหยียน ซิว ด้วยวิธีนี้? เขาอาจจะพยายามทำให้ เหยียน ซิว ออกจากเวที ต่อให้ตัวเองใช้พลังมากกว่าก็ตาม
เขาจะสามารถทนอยู่ได้นานแค่ไหนกัน?
เพจหลัก : Double gate TH
ช่วงก่อนหน้านี้ทางผู้แปลต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ลงนิยายไป พอดีทางผูแปลช่วงนี้งานยุ่งมากจริงๆครับ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามนิยายนะครับ