ตอนที่ 128 แหวนมิติ
เหตุผลที่ทำไมหลิงฮันถึงตายในชีวิตที่แล้วเป็นเพราะเขาต้องการค้นหาความลับที่จะบรรลุระดับทลายมิติ ตอนนี้เขาได้เห็นข้อพิสูจน์แล้วว่าระดับทลายมิติมีอยู่จริง ดังนั้นเขาจึงอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
แต่หลังจากระงับความตื่นเต้นลงไปได้ เขาเริ่มรู้สึกกังวลและไม่เข้าใจ
เจียงเย่เฟิงเข้าร่วมสงความเพื่อต่อสู้กับตัวตนเช่นนั้นรึ? แต่เหตุผลคืออะไรล่ะ?
ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งพลังบ่มเพาะสูงขึ้นเท่าไหร่ ความแตกต่างระหว่างพลังก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ตัวเขาที่มีพลังบ่มเพาะระดับรวมธาตุขั้นสี่ สามารถต่อกรได้แม้กระทั่งศัตรูที่อยู่ในระดับก่อก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่ง แต่เมื่อเขาบรรลุถึงระดับสวรรค์ ความแตกต่างระหว่างหนึ่งขั้นนั้นราวกับความแตกต่างระหว่างสวรรค์กับปฐพี จอมยุทธระดับสวรรค์ขั้นหนึ่งไม่สามารถข้ามช่องว่างไปสู้กับจอมยุทธระดับสวรรค์ขั้นสองได้
ถ้ามีจอมยุทธระดับทลายมิติปรากฏตัวขึ้นมาจริง คนคนนั้นก็จะเป็นตัวตนที่ไร้พ่าย ทำไมเจียงเย่เฟิงถึงเลือกที่จะต่อสู้กับศัตรูแบบนั้นทั้งๆที่รู้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย?
ถ้ามีแค่คนโง่ที่กล้าทำแบบนั้นคนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ แต่ประเด็นคือคนที่ต่อต้านจอมยุทธระดับทลายมิติมีจำนวนมากมาย และคนเหล่านั้นล้วนแต่อยู่ในระดับสวรรค์
ข้างๆศพยังมีดาบเล่มหนึ่งวางอยู่ ภายในตัวดาบมีเจตจำนงของผู้ใช้คนก่อนสลักเอาไว้อยู่ น่าเสียดายที่เมื่อมันถูกยกขึ้นมาจากพื้น จิตวิญญาณของดาบได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น มันกลายเป็นสายรุ้งและพุ่งออกไปยังลำธารใต้พิภพจนไม่เรื่องเหลือร่องรอยอะไรไว้เลย
หลิงฮันส่ายหัวถอนหายใจ ตัวเขาในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป ต่อให้มีสุดยอดอาวุธวิญญาณวางอยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่มีความสามารถที่จะทำให้มันกลายมาเป็นของตน ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกหดหู่อย่างมาก
“หืม?” จู่ๆสายตาของเขาก็เปิดกว้าง บนนิ้วของศพมีแหวนถูกสวมเอาไว้อยู่
ถ้าจอมยุทธที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าของโครงกระนี้ยังใส่เครื่องประดับเอาไว้ งั้นก็หมายความว่าแหวนวงนี้จะต้องเป็นสมบัติอย่างแน่นอน!
มันอาจจะเป็นอาวุธวิญญาณ หรืออาจจะเป็นสมบัติประเภทสนับสนุนที่ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น แต่ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดคือมันอาจจะเป็น 'แหวนมิติ '
แหวนมิติสามารถสร้างมิติที่ว่างเปล่าแยกออกมาเป็นของตนเองเพื่อใช้เป็นที่เก็บของได้
หลิงฮันถอดแหวนออกมาและใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบ... มันเป็นแหวนมิติที่เขาต้องการจริงๆด้วย!
‘เป็นค่าตอบแทนที่มหาศาลจริงๆ!’ หลิงฮันคิดในใจ ต่อให้เขาไม่ค้นพบอย่างอื่นในการเดินทางครั้งนี้ แต่แค่แหวนมิติวงนี้วงเดียวก็เป็นค่าตอบแทนที่มากเกินพอแล้ว
“รอยยิ้มของเจ้าดูน่าขนลุกเสียจริง มันคืออะไรรึ?” หลีซื่อฉางถามขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิงฮันในตอนนี้ช่างดูน่ากลัวจริงๆ
หลิงฮันหัวเราะและพูด “ข้าจะแสดงมายากลให้เจ้าทั้งสองดู”
เขาสวมแหวนมิติเข้าที่นิ้ว และนำขวดเม็ดยาจากกระเป๋าออกมาแกว่งสองสามทีเพื่อให้หญิงสาวทั้งสองมองเห็นอย่างชัดเจน จากนั้นเมื่อเกิดเสียง‘ฟุบ’ ขวดเม็ดยาได้หายหายไปทันที
“หือ!” หญิงสาวทั้งสองอ้าปากค้างพร้อมกัน ขวดเม็ดยาจะหายไปเองแบบนั้นได้อย่างไร?
“พวกเจ้าจะไปปรบมือให้ข้าหน่อยรึไง?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าทำให้มันหายไปได้อย่างไร?” ดวงตาของหลีซื่อฉางเปิดกว้างและมองไปที่หลิงฮัน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลิงฮันผู้ชายและนางเป็นผู้หญิง นางคงจะค้นร่างกายของหลิงฮันไปแล้ว
“ถ้าข้าบอกเจ้ามันก็ไม่สนุกน่ะสิ” หลิงฮันหัวเราะ เขาหยิบขวดเม็ดยาต่างๆและตั๋วเงินออกจากกระเป๋าและนำไปใส่ในแหวนมิติ
สมกับเป็นแหวนมิติที่เคยเป็นของจอมยุทธระดับสวรรค์ พื้นที่ข้างในของแหวนมีขนาดใหญ่ราวๆบ้านทั้งหลัง มันสามารถใช้เก็บสิ่งของได้มากมาย ประโยชน์ของแหวนมิติไม่ใช่แค่ขนย้ายของได้สะดวกอย่างเดียว มันยังสามารถใช้เป็นที่ซ่อนสิ่งของได้อีกด้วย ถ้าแหวนมิติไม่ถูกขโมยไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่สิ่งของข้างในจะถูกคนอื่นเห็น
ในสถานที่เล็กๆอย่างแคว้นพิรุณ อาจจะไม่มีใครเลยที่รู้วิธีใช้แหวนมิติ ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่ต้องเป็นกังวล
สิ่งที่ทำให้หลิงฮันผิดหวังคือการที่ข้างในแหวนมิตินั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรใส่เอาไว้เลย
การที่จอมยุทธระดับสวรรค์จะยากจนนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด หลิงฮันจึงสรุปได้ว่าจอมยุธระดับสวรรค์คนนี้คงรู้ว่าตัวเองอาจจะตายในสงคราม เขาจึงทิ้งทุกอย่างเอาไว้ให้กับลูกหลาน
เอาเถอะ คนเราไม่ควรจะโลภมากเกินไป
หลิงฮันฝังศพของจอมยุทธคนนี้ให้เป็นเหมือนเดิม หลิงฮันรู้สึกเศร้าเล็กน้อย จอมยุทธระดับสวรรค์เป็นตัวตนที่หายากและทรงพลัง... แต่สุดท้ายก็ไม่มีแม้แต่คนมาเก็บร่างของเขาไปทำพิธี หลิงฮันอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
“ไปกันเถอะ!” พวกเขาเดินทางต่อ
เหล่าคนที่เดินนำหน้าพวกเขาก็ค้นพบซากศพเหมือนกัน แต่พวกมันไม่ได้โชคดีเหมือนกับหลิงฮันที่ค้นเจอแหวนมิติ พวกมันพบแต่เพียงกองกระถูกสีขาวที่จะแหลกสลายเป็นผุยผงเมื่อเอามือไปจับ
ซากศพของจอมยุทธระดับสวรรค์ไม่ได้เปราะบาง แต่เพราะการมีอยู่ของหญ้ากลืนกินกระดูกทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป พลังงานและแก่นแท้ของกระดูกถูกดูดซับโดยหญ้ากลืนกินกระดูก เพราะงั้นซากศพเหล่านั้นจึงอ่อนแอลงจนเทียบเท่ากับของมนุษย์ธรรมดาและไม่สามารถต่อต้านการสึกกร่อนตามกาลเวลาได้
ถ้าหลิงฮันมาเข้ามายังช่องว่างของลำธารใต้พิภพช้ากว่านี้ ศพที่เขาค้นพบเมื่อสักครู่คงจะไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนตอนนี้ แก่นแท้และพลังงานของกระดูกที่เขาค้นพบยังไม่ถูกหญ้ากลืนกินกระดูกดูดซับไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นมันจึงยังคงรักษาสภาพเอาไว้ได้
หญ้ากลืนกินกระดูกเป็นพืชที่แปลกประหลาด มันสามารถเติบโตขึ้นเฉาพบนซากศพของจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาขึ้นไปเท่านั้น แต่มันกลับไม่ประโยชน์ใดๆเลยแม้แต่น้อย พลังงานที่มันดูดซับมาจะหวนคืนสู่ธรรมชาติไปเอง
มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนที่จะพลังงานของจอมยุทธกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ใบหน้าของหลิงฮันกลายเป็นมืดมนขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่เส้นทางที่เขาผ่านมา เขาพบเห็นซากศพของจอมยุทธระดับสวรรค์ไม่ต่ำกว่ายี่สิบศพ
ยี่สิบศพ!
เมื่อใดกันที่สามารถกลายเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ได้ง่ายขนาดนั้น?
“หืม นั่นอะไรน่ะ?” หลิวอู๋ตงถามและชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
หลิงฮันมองไปยังทิศทางที่นางชี้และเห็นว่าที่นั่นมีดอกไม้สีขาวอยู่บนพื้นดิน ก้านของดอกไม้ราวกับหยกชั้นดี ลำต้นของมันมีขนาดเท่ากับกำปั้นของมนุษย์ รอบๆดอกไม้มีแสงสว่างส่องประกาย หลิงฮันตกชะงักหยุดนิ่งในทันที ใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา
แม้แต่คนที่เคยเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์อย่างเขายังต้องตกตะลึง ดอกไม้นั่นจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!
แต่ก็ไม่แปลกที่หลิงฮันจะตะลึง นั่นเพราะแสงสว่างที่ส่องประกายออกมาจากดอกไม้เป็นแสงแบบเดียวกันกับแสงแห่งพระเจ้า
สมุนไพรวิญญาณระดับสิบ... มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรแห่งพระเจ้า!
“นี่เป็นการค้นพบครั้งใหญ่จริงๆ!” ดวงตาของหลิงฮันส่องประกาย ในชีวิตที่แล้ว เขาเพียงเคยได้ยินชื่อของสมุนไพรระดับเก้าเท่านั้น เขาหวังเอาไว้ว่าก่อนจะตายเขาอยากจะเห็นสมุนไพรนั่นสักครั้ง แต่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าเขาจะมาเจอกับสมุนไพรระดับสิบในชีวิตนี้
สมุนไพรแห่งพระเจ้าที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาจะทำให้บรรลุระดับทลายมิติในทันทีและกลายเป็นพระเจ้าได้เลยรึไม่?
หลิงฮันไม่รู้อะไรแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อสมุนไพรระดับพระเจ้าเช่นนั้นมาอยู่ต่อหน้าเขา ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะเมินเฉยและปล่อยมันไป
เขาเดินไปทางสมุนไพรนั่นทันที ใบหน้าของเขาไม่สามารถระงับความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ได้
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นและชายสี่คนได้เดินเข้ามา แน่นอนว่าพวกมันเองก็สังเกตเห็นสมุนไพรระดับพระเจ้าเหมือนกัน ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของสมุนไพรตรงหน้าก็ตาม
หลิงฮันจะไปสนใจพวกมันรึ? แน่นอนว่าไม่ อย่างไรก็ตาม ชายทั้งสี่ไม่ได้แค่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่มันยังปล่อยการโจมตีระยะไกลออกมาด้วย ‘ฟุบ’ ประกายแสงจากกระบี่พุ่งเข้ามา พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว
หลิวอู๋ตงชักดาบออกมาและสามารถป้องกันการโจมตีจากกระบี่เอาไว้ได้
“หากค้นพบสมบัติก็ต้องแบ่งกัน อย่างแรกมาตัดสินก่อนดีกว่าว่าจะแบ่งกันยังไง!” ชายวันกลางคนพูดและเดินใกล้เข้ามา
“ฮวงจื่อเต๋า!” คิ้วของหลิวอู๋ตงขมวดเข้าหากัน และมีท่าทีหวาดกลัวเล็กน้อย
ชายคนนั้นคือสมาชิกของตระกูลฮวงที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ หากเทียบอายุแล้ว มันอาวุโสกว่าหลิวอู๋ตงประมาณสิบปีและอยู่ในช่วงวัยสามสิบ มันมีพลังบ่มเพาะระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้าและไม่ใช่คนที่จะประมาทได้
“พวกเราเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนพวกเจ้าสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีข้อโต้แย้งสินะ?” ฮวงจื่อเต๋าพูดอย่างวางท่า
ถ้ามันรู้ว่านี่คือสมุนไพรระดับพระเจ้า มันคงจะไม่พูดเรื่องแบ่งส่วนต่างขึ้นมา แต่มันสังหารพวกหลิงฮันทิ้งเพื่อปิดปากและเก็บสมุนไพรเอาไว้เองคนเดียว
“ไม่โต้แย้งมารดาเจ้าสิ!” หลิงฮันชูนิ้วกลางให้มันทันที
*ติดตามข่าวสารได้ที่ เพจ*